ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Ch.7 เกมเปิบพิสดาร(Part3)
"ยินดีต้อนรับไอ้หนู"
".........."
ทันทีที่เก้าอี้จรัสเลื่อนเข้าห้องหมายเลข5 เหมือนฟ้าเล่นตลกให้มาเจอกับหน้ากากช้างจอมพลังที่สาธิตตัวอย่างเมื่อ3นาทีที่แล้ว และโบกมือทักทายเขาเป็นการต้อนรับ
เก้าอี้เขาหมุนหันข้างไปทางโต๊ะอาหารที่จัดเตรียมไว้ โดยโต๊ะจะชิดกับกำแพงและจะมีสายพานเลื่อนออกจากภายนอกห้องเชื่อมต่อกับโต๊ะอีกที ที่เหลือเป็นห้องทึบๆสีเหลืองอ่อนๆ และประตูที่เขาเข้ามาเมื่อกี้เท่านั้น
เอาจริงๆ เขาก็เองอึดอัดใจไม่น้อยที่ต้องมาสุ่มดวงเจอกับอาหารที่ไม่รู้พิสดารหรือเปล่า กับผู้คุมจอมพลังที่บิดแท่งเหล็กยังกะบิดผ้าเช็ดรถ และเขาคิดว่าตอนนี้คนอื่นคงจะรู้สึกแบบเดียวกับเขาแน่ๆ...........
ทางด้านของโรนาร์ด
เขาอยู่ในห้องแบบเดียวกับของจรัสและคนอื่นๆ สายตาเหลือบมองร่างชายสวมหน้ากากหมีโคอาล่าที่ถือไม้เบสบอลควงไปมา จนแอบเสียวเล็กน้อยจะมาโดนหัวตัวเองหรือไม่
แต่นั้นยังเทียบไม่ได้กับอาหารที่จะกินต่อไปนี้ แน่นอนว่าอะไรจะเกิดมันก็เกิดได้ทั้งนั้น เขาพยายามกลบความกังวลใจด้วยการฝืนยิ้ม จนฝืนยิ้มเหมือนเด็กโกหกไม่เก่งทั้งที่ตัวเองโกหกเก่ง
ปรี๊ด!
ครืนนนนนน........
เสียงนกหวีดดังขึ้น อาหารที่ซ่อนไว้ในกล่องพลาสติกสีดำทึบเลื่อนมาตามสายพาน ก่อนเลื่อนมาลงที่โต๊ะอย่างเบาๆ ทำเอาโรนาร์ดใจหายวูบเล็กน้อยเหมือนมีระเบิดเลื่อนมาหาถึงที่ แต่เขายังข่มความกลัวภายในใจได้อยู่
โคอี้หรือชายสวมหน้ากากหมีโคอาล่าค่อยๆเปิดฝากล่องพลาสติกขึ้นมา เผยให้เห็นชามที่ใส่แกงเนื้อสัตว์ชนิดหนึ่งออกมา โดยเหมือนจะมีขาของสัตว์ที่ประกอบอาหารชนิดนี้ลอยตุ้บป้องขึ้นมาลอยอยู่เหนือผิวน้ำแกง อนึ่งมีช้อนกับส้อมแถมมาให้ในกล่องด้วยนะเออ
"กินสิ"
รู้ว่าเท่าที่ดูมันไม่น่าพิสดงพิสดารอะไรมากนัก ก็แค่แกงเนื้อสัตว์ธรรมดา พอคิดได้อย่างนั้นโรนาร์ดตัดสินเด็ดขาด จัดการรับประทานเจ้าอาหารชามนี้ทันที
"อร่อยห่ะ"เขาอุทานออกมาเมื่อได้ชิมอาหารชามนี้
คำเดียวไม่พอแน่ เขาเริ่มซัดต่อไปด้วยความอร่อยจนไปได้ครึ่งถาม ด้วยความสงสัยว่าอาหารชื่ออะไรกันแน่อร่อยจังกับโคอี้ว่า
"อาหารนี่มันชื่ออะไร?"
แต่ทว่า......คำถามที่ได้นั้นกลับทำให้เขาสำลักน้ำลายกันเลยทีเดียว.......
"ของโปรดของคนบ้านตูเอง ชื่อมันคือ ลาบกะปอม........"โคอี้ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจจะบอกต่อ"
"....มันใช้ตัวเงินตัวทองเป็นวัตถุดิบหลักน่ะ"
"พรวดดดดดดดดดดดด!!!"(สำลักน้ำลาย)
(ลาบกะปอม:ลองกินเค้าดูมั้ยตัวเอง?)
ทางด้านเคท
ครืนนนนนนน........
สายพานค่อยๆเลื่อนไป นำพากล่องพลาสติกสีดำทึบลงสู่โต๊ะทานอาหาร ชายสวมหน้ากากแกะที่เป็นผู้คุมห้องนี้ ค่อยๆเปิดฝากล่องออกมา ทว่าทันทีที่เคทได้เห็นหน้าตาของอาหารนั้นเอง..........
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!"เธอกรีดร้องลั่นห้องจนผู้คุมหน้ากากแพะต้องเอามือกุมหูกันเสียงไว้
ด้วยความหวาดกลัวและตกใจกับอาหารจานนี้ เธอเลยเผลอกลัวจนตกเก้าอี้ และพยายามคลานออกจากห้องไป โชคร้ายที่ผู้คุมห้องคว้าตัวไว้ได้ พร้อมจับเธอมานั่งให้อยู่กับเก้าอี้ตามเดิม
"ปล่อยฉัน!! ปล่อยฉันนะ!!!!"เคทตะโกรโวยวายด้วยความตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัดเจน พยายามดิ้นให้หลุดจากการจับ
ทว่ากลับมีคมมีดมาจ่อคอเธอไว้ซะก่อน และเป็นผู้คุมหน้ากากแพะนี่เอง ทำให้เธอหยุดดิ้นทันทีที่รู้ว่ามีอะไรเย็นๆมาจ่อคอ
"จะกินดีๆหรือจะกินด้วยเลือด"ผู้คุมขู่
แต่เธอจะกินลงได้ไงล่ะ? เมื่อเจ้าอาหารตรงหน้ามันคือ ซุปตัวอ่อนมนุษย์!!!!!
(ข้อมูลเพิ่มเติม เมนูนี้เป็นอาหารเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นน่ะครับ มันมีขายอยู่ที่เฉินเซ่น ประเทศจีน การกินตัวอ่อนของมนุษย์ หรือทารกที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นความเชื่ออย่างลับๆ ว่า จะช่วยเพิ่มคุณค่าอาหารหลายอย่างในหมู่ชาวจีน นั้นก็คือทำให้ผิวสวยเนียน ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรค และที่เชื่อกันมากก็คือช่วยบำรุงไตได้ดีสำหรับวิธีการทำก็ไม่ยากเท่าไหร่ แค่เอาเด็กทารกแรกคลอด หรือเด็กที่ตายจากการทำคลอด ยิ่งเป็นเด็กผู้ชายยิ่งดี(เขาบอกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง) มาสับ มาเคี่ยวเป็นซุปและใส่เนื้อหมูลงไปเป็นอันเสร็จ………..รสชาติเหมือนซุปสมุนไพร อย่างไรก็ตามการนำเด็กทารกมาทำตุ๋นยาจีนเป็นอาหารที่ประเทศจีนนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้เมนูนี้ ต้องมีการสั่งเป็นพิเศษ หรือไม่ก็แอบทำให้กับพวกที่อยากรับประทานอาหารแบบพิสดาร แบบนี้)
ทางด้านมิวส์
ดุกดุ้ยดุกดุ้ย...........
สงสัยบางทีอาจเครียดมากไปจนหลอนไปเอง มิวส์ปลอบตัวเองอย่างนั้นทั้งที่ตัวเองเหงื่อตก
ครืนนนนนนน...........
สายพานค่อยๆเลื่อนและส่งกล่องพลาสติกสีดำทึบลงสู่โต๊ะ ผู้คุมสวมหน้ากากกระรอกค่อยๆเปิดฝาออกมา ใจเธอเริ่มหล่นไปถึงตาตุ่มเรื่อยๆด้วยไม่รู้ตัว
ทว่า........ผิดคาดไปหน่อยเมื่อสิ่งนั้นคือ.......
"ก ก้อนชีส?"
อาหารที่อยู่บนโต๊ะตรงหน้าเธอเป็นแค่ก้อนชีสธรรมดาทั่วไปเฉยๆ เรียกว่าธรรมดาจนแทบใจหายใจคว่ำแล้วอยากหัวเราะให้กรามค้างกันไปข้าง
"หึๆๆๆๆๆๆๆ ฉันรอดแล้ว!! ยะวู้!!!!"มิวส์ชูแขนทั้ง2ข้างเหมือนซูเปอร์แมนด้วยความดีใจ และยกช้อนส้อมเตรียมหม่ำเข้ากระเพาะ
แต่ถ้าในมันจบง่ายๆเกินไปคงไม่ใช่สไตล์แพนดี้.........หึๆๆๆๆๆๆ
ทันทีที่เธอใช้ช้อนตัดก้อนชีส มันกลับเป็นการเปิดเผยความลับอันโหดร้ายที่ไม่รู้ยังดีเสียกว่า
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!"มิวส์กรีดร้องลั่นห้องด้วยความตกใจ จนเผลอทำช้อนส้อมหลุดมือ
ก็มีอะไรมากภายในก้อนชีสนอกจากหนอนตัวเล็กๆที่อยู่ภายในก้อนชีส ชอนไชอยู่ภายในยัวะเยียะเต็มไปหมด
และชื่อของอาหารจานนี้ก็คือ........
"คาสุ มาร์ซู......."หน้ากากกระรอกเฉยให้
"ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!"มิวส์กรีดร้องอย่างสิ้นหวัง
(ข้อมูลเพิ่มเติม คาสุ มาร์ซู ( Casu marzu) เป็นชีสที่มีชื่อเสียงของเกาะซาร์ดิเนีย ในประเทศอิตาลี ที่ทำมาจากนมแกะ และกระบวนการหมักด้วยตัวอ่อนของแมลงจะทำให้ชีสจะมีเนื้อนุ่ม เมื่อจะบริโภคมักจะนำตัวอ่อนของแมลงออกก่อนรับประทาน
โดยหลังจาก Piophila casei วางไข่ ตัวอ่อนก็จะเริ่มกินชีส น้ำย่อยของหนอนจะย่อยชีสจึงทำให้ชีสนุ่ม
การกินชีสชนิดนี้ไม่ปลอดภัยนัก หากกินขณะที่หนอนตายแล้ว(เพราะว่ามันจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษไปแล้ว) ตามปกติจะกินเมื่อหนอนนั้นมีชีวิตอยู่ ตัดเป็นชิ้นบางๆและรับประทานคู่ไวน์แดง ชาวซาดิเนียร์เชื่อกันว่าเป็นยากระตุ้นความต้องการทางเพศ
องค์การอาหารยุโรปได้ประกาศให้ชีสคาสุ มาร์ซูเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถูกยกเว้นในเกาะซาร์ดิเนีย เพราะถือว่าเป็นวัฒธรรมทางอาหาร เนื่องจากสืบทอดมาเป็นร้อยปี
รู้ไหมว่า หากเราไปสะกิดหรือแตะต้องเหล่าหนอนพวกนี้ พวกมันจะสามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เซนติเมตรเลยทีเดียว)
ทางด้านของอีวาน
หงับๆๆ!
"....................."
หงับๆๆ!
"ทำไม?"
หงับๆๆ!
"ทำไมพิรันย่าถึงชอบตูจังวะ!?"
แทบอยากจะบ้าตาย
ราวกับฟ้าเล่นตลกร้ายขึ้นอีกครั้ง เพราะผู้คุมในห้องดันใส่หน้ากากพิรันย่าถือปืนลูกซองควงไปมาจนกลัวว่าปืนจะลั่นใส่ตัวเอง แต่ประเด็นสำคัญจริงๆมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก
หงับๆๆๆ!
บนโต๊ะทานอาหารตรงหน้ากลับตู้ปลาขนาดเล็ก ภายในมีพิรันย่าที่จำไม่มีวันว่าเจ้ามันเล่นกัดเจ้าโลกเขาซะเกือบต่อกลับมาไม่ได้ มันกำลังว่ายน้ำไปมาในตู้ปลา ไม่วายยังจ้องมองเขาเหมือนกะจะงับเขาอีกสักรอบ
แม้มีอริเก่าอยู่ข้าง อีวานก็พยายามทำใจแข็งเข้าไว้ ในจังหวะนั้นเองก็มีกล่องพลาสติกสีดำทึบเลื่อนออกมาสายพาน และลงมายังโต๊ะทานอาหาร
ผู้คุมหน้าพิรันย่าค่อยๆเปิดฝามันออกมา และสิ่งทที่อยู่ในกล่องได้สร้างความประหลาดใจให้กับอีวานอย่างมาก
"อาหารกระป๋อง?"
ใช่แล้ว มันคืออาหารกระป๋องที่ถูกเอาเทปกาวสีแปะทัยฉลากไว้จนหมด เหลือเพียงส่วนที่บอกว่า ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ผลิตมากจากประเทศสวีเดนเท่านั้น
"อาหารสวีเดนสินะ แปลว่าเราคงเลือกถูกแล้ว"อีวานกล่าวกับตัวเอง พร้อมกับใช้ที่เปิดฝากระป๋องที่แถมมาในกล่องเปิดอาหารกระป๋อง
ทันใดนั้นเองที่อีวานเปิดกระป๋อง ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น!
"อุบ! นี่มันกลิ่นอะไรกันเนี้ย!?"อีวานเอามือกุมจมูก
กลิ่นอันอภิมหาไม่พึงประสงค์ลอยโลยมาจากกระป๋อง เรียกว่ามันเอาซะเขาเกือบคลื่นอาเจียนของเก่าออกมาแล้ว แถมกลิ่นระดับนี้ทั้งหมู่บ้านยังเหม็นได้ด้วยซ้ำไป
"เฮ้ย! เจ้านี่มันอะไรกันเนี้ย!? เหม็นชะมัดเลย!"
ผู้คุมห้องนี้ตอบ"1ในอาหารประจำชาติสวีเดน เซอร์สตอร์มมิง"
(ข้อมูลเพิ่มเติมหนึ่งในอาหารแปลกที่สุดในโลกจานนี้ สามารถซื้อหามารับประทานได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในสวีเดน และเจ้าอาหารแปลกที่ว่านี้ก็คือ เซอร์สตอร์มมิง หรือปลาเฮอร์ริงเน่านั่นเอง
สำหรับท่านที่ไม่ชอบปลาร้า เวลาได้กลิ่นอาจทำหน้าเหยเกแล้วบ่นว่า "เหม็น" แต่เชื่อหรือไม่ว่าปลาร้า 10 ไหก็ยังชิดซ้ายปลาเน่า เซอร์สตอร์มมิง จากสวีเดน เพราะแค่เพียงกระป๋องเดียว ก็อาจทำให้คลื่นเยนอาเจียนไปทั้งหมู่บ้าน
ส่วนจะเหม็นแค่ไหนนั้น...ลองนึกภาพดูแล้วกันว่าเวลาจะรับประทาน ต้องนั่งทาน "กลางแจ้ง" ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น
เซอร์สตอร์มมิง ผลิตจากปลาเฮอร์ริงในทะเลบอลติกที่ถูกจับขึ้นมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่ง (เพราะภายในมีแก๊สที่เกิดจากปลาเน่า) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด
และเนื่องจากภายในกระป๋องมีแรงดันของแก๊ส จึงมักเกิดเหตุการณ์เซอร์สตอร์มมิง ระเบิด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณขณะขนส่ง หรือระหว่างที่เก็บเอาไว้ในโกดังบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้บรรดาสายการบินจึงระบุว่า เซอร์สตอร์มมิง เป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด
คนสวีเดนมักรับประทานปลาเน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่ (บางๆ) และมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น )
กลับมาทางด้านจรัสอีกรอบ
ครืนนนนนนนน.........
ตอนนี้กล่องพลาสติกสีดำทึบได้ลงมาบนโต๊ะทานอาหารแล้ว จรัสใจจดใจจ่อกับอาหารในกล่องเบื้องหน้า ในใจแอบลุ้นหวังว่าการตัดสินตัวเองจะถูกมั้ย ที่เลือกจะคิดแบบกลับมุม2ตลบแบบนั้น
ถ้าหน้ากากแพนด้าหรือแพนดี้มันคิดแค่ตลบเดียวเขาจบ ถ้ามันเล่นคิดกับแบบ2ตลบล่ะก็เขามีสิทธิ์รอดอยู่ ถ้ามองในมุมในหนังคนดูสยองขวัญมากยาวนานเขาอาจจะมีสิทธิ์แน่นอน
"เออ ลุงช้าง เจ้านี่มันคืออะไรกันแน่?"
ภายใต้หน้ากากช้างคิ้วเกิดกระตุกขึ้นมาเพราะคำว่าลุง ความจริงแทบอยากจะเถียงใส่ด้วยซ้ำว่า ข้าเพิ่ง24เองเว้ย แต่ดูจากสภาพหมอนี้น่าเป็นพวกขวางโลก เถียงไปเสียเวลาเปล่าๆ
แต่ว่านะ.........แน่ใจนะว่าอยากจะรู้จริงๆน่ะ?
"แกแน่ใจนะว่าอยากจะรู้จริงกับไอ้ของที่อยู่ในกล่องเนี้ย?"
"แล้วทำไมมิทราบ? ก็คนอยากจะรู้นี่ ไม่มีเวลามาตัดริบบิ้นหรอกนะ"จรัสตอบสวนกลับคล้ายอยากมีปัญหา
'ได้เลยไอ้เปรต อยากทำตัวมีปัญหาเองนัก งั้นจัดให้ตามคำขอเลยแล้วกัน'หน้ากากช้างคิดเช่นนี้ จึงตัดสินบอกมันตรงไปซะเลย
"ก็ได้แต่แค่ครั้งเดียวนะ"
"จริงเหรอ?"
"จริงสิ ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ฟังไว้ให้ดี"
"อืม"จรัสพยักหน้ารับพร้อมตั้งใจฟัง
"สั้นๆ ขี้"
"หา???????????????????"(สตั้น3วิ)
WTF!?
_______________________________
คำเฉลยเกมเปิบพิสดาร
หมายเลข1 ลาบกะปอม
หมายเลข2 ซุปตัวอ่อนมนุษย์
หมายเลข3 คาสุ มาร์ซู
หมายเลข4 เซอร์สตอร์มมิง
หมายเลข5 ขี้(เหรอ?)
ตอนหน้าเราจะมาดูปฏิกิริยาของแต่ละคนขณะที่รับประทานอาหารไปด้วยกันครับ : )
ปล.ผมส่งQuick Messageไปให้แล้วนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น