คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วัยเยาว์ 2
วัยเยาว์ 2
----
หลังจากวันนั้น พวกเราทั้งสี่คนก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่สำหรับซายะก็คงเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยล่ะมั้ง เธออายุมากกว่าคนอื่นๆสองปีแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร พวกเรายังคงเล่นสนุกกันได้ อาจจะเพราะยังเด็กเกินกว่าจะสนใจเรื่องยุ่งยากพวกนั้น ทุกวันนอกจากติวหนังสือเพื่อเตรียมขึ้นประถมสาม ยูคาริ ซายะก็ต้องแบ่งเวลาเพื่อไปเล่นกับน้องสาวของตัวเองและพวกโออิคาวะที่มายืนรอที่หน้าบ้างของเธอทุกเย็นเพื่อชวนมาเล่นวอร์เลย์บอล
เป็นเด็กที่กระตือรือร้นสุดๆ
สำหรับเด็กน้อยผมช็อกโกแลต ใบหน้าเล็กที่ดูแสบซนแต่ก็พอจะมองออกว่าพอโตขึ้นคงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆไม่น้อยแน่ ด้วยนิสัยที่น่าเข้าหา รอยยิ้มสดใสและความมั่นใจที่เต็มร้อย
"คารินจัง มาเล่นเซตลูกกัน" เสียงทุ้มหวานเอ่ยชวนคนโตกว่าที่ตอนนี้เอาแต่งนั่งมองพวกเขาทั้งสามที่วิ่งเล่นไล่จับลูกกันอยู่
โออิคาวะ โทรุโบกมือให้กับเธอก่อนจะถือลูกบอลหลายสีเป็นการชวน(กึ่งบังคับ)ให้เธอมาเล่นด้วย โดยมีสายตาคาดหวังของริโตะและอิวะอิซึมิที่จ้องมองมาที่เธอ เด็กสาวยกยิ้มขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ยอมลุกขึ้นจากม้านั่ง มายืนรวมกลุ่มกับคนอื่นๆก่อนที่พวกเราทั้งสี่จะล้อมวงกัน
"เริ่มละน้าาาา" เสียงสดใสของโออิคาวะเอ่ยก่อนที่จะยกมือขึ้นเซตลูกมาทางเธอ ซายะตั้งรับโดยการใช้มือทั้งสองข้างประกบกันก่อนจะค่อยๆลองบอลที่ตกลงมา ลูกบอลกระทบกับแขนเธอก่อนมันจะเด้งขึ้นสู่ข้างบน เป็นริโตะที่วิ่งเข้ามารับ ฝีมือที่ถูกเธอสอนมาอย่างดีทำให้การรับลูกเป็นไปอย่างง่ายดายก่อนที่ลูกถัดไปจะเป็นอิวะอิซึมิหรือที่พวกเธอเรียกกันติดปากตามที่เพื่อนสนิทของเด็กน้อยเรียกว่า อิวะจังนั้นเอง
"สวย" เธอชมก่อนจะวิ่งไปรับลูกที่เด้งออกไปนอกวง ส่งกลับมาให้เด็กคนอื่นๆ
"ฉันเองๆๆ" เสียงติดหวานของโทรุดังพร้อมกับที่แขนทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อที่จะรับลูกบอลหลายสี ดวงตากลมโตจ้องมองลูกบอลอย่างตั้งใจ แต่ก่อนที่จะได้เซตตามที่หวังก็โดนลูกวอร์เลย์ตกใส่หน้าไปก่อน
"โอ้ย!"
"เจ้าบ้าโทรุ เหม่อทำไม" เสียงตวาดของอิวะจังดังขึ้นก่อนที่จะเป็นเด็กหนุ่มจะงอแงใส่ว่าเพราะมัวแต่มองลูก
ซายะที่วิ่งกลับมามองเห็นเหตุการณ์ด้านหน้าก็ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
ต่อให้บอกว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน
แต่ก็ชอบหาเรื่องเถียงกันตลอดสินะ
หรือนี่จะเป็นการแสดงความรักของเด็กผู้ชายกัน? เด็กสาวเอียงหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน เราเล่นกันอยู่สักพักก่อนที่จะเป็นฝ่ายของเด็กน้อยผมช็อกโกแลตที่เบี่ยงความสนใจมาเป็นอยากให้เธอสอนเซตลูกให้
"จะเอางั้นหรอ" เธอถาม หยิบลูกบอลที่คนตรงหน้ายืมมาให้
"เอางั้นสิ! ฉันนะ อยากเป็นเซตที่เก่งที่สุดในโลกเลย!!" เด็กหนุ่มเอ่ยพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นมาทำท่าคล้ายๆกับพวกตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ที่กำลังฮิตอยู่ในช่วงนี้
"ฮ่าๆๆ อย่างนั้นสินะ เอาสิ งั้นตอนที่นายกำลังเซต กางข้อศอกหน่อยให้อยู่ประมาณไหล่ แบบนั้นแหละ" เด็กสาวเอ่ยก่อนจะทำท่าทางให้ดูตาม
โออิคาวะ โทรุ เป็นเด็กที่มีความทะเยอทะยานสูง ถ้าตั้งใจหรือชอบอะไรแล้วก็จะทำมันให้ถึงที่สุด แม้ว่าซายะเองอายุเพียงแค่แปดขวบ แต่เธอกลับมองเห็นประกายไฟบางอย่างที่อยู่ในดวงตาสีน้ำตาลได้
มันแตกต่างจากเด็กวัยเดียวกันไม่น้อย หรือแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้ดูมีไฟขนาดนั้นเมื่อเทียบกับเด็กตรงหน้า
แบบนี้หรือเปล่านะ ที่คุณแม่ของเธอบอกว่ามันคือความฝัน
ความฝันที่อยากให้เป็นจริง
ในที่สุดวันเปิดเทอมก็มาถึง ยูคาริถูกปลุกโดยคุณพ่อของเธอที่เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะบอกว่าได้เวลาที่จะต้องอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ก่อนที่การมาเรียนประถมปลายวันแรกของเธอจะเป็นการเข้าสาย
เด็กหญิงมองตัวเองในกระจกด้วยสายตามึนๆ ความง่วงยังเกาะกุมอยู่ทำเอาร่างเล็กเอียงไปมาเหมือนจะล้ม มือเล็กๆที่มักจะคอยสอนเด็กๆคนอื่นเล่นวอร์เลย์บอลเสมอกำลังกรัดกระดุมเม็ดสุดท้าย ชุดกระโปรงยาวจนถึงเข่าลายสก็อตสีเขียวสลับขาว ตรงคอเสื้อเป็นแบบpeter pan หรือก็คือ ปกเสื้อที่เป็นปกมนกลมๆ ตรงอกซ้ายปักลายสัญลักษณ์โลโก้โรงเรียนอยู่ ถุงเท้าสีขาวที่ยาวขึ้นมาจนถึงน่อง ซายะมองตัวเองในกระจกเงียบๆ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ที่จัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนมาแล้ว ขึ้นสะพายหลังก่อนจะเดินลงมาข้างล่างที่มีน้องสาวที่แต่งตัวคล้ายๆเธอและคุณแม่ที่กำลังจัดข้าวกล่องสำหรับมื้อกลางวันให้กับพวกเธออยู่
"ตื่นเต้นกันมั้ยคะ ไปเรียนวันแรก" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามลูกๆทั้งสองที่กำลังใส่รองเท้าเตรียมตัวไปเรียนโดยมีผู้เป็นสามีขับรถไปส่ง
"ม่ายยย ริโตะชอบไปโรงเรียน" น้องสาววัยหกขวบพูดขึ้นพร้อมกับชูมือสองนิ้ว
"ฮ่าๆ ดีแล้วจ่ะ ยังไงดูแลตัวเองดีๆนะ ซายะจังด้วย ดูแลน้องด้วยนะคะ" คุณนายยูคาริเอ่ยเสียงเบาพร้อมกับที่สวมกอดสองพี่น้องก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะเอ่ยเรียกให้ไปกันได้แล้ว
โรงเรียนที่สองพี่น้องบ้านยูคาริไปเรียนนั้นเป็นโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดมิยางิ โดยที่มีการเน้นภาษาที่สองและสาม ทำให้เด็กที่ย้ายมาจากต่างประเทศอย่างสองพี่น้องยูคาริเลือกที่จะมาเรียนที่นี่เพื่อสะดวกต่อการใช้ชีวิตที่สุด
อย่างน้อยก็ไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นล้วนอะนะ
ซายะถอนหายใจในใจ ต่อให้เรียนพิเศษมาหลายเดือน แต่การที่จะเขียนภาษาญี่ปุ่นให้คล่องนั้นก็ยากเย็นไม่น้อย ยังดีที่โรงเรียนใหม่เป็นหลักสูตรสองภาษา ทำให้มีการเรียนโดยใช้ภาษาอังกฤษผสมอยู่ด้วยเลยไม่ได้ทำให้ต้องกังวลนัก
ดวงตาสีเข้มเหลือบมองน้องสาวที่อายุห่างกันสองปีที่ตอนนี้ยังคงนั่งกอดตุ๊กตาหมีที่หยิบมาด้วยอย่างอารมณ์ พอเห็นหน้าของริโตะก็ทำเอาให้นึกถึงเด็กน้อยอีกสองคนที่มางอแงถึงในบ้านเธอหลังจากรู้ว่าเปิดเทอมมาจะได้อยู่กันคนละโรงเรียน พวกโออิคาวะก็ขึ้นประถมหนึ่งในโรงเรียนประถมในจังหวัดมิยางิ ที่เดียวกับอิวะจัง สองคนนั้นบ่นว่าจะอดเจอพวกเธอบ่อยๆเหมือนตอนปิดเทอม จนซายะต้องล่อว่าจะไปหาบ่อยๆ
โรงเรียนของพวกเธอทั้งสองไม่ได้ห่างกันนัก หากต้องขึ้นรถเมย์ก็ห่างกันประมาณสองป้ายได้แต่นั่นก็ยากสำหรับเด็กประถมอย่างพวกเธอ
"ซานๆ ตื่นเต้นมั้ย" เสียงเล็กเอ่ยถามพร้อมกับที่ใบหน้าเล็กที่มีแก้มทั้งสองข้างเงยหน้ามอง
"อืม ตื่นเต้นสิ" เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะถูกน้องสาวพุ่งเข้าใส่พร้อมบอกกับซายะว่าหนูจะอยู่กับพี่สาวเอง
เห้ย
น้องสาวเธอน่ารักจริงๆ
การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมรอบๆถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี อย่างน้อยซายะก็พอจะมีเพื่อนเพิ่มมาสองสามคน หลังจากเรียนมาได้ครึ่งวัน การเรียนที่นี่ไม่ได้ยากมากแต่ก็ไม่ได้ง่าย เด็กน้อยต้องตั้งใจฟังเสียงคุณครูที่คอยสอนอยู่หน้าห้องพร้อมกับก้มหน้าจดเนื้อหาตามบนกระดาน เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นการบอกว่าได้เวลาพักเที่ยงแล้ว เด็กทุกคนรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อไปโรงอาหาร เหลือเพียงเด็ไม่กี่กลุ่มที่เตรียมข้าวกล่องมานั่งจับกลุ่มกินด้วยกัน
"ว้าววว ข้าวกล่องของยูคาริจังน่ากินจังเลย" เสียงหวานของเพื่อนใหม่เอ่ยทักพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย
"อืม คุณแม่ทำให้นะ อยากชิมมั้ย" เด็กสาวผมดำที่วันนี้ถักเปียสองข้างถามอย่างมีน้ำใจ
"ได้หรอ" เพื่อนใหม่เอ่ยถาม
"อืม"
"งั้น ฉันแบ่งกุ้งเทมปุระให้ยูคาริจังดีกว่า" ว่าจบ มือเล็กๆก็คีบกุ้งตัวโตมาวางไว้ในข้าวกล่องของเธอเช่นเดียวกับเธอที่คีบหมูคุโรบุตะชุบแป้งทอดให้
การเรียนวันแรกไม่ได้แย่นัก เด็กหญิงสะพายกระเป๋าเป้ไว้ด้านหลังมายืนอยู่หน้าตึกเพื่อรอน้องสาวที่ดูท่าจะยังไม่เลิกเรียน ยืนคิดว่าจะทักบอกคุณพ่อให้มารับเลยดี หรือว่าจะแวะไปกินขนมที่ร้านขนมหวานที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก
ความรู้สึกหิวมาก่อนนั้นทำให้เด็กน้อยตัดสินใจจะแวะกินขนมก่อนกลับ เสียงเรียกชื่อที่ดังมาแต่ไกลทำเอาร่างเล็กที่อยู่ในชุดกระโปรงยาวย่นคออย่างอายๆ
เล่นใหญ่สมเป็นน้องสาวเธอจริงๆ
"ซานๆ ไปกินขนมกันน" เด็กน้อยที่สูงเพียงคางเธอเอ่ยอย่างอารมณ์ มือเล็กๆกุมมือพี่สาวเอาไว้ก่อนจะลากพาเธอออกมาด้านนอกโรงเรียน
"งั้นค่อยทักบอกคุณพ่อนะ" ซายะตัดสินใจก่อนจะพาเด็กน้อยข้างตัวไปเติมพลังก่อนกลับบ้าน
ร้านขนมถูกตกแต่งอย่างน่ารักด้วยโทนสีชมพูเอาใจเด็กผู้หญิงอย่างพวกเธอไม่น้อย เงินค่าขนมที่ได้มาจากคุณพ่อมีเยอะมากพอที่เธอจะเลี้ยงน้องสาวและตัวเธอไปพร้อมๆกัน ดวงตาเรียวที่ชี้ขึ้นกวาดมองไปรอบๆร้านก่อนจะหยุดลงที่ตู้กระจก เดินเข้าไปใกล้ๆก่อนจะเห็นว่าเป็นไอติมหลากหลายสีสันให้เลือก
"สวัสดีค่ะ หนูอยากได้รสอะไรบอกพี่ได้เลยนะคะ" พี่พนักงานสาวเอ่ยอย่างใจดีกับเด็กทั้งสอง
"เอา....รสช็อกโกแลตค่ะ ริโตะจังอยากกินรสอะไร" ซายะหันไปสั่งกับพนักงานก่อนที่น้องสาวเธอจะเอ่ยตอบอย่างรวดเร็วเหมือนมีรสชาติที่อยู่ในใจอยู่แล้ว
"สตอเบอรี่ค่ะ!"
"โอเคค่ะ งั้นหาที่นั่งได้เลยนะ เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่สาวจะเอาไปเสิร์ฟให้" เธอพยักหน้ารับก่อนจะก้มขอบคุณอย่างมีมารยาทเช่นเดียวกับริโตะที่ก้มตามเลียนแบบผู้เป็นพี่
ไม่นานไอติมทั้งสองถ้วยก็มาเสิร์ฟเรียกเสียงตื่นเต้นให้แก่ทั้งสองไม่น้อย ช้อนเล็กๆถูกนำมาตักเนื้อไอศกรีมก่อนจะนำมาเข้าปาก รสชาติหวานและความเย็นทำเอาดวงตาคู่สวยเป็นประกาย
อร่อย!
เสียงกริ่งหน้าร้านดังขึ้นพร้อมเสียงพูดคุยที่คุ้นหูทำให้สองพี่น้องตระกูลยูคาริหันไปมอง
"เห้ นั้นอิวะจังกับคาวะจังนี่น่าา" เสียงน้องสาวดังขึ้นก่อนที่จะโบกมือให้กับผู้มาใหม่ทั้งสอง
"คารินจังงง ริโตะจัง มากินขนมร้านนี้ด้วยหรอเนี่ย นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ" น้ำเสียงคุ้นหูพร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มที่สูงเท่าเธอทั้งๆที่อายุน้อยกว่าแท้ๆวิ่งเข้ามาหา ตามด้วยเด็กน้อยผิวแทนอีกคนที่เดินตามมาทีหลัง
"ไง โทรุมานั่งด้วยกันสิ" เธอเอ่ยชวนรุ่นน้องทั้งคู่
"แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ได้เจอกันตั้งสามวัน คุณโออิคาวะคนนี้คิดถึงคารินจังมากเลย"
"เวอร์หน่า" เสียงของเด็กหนุ่มทั้งสองพูดขัดกันไปมาทำเอาซายะอดจะอมยิ้มไม่ได้ ขยับตัวให้อิวะอิซึมะที่มานั่งข้างๆ ในขณะที่โออิคาวะถูกเพื่อนสนิทตัวเองดันออกให้ไปนั่งฝั่งตรงข้ามแทน
"อิวะจังขี้โกง!!"
------------------------------
talk
ช่วยวัยเด็กมันก็น่าเอ็นดูหน่อย
ย้อนความไม่นาน หวังว่าทุกคนจะเอ็นดูเด็กๆทั้งสี่นะคะ
ความคิดเห็น