ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEUS : GOD RISES(รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #10 : Episode 4 ค่าของชีวิต(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 60


      

      ย้อนกลับไปก่อนที่ลูเทเซียจะสลบสักนาทีเดียว......

      "เจ้าโง่ เผ่นไงเล่า"

      หลังโขกกระบาลเด็กหนุ่มไปทีหนึ่ง สเปอร์นอฟก็ควักเอาลวดสลิงมาจากกระเป๋ามิติที่ซื้อมาจากร้านขายของพวกนักเวทย์(ทำงานคล้ายกระเป๋าของโดราเอม่อน) จากนั้นนำด้านที่เป็นตะขอเกี่ยวล็อคกับหลังคาให้ยึดไม่ให้หลุดตอนที่โรยตัวได้อย่างแน่น

      "เดี๋ยวจะแสดงให้ดูเอง"

      ว่าจบเขาก็นำลวดสลิงดังกล่าวอีกด้านล็อคเข้ากับเข้มขัดตัวเอง โดยไม่รู้หัวหน้าตัวเองกำลังยิ้มแห้งๆ พอเห็นเด็กหนุ่มกลัวๆกับยาพิษเมื่อตะกี้ ก็ได้ทีเอาใหญ่เลย

      สเปอร์นอฟชะโงกงมดูด้านล่างพบกับหน้าต่างที่เปิดบานไว้ แปลว่าเขาจะเข้าผ่านทางหน้าต่างนั้นได้โดยไม่ต้องพังกระจกให้เกิดเสียงน้อยที่สุดได้

      เมื่อตัดสินใจได้อย่างนั้น เขาไม่รอช้าโรยตัวและเหวี่ยงตัวเข้าทางหน้าต่างบานนั้น แต่ทันทีที่โรยตัวเข้าไปได้รู้สึกตัวอีกทีขาของสเปอร์นอฟไปถีบขาคู่ใส่ใครเข้าก็ไม่รู้

      "ชะฮ้าว! ชิบหายแล้ว! มาอยู่ตรงนี้ได้ไงล่ะเนี้ย!!"สเปอร์นอฟเผลอสบถอย่างดัง

      ในตอนที่เหวี่ยงตัวเข้ามาเขาใช้ขานำก่อน รู้สึกตัวอีกทีขาของเขาดันเผลอไปถีบใส่หน้าใครก็ไม่รู้เข้าเต็มๆจนสลบเหมือดอยู่ตรงนั้น

      ปัง!

      "องค์หญิง! เกิดอะไรขึ้นขอรับ!!?"

      ความซวยยังไม่หายความบรรลัยเข้ามาแทรก ทหารองค์รักษ์ของลูเทเซียเปิดประตูเข้ามาดังลั่นด้วยความตกใจ และพบกับสเปอร์นอฟยืนนิ่งแข็งทื่อเป็นหินข้างร่างเธอที่สลบเหมือด ณ ตรงนั้น

      "อ....อ.......องค์หญิง........?"

      จากคำพูดของทหารคนนั้นเขาแทบไม่ต้องคิดให้ปวดสมองเลย คนที่หลับอยู่คาเท้าเขามียศถาบรรศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงนี่เอง!!

      "แก......ทำอะไรกับองค์หญิงกันแน่......?"

      เมื่อดูสภาพรูปการณ์ทหารองค์รักษ์แทบไม่ต่างเดาเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาค่อยๆเอื้อมมือชักดาบประจำตัวองค์รักษ์จากข้างเอวมาตั้งท่าชี้ดาบทางสเปอร์นอฟ สายตาส่อแววจะฆ่าชายตรงหน้าให้ตายสถานเดียว 

      จิตสังหารที่มีแต่ยอดฝีมือเท่านั้นที่รับรู้ได้แผ่ออกมาทั่วห้อง ตอนแรกสเปอร์นอฟคงคิดไปเอง ทว่าคงไม่คิดไปเองแน่อีกฝ่ายจะเอาตายลูกเดียวแน่!

      "เออ.....คือใจเย็นๆก่อนคือนี่มันอุบัติเหตุ.......ค่อยๆพูดค่อยๆจากันก่อนก็ได้......."

      สเปอร์นอฟพูดเจรจาแบบตะกุกตะกักด้วยความลนลาน เขาเคยอ่านนิยายแฟนตาซีมาบ้าง ขอบอกเลยว่าต่อให้มีปืนเลเซอร์กันไว้สู้ก็ไม่รับประกันจะชนะได้ การสู้กับพวกแฟนตาซีแล้วมีความรู้ด้านเวทย์มนตร์และการต่อสู้ครึ่งๆกลางๆ ไม่ต่างกับทหารเวียดกงส่องสไนโดยไม่รู้ว่าจุดที่ไปส่องจะมีการทิ้งระเบิดนาปาล์มลงมาพอดี

      "ข้าเข้าใจแล้ว.......ข้าเข้าใจแล้ว......"

      ทหารองค์รักษ์พยักหน้าขึ้นลงช้า2-3ที แต่เสียงอันลุ่มหลงเยือกเย็นนั้นกลับตรงข้ามกับคำพูดชัดเจน ดาบในมือส่องแสงออร่าสีเหลืองชัดเจน ส่งสายตามายังอีกฝ่ายพร้อมฆ่าคนเต็มอัตราศึกแล้ว

      "เตรียมตัวตาย!!"

      ว่าจบทหารองค์หญิงก็ตั้งท่าดาบ พุ่งเท้าตรงด้วยแรงเสริมจากเวทย์มนตร์ ดาบยื่นแทงใส่หวังปลิดชีพในเสี้ยววิ ขณะเดียวกันสเปอร์นอฟก็ชักปืนเลเซอร์กันทว่ามันสายไปแล้ว

      ดาบมันจะพุ่งมาเสียบตัดขั้วหัวใจแล้ว!

      'เสร็จกัน!'

      เปรี้ยง!

      ก่อนปลายดาบจะทะลุเนื้อเสื้ออันบางสู่เนื้อหนัง ก็ดันเกิดเหตุการณ์เดจาวูขึ้นมา

      เด็กหนุ่มชุดจอมเวทย์สีดำกระโจนโหนสลิงเข้ามาจากทางหน้าต่างอย่างฉับพลัน ทหารองค์รักษ์ที่มัวแต่จดจ่อกับสเปอร์นอฟไม่ทันได้รู้ตัว เข่าที่นำตัวตอนโหนลอยกระแทกเข้าขมับหัวเต็มๆ โชคร้ายซ้ำสองคือความแรงนั้นมากกว่าที่ลูเทเซียโดนมากกว่าเป็นเท่าตัว

      แน่นอนว่ามีสิทธิ์โคม่าแน่นอน

      ร่างขององค์รักษ์ถึงกับลอยไปตามแรงกระแทก จอดนิ่งสนิทอยู่คาหน้าประตูห้อง ไม่ติ่งนิ่งสนิทไปเรียบร้อย ดูจากสภาพน่าจะได้นอนหยอดน้ำต้มยาวๆไม่ต้องสืบ

      "เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นครับ?"เด็กหนุ่มเจ้าเก่าถามขึ้นมาหลังลงจอดพื้นอย่างสวยงาม เหมือนจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย

      "ดูเอาเองสิ"สเปอร์ตอบคล้ายให้ไปพิจารณาเอาเอง

      หลังจากนั้นเองไอซ์ก็โหนลงมาสมทบโดยไร้ผู้เคราะห์ร้าย และเก็บลวดสลิงเข้ากระเป๋า

      "โอ้โห้ เละเลยนะเนี่ย"ไอซ์วิจารณ์

      ผู้ต้องหาทั้ง2ทำได้เพียงยิ้มแห้งๆพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

     
      "นั่นเนอะ เละจริงๆน้า------"

      เหมือนความวุ่นวายคงจะชอบพวกเขา3หน่อจริงๆ เสียงอันเฉียบเย็นยันขั้วกระดูกส่งก้องเข้ารูหู แน่นอนว่าไม่ได้หูฝาดไปแน่สีหน้ามันบอกชัดเจน

      ทั้ง3ค่อยๆหันหน้าไปมองหลังช้าๆเหมือนจะรู้ตัวดีว่างานจะเข้าต่อ ร่างของผู้หญิงที่สมควรจะสลบยาวไปตะกี้กลับลุกขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ยืนตระหง่านต่อหน้าพวกเขา ในมือขวาของเธอถือเคียวยักษ์หันปลายลงพื้น ซึ่งร่างบอบบางอย่างเธอไม่น่าจะใช้ได้เลย

      "แต่เมื่อกี้ใครมันถีบยอดหน้าเรา?"

      คราวนี้เสียงเย็นแล้วยิ่งเย็นยันสมองเข้าไปอีก

      "คือ............คือ.........."สเปอร์นอฟแทบพูดอะไรไม่ออก เพราะไอ้คนก่อเหตุคือเขานี่เอง

      "ว้าว นึกถึงแมวเลย"เด็กหนุ่มผู้ไม่ประสีประสาอะไรเลยเผลอกล่าวขึ้นลอยๆ หลังได้เห็นใบหน้าของลูเทเซีย มันน่ารักเหมือนน้องแมวเหลือเกิน

      'ไม่ใช่เวลาเวลาวิจารณ์ความงามชาวบ้านนะเฮ้ย!!'

      สเปอร์นอฟตะโกนด่าเด็กหนุ่มในใจ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเล่นตลกเลยสักนิด นอกจากยังไม่มีขำด้วยแล้ว มันยิ่งไปทำให้เธอยัวะเข้าไปใหญ่เหมือนเอาน้ำมันราดกองเพลิงไม่ปาน

      ปึด!

      ขมับเธอเริ่มปูดโปน

      เหมือนว่าจะมีคนรนหาที่ตายซะแล้ว

      เหมือนเด็กหนุ่มจะเป็นคนเดียวที่ดูไม่สะทกสะท้านต่อความโทสะขององค์หญิงลูเทเซีย หนำซ้ำทำเหมือนเป็นสายลมผ่านไปซะมากกว่า

      "พอมาดูดีๆ รอยเท้ากับรอยช้ำบนหน้านี่บนหน้าดูยังไงก็ไม่รู้สิ"เด็กหนุ่มพูดในสิ่งที่เห็นอย่างสงสัยและไร้เดียงสา ไร้เจตนาร้ายทั้งสิ้นทว่า......

      ปึด!

      ดู ดูมันทำยิ่งกว่าราดน้ำมันเข้ากองเพลิงซะแล้ว นี่มันเอาดินปืนโรยกองเพลิงแล้วแบบนี้

      ไอซ์ชักเห็นท่าไม่ดี ถึงไม่รู้ว่าเด็กเด็กหนุ่มคนนี้มันบื้อหรือเก่งหรือทั้งคู่ แต่เขารีบพรวดตัวหวังปิดปากเด็กหนุ่มก่อนจะพูดหาเรื่องชิบหายวายวอดไปมากกว่านี้

      แต่อย่าลืมว่าปากเร็วกว่าตัว......


      "ว่าแต่......เธอเป็นใครเหรอ?"

      .....อันนี้มันเป็นการโยนลังไดนาไมต์เข้ากองเพลิงหรือเปล่านะ?

      ปึด!!

      หมับ!

      ราวกับไร้ชื่อเสียง ไร้ตัวตัว ถูกมองเป็นแมว 

      หมายความว่าไงกัน!? ไม่ใช่ว่ากำลังดูถูกเหยียดหยามหรือกวนประสาทเหมือนเพื่อนเล่นกันใช่มั้ย!?

      นี่เป็นถึงองค์หญิงลำดับ1ของอาณาจักรเอ็มเพอร์เรอเชี่ยวนะ!

      ลูเทเซียที่ได้ลิ้มรสการถูกเหยียดหยามหน้ากันตรงๆไม่อ้อมค้อม ทำตัวราวกับตัวตลกไร้ชื่อเป็นครั้งแรกของชีวิต(คิดไปเอง) กำมือข้างที่ถือเคียวไว้แน่นจนมือปูดโปน เลือดในกายถึงกับพลุ่งพล่านขึ้นหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างกายสั่นเทิมไปด้วยความพิโรธยังกะโดนตบฉาดใหญ่ยังไงยังงั้น

      หารู้ไม่ว่า ความจริงเด็กหนุ่มนั้นไม่รู้จักหรือได้ยินชื่อเสียงความงดความงามเธอจริงๆ อีกอย่างเขาเพิ่งเข้ามาที่อาณาจักรนี้เป็นครั้งแรก

      แม้ตอนนี้ไอซ์จะปิดปากเด็กหนุ่มมันก็สายไปเสียแล้ว เพราะสายตาลูเทเซียฉายแววอยากกินเลือดกินเนื้อทั้ง3คนโดยเฉพาะเด็กหนุ่ม ชนิดแทบอยากฉีกเนื้อทุกคนที่อยู่ตรงหน้าให้เป็นชิ้นๆแล้วป่นให้หมากินเป็นมื้อเย็น ซึ่งรอบนี้ทุกคนรู้สึกกันได้ชัดเจนว่าเธอเอาตายลูกเดียว!

      "......ขอโทษนะครับ.....คือหมอนี่มัน......"ไอซ์พยายามแก้ต่าง

      แกร็ก....

      "ไม่ต้องแล้ว....."ลูเทเซียตัดบทพูดไร้เยื่อใย และยกเคียวตั้งท่าเตรียมสังหาร ตอนนี้อะไรมาห้ามหรือแก้ต่างยังไงก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

     
      "เพราะเราองค์หญิงลำดับที่1 ลูเทเซีย อัลไพน์ เอ็มเพอร์เรอ จะส่งพวกเจ้าให้ไปสำนึกในนรกที่บังอาจมาลบหลู่เราซะ!!!"


    ทันใดนั้นเองเคียวที่เป็นอาวุธระดับสูงของเธอเปล่งออร่า สนองพลังเวทย์เจ้านายมัน ก่อนตวัดมันแนวราบก่อเกิดคลื่นใบมีดพลังเวทย์วิ่งซัดตรงมาใส่พวกเขา!!


      "โอ้ว......ซวยไม่พออีกเหรอวะ"สเปอร์นอฟพูดประชดชีวิต


      ตูมม!!

      

      จังหวะนั้นเองเด็กหนุ่มรับรู้ถึงอันตรายที่เกิดขึ้น เขาเสกกำแพงเวทย์ดินพุ่งขึ้นจากพื้นมากันไว้ได้ทันที แต่ทว่าคลื่นใบมีดพลังเวทย์ของลูเทเซียแรงไม่ใช่เล่นๆ มันระเบิดกำแพงดินที่เสกมาเป็นฝุ่นดิน และส่งคลื่นกระแทกพัดร่างทั้ง3กระเด็นพังประตูออกยังด้านนอก

      ร่างทั้ง3ลอยละลิ่วออกไปยังห้องที่กว้างใหญ่ และโครงสร้างชั้นนี้มันเป็นแบบเป็นโถงกว้างแล้วมีบันไดแบบโค้งคู่ขนานขึ้นไปยังห้อง หมายความว่า พวกเขากำลังร่วงตกจากที่สูงน่ะสิ!

      เด็กหนุ่มไม่มีความจำเป็นต่อร่ายเวทย์อะไรทั้งนั้น ละอองเวทย์ในมือแปรเปลี่ยนเป็นสายวารี ก่อนควบคุมมันเป็นวุ้นยิงลงสู่พื้นกลายเป็นที่รองเบาะกันกระแทกไว้ได้ทันที

     "รอดแล้ว....."ไอซ์กล่าวอย่างอึ้งๆ พลางมองเบาะรองน้ำที่เด็กหนุ่ม

      แค่เสี้ยววิเองนะ!

      "จะโกรธมันดีมั้ยว่ะนี่........"สเปอร์นอฟบ่นขณะลุกขึ้นจากเบาะน้ำ

      เป็นคนเรียกความซวยแบบช็อตต่อช็อตมันก็ใช่ ในทางกลับกันหมอนี่ดันชอบช่วยพวกเขาทั้งที่ไม่ใช่คนรู้จักอะไรทั้งนั้นให้รอดมาได้หวุดหวิดในวันนี้

      สรุปจะโกรธมันลงมั้ยเนี้ย!?


      "ยังไม่ตายอีกเหรอ?"

      "!?"

      ไม่มีเวลาพักหายใจเต็มปอดนัก ลูเทเซียกระโดดลงสู่พื้นโถง กระโจนลงง้างเคียวฟาดลงใส่เด็กหนุ่มเป็นรายแรก ทว่าอีกฝ่ายกลิ้งตัวหลบพร้อมสลายเวทย์น้ำทิ้ง ทำให้เขาสามารถใช้ความลื่นของน้ำหลบทัน และเคียวของเธอปักติดแน่นกับพื้น

      "ชิ!"

      นับเป็นการตัดสินที่ดี ในช่วงเวลาเด็กหนุ่มตั้งขึ้นมาแล้วเข้าโจมตีด้วยหมัดขวา เธอตัดสินใจทิ้งมือออกจากเคียว หันมาใช้ดาบสั้นธรรมดาจากกระเป๋ามิติมาป้องกันการโจมตีแทน

      หมัดฮุคไร้เวทย์เกื้อหนุนซัดเข้ากับใบดาบสั้นของลูเทเซีย แม้จะไร้เวทย์เสริมแต่แรงปะทะของหมัดมันมากพอจะทำให้แขนทั้ง2ข้างที่จับดาบของลูเทเซียชาแทบไร้ความรู้สึกไปเลย แต่ยังพอจับดาบไม่หลุดมือได้อยู่

      หญิงสาวตระหนักว่าแขนทั้ง2แทบอ่อนไปชั่วคราว เธอจึงโอนตัวและเตะกวาดลานให้อีกฝ่ายถอยร่น ให้โอกาสสะบัดแขนไล่ความชาออกไปเล็กน้อย ก่อนรุกฟันสวนคืนผสานเวทย์เสริมแรงกายเพิ่มพลังและความเร็ว

      ก่อนดาบฟันถึงตัวเด็กหนุ่ม ฝ่ามือซ้ายยกกางขึ้นมา สายลมอ่อนๆปรากฏมาบนฝ่ามือและพัดด้วยความแรงเกินต้านทาน เบี่ยงแขนเธอไปทางทิศทวนเข็มนาฬิกากลายเป็นการโจมตีจั่วลม

      "บ....บ้าน่า!"

      คนบ้าอะไรร่ายเร็วขนาดนี้!

      ลูเทเซียไม่ทันได้สังเกตเห็น ฝ่ามือขวาของเด็กหนุ่มกำลังมีเวทย์สายลมหมุนเวียน ทันใดนั้นเองเวทย์นั้นก็แผลงฤทธิ์ มันหอบร่างเขาเหนือทันทีและควบคุมมันพัด360องศาตามเข็มนาฬิกาเตะแบบกวาดไปด้วย

      เคร้ง!

      ลูกเตะคราวนี้ไม่คิดจะเอาชีวิตตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแค่ปลดอาวุธเฉยๆ ลูกเตะปัดดาบสั้นของลูเทเซียไปทางอื่น แม้เธอจะใช้เวทย์เสริมกำลังก็ไม่อาจสู้แรงเสริมจากเวทย์ลมได้

      แต่เธอก็คิดไว้เผื่อก่อน พอดาบหลุดจากมือปุ้บ ก็รีบกระโจนตัวเข้าไปคว้าเอาเคียวคู่ใจที่ปักไว้คาพื้น

      ความจริงเด็กหนุ่มคิดเผื่อไว้ก่อนเช่นกันว่ากรณีแบบนี้มันต้องเกิดขึ้น เขารีบคลายเวทย์ลมออก และกระทืบเท้าที่อัดแน่นเวทย์มนตร์ใส่พื้น เกิดเป็นหอกเงาพุ่งขึ้นมาจากเงาเคียวดีดเคียวคู่ใจเธอพุ่งขึ้นปักคาฝ้าเพดานชั้น ทำเอาลูเทเซียทำหน้าเหวอปานโลกจะแตก

      "ป...เป็นไปไม่ได้......"

      "แต่มันเป็นไปแล้ว"เด็กหนุ่มย้ำความจริง

      ความจริงเด็กหนุ่มยอมรับเลยว่าเธอคนนี้เก่งจริง ไม่ได้เคี้ยวกันได้ง่ายๆเลยด้วยซ้ำ ดูจากการโจมตีในตอนแรกที่พังกำแพงเวทย์ดินของเขาซะกระจุย แถมซัดคน3คนกระเด็นเป็นลูกบอลอีกต่างหาก แต่บังเอิญมาเจอกับคู่ต่อสู้ที่เก๋าเกมกว่าก็เท่านั้นเอง

      น่าเสียดายที่คราวนี้คู่ต่อสู้เป็นเขา ถ้าศัตรูมีอาวุธเหนือกว่าเรา วิธีแก้นั้นมี2วิธี 1.มีไพ่ที่เหนือกว่า ความจริงเขามีแน่แต่ขืนใช้หวังวอดวายกันหมด 2.ปิดผนึกไม่ให้ศัตรูมีโอกาสได้ใช้มัน โดยการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ หรือมาเหนือเมฆ อันนี้ใช้ประสบการณ์ล้วนๆ

      "หน่อยแก!!"

      เมื่อตั้งสติลูเทเซียไม่ละความพยายามที่จะโค่นคนที่อยู่ตรงหน้า เธอร่ายเวทย์ไฟขั้นกลางหวังโจมตีใส่ อาจเป็นเพราะความโกรธยังครอบงำสติเธออยู่ เลยเผลอเปิดช่องว่างให้มิได้ตั้งใจ

      โครม!

      ก่อนเวทย์จะร่ายจบเด็กหนุ่มพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว คว้าแขนมาจับบิดเล็กน้อยก่อนจับเธอทุ่มข้ามสะโพกโดยให้ท้ายทอยกระแทกกับพื้นกระเบื้อง แน่นอนเธอนั้นสลบไปในแทบจะทันที

      ส่วนถ้าถามถึง2หนุ่มล่ะก็ ทั้งคู่คงเข้าโหมดเอ๋อๆกลายเป็นผู้ชมไปเรียบร้อย

      "เฮ้ย!! นี่แกทำบ้าอะไรลงไปฟ่ะ!!?"

      สเปอร์นอฟเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ก่อน ปรี่เข้าไปโวยวายใส่เด็กหนุ่มพร้อมเข้ามาทำหน้ายักษ์มู่ขี่ใส่ แล้วโขกกระบาลดังโป๊ก

      "ทำไมของคุณน่ะ!?"เด็กหนุ่มเอากุมหัวอย่างเจ็บๆ

      "ไอ้บ้า! ยัยนั่นเป็นองค์หญิงเชียวนะเว้ย!!"

      ""หา!?""ทั้งเด็กหนุ่มกับไอซ์ถึงตะลึง

      "แล้วทำไมถึงไม่บอกกันก่อนล่ะ?"ไอซ์ถามอย่างไม่เข้าใจ

      "ถ้ามีโอกาสก็คงบอกไปนานแล้ว แต่ใครมันจะไปคิดว่ามันซวยซ้ำซวยซ้อนเป็นคอมโบแบบเนี้ย!"

      "แล้วแบบนี้พวกเราจะทำยังไงกันล่ะครับ?"

      โป๊ก!

      "คนที่จะถามต้องเป็นชั้นสิไอ้เบื้อกเอ้ย!"

      ท้ายสุดทั้ง3ก็ดันเถียงกันเองซะงั้น โดยเด็กหนุ่มตกเป็นจำเลยและเป็นหัวข้อเรื่องไปโดยปริยาย ถึงตอนนี้เธอจะน็อคหมดสติไปแล้วก็ตาม ถ้าตื่นขึ้นมาไม่มีอะไรรับประกันได้ทั้งนั้นว่าตื่นมาแล้วจะให้อภัยกันได้ เพราะเด็กหนุ่มนั้นเล่นงานเธอไปซะขนาดนี้ 

      แต่ถ้าเกิดฆ่าปิดปากล่ะก็ จิตใต้สำนึกของพวกเขาคงไม่มีวันสั่งให้ทำแน่นอน

      ในระหว่างที่กำลังเถียงกันไปมา ลูเทเซียที่สมควรหมดสติไปแล้วกลับลืมตาตื่นขึ้นมา เธอไม่ยอมแพ้ยังง่ายๆหรอก!!

      "อ้ะ...."เด็กหนุ่มสังเกตเห็นเป็นคนแรก

      สายไปเสียแล้วไม่ทันได้บอกเตือน เธอชักดาบสำรองจากกระเป๋ามิติ ก่อนรีบฝืนลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รุดหน้าเข้าแทงดาบใส่สเปอร์นอฟที่อยู่ใกล้มือสุด เพื่อหวังจะชำระแค้นที่หยามศักดิ์ศรีเธอไว้ด้วยการถีบยอดหน้าเธอ

      หากแต่ว่านั่นกลับเป็นจังหวะเดียวกันที่กระเพาะที่น่าจะสงบไปแล้วของสเปอร์นอฟเกิดทำงานผิดปกติขึ้นอีกครั้ง และส่งผ่านไปยังลำไส้ใหญ่อย่างรวดเร็ว และออกผ่านทาง......


      ปู้ดดดดดดดดดด!!


      ก้น......

      แน่นอนว่าแก๊สไข่เน่าซัดเข้าจมูกคนโจมตีเต็มๆเน้นๆ กลิ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของคนท้องเสียส่งเข้าโพรงจมูกให้สมองได้ประมวล ถ้าหลบได้ก็บ้าแล้ว

      ...จะรออะไรครับ? สลบเถอะ......

      "อ้าว......What.....?"สเปอร์นอฟงงๆงวยๆ

      เมื่อกี้เกิดอีหยังบ่?



     "คือ......ไม่มีอะไรครับ"เด็กหนุ่มโกหกพลางยิ้มแห้งๆและปิดจมูกไปเช่นเดียวกับไอซ์ ขืนบอกก็คงไม่เชื่อหรอกว่าตดทำให้คนสลบเหมือดได้

      แม้สเปอร์นอฟจะสงสัยว่าทั้ง2ปิดจมูกเพื่ออะไร เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้พวกเขาต้องรีบออกจากคฤหาสน์ก่อนที่เจ้าของจะมาเจอเข้า ไม่งั้นงานปลายภาคหน้าจะยาว

      "หัวหน้า แล้วจะเอาไงต่อ?"เขาหันมาถามหัวหน้าตัวเอง

      "คงย่องหนีเงียบๆเอาแล้วล่ะ ออกทางหน้าต่างไม่ได้ด้วยเพราะตอนเช้ามันสะดุดตาเกินไป"ไอซ์เสนอ

      "เอาไงเอางั้น"

      พวกเขาไม่มีเวลามากนักก่อนเจ้าของบ้านจะมา งานนี้ตัวใครตัวเอา จึงต้องรีบแอบย่องหนีลงจากชั้นนี้ให้เร็วที่สุด เรื่องความรับผิดชอบในฐานทำร้ายร่างกายองค์หญิงเอาไว้ทีหลังก่อนที่เจ้าของจะกลับมา

      "อโหสินะครับ"เด็กหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย


      ไม่รู้ว่าโชคดีในความซวยหรือเปล่า ระหว่างกำลังแอบย่องหนีออกจากที่นี่เหมือนจะมายังส่วนที่คนเดินตรวจตราน้อยมาก เลยผ่านไปได้ฉลุยไร้ปัญหา

      "เข้าใจแล้ว ทำไมครูฝึกหัดถึงบังคับให้เรียนวิชานี้"สเปอร์นอฟพูดเล่นๆขณะกำลังลงจากชั้น2ของคฤหาสน์

      ถ้ากลับไปโลกได้ คงต้องกลับไปขอบคุณครูฝึกจอมโหดนั่นซะแล้ว เขาลอบคิดในใจ

      "หวานหมูสิแบบนี้"ไอซ์พูด

      ลงมาถึงชั้นล่างแล้วไม่มีใครเฝ้าอยู่ แถมประตูทางออกใกล้กับบันไดที่ลงมาแค่10กว่าก้าวก็เสร็จโจรน่ะสิแบบนี้ และคนที่ดีใจกว่าเพื่อนเลยก็คือสเปอร์นอฟ เพราะคราวนี้ความโชคดีจะเข้าข้างพวกเขาได้เสียที

      "รอดแล้วเรา"เขาพูดด้วยความอดตื่นเต้นไม่ได้

      ในหัวตอนนี้คิดไว้แล้วว่า จะรีบแยกทางกับเด็กหนุ่มให้ได้เลย ลางสังหรณ์มันบอกว่าอยู่กับเจ้านี้คงมีซวยกว่านี้แน่ แน่นอนว่ายังไม่ประมาทแน่ตอนนี้

      "อ้ะ"

      จู่ๆเด็กหนุ่มหลงเสียงขึ้นมา ทำเอาไอซ์กับสเปอร์นอฟหันหัวหวับมาทางเดียวกัน

      "อะไรแก?"

      "ตาขวาผมกระตุก"

      "แล้วจะทำไมหรือครับ"

      "แปลว่าต้องได้เกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมาแน่"

      สเปอร์นอฟแค่นหัวเราะเบาๆอย่างไม่เชื่อ เคยได้ยินความเชื่อแบบของประเทศไทยมาอยู่บ้าง สำหรับเขามันก็อีแค่ความเชื่อหลอกเด็กเสียมากกว่า

      "งั้นบอกมาสิว่าหลังจากตาขวาแกกระตุก เรื่องมันจะเกิดอีกกี่ชม.ให้หลัง?"เขาถามกึ่งประชดกึ่งเล่นๆ ยังไงซะเขาเชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่าเรื่องดวงอยู่แล้ว

      เด็กหนุ่มตอบเพียงแค่ด้วยการชูนิ้วเดียว

      "1ชม.สินะ สบายๆ"

      "เปล่าครับ"เด็กหนุ่มส่ายหัว

      "นี่กวนกันใช่ม่ะ?"

      "ไม่ใช่ครับ ความจริงแล้ว......."

      ปัง!

      "ว้าย หนุ่มๆมาให้พวกเค้าอัดตูดหน่อยจิ-------------!!"

      "เออ....ความจริงแล้ว......มัน1วิต่างหากครับ........"

      ได้เรื่องตามประสงค์เลยครับพี่น้องมิตรรักแฟนนิยาย......

      พูดไม่ทันขาดคำ เหล่าทหารสายม่วงผู้ทำให้เหล่าเพศที่3ทั่วจักรวาลเสื่อมเสีย เนื่องจากอัดตูดชาวบ้านเค้าไปทั่ว พังประตูเข้านับ30คนเข้ามาจนปิดทางออกไว้ในสภาพหน้าแสดงความหื่นออกนอกหน้า ซ้ำร้ายบริเวณชั้นนี้ไม่มีกระจกให้พังหนีออกไปอีกต่างหาก

      "บ้าจริง! รีบมาทางนี้เร็วเข้า!"ไอซ์สังเกตเห็นประตูเหล็กบานใหญ่ที่อยู่ลึกคล้ายเป็นหลุมอุโมงค์ จึงรีบบอกเพื่อนเสียงดัง

      "อย่าหนีเค้าน้า--------!"

      "ไม่หนีก็โง่แล้วโว้ย!"สเปอร์นอฟตะโกนส่งท้าย

      ถ้าให้สู้กับพวกนี้ทั้งคณะแทบไม่อยากคิดออก แต่รู้สึกได้ว่าอาจจะสูญเสียความบริสุทธิ์ทางเพศเอาก็ได้ใครจะไปรู้ ทั้ง3รีบวิ่งหนีไปยังประตูในหลุมอุโมงค์นั้นอย่างรวดเร็ว ทว่าเหล่าทหารสายม่วงนั้นก็วิ่งตามมาติดๆอย่างไม่ละ

      "ถ้าตามนักตามหนาล่ะก็......."

      เด็กหนุ่มคิดไอเดียได้ เขาหยุดวิ่งและหันหน้าที่ทางพวกมันที่กำลังวิ่งไล่ตามมา มือทั้ง2ประกบประสาทกัน เวทย์ในร่างประสาทกันเป็นหนึ่งเดียว

      "ฮืม!"

      เขาย่อตัวลงพร้อมนำฝ่ามือทั้ง2กระแทกกับพื้น ทันใดนั้นกำแพงที่มวลดินอัดแน่นปึกพุ่งพวยออกมาจากพื้นจากน่าอัศจรรย์ ปิดทางไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้เข้าได้โดยสมบูรณ์

      "ให้เข้าไปหน่อยจิ"

      "จะลงแดงอยู่แป๋ว!"

      แม้เหล่าทหารพวกนั้นจะขอร้องอ้อนวอนยังไง เพราะเขาก็รู้ดีว่าถ้าเกิดใจอ่อนขึ้นความเป็นชายอาจสูญสิ้นไปก็ได้

      ส่วนไอซ์กับสเปอร์นอฟที่วิ่งนำหน้าเด็กหนุ่มไปถึงประตูเหล็กบานใหญ่นั้นได้ก่อน พวกเขาพยายามผลักประตูนั้นออกให้ได้ ทว่าเจ้าประตูเจ้าปัญหานั้นกลับมีทีท่าว่าจะขยับไปตามแรง

      "อิ๊บ....แน่.........ติดกาวตราช้างมาหรือไงฟ่ะ?"สเปอร์นอฟบ่นขณะออกสุดแรงหวัดให้ประตูมันขยับบ้าง

      "แต่ผมรู้สึกเหมือนเราดันช้างซะมากกว่า"ไอซ์พูดติดตลก

      "โธ่ มันใช่เวลาตลกมั้ยหัวหน้า!?"

      เด็กหนุ่มวิ่งตามสมทบ"ผมปิดทางไว้แล้ว พวกมันคงเข้ามาไม่ได้สักพัก"

      "แจ่มแบบนี้พวกเราก็มีเวลาหาทางเปิดประตูบ้านี่ได้สักพัก"

      ระหว่างนั้นไอซ์ก็เหลือบตาไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าโดยบังเอิญ

      "นั่นมัน......"

      ไอซ์เลิกผลักประตู รุดเข้าไปดูบางสิ่งที่ติดอยู่บนผนังข้างประตู เหงื่อเขาเริ่มซึมหน้า หวังว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดนะ

      "นี่มันบ้าอะไรกันล่ะเนี่ย!!?"เขาเผลอลั่นอุทานเสียงดัง ทำเอาทุกคนสะดุ้งกันหมด

      "อะไรหัวหน้า?"

      "ค....ค......."

      "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?"

      "ค.....เครื่องเกมแฟมิคอมมาได้ไงกานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!?"

      เขาตะโกนออกมาดังสนั่น งงเป็นไก่ตาแตกแล้วเฮ้ย!

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เครื่องเกมส์ แฟมิคอม


    Hello this's me :)





      "เฮ้ยๆ อย่านะว่าไอ้เจ้านี่จะเป็นตัวที่ทำให้เราเปิดได้เนี่ยนะ!?"สเปอร์นอฟสันนิฐาน

      ถ้าคิดไม่ผิดเจ้าเครื่องเกมแฟมิคอมตัวนี้น่าจะเป็นตัวเปิดประตูแน่นอน เขาเล่นเกมมาก่อนเลยรู้ว่า ประตูบางบานจะมีแป้นป้อนรหัสปลดล็อคประตูอยู่ข้างๆ และเราต้องหารหัสมาเปิดมันโดยโด้รหัสเอา หรือมีคำใบ้ให้คิด 

      แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีรหัส แม้แต่คำใบ้ยังไม่มีเลย และไอ้ที่สำคัญกว่านั้นคือ สิ่งที่น่าจะเป็นตัวป้อนรหัสอย่างจอยของมันนั้นมีเพียงแค่ปุ่มขึ้น ลง ซ้าย ขวา   B  A   Select    Start เท่านั้นเอง

      แล้วแบบนี้ใครมันจะไปมั่วออกวะ!?

      ส่วนเด็กหนุ่มยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ไอซ์กับสเปอร์นอฟพูดคืออะไรกันแน่ แฟมิคงแฟมิคอมมันคืออะไรกันแน่ยังไม่รู้เลย แต่ขืนถามไปคงเสียมารยาทซะเปล่าๆ

      สวบๆๆๆๆๆ!

      "?"

      เสียงของอะไรบางสิ่งที่มีลักษณะคล้ายเป็นแท่งดุ้นๆกำลังเสีบทะลุกำแพงธาตุดินไปมาอย่างขยันขันแข็งและพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียวกัน

      "เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!"เด็กหนุ่มกรีดร้องเสียงหลงออกมาเสียงดัง

      "อะไรของแกว่ะไอ้เบื้อก!"สเปอร์นอฟหันไปตะคอกด้วยความรำคาญ ทว่า......

      "เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!"กรีดร้องเสียงหลงไปอีกคน....

      "เกิดอะไรขึ้นครับ.........เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!"และไอซ์ก็ไปอีกคน

      จะให้ร้องได้ยังล่ะครับพี่น้อง เมื่อไอ้พวกทหารสายม่วงมันพังกำแพงดินดีๆไม่เป็น มันเสือกใช้'ไอ้นั้น' ย้ำ 'ไอ้นั้น' ที่มันตุงๆเป็นแท่งนูนโด่ในเป้ากางเกง ในภาษาอังอังกฤษจะสะกดว่า......ช่างมันเถอะ......กลัวติดเรท

      ที่แน่ๆพวกนั้นเอา'ไอ้นั้น'มาขุดกำแพงดิน บางส่วนเริ่มเกิดรอยร้าวเล็กขึ้นมาบ้างแล้ว

      "อ้างงงง"

      "ซี๊ดดดดดด"

      "จะ.....จะ......***แป้ว......"

      ไม่พอหลายคนร้งส่งเสียงร้องครวญครางเสียวซีดจนทำหน้าฟินกันเป็นแถบๆ ถ้าสังเกตให้ดีตรงเป้าพวกนั้นเริ่มเปียกชื้นแล้ว

      "แม่จ้าาาา!!!"

      สเปอร์นอฟขวัญหนีดีฝ่อเป็นคนแรกหลังได้เห็นการกระทำสุดอุบาทห์เกินจินตนาการ กระโดดกอดไอซ์ชนิดคนโดนกอดเกือบทั้งล้มทั้งยืน เหมือนแมวที่กระโดดหาเจ้าของเพราะความกลัว

      "เดี๋ยวๆ! มันอึดอัดหายใจไม่ออกนะ!"ไอซ์พยายามสงบสติอารมณ์พลางเอามือแกะแต่ไม่เป็นผล

      เปรี๊ยะๆๆๆ........

      "แย่แล้ว! กำแพงมันจะแตก...."เด็กหนุ่มร้องเตือน

      ตอนนี้รอยร้าวเริ่มแผ่ขยายไปทั่วกำแพงดิน โอกาสจะพังเริ่มสูงขึ้นเรื่อยตามเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ ขืนชักช้าคงไม่ต้องถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

      "บ้าที่สุด! ตายเป็นตายวะ!"ไอซ์เครียดจนเผลอสบถพร้อมตัดสินใจชนิดออกหัวออกก้อยให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

      ในสภาพที่โดนลูกทีมกอดแน่นพอๆกับหมีแพนด้ากอดไผ่แบบนี้ เขาต้องโน้มตัวผิงประตูบานใหญ่นั้นเพื่อรักษาสมดุลไม่ให้ล้ม มือคว้าเอาจอยเกมฟามิคอมออกมา

      "ขอให้เปิดทีเถอะ!"

      ไอซ์รีบป้อนรหัส(ver.มั่วๆ)ใส่จอยฟามิคอมโดยความเร็วระดับเซียนเกมคอนโซล

      เหมือนคำอธิษฐานเป็นจริงซะงั้น เพราะประตูมันเปิดออกทันที ทว่าไอซ์นั้นจะโดนสเปอร์นอฟเกาะอยู่พอประตูเปิด ไร้สิ่งพิง ก็เสียศูนย์เอนไปทางที่เปิด แล้วก็.....

      "ป...ปล่อยก่อน!"

      ......กลิ้งลงไปในทางที่เปิดออกเป็นถังบาเรล

      ตุบ! ตุบ!

      พลั่ก! พลั่ก!

      "อุ้บ! อั่ก! แอ่ก! โอ้ย!"

      ดูจากสภาพทางที่เปิดออกนั้นจะเป็นทางลงใต้ดินเสียด้วย ทั้งไอซ์และสเปอร์นอฟกอดกันเกลียวกลิ้งลงขั้นบันไดทางเดินลงไปหลายตลบ โดยมีเด็กหนุ่มวิ่งตามลงมาอย่างรีบเร่งตามหลัง เขาพยายามจะลงตามมาช่วยแต่ความเร็วในการกลิ้งมากไป เลยคว้าไม่ทัน

      ครืน......

      ในเวลาเดียวกันนั้นเองประตูได้ปิดลงในจังหวะที่กำแพงดินที่เด็กหนุ่มสร้างไว้พังพอดี ทำให้พวกทหารสายม่วงเข้าไปไม่ได้ อย่างน้อยก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง

      "แอ่ก!"

      ดูเหมือนทางที่พวกเขาจะเข้าๆไปจะลึกใช่ย่อย ไอซ์กับสเปอร์กลิ้งลงไปถึงสุดขั้นบันไดท้องลงอย่างแรงจนร้องแอ่ก ส่วนเด็กหนุ่มก็ใช้เวทย์น้ำแข็งประยุกต์เป็นทางสไลด์ลง และสไลด์ตัวตามมาทีหลัง

      "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"เด็กหนุ่มถาม

      จากการกลิ้งล้มลงมาเมื่อกี้ทั้งคู่ฟกช้ำดำเขียวไปเล็กน้อย แต่สเปอร์นอฟนั้นขวัญหนีดีฝ่อน่าดูถึงขนาดเล่นเกาะไอซ์ไม่ยอมปล่อย

      เด็กหนุ่มสารภาพตามตรงเลยว่า ตอนนี้พวกมันใช้'ไอ้นั่น'ขุดกำแพงดินของเขา มันโคตะระสยองขวัญสุดๆ เกิดมาเพื่อเคยเห็นนี่แหละ

      "เฮ้ๆ สเปอร์นอฟ พวกเรารอดแล้ว"ไอซ์เขย่าตัวสเปอร์นอฟที่ยังเกาะเขาอยู่

      "ชะ ชะอ้าว?"

      เมื่อรู้ตัวสเปอร์นอฟก็ทำหน้างงๆเหมือนพึ่งโดนปลุกจากภวังค์ หันซ้ายหันขวาดูรอบตัว ก่อนจะปล่อยมือจากหัวหน้าตัวเองและลุกขึ้นมาเหมือนระลึกได้ว่าตัวเองทำเรื่องน่าอายลงไป

      "นี่เรามาอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี้ย? แล้วหัวหน้าเปิดประตูนั้นได้ยังไง?"สเปอร์นอฟแกล้งทำเป็นหน้าด้านถามเพื่อรักษามาดไว้

      ไอซ์ลุกขึ้นมาพร้อมปัดฝุ่นตามตัว"ก็นายน่ะสิที่สติแตกแล้วมากอดผม พอประตูเปิดออกพวกเราทั้งคู่ก็กลิ้งเป็นถังบาเรล รู้ตัวอีกทีเราก็กลิ้งมาถึงนี้แล้ว ส่วนเรื่องที่เปิดประตูได้น่ะเพราะผมมั่วเอาต่างหาก"

      "เออ จะว่าไปรหัสที่คุณกดไว้มันคืออะไรหรือครับ"เด็กหนุ่มที่ตามมาทีหลังถาม

      "คือ......."ไอซ์หลบหน้าเด็กหนุ่ม เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี อย่าว่าแต่เด็กหนุ่มเลย แม้แต่สเปอร์นอฟยังไม่รู้จะพูดยังไงเลย

      "นั่นสิ หัวหน้าทำได้ยังไงล่ะ?"สเปอร์นอฟถามบ้าง

      "คือ........"

      ""ทำได้ยังไง?""

      สุดท้ายด้วยแรงกดดันรบเร้าจากทั้งคู่ ทำให้ไอซ์ทนไม่ไหวอีกต่อไป

      "ก็ได้ๆ แต่สำหรับนายคงไม่เข้าใจหรอกนะ"เขาชี้เจาะจงไปที่เด็กหนุ่ม

      "ผมเหรอ?"

      "ความจริงรหัสที่ผมป้อนไปน่ะ......มันคือ........มันคือ สูตรของเกมคอนทร้าต่างหาก......"

      ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สูตรคอนทร้า

    "ห๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!"สเปอร์นอฟแหกปากดังลั่นทำเอาคนที่เหลือรีบเอามือป้องหูโดยพลัน

      "เดี๋ยวนะๆ! ไอ้เกม8bitโคตรยากจนแทบอยากร้องไห้ที่เล่นกัน2คนได้ในสมัยยุคปี'80นั้นใช่ม่ะ?"

      ไอซ์พยักหน้ารับความจริงแต่โดยดี

      "ไอ้สูตรในตำนาน ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา B A แล้วStart เนี่ยนะ!"

      พยักหน้ารับอีกตามเคย........

      "................................"สเปอร์นอฟถึงกับพูดไม่ออก ไม่นึกว่าสูตรเพิ่มพลังชีวิต30ชีวิตจะช่วยให้พวกเขาได้ ถ้าเอาไปบอกคนอื่นคงขำตายเอา

      อย่างน้อยๆมันจะช่วยให้รอดจากการโดนอัดถั่วดำ มันก็ดีนักหนาแล้ว

      "ผมไม่ขอออกความคิดเห็นก็แล้วกัน"เด็กหนุ่มยกมือแสดงความคิดเห็น เรื่องรหัสนี้เขาขอละไว้ในฐานที่เข้าใจไว้จะดีกว่า

      ไอซ์นึกขึ้นได้ "จริงสิ....แล้วพวกเราจะหนีกันยังไงล่ะคราวนี้?"

      เออ นั่นดิ

      ถ้าขืนขึ้นไปตอนนี้คงไม่แคล้วคลาดโดนอัดถั่วดำเป็นแน่แท้ ในทางกลับกันถ้าลองเสี่ยงเดินลงลึกไปกว่านี้คงเหมือนกับการออกหัวออกก้อย จะมีหรือไม่มีสหบาทารออยู่ก็ไม่รู้

      "สรุปวันนี้ไปทางไหนก็เจอตีนว่างั้นเถอะ"สเปอร์นอฟเกาหัวอย่างหัวเสีย

      ซวยกว่านี้มีอีกมั้ย!?

      "อ้ะ ดูสิครับ เหมือนมีท่อพอให้พวกเรามุดเข้าไปได้ด้วยล่ะครับ"

      เด็กหนุ่มชี้ให้ดูถึงท่อที่กล่าวถึง พลันชี้ถึงทางสว่างในการเอาชีวิตรอดทันที

      "นั่นสิ!"ไอซ์เอากำปั้นทุบมือ"ต่อให้ข้างหน้าจะมีอันตรายแค่ไหน ถ้าเกิดพวกมันไม่รู้ว่าพวกเรามา แค่นี้เราก็แอบหนีไปได้เนียนๆแล้ว อีกอย่างฝ่ายนั้นคงไม่ทันจะได้คิดหรอกนะ"

      ถึงพวกไอซ์จะไม่ได้ศึกษาเวทย์มาจริงๆจังๆ แต่พอจะได้ข้อมูลมาอยู่ว่ามีเวทย์จำพวกตรวจจับอยู่บ้าง ทว่ารัศมีมันสัก2-3เมตรเท่านั้น

      "อีกอย่าง....."เขาคว้าเอาอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารประจำตัวออกมา

      มันถูกเรียกว่า ดีโฟน อุปกรณ์ประจำหน่วยGATที่ทุกคนพึงมี มีหน้าตาคล้ายตลับแป้งของผู้หญิง เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าหน่อยและเปิดออกมาจะหน้าจอหลักกับหน้าจอย่อย ซึ่งจะใช้ติดต่อสื่อสารหรือวิเคราะห์อะไรต่างๆก็ได้

      "นี่มัน......."

      "ช่างมันเถอะ ตอนนี้ดูก่อนเถอะ"ไอซ์แสดงผลจากการวิเคราะห์ของดีโฟนคร่าวๆให้ดู ซึ่งเป็นแผนผังของชั้นใต้ดินแห่งนี้

      ""!?""

      แม้ไอซ์จะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์เหมือนสเปอร์นอฟ แต่ถ้าใช้ดีโฟนก็พอวิเคราะห์สิ่งต่างๆรอบตัวคร่าวๆได้เหมือนกัน ถึงจะไม่ละเอียดเท่าตัวสเปอร์นอฟก็เถอะ

      "อย่างที่เห็น เหมือนว่าพวกเราจะอยู่ในเขาวงกตก็ไม่เชิง ถ้าเราคิดจะเดินแบบปกติคงใช้เวลานาน เผลอๆเจ้าถิ่นที่รู้เส้นทางดีอาจพบเจอพวกเราก็ได้ ในทางกลับกัน....."

      หน้าจอหลักเปลี่ยนมาให้เห็นแผนผังทางท่อในชั้นใต้ดิน

      "มันจะช่วยรนเวลาให้เรามาก อีกอย่างทางท่อนั้นเป็นแบบทางเดียวไม่มีแตกแขนงไปซ้ายไปขวาให้ซับซ้อน ฝ่ายเจ้าถิ่นคงไม่คิดหรอกว่าพวกเราจะหนีกันทางนี้"

      เด็กหนุ่มพยักหน้าเหมือนกับสเปอร์นอฟ ถ้าลองเป็นมาเปลี่ยนมุมมองสามัญสำนึกของคนที่นี่ คงไม่คาดคิดว่าจะใช้ทางท่อหนีไปได้ ถ้าเป็นสงครามล่ะก็พวกเขาเสมือนเป็นฝ่ายโจมตีที่มีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถเลือกโจมตีทางไหน เวลาไหน วิธีใดก็ได้ ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่รู้จักเราหรือรู้จักไต๋ของเรา

      "แล้วรออยู่ล่ะ ตอนนี้พวกเราคงต้องหนีกันด้วยทางนี้ทางเดียวซะแล้ว"สเปอร์นอฟสรุปส่งท้าย

      ว่ากันตามนั้น สวมวิญญาณลุงหนวดช่างประปามาริโอ้ แล้วถึงเวลามุดท่อหนี

      ทั้ง3ค่อยๆคลานมุดท่อไปอย่างช้าๆ ระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครอยู่หรือไม่ ชัวร์ไว้ก่อน

      เมื่อมุดไปเรื่อยๆ ท่อก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่มากสุดก็เพียงให้เดินย่องไปได้เท่านั้น อย่างน้อยก็ไม่มาเมื่อยเพราะต้องมาคลานหนีตลอดทาง

      ตึก ตึก ตึก........

      เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นเหล็ก ต่อให้ย่องให้เบาที่สุดแต่เสียงยังก้องกังวาลภายในท่อจนน่ารำคาญหูยิ่ง ภายในท่อมีแต่ความมืดมิด ต่างคนต่างใช้วิธีที่ตัวเองถนัดเปิดแสงไฟส่องทางเอา

      ไอซ์กับสเปอร์นอฟใช้ดีโฟนฉายแสงไฟส่องนำหน้า ส่วนเด็กหนุ่มใช้เวทย์ธาตุแสงเอาแทน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนัก ทว่ามีบางสิ่งที่กวนใจสเปอร์นอฟอยู่

      'แปลก........จำได้ว่าไม่ยักรู้มาว่ามีคนใช้ธาตุได้เยอะขนาดนั้นนี่นา'

      สเปอร์นอฟยังจำได้ดีตอนไปสืบหาข้อมูลดาวดวงนี้ครั้งแรก คนที่ใช้ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ครบ4ธาตุนั้นถือว่าหายากแล้ว ยิ่งมีธาตุแสงกับความมืดแล้วหายากพอๆกัน

      น่าแปลก เท่าที่สังเกตเด็กหนุ่มนั้นสามารถใช้เวทย์จำพวกดิน น้ำ ลม ไฟได้ครบ ตอนแรกที่เจอก็คิดว่าเป็นพวกหายากล่ะมั้ง แต่นี่เขากำลังใช้เวทย์แสงอยู่หน้าตาเฉย นี่มันปาไป5ธาตุแล้ว ถ้ายังมีธาตุความมืดอีกคงไม่รู้จะอธิบายอะไรดีแล้ว

      เขาตั้งคำถามในใจว่า เด็กหนุ่มเป็นใครกันแน่? ลางสังหรณ์บอกว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาหรือพวกหายากทั่วไปแน่ๆ แต่เขาคิดว่าเด็กหนุ่มไว้ใจได้แน่ แม้ไม่รู้เหตุผลที่ต้องคิดแบบนี้ก็ตามที

      สำหรับเรื่องเขาว่าควรถามไว้ในเวลาที่สมควรจะดีกว่า

      ครืน........

      "!?"

      จู่ๆเด็กหนุ่มหยุดชะงักคล้ายกับมีปฏิกิริยาตอบสนองกับบางสิ่ง  สายตากวาดหน้าหลัง ใบหน้าเริ่มหลั่งเหงื่อแสดงถึงความกังวลขึ้นมา

      "มีเวทย์นี่มันอะไรกัน?"เด็กหนุ่มเผยสีหน้าตื่นตระหนก และคำพูดนั้นทำใหอีก2คนหยุดชะงักตาม

      "คราวนี้อะไรของแกอีกวะไอ้เบื้อก?"สเปอร์นอฟเริ่มหัวเสียอีกครั้งไม่รู้ในรอบที่เท่าไหร่ของวัน ความรู้สึกมันโดนแมลงวันตอมแล้วตอมอีกนานเข้าก็เริ่มประสาทจะกิน

      "มีบางอย่างไม่ถูกต้องกับท่อนี่"

      "หา แล้วใครเป็นไอเดียกันมิทราบ?"

      "ใจเย็นๆก่อนเถอะทั้ง2คน"ไอซ์รีบเข้ามาระงับระหว่างกลาง

      ครืนนนนนนนน..........

      ปิ๊บๆ!

      ในเวลานั้นเองก็มีเสียงบางสิ่งที่มีขนาดใหญ่เคลื่อนมาภายในท่อไม่รู้ในส่วนไหน เป็นจังหวะกับที่ดีโฟนของไอซ์และสเปอร์นอฟส่งเสียงเตือนขึ้นมา

      "อะไรกัน?"สเปอร์นอฟเช็คดีโฟนเป็นคนแรก

      ทันใดนั้นเองตาเจ้าตัวเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน เพราะว่าดีโฟนมันเตือนว่า ตอนนี้มีมวลพลังมหาศาลเคลื่อนที่ภายในท่อ กำลังวิ่งเข้ามาทางตำแหน่งพวกเขาอย่างรวดเร็ว!

      "ชิบ.......!"

      พริบตาเดียวก่อนสเปอร์นอฟจะสบถคำออกมา เด็กหนุ่มที่มีปฏิกิริยาตอบสนองไว้กว่าเพื่อนงอปลายเท้าจรดบนพื้น เวทย์สีดำม่วงสถิตบนปลายจรดเท้า ก่อนกวาดพื้นเป็นวงกลมก่อเกิดหลุมมิติขึ้นมา ซึ่งมันก็คือ1ในเวทย์ธาตุมืดที่ใช้ในการหลบหนีเป็นหลักนั่นเอง โดยจะทะลุผ่านวัตถุเป็นหลัก

      ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง เด็กหนุ่มคว้าแขนทั้ง2และกระโดดเข้าหลุมมิติทันที ฉิวเฉียดก่อนที่พลังงานเวทย์สีเขียวมะนาวพุ่งใส่ร่างพวกเขาทั้งหมด ซึ่งพวกเขาเห็นผ่านรูมิติที่ยังไม่ปิดสนิท

      ""ว้าวววววววววววววววว!!""ไอซ์กับสเปอร์นอฟร้องเสียงหลง

      ตุบ!

      แต่โชคยังดีตามเคย หลังของพวกเขาลงกระแทกกับกองพะเนินภูเขาเข้า มันเลยตกมาได้ไม่แรงเท่าไหร่นัก ถือว่าเป็นโชคดีบนความซวย

      "แมร่งเอ่ย ที่แท้เจ้าท่อนี่มันเป็นท่อส่งพลังงานงั้นหรือ!?"สเปอร์นอฟสะบัดหัวไล่ความมึนพร้อมกล่าวสรุปตามความรู้สึกตัวเอง

      "เกือบไปอีกแล้ว"ไอซ์ยิ้มแห้งๆกับคอมโบความซวยวันนี้ พลางช้อนตามองหลุมมิติที่ลงมา ถามในใจตัวเองว่ามันทำได้ไง

      "เอ๊ะ"

      ระหว่างนั้นมือของเขาก็สัมผัสกับพื้นที่นั่งอยู่ มันเหมือนมีอะไรนิ่มๆเหี่ยวๆห่อหุ้มของแข็งๆไม่ปาน แล้วพึ่งมาสังเกตว่า มีกลิ่นเหม็นๆคล้ายซากสัตว์ตายเน่าส่งกลิ่นหึงไปหมด แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ไอซ์ คนอื่นก็เหมือนกัน

      เพื่อความชัวร์จึงลองเปิดไฟฉายดู

      "เฮ้ย!?"ไอซ์ร้องสบถออกมาดังลั่น สีหน้าของเขาเหมือนกับคนโดนผีหลอกกลางวันแสกๆไม่ปาน

      "ศพ!?"เด็กหนุ่มร้องอุทานขึ้นมา

      ลางสังหรณ์เด็กหนุ่มเตือนว่าที่นี่มีสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แน่ๆ เวทย์แสงบนหล่อหลอมกลายเป็นบอลแสงเท่าลูกบาส ก่อนถูกส่งโยนลอยขึ้นนิ่งกลางอากาศและส่องสว่างเป็นดวงอาทิตย์

      "....น......นี่.....ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่านี่มันเป็นการแกล้งกันจะได้มั้ย"สเปอร์นอฟพูดตะกุกตะกักคล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น แม้จะตบหน้าไปมันก็คือความจริงวันยังค่ำ

      ใช่แล้ว สิ่งที่อยู่ใต้เท้าพวกเขาอยู่ มันคือ กองซากศพของเหล่าเผ่าบีสต์นับพันกว่าศพกำลังทับทมเป็นกองสูงในสภาพที่ทุกศพล้วนซูบผอมราวเนื้อติดกระดูก เน่าเปื่อยจนเขียวอื้อคล้ำยิ่งกว่าหนอนชาเขียวแก่อยู่ไงเล่า!!

      หลังจากเห็นถึงสภาพรอบข้างทั้ง3หน่อแทบเป็นใบ้สนิท มองผลงานของความโหดร้ายสุดไร้มนุษยธรรมระดับสุดโต้งเกินหาคำมาอธิบายได้ ที่น่าแปลก ศพเหล่านั้นซูบผอมไม่ใช่เพราะขาดอาหาร แต่ดูยังไงมันคล้ายกับจะโดนสูบจนแห้งเสียมากกว่า

      "อุ้บ ชักอยากจะอ้วกแล้วสิ"ไอซ์รู้สึกพะอืดพะอม เกือบได้ของเก่าออกมา

      ไอซ์กับสเปอร์นอฟนั้นเคยได้ยินเรื่องการสังหารหมู่ชาวยิวของฮิตเลอร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2มาบ้าง เคยเห็นรูปภาพศพชาวยิวโดนวางกองราวกับขยะเป็นภูเขา แต่นี่มันคูณ3เท่าเข้าไปเลย แถมได้มาเห็นกรณีคล้ายกันของจริงแบบนี้ มันอดคิดไม่ได้ว่า เจ้าของที่นี่จิตใจมันทำด้วยอะไร หรือมีอาการทางจิตขนานหนักแต่คนอื่นมันโง่มองไม่ออกหรือไง

      แต่อะไรก็ช่างตอนนี้พวกเขาทั้งคู่แอบคิดไว้ในใจด้วยอารมณ์เดือดดาลกับไอ้คนแบบนี้ ถ้าเกิดเจอเมื่อไหร่จะเตะให้ฟันหักเลยคอยดู แต่พวกเขาคือมืออาชีพ เรื่องนี้เลยต้องพับเก็บไว้ก่อน แล้วเอาตัวรอดไปพร้อมเด็กหนุ่มปริศนารายนี้ให้ได้ก่อน

      กึดดดดด.....

      ""?""

      เหมือนมีใครบางคนกำลังกำมือจนปูดโปดแน่นจนแทบบีบกระป๋องน้ำอัดลมได้เลย

      "พวกคุณพอหาทางออกไปจากที่นี่ได้มั้ย?"

      ในความเงียบจากความหดหู่เด็กหนุ่มพูดขึ้นมา ทว่าน้ำเสียงกลับเย็นชาเฉียบหนาวลึกถึงขั้วกระดูก ถึงขนาดทำให้ร่าง2นักสำรวจดวงดาวขนลุกซู่

      รู้สึกว่าช่วงนีบรรยากาศมันเปลี่ยนไปเร็วเหลือเกิน คิดงั้นบ้างเปล่า

      ไอซ์ส่งสายตากับสเปอร์นอฟด้วยความคิดนี้

      แต่ไม่ทันจะได้ว่าความใดๆ เด็กหนุ่มเดินหันหลังให้พวกเขาและจากไปทันที

      "เดี๋ยวนี่นายจะไปไหนกันแน่?"สเปอร์นอฟถามไล่หลังอย่างไม่เข้าใจ

      "ขอให้โชคดีนะครับ"เด็กหนุ่มตอบไม่ตรงกับคำถาม

      "เดี๋ยวๆ!"

      ก่อนสเปอร์นอฟจะคว้าไหล่เด็กหนุ่ม เขากลับพลันมีสายลมห้อมล้อมตัว และกระโจนหายไปด้วยแรงถีบของสายลม ทำเอาสเปอร์นอฟโดนแรงถีบล้มก้นจ้ำเบ้าเลย ดีที่ปวดก้นกบเล็กน้อยเท่านั้น

      "อ....อะไรของหมอนั่น?"สเปอร์นอฟกล่าวอย่างมึนๆขณะลุกขึ้น

      "ไม่รู้เหมือนกัน........"ไอซ์ตอบแบบจนปัญญา

      สายตาของไอซ์เหลือบไปยังจุดที่เด็กหนุ่มอยู่เมื่อชั่วคราวนี้ ถึงเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับพวกเขาตรงๆ แต่มันอดคิดไม่ได้ บางทีมันเกี่ยวกับปมในใจของแต่ละคนที่มิอาจบอกได้ แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ไม่เว้นเช่นเดียวกัน


      "ชิ ถึงจะไม่ชอบหน้าเท่าไรก็เถอะ แต่มันก็ติดค้างคาใจอยู่ดี"สเปอร์นอฟพูดมาอย่างไม่ชอบใจนัก

      "งั้นเราคงต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะทำอะไรต่อไป"ไอซ์พูดพร้อมมองไปยังเส้นทางที่เด็กหนุ่มทะยานไป ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง.........






    -----------------------------------------------------------------------------------------------------

      เคยคิดมาตลอดว่าการกระทำตัวเองมันเพื่อความยุติธรรมเสมอ

      ยึดติดว่าการทำดีคือความยุติธรรมเสมอ

      .....แต่ความเป็นจริงแล้ว เราทำดีไปเพื่อความยุติธรรมของตัวเองที่ตัวเองคิดไว้เสียมากกว่า.......

      ถึงจะอย่างนั้นก็ขอเลือกทำตามเส้นทางที่ตัวเองเลือกดีกว่ามานั่งลังเลใจ จนต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------


      "ช่วยด้วย.....ปล่อยพวกเราไปที........"

      "ไม่เอาแล้ว! ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่!"

      "จบแล้ว ไม่ไหวแล้ว........."

      เสียงของทาสต่างเผ่าต่างโอดร้องอย่างโหยหวนทรมาน บางคนเสียสติเอาหัวโขกกับกำแพงจนเลือดอาบทั่วหัว บางรายสิ้นหวังเหมือนเป็นซากคนตายที่ยังหายใจได้ ทุกชีวิตต่างอยู่ในห้องขังอันแออัดและโสโครกเกินบรรยาย ที่มีห้องเพียง4ห้องกลางๆกับทาสอีกนับเกือบร้อยชีวิต

      ภาพแห่งความโหดร้ายของการเหยียดเผ่าพันธ์ุร่วมดาวด้วยกัน สะท้อนเข้าไปในดวงตาอันเศร้าโศกเด็กหนุ่ม ถ้าเป็นสมัยก่อนเข้าอาจคิดจะช่วยหากแต่ตอนนี้เขาไม่สามารถช่วยเหลือได้อีกต่อไป

      เขาไม่ได้จิตใจเย็นชาหรือตายด้านสักนิดเดียว เพียงแต่เขาไร้หนทางที่จะช่วย'อดีต'ได้ต่างหาก

      นั้นเป็นแค่ภาพในอดีตหรือภาพหลอนจากจิตใต้สำนึกกันแน่? เขาไม่รู้ ที่แน่ๆ ความจริง ณ ปัจจุบันภาพที่เข้าเห็นคือ กองซากโครงกระดูกของทาสจับไม่หวาดไม่ไหวกองทับถมในห้องขัง ซึ่งมันเริ่มพุพังไปตามกาลเวลา กลายเป็นที่อยู่ของหนูไปในที่สุด

      "ขอให้สู่สุขคตินะ"เขากล่าวก่อนว่าดอกลิลลี่สีขาวเบาๆต่อหน้าห้องขัง เป็นไการว้อาลัยแด่เหล่าผู้ส่งสารที่ไม่สมควรมาตายที่นี่

      บางทีก็คิดอยู่ว่า ถ้ามนุษย์ไม่ยึดติดกับชนชั้น ศักดิ์ศรี หรือความสูงต่ำ บางทีคนพวกนี้อาจมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องถูกโซ่ตรวนที่มนุษย์สร้างมันขึ้นมาเรียกว่า ทาส ผูกรั้งให้ทรมานอยู่ตรงนั้น

      แต่ยังไงซะมนุษย์หลายต่อหลายคนนั้นยังชอบและเมินเฉยต่อเรื่องนี้อยู่ดี เพราะว่ามนุษย์ทุกคนนั้นมีความสุขเมื่อได้อยู่เหนือผู้อื่น สามารถชี้นิ้วสั่งทำอะไรบ้าๆได้โดยอีกฝ่ายไม่กล้าหือ เพราะไม่รู้จะเจออะไรเมื่อหือกับผู้อยู่สูงกับตัวเอง

      รู้สึกตัวอีกทีก็กลายเป็นวัฎจักรไปซะแล้ว แม้บางอาณาจักรจะบอกว่าไม่มีคำว่าทาส สุดท้ายคำว่าทาสต่างฝังเข้าไปในใจของทุกคน พอมองไปลึกๆก็ยังมีทาสอยู่วันยังค่ำ

      เขาเองไม่เข้าใจเลย ทุกคนนั้นมีค่าชีวิตเท่ากัน เกิดมาหนเดียวตายหนเดียว เจ็บได้ปวดเป็น ถ้าเราตายเป็นเจ็บเป็นกันหมดเขาเชื่อว่า นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้ถึงค่าของชีวิตของทุกเผ่าพันธ์ุได้แล้ว

      หากแต่คนเรากลับหาไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้เลยสักนิด.......

      ถึงอย่างนั้นเขาก็ขอต่อต้านวัฎจักรพรรคนี้อยู่ดีเหมือนคำปฏิญาณตน ไม่มีลังเลอีกต่อไปเด็ดขาด!

      เมื่อคิดเช่นนี้เด็กหนุ่มตัดสินวิ่งต่อไปข้างหน้า ต่อให้ความมืดข้างหน้าจะมีอันตรายที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ เขาก็ขอสาบานว่าจะลากตัวการให้มันมาสำนึกผิดให้จงได้ ให้มันสาสมกับสิ่งที่มันก่อไว้!







      ครื้นนน................

      ณ ส่วนใดส่วนหนึ่งของชั้นใต้ดินแห่งนี้ มีเสียงเครื่องจักรขนาดใหญ่ส่งเสียงคำรามกระหึ่มไปทั่วบริเวณ

      ครื้นนนน.........

      "หืม......."

      และเสียงนี้ก็ไปปลุกให้ทาสสาวเผ่าบีสต์คนหนึ่งหลุดจากภวังค์ เปลือกตาเธอค่อยๆเปิดขึ้นมา ภาพพร่ามัวไประยะหนึ่งเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงภายนอก ก่อนกลับมาชัดดั่งเช่นเดิม

      "น นี่ฉันอยู่ที่ไหนล่ะเนี้ย!?"

      สิ่งที่เห็นคือ ห้องพื้นหินโสโครกขนาดกลางที่ถูกย้อมไปด้วยแสงสีเขียวภายในห้อง จนรู้สึกความหายนะได้เลย มีกำแพงหินป้องกันไว้ทุกด้าน ไร้แสงจากภายนอก เมื่อขยับตัวพบว่าตัวเธอถูกจับล่ามทุกส่วนใจขยับร่างกายไปไหนไม่ได้ และหันไปก็เห็นเพื่อนร่วมเผ่าพันธ์ุที่อยู่ในสภาพแบบเดียวกันกับเธอ

      ที่แปลกคือ ทุกคนเหล่านี้ล้วนมีหมวกประหลาดส่องแสงสีมรกตครอบหัวกันหมดทุกคน เธอก็ไม่เว้น

      "อะไรมันมาครอบหัวข้าเนี่ย!?"

      "แค่นี่ตูยังชิบหายไม่พออีกหรือไงว่ะ!!"

      "ใครกันได้ช่วยที!!"

      ครื้นนนนนนนนนนนนน!!

      ทันใดนั้นเสียงเครื่องจักรขนาดใหญ่ส่งเสียงคำรามอย่างกระหึ่มสะเทือนพื้นหิน แต่นั่นไม่ใช่เสียงคำราม แต่มันคือเสียง'สูบ'ต่างหาก


      "อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

      มีชายเผ่าบีสต์กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดจนบ้าคลั่ง ดวงตาแทบถลนออกมาจากเบ้า น้ำตาไหลออกมาเป็นสีเลือด ร่างกายชักกระตุ้นชักๆเหมือนกรอกภาพซ้ำไปซ้ำมา เขาพยายามกระชากร่างให้พ้นการพันธนาการ หาแต่มันแข็งเกินกว่าจะกระชากได้ ผลคือ ความทรมานจากการโดนสูบบางอย่างจากร่างกายไปอย่างรวดเร็ว เหมือนการกระชากหัวใจสดๆไม่ปาน

      ร่างกายเริ่มซูบผอมไปอย่างรวดเร็วไม่ต่างกับไม้จิ้มฟัน พร้อมด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความสิ้นหวังยิ่งกว่างานศิลปะแห่งความสิ้นหวังบางภาพ ก่อนจะชักกระตุกอีกจังหวะหนึ่ง และแน่นิ่งไปไร้สัญญาณชีวิต

      "................."

      ทุกคนต่างเงียบกริบ สายตามองไปที่เพื่อนร่วมเผ่าพันธ์ุสุดดวงกุดที่ตายอย่างน่าอนาถ บรรยากาศอัดแน่นไปด้วยความสิ้นหวังสุดขีด แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ใครจะเป็นรายต่อไปต่อจากรายนี้ เพียงคิดก็แทบฉี่ขี้ราดหมด

      "ค....ใครก็ได้ช่วยด้วย"หญิงสาวเผ่าบีสต์เอ่ยมาลอยๆด้วยน้ำเสียงที่ดูสิ้นหวัง


     





     



     

     


      

    To be continued 


      -------------------------------------------------------------------------------------------------------

       ตอนหน้า(Ep.5)ขอสปอยล์นิดๆนะครับ

      .

      .

      บ้านเมืองพังแน่นอน..........




      คุณPurelieครับ ช่วยเปิดเนื้อหาตัวละครใหม่ของคุณด้วยครับ เพราะตอนนี้ผมคืนชีพแล้วนะครับ//////ยิ้ม








      
      จริงด้วย แล้วก็อีกอย่างคือผมมีเรื่องรบกวนอยากจะถามทุกท่านหน่อยนะครับ สำหรับช่วงปิดเทอมนี้ ผมจะทำอย่างไรต่อไปดี

      1.ปั่นทั้งDEUSกับThe Ultraไปพร้อมๆกันเลย
      
      หรือ2.เปิดนิยายรับสมัครตัวละครเรื่องใหม่ที่ออกแนวหนังSAW ที่สามารถเลือกทางการตัดสินใจให้กับตัวละครตัวเองได้(คล้ายกับSin Hurtingที่ผมชอบแซวกันในตอนของไอริส) แต่ผลของการตัดสินจะออกแนวต้องร้องWTFกันเลย แต่The Ultraก็จะถูกงดอัพชั่วคราว(ส่วนเรื่องนี้ยังพยายามอัพอยู่จ้า)

      ช่วยมาตอบในช่องคอมเม้นต์กันหน่อยนะคร้าบ-----------


     

      Aingerasia : ศึกชิงบังลังก์ปรัมปรา


      ใครว่างๆก็เข้าไปสมัครหน่อยนะครับ ตอนนี้มีคนมาสมัครจริงๆมีแค่3คนเอง



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×