ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    From that day on... จากวันที่เธอไม่อยู่

    ลำดับตอนที่ #2 : From that day on... Chapter ONE

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 50





    1

     

                    ตายละวาจะทันไหมเนี่ย!

                    เรากำลังติดแหง็กอยู่บนรถประจำทาง (ไม่ปรับอากาศซะด้วย  แบบที่ปรับอากาศมันแพง  ยอมร้อน)   บนถนนยามค่ำคืนของเมืองหลวงที่ตอนนี้รถติดยาวเหยียด   เราแอบชะเง้อออกนอกหน้าต่างรถเพื่อดูว่าไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือยัง  ก็เห็นอยู่ลิบ ๆ ว่ามันเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วล่ะ  แต่เป็นของแยกอื่นนะ  แยกที่เราอยู่นี่ยังแดงแจ๋เหมือนเดิม

                    เรามองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมืออีกครั้ง  ..มันจะไม่ทันเวลาแล้ว..  สุดที่รัก  ของเรากำลังจะมาแล้ว  ดังนั้น  เมื่อรถประจำทางแล่นไปจอดในป้ายถัดมา  เราจึงโดดลงจากรถแล้วเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อกลับหอพักอย่างด่วนที่สุดแทนที่จะรอให้ถึงป้ายหน้าซอยเหมือนทุก ๆ วัน   แม้ว่าค่ารถมอเตอร์ไซค์จะแพงกว่าค่ารถประจำทางอยู่หลายเท่า   แต่เพื่อเธอที่รัก  เรายอมได้

                    ตึง  ตึง  ตึง ๆ ๆ ๆ ๆ

                    โหเสียงเราวิ่งขึ้นบันไดนี่ดังใช้ได้

                    เพชร!  เดี๋ยวโว้ย  เจ๊มีอะไรจะบอก

                ไว้ก่อนเจ๊  เดี๋ยวลงมาคุยด้วย

                    เจ๊จุ๋ม  คนดูแลหอพักเรียกเราไว้  แต่เราไม่มีเวลาแล้ว  และในที่สุด  เราก็วิ่งมาถึงห้อง  305  ห้องพักของเราเอง   เรารีบล้วงกระเป๋าเป้คู่ชีพหยิบกุญแจห้องขึ้นมา  แต่พอเราไขประตูก็พบว่ามันไม่ได้ล็อก   เอ..  หรือว่าตอนออกไปเรียนเราลืมล็อก  แต่ก็ช่างมันเถอะ

                    พอเราเปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องอึ้ง  เพราะห้องของเรามันเป็นระเบียบเรียบร้อยผิดปกติ  เราวิ่งออกมาข้างนอก  ดูที่บานประตูอีกครั้งมันก็ยังมีตัวเลข  305  ติดอยู่หรา   ไม่ผิดห้องนี่หว่า.. 

                    เรากลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง  และปรากฏว่า  เราเจอใครก็ไม่รู้อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดยืนอยู่กลางห้อง   เรากับเธอยืนสบตากันนิ่งและเหมือนว่าเธอเองก็อึ้งกิมกี่ไม่ต่างจากเราเลย   ดวงตาใส ๆ ของเธอกลมโต  ผิวขาวอมชมพู  มือเรียวข้างหนึ่งกำลังนิ่งค้างในท่าเช็ดผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อนที่เพิ่งสระเสร็จเมื่อครู่   

                    และก่อนที่จะมีใครพูดคำใดก่อน  ก็ได้มีเสียงแหลม ๆ คุ้นหูดังขึ้นหน้าประตูห้อง

                    โฮ้ย..เหนื่อย  วิ่งเร็วจังวะไอเพชร

                    เมื่อนั้นเราจึงได้สติและหันกลับไปหาเจ๊จุ๋ม   เจ๊แกหอบแฮ่กเชียว 

                    เจ๊จะบอกแกว่าต่อไปนี้จะมีคนมาอยู่กับแกด้วย  แล้วแกก็กลับซะมืดค่ำเจ๊ก็เลยให้กุญแจสำรองน้องเขาไขเข้าห้องก่อน   เฮ้อ..  เมื่อกี้บอกให้หยุดคุยกันก่อนก็ไม่เชื่อ  จะรีบไปไหนวะ  กลัวห้องหายหรือไง

                    อ้อรูมเมทงั้นเหรอ..

                    งั้นเจ๊ไปก่อนนะ   แกอย่าทำอะไรมิดีมิร้ายน้องเขาล่ะไอเพชร  เจ๊แอบมากระซิบประโยคหลังกับเรา  แต่เสียงกระซิบเจ๊แกก็ไม่ค่อยจะดังเล้ย  รู้สึกว่าเธอที่มาใหม่จะแอบสะดุ้งซะด้วย  อิอิ

                    มีไรบอกเจ๊ได้นะหนู  คราวนี้เจ๊หันไปบอกรูมเมทของเรา  ถ้าไอเพชรมันทำชีกอ  หนูมาบอกเจ๊ได้เลย  เจ๊จะจับตบ  สับ  โขก  เตะก้านคอมันให้ดู!”

                    เว่อร์ไปแล้วเจ๊  คิดว่าจะเตะถึงเหรอ

                    ว้าย..  ไอเพชร  เออสูงแล้วอย่ามาง้อละกัน

                    เจ๊ชี้หน้าเรายิ้ม ๆ แล้วเชิดออกจากห้องไป   เราก็แลบลิ้นตามหลังให้เป็นรางวัล   โธ่เอ๊ย..มาทำคุย  เจ๊แกยาว  เอ๊ย สูงแค่เมตรครึ่ง  ริจะมาเตะก้านคอนักบาสมหาลัย

                    และเสียงหัวเราะน้อย ๆ ข้างหลังก็ทำให้เราหันไปมอง   แต่พอเธอเห็นว่าเรามองก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย   ส่วนเรา..ก็เหมือนจะยังงง ๆ อยู่นะกับเพื่อนใหม่คนนี้  ว่าไปแล้ว  เธอก็เป็นคนสวยคนหนึ่งเลยทีเดียว  เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้   แต่เฮ้ย!  ที่รักของฉัน!  โฮ้..ลืมไปสนิทเลย  เราถลาไปเปิดโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ปลายเตียงแล้วก็ต้องถอนหายใจดังฟู่.ทันพอดี  นักกีฬาเพิ่งลงสนาม  

                    งงล่ะสินั่น..  ที่รักของเราก็คือทีมลิเวอร์พูลไง   ชิงแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก  ถ้วยใหญ่ของยุโรปด้วยนะ  ถ้าพลาดเกมส์นี้ไปมีหวังนอนตายตาไม่หลับ

                    แกร๊ก  

                    เราหันไปมองทางประตูห้องน้ำ   คราวนี้รูมเมทคนสวยออกมาในชุดนอนสีชมพูลายเป็ดน้อย   เราอดหัวเราะไม่ได้จริง ๆ  และเธอก็คงจะเคือง ๆ เราซะแล้วถึงได้สะบัดหน้าหนีออกไปตากผ้าเช็ดตัวนอกระเบียง 

                    ดูบอลด้วยกันไหม

                    เราชวนเธอเมื่อเธอกลับเข้ามาในห้อง  คุณหนูเป็ดน้อยมองเรานิดหนึ่งก็เอื้อมไปหยิบหมอนใบโตของเธอแล้วนั่งลงข้าง ๆ เรา  กลิ่นครีมอาบน้ำหอมฟุ้งมาเลยเชียว   เราเลยรู้สึกเขิน ๆ ยังไงบอกไม่ถูกเพราะเรายังไม่ได้อาบน้ำเลย  เหม็นตัวเองพิลึก

                    แต่ก็ช่างมันเถอะ  อ้าเริ่มเขี่ยบอลกลางสนามแล้ว

                    การแข่งรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้  ทีมรักของเราไม่ทำให้ผิดหวังเลย   แม้ว่าฟอร์มอาจจะไม่เจ๋งเท่าคู่ต่อสู้  แต่ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย  จบครึ่งแรกด้วยสกอร์เสมอ  1 1   เราปรบมือตามผู้ชมในสนามอยู่หน้าจอทีวีแล้วก็บิดขี้เกียจดังกร๊อบ  เกือบโดนเธอแน่ะ  ลืมไปว่ามีสมาชิกใหม่นั่งอยู่ข้าง ๆ

                    เอ๋..  เธอเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเราเลย  เธอพูดออกมาเป็นประโยคแรก  เราจึงได้รู้ว่าเสียงเธอใสมากเลยล่ะ  น่าไปเป็นดีเจนะ  อ้อ..  เราว่าเธอคงดูจากเข็มกลัดที่อกเสื้อนักศึกษาของเราถึงได้รู้ว่าเราเรียนที่ไหน

                หรอ  แล้วเธอเรียนคณะอะไรเหรอ  เราถามขึ้นบ้าง

                    อักษรศาสตร์  เธอล่ะ 

                    โฮ่เหมือนกัน   แล้วเอกอะไร

                    เยอรมัน  เธอล่ะ

                    ฮ่าเหมือนกัน

                    โลกกลมจังเลย    แต่เอทำไมเราไม่เคยเห็นเธอเลยล่ะ

                    เธอเอียงคอนิดหนึ่งพลางเพ่งใบหน้าเราเหมือนจะนึกให้ออก   ส่วนเราได้แต่ยิ้มเขิน ๆ  ก็เราโดดเรียนไม่ค่อยบ่อยซะเมื่อไหร่

                    เธอชื่อเพชรเหรอ   คุณหนูเป็ดน้อยถามขึ้นมา   เราก็พยักหน้าให้หนึ่งทีพร้อมรอยยิ้ม

                    เราชื่อพลอยนะ   เพชรกับพลอยคู่กันพอดีเลยเนอะ

                    เธอพูดแล้วก็จบด้วยยิ้มหวาน  แต่เรากลับรู้สึกชาไปทั้งตัวจนต้องรีบหันหน้าหนี   และเหมือนว่าเธอจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เราไม่เคยปิดมิดสักที   เราจึงต้องตั้งตัวใหม่และหันไปยิ้มให้เธอ

                    แล้วเธอชื่อจริงชื่ออะไรเหรอ

                    เราชื่อพลอยลดา   เรียกเราว่าพลอยเฉย ๆ ก็ได้นะ

                    งั้นเราขอเรียกเธอว่า  ดา  นะ

                    เอ๋ทำไมเหรอ

    คุณหนูเป็ดน้อยเอียงคอสงสัย  เราเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี

    เอ่อ  ครึ่งหลังจะเริ่มแล้วล่ะ   ครึ่งแรกสนุกเนอะ  เราเองก็ตัดบทมั่วซั่ว  เพราะเพิ่งพักครึ่งไปไม่ถึง 5 นาที   ส่วนคุณหนูเป็ดน้อยเธอก็พยักหน้ารับมั่วซั่วพอกัน  เราดูรู้หรอกน่าว่าเธอดูฟุตบอลไม่เป็น 

    เราขอตัวไปนอนก่อนนะ  ได้เวลานอนแล้วอ่ะ

    จ้า    ฝันดีนะ

    เธอยิ้มหวานให้เราก่อนลุกขึ้นยืน  ขอให้ชนะนะ 

    แน่นอน!” 

    และเหมือนว่าคำพูดเธอจะศักดิ์สิทธิ์ด้วยล่ะ  เพราะในที่สุดทีมลิเวอร์พูลก็ชนะจริง ๆ (น่าจะใบ้หวยให้สักตัว  อิอิ)   แต่น่าเสียดายที่ร้องดัง ๆ ไม่ได้อย่างเมื่อก่อนเพราะมีคนนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง  เลยได้แต่เต้นเย้ว ๆ อยู่หน้าจอทีวี  ดีใจเป็นบ้าเลย  ไม่เสียทีที่จ่ายค่ามอเตอร์ไซค์ไปตั้งแพง

     

    เราตื่นเช้ามาด้วยอารมณ์แจ่มใส  ก็ทีมรักได้แชมป์ถ้วยยุโรปนี่นา  ซึ่งต่างจากคุณหนูเป็ดน้อย  เพื่อนใหม่ของเราที่บ่นว่าปวดหลัง  เราเลยคิดว่า  เตียงที่บ้านของเธอคงจะนุ่มราวปุยเมฆเลยล่ะมั้ง   คนรวยก็งี้ล่ะน้า

    อยู่ที่บ้านก็สบายดีอยู่แล้ว   จะย้ายมาทำไม๊  เราแกล้งแซวเธอเล่นขณะที่สองมือก็ช่วยทุบหลังให้เธอเบา ๆ แก้เมื่อย

    ก็เราอยากทำอะไรได้ด้วยตัวเองบ้างนี่นา

    อ้าว งั้นปกตินี่ทำอะไรเองไม่เป็นเลยล่ะสิ เราแกล้งแหย่เธออีกที ก็เลยโดนขว้างค้อนใส่ซะวงเบ้อเร่อ

    เอ้า ถามจริง  เราชักจะสงสัยขึ้นมาจริง ๆ ซะแล้วสิ  อยู่บ้านก็สบายดีอยู่แล้ว    แล้วดามาอยู่หอให้เมื่อยทำไมล่ะจ๊ะ

    คุณหนูเป็ดน้อยขอบใจเราที่ทำให้หายปวดเมื่อยไปเยอะแล้วเปลี่ยนมานั่งเผชิญหน้าเราบนเตียง

    อยากรู้จริง ๆ น่ะเหรอ

    เราพยักหน้าอย่างหนักแน่น  ดาจึงเล่าให้ฟังว่าตอนเด็ก ๆ ดาเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง  คุณพ่อคุณแม่จึงคอยประคบประหงมดาอย่างดี  มีคนทำงานให้ตลอด  ก็คือเป็นไข่ในหินของบ้านนั่นเอง  แล้วพอมีกิจกรรมที่โรงเรียนดาก็เลยทำอะไรไม่ค่อยเป็น  ไม่เหมือนเพื่อน ๆ ที่สามัคคีกันทำงาน น่าสนุกจะตาย  เธอบอกอย่างนั้น (แต่เราว่าเหนื่อยจะตาย  เพราะเราเองก็นักกิจกรรมตัวยงเหมือนกัน  แต่ก็สนุกน่ะแหละ)   ดายังบอกอีกว่าพี่สาวของดาเป็นคนที่เก่งมาก ๆ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่นิวซีแลนด์  และดาก็มักจะถูกญาติ ๆ นำไปเปรียบเทียบกับพี่สาวเสมอเลย 

    แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุด  ดาบอกว่า  ดาอยากทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง

    เราคิดว่า  เราเข้าใจดานะ  ถึงแม้ว่าชีวิตเรากับดานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยก็ตาม 

    ขอบใจเพชรมากนะ  ที่อุตส่าห์ฟังเรา

    ประโยคนี้เล่นเอาเราเขินไม่น้อยเลย   ก็จะมาขอบใจทำไมกับเรื่องแค่นี้น้า  

    วันนี้เป็นวันหยุด  ดาเลยชวนเราไปเดินซื้อของเข้าหอตอนบ่าย ๆ ซึ่งคุณเธอร่างรายการไว้ซะยาวเหยียด   แต่เราว่าไปตอนเช้า ๆ อย่างนี้เลยก็ดีเพราะอากาศยังไม่ร้อน (มากเกินไป)   คือเราเป็นคนขี้ร้อนน่ะนะ  ต้องทำใจ..อิอิ 

    เราเก็บที่นอน   ส่วนดาอาสารีดเสื้อผ้าให้  เราก็เลยเข้าไปอาบน้ำก่อน  พออาบเสร็จเปิดประตูออกมารู้สึกจะได้กลิ่นไหม้ ๆ  โอแม่เจ้า! 

    ดา..ทำอะไร!”

    เพชร ทำไงดี

    เราถลามาชักปลั๊กเตารีดออกแล้วยกเตารีดขึ้นมาถือไว้   ส่วนคุณหนูพลอยลดาสับสนจนทำอะไรไม่ถูก   เธอหันรีหันขวางแล้วคว้าเอาที่ฉีดน้ำมาฉีด ๆ ๆ ใส่ส่วนที่ไหม้เป็นรูโบ๋ซะจนชุ่ม  เราเห็นก็ปล่อยก๊ากออกมาอย่างไม่เกรงใจ  ฮ่าฮ่า  ก็เธอจะฉีดไปเพื่อให้มันหายโบ๋รึไงนะ

    เพชรอ้าหัวเราะเรานะ   คนสวยขว้างค้อนมาให้อีกแล้ว

    ขอโทษ ๆ  เราหัวเราะซะจนเข่าอ่อน  วางตั้งเตารีดตัวปัญหาไว้บนพื้นห้อง  คุณหนูดาเธอขอโทษขอโพยเราใหญ่เพราะเจ้าเสื้อเคราะห์ร้ายนั่นน่ะเป็นเสื้อตัวเก่งของเราเอง   เราบอกว่าไม่เป็นไรหรอกเพราะมันก็แค่เสื้อเก่า ๆ ถูก ๆ  แต่คุณเธอไม่ยอมท่าเดียว  หยิบรายการซื้อของมาเขียนเพิ่มว่า  เสื้อของเพชร 

    เฮ้อ  ไอ้เพชรเอ๋ยไอ้เพชร  เลี้ยงเด็กแท้ ๆ เลย

     

     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×