ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crazy must Crazy เกมบ้าต้องบ้า

    ลำดับตอนที่ #12 : Ch.8 เกมเปิบพิสดาร(Part4)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 60








      "นี่มันบรรลัยชัดๆ........"ลอว์อุทานออกมาขณะดูสภาพของแต่ละคนบนหน้าจอมอนิเตอร์ ผ่านกล้องวงจรปิดตัวเล็กในห้องทุกคน

      เรียกว่าอาหารแต่ละคนนั้นพิสดารสุดๆตั้งแต่เมนูแรกแล้ว ถ้าเป็นเธอก็คงจะแทบอยากร้องไห้ไกลๆให้รู้แล้วรู้รอดไป ทุกอันเธอไม่มีวันจะกินลงแน่

      ส่วนเซย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงจะไม่ได้พูดอะไรแต่เธอเองยังสยองแหวะแทนผู้เข้าเกมแทนเลย โดยเฉพาะของจรัสที่......เออ.......ขอไม่พูดไม่คิดจะดีกว่า

      เธอคิดเช่นนั้นขณะพลางมองปฏิกิริยาของแต่ละคนบนจอ เธอเริ่มคิดแล้วว่า ถ้านี่มันหนักแล้วเกมหน้ามันจะขนาดไหนกันแน่ แทบไม่อยากจินตการเลยสักนิด

      แล้วถ้าเกมต่อไปเป็นตาของเธอบ้างล่ะ?

      แค่คิดก็ปวดตับปวดหัวแล้ว..........





      ทางด้านโรนาร์ด


       "หา!? ไอ้นี่อะนะทำจากไอ้ตัวเงินตัวทอง?"โรนาร์ดถามอย่างทึ่งๆ หันสลับไปมองลาบกะปอมเป็นระยะๆ

      "ก็ใช่น่ะสิ จะให้ทำจากกิ้งกือหรือไงมิทราบ"ผู้คุมตอบและอธิบายต่อ

      "เจ้านี่มาจากประเทศไทย ถ้าจะมีอาหารแปลกๆก็ไม่หรือจะแปลกนี่"

      โรนาร์ดค่อยๆจ้องลาบกะปอมอย่างสับสน ใจหนึ่งแทบไม่อยากจะกินด้วยซ้ำไปแต่อีกใจหนึ่งมันกลับเชียร์สุดใจขาดดิ้นให้ลองกินของแปลกและอร่อยไปเลย

      'เอาไงดีฟ่ะ อร่อยมันก็อร่อย พิสดารมันก็พิสดาร เลือกไม่ถูกจริงๆ'

      "พิสดารมากนัก ก็อย่าไปสิเฟ้ย"เหมือนมีเสียงดังก้องมาในหูและไม่ใช่ของผู้คุม

      ด้วยความตกใจกับเสียงปริศนา เขาจึงหันซ้ายหันขวาไปมา ไม่พบกับอะไรยกเว้นผู้คุม ดูท่าคงจะหูฝาดไปเอง

      "อยู่บนกระบาลแกต่างหาก"

      โรนาร์ดเงยหน้าขึ้นถึงกับต้องตกใจ บนหัวเขามีเขาอีกคนที่มีเขาปีศาจบนหัวในสภาพตัวSDเท่าฝ่ามือ ลอยอยู่เหนือหัวตัวเอง ทำเอาเขาถามกับตัวเองว่า ตัวเองประสาทหลอนไปใช่มั้ย?

      "ไม่ต้องมาตกใจเลยนะ ฉันคือจิตใต้สำนึกของแกเอง ไม่มีใครเห็นฉันได้นอกจากแกเท่านั้น"

      "ใช่แล้วล่ะ ฉันเองก็ด้วย"มีอีกเสียงดังขึ้นมาในหู

      "เฮ้ย!"

      "อะไรของแกฟ่ะ!?"

      "เปล่าๆ ไม่มีอะไร"โรนาร์ดรีบส่ายมือปัด

      จู่ๆดันมีร่างของเขาอีกคน SD ver. มีวงแหวนเทวดาบนหัวโผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง สรุปนี่เขาประสาทหลอนแบบดับเบิ้ลหรือไง? ดูไปดูมายังกะว่าเขามีด้านดีด้านชั่วกำลังสนทนากับเขาไม่มีผิด

      "อย่ากินนะ มันพิลึกจะตายไป อย่างนายต้องกับอาหารดีๆกว่านี้นะ"ด้านดีเตือน

      "ช่างหัวมันสิฟร่ะ พิลึกยังไงไม่สำคัญ ของแปลกแต่อร่อยในชีวิตนานทีถึงจะได้กิน คิดอยากจะพลาดโอกาสนี้ไปได้ไงเว้ย"ด้านชั่วแย้ง

      ตามสูตรเลย จากนั้นไปๆมาๆก็กลายเป็นสงครามน้ำลายระหว่างด้านดีกับด้านชั่วไปตามระเบียบ ทั้ง2ฝ่ายต่างเถียงแย้งกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน

      "จะกินหรือยัง?"ผู้คุมถามน้ำเสียงเหี้ยมเกรี้ยม

      สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจจนได้

      หงับ!

      "อร่อยง้าาาาาาาาา............"(ฟิน)

      ด้านมืด win!







       ทางด้านเคท

      เนื่องจากสภาพห้องตอนนี้ขยะแขยงเป็นอย่างมาก ทางผู้เขียนจึงขอตัดฉากนี้ไป เหลือเพียงแต่ฉากการพูดไว้ ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยครับ

      "อ้วกกกกกกกก!!!!"

      "อย่าอ้วกเถอะ ขอร้อง! ห้องเละไปหมดแล้วนะ! คิดแล้วเป็นอาหารบำรุงสุขภาพสิ!"

      "ก็พ......พยายามคิดอยู่ล่ะ ต.....แต่.....ว่า.....อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!"

      "ไอ้เวรแพนดี้!! ทำไมต้องให้ตรูมาคุมห้องนี้ด้วยวะ!?"

      "อ้วกกกกกกกกกกกกกก!!!! ม....ไม่.....ไหว......แล้ว อ้วกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!"

      "อย่ามาอ้วกโดนเสื้อสิเฮ้ย!! โอ้ยยยยย เหม็นชิบหายเลยโว้ย!!"








      ทางด้านมิวส์

      สภาพมิวส์ในตอนนี้แทบไม่ต่างอะไรกับมันมี่ เมื่อกี้เธอที่ได้เจอกับคาสุ มาร์ซู ก็พยายามดิ้นหนีจากเมนูนี้ให้ได้ แน่นอนเธอถูกผู้คุมห้องจับได้แล้วแก้สมการด้วยการจับมัดเชือกไปพร้อมกับเก้าอี้ซะเลย

      ชีสก้อนอันเต็มไปด้วยหนอนแมลงวันเต้นดุ้กดิ้ก จนมีบางส่วนแสดงตัวออกมาให้เห็น ยิ่งเธอเกลียดหนอนเข้าไส้แบบนี้ ยิ่งเห็นมันเข้าใกล้เธอแทบอยากสลบให้มันรู้แล้วรู้รอดไปด้วยซ้ำ

      "เอ้า แด๊กนี่ซะ"ผู้คุมห้องค่อยๆใช้ช้อนตักชีสมาคำหนึ่ง ก่อนยื่นมือป้อนปากมิวส์

      "อย่านะ!! อย่า!!!"

      ช้อนเริ่มขยับเคลื่อนหาปากมิวส์ใกล้ขึ้นเรื่อย พร้อมกับหนอนแมลงวันที่ดิ้นโชว์ตัวออกมา เมื่อริมฝีปากชนกับชีสหนอนแมลงวันก็สะดุ้ง ดีดตัวกระโดดขึ้นเกาะบนหน้าเธอทำให้เธอกรีดร้องมาด้วยความหวาดกลัว

      "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!"

      ยังดีที่ผู้คุมห้องคว้าที่ครอบหูกันเสียงที่เตรียมมามาสวมครอบไว้ได้ทัน แก้วหูเลยไม่แตกจากเสียงกรี๊ดระดับ8หลอดของมิวส์ แต่ก็ทำหูอื้อไปเหมือนกัน

      แต่คนเราย่อมขีดความอดทนจำกัด เหมือนนี่มันตั้ง10นาทีกว่าแล้ว เจ้าตัวกลับไปยอมทำใจจะกินอยู่ดี ดิ้นไปมาคล้ายจะหนีให้ได้ จะให้ตักกินทีละคำเล็กก็ยังดิ้นเบื้อนหน้าหนี ขนาดจับมัดเก้าอี้ยังอุตส่าห์ดิ้นได้

      ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ถึงจะไม่ชอบใช้วิธีการแนวสปาร์ต้า แต่ในเมื่อไม่ยอมให้ความร่วมมือดีนักคงต้องเล่นแบบเผด็จการขั้นเด็ดขาดเสียแล้ว!

      "โอเค คราวนี้อย่าโหดแล้วกันนะอีหนู"

      ในเมื่อให้ตักช้อนทีละคำไม่ชอบ งั้นก็มันทั้งจานแม่มเลย!

      ผู้คุมหน้ากากกระรอกค่อยๆยกจานคาสุ มาร์ซูขึ้นมา เตรียมจับชีสทั้งจานยัดเข้าปากของหญิงสาวอย่างไม่ลังเล แน่นอนเธอต้องดิ้นพล่านพยายามให้หลุดจากพันธนาการเชือก แม้เหลือแต่ส่วนหัวที่ยังไม่โดนมัดก็พยายามสุดสุดชีวิต โชคร้ายที่โดนจับหัวให้นิ่งๆด้วยแรงที่มหาศาลกว่า เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งหน้าซีดรอชีสหนอนเข้ามาใกล้ๆทีละนิด

      "อ.....อย่านะ........ฉันขอร้อง........"เบ้าตามิวส์เริ่มน้ำตาคลอจากความกลัว จนรู้สึกน่าสงสารแทน

      ถ้าถามว่าทุกคนในสถาบันตบเด็กเกรียนนั้นเป็นสุภาพบุรุษมั้ย ที่จะสงสารผู้หญิง ขอเลยว่าไม่เลยสักนิด เพราะว่า.....

      ถ้าจะตบเด็กเกรียน มันต้องตบให้ตายเท่านั้น......

      นี่แหละสมการที่สถาบันนี้ให้มาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง 

      ด้วยแนวคิดนี้ผู้คุมหน้ากากกระรอดไม่ลังเลแม้จะน้อย ที่จะบรรจงเอาชีสหนอนทั้งก้อนยัดเข้าปากหญิงสาวสวยตรงหน้า โดยไม่สนว่าเธอจะเป็นอย่างไร........









       ทางด้านอีวาน

      "หง่ำๆๆๆๆ เอามั้ยไอ้ปลา?"

      เหมือนว่าอีวานจะได้เจอกับของโปรดประจำชาติรัสเซียเข้าให้แล้ว ตอนแรกเขาก็นึกอยู่เหลือว่ากลิ่นมันคุ้นๆเหลือเกิน ที่ไหนได้ที่แท้มันคือ ปลาเฮอร์ริ่งดองนี่เอง ถึงมันจะดูเหม็นในสายตาของคนอื่น สำหรับในรัสเซียนี่มันอาหารโปรดเลย

      ด้วยความสะใจที่ตัวเองมาโคจรเจอกับอาหารโปรดประจำชาติ เลยเย้ยใส่เจ้าพิรันย่าตัวดีที่เคยทำไว้แสบก่อนหน้า ก่อนยื่นปลาเฮอร์ริ่งหน้าตู้ปลาแล้วชักออกมากินเองให้เจ็บใจเล่น

      ส่วนมันก็จ้องเขม็งใส่เขาคล้ายจะบอกว่า อย่าให้ตรูออกไปได้นะมรึง เจอดีแน่ แน่นอนอีวานไม่สนใจและทำการกินต่อไป

      ชีวิตดี๋ดีที่เลือกเบอร์4

      อีวานคิดเช่นนั้น ก่อนจัดการชัดชิ้นสุดท้ายลงกระเพาะ เป็นอันปิดจ๊อบในเกมนี้ของเขาไปโดยปริยาย







      ทางด้านจรัส


      "..........นี่มันเห้อะไรเนี้ย?"

      จรัสถามกับผู้คุมหน้ากากช้างแบบไม่ไว้หน้า พร้อมสลับกับอาหารที่อยู่ในกล่องพลาสติกสีดำ ด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

      "ก็ของนายไงล่ะกินสิ"ผู้คุมหน้ากากช้างสั่ง

      "เออ.........ฉันจำได้ว่า มันเป็นs*itไม่ใช่หรือไง?"

      "แด๊กๆไปเถอะ ไอ้แพนดี้มันออกไอเดีย ตูไม่เกี่ยวแค่มาคุมเฉยๆ"

      "งั้นขอสตั้น3วิ....."

      "ตามสบาย ขอเชิญลิ้มรสกาแฟขี้ชะมดให้เต็มที่ล่ะ"

      ".........."

      อาหารตรงหน้าแทนที่จะเป็นของเสียจากก้นมนุษย์ แต่เหมือนว่ามันกลับเหมือนโดนตบหน้าชา2ครั้งซ้อนเสียมากกว่าซะแล้ว

      "อย่าให้รู้นะว่าใครมันเป็นคนต้นคิด"จรัสพูดกับตัวเอง

      ตรงหน้ากับเป็นถ้วยกาแฟอุ่นๆอยู่แก้วหนึ่ง เหมือนว่ามันจะชงเสร็จมาร้อนเพราะยังมีไออุ่นพร้อมกลิ่นลอยโชยออกจนฟุ้งจนเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน แต่ไอ้ที่มันทำเอาเส้นเลือดในสมองปูดออกมาจริงๆก็คือ.......


      'Happy April Fool's day Later Mr.Buffalo :P'

      ปล.มีรูปช้างน้อยแถมมาด้วยนะเออ


      "ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมากกกกกก ไอ้แพนด้าเวร......."

      จรัสกล่าวออกมาพร้อมพยายามระงับความเดือดดาลไว้ใจ ก่อนยกกาแฟซดมันทั้งๆที่ยังร้อนๆอยู่จนหมด และแล้วเกมแรกก็จบลงด้วยประการ ณ ฉะนี้........



    __________________

    เกมเปิบพิสดาร


    ผู้ร่วมเล่นเกมทั้งหมด 5 คน

    ผลสรุป

    รอดชีวิต: 5 คน

    หมดสภาพ: 2 คน


    __________________

     




       ขอโทษที่หายไปนะครับ บังเอิญผมดันลืมทำการบ้านช่วงปิดเทอมไปซะสนิท เลยมาดันปั่นเสร็จไปเมื่อวานนี้ แล้วพึ่งมาปั่นนิยายเสร็จวันนี้555+

      ปล.เมื่อวานนี้ไปแอบส่องดูไอดีผปค.ไคโตะมา ปรากฏว่าไปเจอนิยายรับสมัครตัวละครเรื่องใหม่จากฝีมือเขาด้วย เดี๋ยวผมส่งแน่ๆงานนี้ขอเวลาสักหน่อย
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×