คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : From that day on... Chapter THREE
3
เหตุการณ์ในคืนนั้นทำให้เรากลายเป็นองครักษ์พิทักษ์องค์หญิงพลอยลดาไปโดยปริยาย และพ่อค้าแม่ขายในซอยหอพักก็คงจะคุ้นตากันดีกับภาพเจ้าหญิงในชุดแซ็คไฮโซสีหวานเดินไปไหนมาไหนโดยมีองครักษ์ (สุดเท่ห์) ที่แต่งตัวทะมัดทะแมงคอยตามดูแลทุกฝีก้าว (ราวกับเลี้ยงลูก) ส่วนเราเองก็เต็มใจนะ เราไม่อยากให้ดาเป็นอะไรไป และภูมิใจที่ตัวเองนั้นมีประโยชน์กับคนอื่นเขาด้วย
ในบางทีเราก็คิดว่า เราอาจจะเกิดมาเพื่อเป็นครูโดยแท้เลยมั้ง เพราะนอกจากจะสอนภาษาอังกฤษกับเยอรมันให้เพื่อน ๆ ในเอก และสอนวิชาเคมีให้กับน้อง ๆ นักเรียน ม.ปลาย แล้ว เรายังต้องสอนทักษะพิเศษการใช้ชีวิตให้กับองค์หญิงเธออีกวิชาหนึ่งด้วย
หลักสูตรใหม่ที่ไม่เคยมีบัญญัติไว้ในกระทรวง
แต่ก็เป็นหลักสูตรสำคัญที่ควรจะศึกษาและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ หากอยากมีชีวิตรอดในสังคมอันวุ่นวายวกวนนี้
แล้วไป ๆ มา ๆ องครักษ์ก็กลับกลายเป็นฮีโร่ของเจ้าหญิงไปได้ยังไงก็ไม่รู้
“เพชรนี่เก่งจังเลย อยากเก่งแบบเพชรมั่งจัง” ดาพูดแบบนี้บ่อยมาก ๆ
“ไม่หรอก เราก็แค่ทำเป็น” เราจึงได้พูดประโยคนี้บ่อยพอกัน
“แต่เพชรนี่สุดยอดเลยน้า” ดาคุยกับเราในคืนที่เรายังนอนไม่หลับกันทั้งคู่ เรานอนเอกเขนกเปลี่ยนเสียงโทรศัพท์ของดาเล่น ส่วนดาชะโงกหน้ามาดูแล้วพูดต่อ “เป็นผู้หญิงแต่จับผู้ชายตัวโตทุ่ม ปราบซะอยู่หมัดเลย คนแถวนั้นอึ้งกันหมดเลยรู้เปล่า”
เราวางโทรศัพท์ดาคืนที่แล้วลูบหน้าเขิน ๆ “เราเคยเรียนน่ะ ศิลปะป้องกันตัว”
“เหรอ” ดาอุทานเสียงสูง ก่อนจะถามต่อ “แล้ว ในตอนนั้นน่ะ ทำไมเพชรถึงมาช่วยเราล่ะ คือ เราหมายถึงว่า เราบอกเพชรแล้วว่าเราจะกลับเองน่ะ ทำไมเพชรยังมารับเราเหรอ”
เรากอดอกในความมืด อืม นั่นสินะ ทำไมเราถึงรู้
“ก็ เสียงดาตอนนั้นสั่นมากเลยน่ะสิ สั่นเหมือนกับจะร้องไห้เลย เราก็เลยคิดว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับดาแน่ ๆ” ต้องเป็นอย่างนี้แน่ ๆ จำได้ว่าเรารู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูกตอนที่โทรศัพท์ดาถูกตัดสายไป
“อย่างนั้นน่ะเอง รู้มั้ยเพชร เราไม่นึกเลยว่าเพชรจะมาช่วยเรา”
“มาสิ เราต้องมาช่วยดาแน่ ถึงไม่เกิดเรื่องอะไรเพชรก็ต้องมารับดา”
“เอ๋ ทำไมล่ะ”
แม้ว่าเราสองคนจะอยู่ในความมืดมิดของค่ำคืน แต่เราคิดว่า เราเห็นดวงตาเป็นประกายใสของเธอที่จ้องมองเราอย่างสงสัย หึ ทำไมน่ะเหรอ
เราพลิกตัวไปสบตาคุณหนูขี้สงสัย แล้วตอบออกไปชัดถ้อยชัดคำ
“เพราะเราไม่คิดว่าดาจะกลับหอเองได้น่ะซี
วะฮะฮ่า!”
พูดจบเราก็ระเบิดหัวเราะลั่น ซึ่งพอดีกับที่ฝ่ามือน้อย ๆ ของคนนอนข้าง ๆ หวดเข้าที่แขนเราดังป้าบ ดากึ่งยิ้มกึ่งบึ้งแล้วพลิกตัวหนีไปอีกทาง ทิ้งคำพูดสะบัด ๆ ไว้ก่อนนอนว่า
“เพชรอ้า ไม่พูดด้วยแล้ว!”
ยิ่งงอนเราก็ยิ่งขำ ดาก็เลยพลิกตัวมาตีเราอีกแป๊ะ! แถมมีขู่อีกว่าถ้ายังไม่หยุดหัวเราะจะยันให้ตกเตียงเลย หูย น่ากลัวจัง พอคุณเธอเจอเราทำหน้าล้อเลียนก็โมโหใหญ่ รัวกำปั้นใส่เราไม่หยุดเลย เราก็เลยต้องรวบตัวเธอเอาไว้ในอ้อมแขน เมื่อนั้นล่ะ เธอจึงหยุด
เราเพิ่งรู้ว่าดาตัวนิ่มมากเลย หอมด้วย อุ่นดีด้วย วิเศษกว่าหมอนข้างเปื่อย ๆ ของเรา 100 เท่า และเราก็ผล็อยหลับไปอย่างมีความสุข
ในสายตาของใคร ๆ ดาอาจจะเป็นคุณหนูบอบบาง ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ขี้งอน อ่อนแอ แต่สำหรับเราแล้ว เรามองเห็นความกล้าหาญอยู่ลึก ๆ ในใจเธอนะ พลอยลดากล้าจินตนาการ กล้าคิด กล้าฝัน และที่สำคัญ เธอกล้าที่จะทำตามหัวใจตัวเอง ก็ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าโลกภายนอกนั้นซับซ้อนและอันตราย แต่เธอก็กล้าที่จะก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์มาสัมผัสและพิสูจน์ตัวเอง เราเคยถามดาว่าดาไม่กลัวหรือ ดาก็ตอบเราตรง ๆ ว่ากลัว แต่ก็อยากทำ เราจึงอดทึ่งไม่ได้กับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ นับถือเธอจริง ๆ ที่สามารถเอาชนะความกลัวในใจตัวเองได้
เราเสียอีก ที่ยังกลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัว
เราว่า เราเองต่างหากที่อ่อนแอ
และนอกจากนี้ ดายังเป็นคนที่จิตใจดีงามมากถึงมากที่สุดคนหนึ่งที่เราเคยรู้จักมา ดามองโลกในแง่ดี และมักจะสงสารหรือเห็นใจคนอื่นอยู่เสมอ บางทีก็เป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองแล้วก็ทำให้เราต้องเป็นห่วงดาอีกที สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เราสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ เพราะว่าเราสามารถวางใจได้สนิทว่าเธอจะไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเรา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
และยังมีอีกหนึ่งความพิเศษของดา ที่ทำให้เรา..ช้อบ ชอบที่จะอยู่ใกล้ ๆ
“ดาจ๋า..เย็นนี้มีอะไรกินบ้างจ๊ะ”
ใช่แล้ว พลอยลดาทำอาหารเก่งมาก ๆ ดาเล่าว่าคุณแม่ท่านส่งไปเรียนกับหัวหน้าเชฟที่โรงแรมของคุณพ่อตั้งแต่เธออยู่ ม. 3 จนแม้ตอนนี้ก็ยังไปฝึกทำอาหารในเวลาว่างอยู่เสมอเลย
“เพชรอยากกินอะไรล่ะจ๊ะ”
โอ้โฮ สั่งรายการได้ด้วย ก็นอกจากจะทำอาหารอร่อยแล้ว ดายังทำอาหารได้หลายประเภทด้วยนะ ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง เก่งสุดยอดไปเลย ส่วนเราน่ะเหรอ ถนัดที่สุดก็อาหารญี่ปุ่นน่ะแหละ บะหมี่ไง (กึ่งสำเร็จรูปด้วย อิอิ)
ดาเดินไปเปิดตู้เก็บของแห้งในครัวเล็ก ๆ ของห้อง แล้วก็บ่นเหมือนเคยว่า
“มีแต่มาม่าอีกแล้ว”
“ใครว่า ยำยำต่างหาก จัมโบ้ด้วยนะ”
“ก็เหมือนกันนั่นล่ะ”
“ใครว่าเหมือน คนละยี่ห้อกันชัด ๆ”
“เพชรนิ!” ดาปิดตู้แล้วค้อนขวับ เราจึงต้องรีบหุบปากฉับ เพราะเดี๋ยวปากจะพาซวยอดกินของอร่อย
“ถ้างั้นก็กินยำยำไปละกัน”
นั่นไง โดนซะแล้วเพชรเอ๋ย เรารีบถลาไปง้อองค์หญิงเป็นการด่วน ง้อยังไงน่ะเหรอ ก็เข้าไปจิ้ม ๆ ที่แก้ม แล้วร้องต๊อยแน ๆ เหมือนโอ๋เด็กนั่นล่ะ แล้วดาก็เหมือนเด็กจริง ๆ เพราะเธอยิ้มออกมาในที่สุด เฮ้อ บอกแล้วว่าเหมือนเลี้ยงลูก
ชั้นล่างของหอพักมีครัวเล็ก ๆ ไว้สำหรับประกอบอาหารกินเอง แต่คนในหอส่วนใหญ่กินกันมาจากข้างนอกแล้ว ครัวนี้จึงไม่ค่อยมีใครมาใช้บริการ ยกเว้นตู้เย็นที่คนนิยมนำของกินมาแช่เป็นประจำ เราชอบแช่ปีโป้ในช่องแช่แข็ง กินแบบแช่แข็งอร่อยดีนะ ส่วนดาชอบแช่ผลไม้ และผักกับเนื้อสัตว์สำหรับทำอาหารอร่อย ๆ (ให้เรากิน อิอิ)
และมื้อนี้ก็เป็นอีกมื้อวิเศษสุดยอด ดาทำสปาเก็ตตี้ซีฟู้ดให้กิน (แต่เส้นยำยำนะ)
“ดาทำอาหารเก่งจัง” เราชมยิ้ม ๆ จากใจจริง คนถูกชมก็ยิ้มหวานแล้วยืดอย่างภูมิอกภูมิใจ
“จะบอกว่าเราเป็นกุลสตรี เป็นแม่บ้านแม่เรือนใช่ไหมล่า..”
เราแทบสำลักเส้นยำยำ คุณเธอกล้าพูดแฮะ เหอ ๆ กุลสตรีที่ไหนรีดผ้าซะไหม้โบ๋กันล่ะจ๊ะ แต่เราไม่กล้าพูดหรอก (เดี๋ยวคุณเธออารมณ์บูดแล้วจะอดกินของดีอีก) ได้แต่หัวเราะตามเธอไปอย่างนั้น หะหะ
“เพชร โตขึ้นอยากเป็นอะไรเหรอจ๊ะ”
“เราเหรอ ” คำตอบของเราชะงักไปเพราะคำถามจากคนสวยตรงหน้ามันทะแม่ง ๆ ยังไงชอบกล ยังกับเราเป็นเด็กน้อยยังงั้นล่ะ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเราก็เลยตอบเป็นเสียงหนูเพชรซะเลย “หนูอยากเป็นนักเคมีค่ะ อยากประดิษฐ์ของเล่นนาโนค่า ”
ปรากฏว่าดาขำจนหน้าแดง เราเลยเพิ่งรู้สึกตัวว่า ทำไปได้
“อ้าว แล้วทำไมเพชรถึงไม่เรียนทางสายวิทย์ล่ะ เรียนอักษรฯ แล้วเป็นนักเคมีได้เหรอ” ดาถามมาซื่อ ๆ จนเราอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะส่ายหน้าเป็นคำตอบว่า ‘ไม่ได้หรอก’ แต่เราก็มีเหตุผลที่เลือกอักษรศาสตร์นะ
“เรากะว่า พอเรียนจบแล้วเราจะเรียนปริญญาตรีอีกใบในทางวิทย์ล่ะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ” ดาถามมา เราจึงพยักหน้าหนักแน่น “ใช่ อย่างนั้นเลยล่ะ”
“เออ ดา ค่ายที่พี่หมิวบอกอ่ะ สนใจไหม” เราถามขึ้นหลังจากที่ชามแรกหมดไปแล้วและกำลังเดินไปตักชามที่สอง
“ค่ายนักไต่ฝันน่ะเหรอ เพชรไปไหมล่ะ เพชรไปเราก็ไป”
เราชะงักมือที่กำลังจะตักสปาเก็ตตี้ยำยำเพิ่ม คิดง่ายดีแฮะ ถ้าเราไปดาก็ไปงั้นเหรอ ก็ดีเหมือนกัน แต่คิด ๆ ดูแล้วก็อดขำไม่ได้อ่ะ “อิอิ..เหมือนลูกแหง่ติดแม่เลยวุ้ย”
“ว่าไงนะเพชร” โห เรื่องพวกนี้ล่ะหูดีขึ้นมาเชียวคุณหนู
“เปล๊า ไม่มีอะไร ฮ่าฮ่า”
ความคิดเห็น