ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วัยเยาว์ 1
วัยเยาว์1
------
ยูคาริ ซายะ เจอเด็กหนุ่มครั้งแรกในปีที่หิมะตกในรอบ8ปีของเธอ
ครอบครัวยูคารอย้ายมาจากต่างประเทศก่อนจะมาตั้งหลักกันที่จังหวัดมิยางิ จังหวัดบ้านเกิดขอฃพ่อเธอ เด็กหญิงวัย8ขวบที่มีใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดู แก้มที่ขึ้นสีชมพูจากอากาศที่เริ่มติดลบ ทำให้เธอรีบวิ่งกลับไปยังบ้านของตนหลังจากที่ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกมาก
ประเทศญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่เด็กน้อยตื่นตา โดยเฉพาะ บรรยากาศและธรรมชาติที่แสนสวยงามนี้ หลังนากที่ขนของเข้าบ้านกันเสร็จเธอจึงขอคุณแม่และคุณพ่อของตัวเองออกไปวิ่งรอบๆไม่ไกลจากตัวบ้าน เพราะมัวแต่สนใจสิ่งรอบๆตัวทำเอาเด็กน้อยตัวเล็กหลงทาง ยังดีที่ซายะโตพอที่จะไม่ร้องไห้แต่ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ที่ตัวเองวิ่งเลานจนเกิดหลงทางแบบนี้
เด็กน้อยหันมองซ้ายขวาเพื่อจะมองหาผู้ใหญ่ที่ดูน่าไว้ใจได้สักคน แต่เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวที่หิมะใกล้จะตกอยู่แล้วเลยแทบจะไร้ผู้คนเลยก็ว่าได้ นอกจากเด็กน้อยบางกลุ่มที่ออกมาวิ่งเล่นกับเพื่อน
เธอเม้มปากแน่น มือเล็กๆที่สวมถุงมือสีชมพูอ่อนเอาไว้ หยิบมือถือเครื่องเล็กในกระเป๋าเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ที่แม่ของเธอเป็นคนซื้อมาให้เผื่อฉุกเฉิน
กดเข้าแชทกลุ่มครอบครัวก่อนจะขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยแชร์ที่อยู่บ้านของเธอมาให้หน่อย
เด็กน้อยเริ่มยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าตนหาทางแก้ไข้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าตอนแรกจะแอบใจเสรยอยู่ไม่น้อย ประสมการณ์การเข้าแคมป์ฤดูร้อนที่ผ่านมาแอบช่วยเธอได้อยู่ รวมทั้งสังคมที่เด็กน้อยอยู่นั้นต่างต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยูคาริ ซายะจะดูโตเกินวัยไปนิดหน่อย
ร่างเล็กวิ่งเข้าไปเปิดประตูบ้านสีขาวสะอาดตาที่เป็นบ้านใหม่หลังจากนี้ เด็กน้อยถอดรองเท้าอย่างเป็นระเบียบก่อนจะวิ่งโผล่เข้ากอดผู้เป็นแม่ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าเล็กๆซุกลงที่อกของมารดา พร้อมกับแขนป้อมๆที่กอดหญิงวัยกลางคนไว้แน่น
คุณนายยูคาริอดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ นึกเอ็นดูลูกสาวของตนที่ดันหลงทางและกลับบ้านมาถูก
"เก่งมาก" เสียงหวานที่ทำเอาใจดวงน้อยๆฟูขึ้นมาทันที ไม่แปลกถึงแม้ว่าเธอจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยแต่ก็อดห่วงไม่ได้ คุณแม่คนสวยที่มีเอกลักษณ์เด่นอย่างรอยยิ้มสุดใจดีและดวงตาคู่สวยที่ชี้ขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงสองสายเหลือที่ผสมอยู่ในตัว
คุณนายยูคาริอุ้มลูกสาวคนโตขึ้นมาในอ้อมกอดแม้ว่าตอนนี้ลูกเธอจะโตจนถึงเอวเธอได้แต่นิสัยขี้อ้อนก็ยังคงอยู่จดอดที่จะอุ้มขึ้นมาปลอดใจไม่ได้
พาเด็กน้อยที่ซนตั้งแต่วันแรกมายังห้องนั่งเล่นก็ได้เจอกับคุณพ่อที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่และลูกสาวอีกคนที่กำลังเล่นของเล่นอยู่ด้านล่าง ใบหน้าที่ถอดแบบออกมาจากกัน แต่ที่แตกต่างก็คงเป็น ไฝเล็กๆที่อยู่ตรงมุมตาข้างขวา ต่างจากซายะที่มีไฝเล็กๆสองจุดที่อยู่ข้างซ้าย
"ซานๆ ไปไหนมาาา" ลูกสาวคนเล็กที่ได้ยินเสียงคุณแม่ที่กำลังอุ้มพี่สาวอีกคนอยู่เอ่ยทักขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส ซายะเองที่หลังจากถูกเรียกขวัญเรียบร้อยแล้วก็ผละตัวออกจากผู้เป็นแม่วิ่งมาหาน้องเล็ก
"ออกไปสำรวจมาแหละ" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นพร้อมฉีกยิ้มอย่างภูมิใจ
"ว้าววว" เสียงร้องตื่นเต้นตามมาพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่เปร่งประกาย
ผ่านมาได้เกือบเดือนหลังจากที่ซายะและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่จังหวัดมิยางิ
แน่นอนว่าเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเดือนธันวา โรงเรียนจึงยังคงปิดอยู่ ทั้งเธอและน้องก็เลยยังคงได้วิ่งเล่นและทำการประบพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นใหม่อีกรองแม้ว่าพวกเราทั้งคู่จะพูดได้ แต่ถ้าเทียบกับเด็กญี่ปุ่นคนอื่นๆ ซายะและน้องสาวก็ยังคงต้องปรับตัวอีกเยอะ โดยคนที่เน้นการเรียนมากกว่าคือซายะเพราะเด็กน้อยนั้นกำลังจะขึ้นขั้นประถมศึกษาปีที่3ในเดือนเมษานี้ ส่วนน้องน้อยของบ้านเองก็เพิ่งจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่1 จึงยังไม่ได้ต้องฝึกอะไรมากนักเพราะการเรียนยังคงอยู่ในระดับง่ายอยู่
"ซานๆไปเล่นกันนนน" เสียงเรียกของยูคาริ ริโตะดังมาจากหน้าห้องนอนของเธอพร้อมกับเสียงเคาะประตู
เด็กหญิงที่อยู่ในชุดแขนยาวขายาวลุกออกจากโต๊ะญี่ปุ่นที่เอามากลางไว้ตรงกลางห้องนอนเพื่ออ่านหนังสือและทำแบบฝึกเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นลุกขึ้นมาเปิดประตูให้กับน้องเล็กของตน
"ว่าไงริโตะจัง"
"ไปเล่นกันๆๆ หิมะหยุดตกแล้ว" ร่างเล็กที่ถูกห่อด้วยเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ทำให้ตัวของริโตะดูกลมๆไปหมด ไม่ต้องคิดเลยว่าเป็นฝีมือใครนอกจากพ่อของเธอ
ซายะหันไปมองนอกหน้าต่างจึงได้เห็นว่าเป็นอย่างที่น้องของเธอว่าจริงๆ
หิมะหยุดตกแล้ว
ใบหน้าเล็กที่มีแก้มกลมๆสองข้างยิ้มขึ้นมาก่อนจะเอ่ยตกลง
"เอาสิ เจอกันหน้าประตูบ้านนะ" ว่าจบ เด็กน้อยตัวเล็กก็ร้องตะโกนอย่างดีใจรีบวิ่งลงไปข้างล่างอย่างตื่นเต้นไม่วายแวะไปหยิบลูกกลมๆมาด้วย
ซายะที่เห็นท่าทางแสบสันของน้องสาวตัวเองก็หลุดหัวเราะออกมา เดินไปหยิบเสื้อคลุมกันหนาวและถุงน้ำร้อนอีกสองถุงเผื่อน้องเล็กที่คงจะตื่นเต้นจนลืมพกไปแน่ๆไปด้วย
"ดูแลกันดีๆนะ ริโตะใส่หมวกด้วย" เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นก่อนจะเดินมาหาลูหน้อยทั้งสองที่ยทนอยู่หน้าประตู ก่อนจะหยิบหมวกไหมพรมชมพูอ่อนและสีขาวมา
สีชมพูของริโตะ
สีขาวของซายะ
หญิงวัยกลางคนยิ้มอ่อนก่อนจะกำชับพี่โตอย่างซายะให้ดูแลน้องดีๆ ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับกาอนจะเอื้อมมือไปกุมมือน้อยๆที่อยู่ข้างๆแล้วพากะนวิ่งไปเล่นที่สนามเด็กเล่น
"ซานๆ ส่งบอลลล" เสียงเล็กตะโกนอย่างสดใสก่อนจะวิ่งไปเก็บลูกบอลเป็นรอบที่ห้าของวัน
ซายะอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของน้องเล็กที่ดูตื่นเต้นทุกครั้งที่เธอส่งบอลให้
เราสองคนกำลังเล่นวอร์เลย์บอลอยู่
ซายะเคยเล่นเพราะตอนไปเข้าแคมป์ฤดูร้อนเมื่อที่ผ่านมา รุ่นพี่ในค่ายพากันสอนเธอเล่นแม้ว่าตัวของซายะจะอายุเพียง8ขวบ แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา พี่ๆในค่ายค่อยๆสอนแถมยังคอยเล่นเป็นเพื่อนเธออยู่ตลอด จนพอกลับมาที่บ้าน ซายะจึงได้เอามาเล่นกับน้องน้อยของตนบ้าง แม้ว่าจะทำได้เพียงส่งลูกเบาๆเท่านั้น แต่นั้นก็เป็นช่วงที่ทำให้สองพี่น้องได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
"โอว้!!! มีคนอยู่ด้วยแหละอิวะจัง" เสียงที่ดังมาจากด้านหลังระหว่างที่ซายะกำลังยืนมองริโตะที่ถือลูกบอลวิ่งกลับมาหาเธอ เด็กหญิงหันไปด้านหลังจึงได้พบกับเด็กชายที่ดูจะอายุน้อยกว่าเธอกำลังเดินตรงมาทางนี้เช่นกัน
ดวงตาสีดำเหมือนท้องฟ้ายางราตรีหรี่ลงเพื่อมองผู้มาใหม่
เด็กคนแรกที่กำลังโบกไม้โบกมือมาทางพวกเธออย่างอารมณ์ดีดูท่าจะเป็นพวกที่เข้าสังคมง่าย ใบหน้าน่ารักที่มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกสวมด้วยหมวดไหมพรมสีฟ้าเข้ม ข้างๆเป็นเพื่อนอีกคนที่ตีหน้านิ่ง และมีสายตาดุดันกว่า เส้นผมสีดำทำให้สามารถแยกทั้งคู่ออกจากกันได้
"เห้?? ใครนะ" ริโตะที่วิ่งเข้ามาหาเธอเอียงตัวมองเด็กผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามาทักเราทั้งคู่ก่อนจะเบิกตากว่าเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนมือของเด็กผู้ชายผมดำ
นั้นลูกวอร์เลย์บอลนิ!!
"สวัสดี" ซายะเอ่ยทักก่อนจะรับลูกบอลจสกน้อยสาวของตน
"หวัดดี ไม่เคยเห็นหน้าเลยมาใหม่หรอ" เด็กน้อยคนแรกที่มีเส้นผมสีน้ำตาลเอายทักพร้อมรอยยิ้มสว่างจัดจ้าน
"อืม เพิ่งย้ายมาได้1เดือนแล้วล่ะ" เธอตอบก่อนที่มองทั้งคู่สลับกันไปมา
"โอว้ ฉันโออิคาวะ โทรุนะ ส่วนนี้เพื่อนฉันเอง อิวะจัง" เด็กน้อยเอ่ยตอบ ก่อนจะแนะนำเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"อิวาอิซึมิ ฮาจิเมะต่างหาก" เด็กน้อยที่มีผิวที่เข้มกว่าคนข้างๆเอ่ยแก้ก่อนจะส่งยิ้มให้กับพวกเธอ
"อ้าาา! ฉัน ยูคาริ ริโตะ อายุ6ขวบ! ส่วนนี้พี่สาวฉัน พี่ซายะ" เด็กน้องที่ดูจะตื่นเต้นที่ได้เพื่อนใหม่รีบเอายทักทายทันที
หลังจากนั้นก็กลายเป็นว่า พวกเราสี่คนมาเล่นงอร์เลย์บอลด้วยกันอย่างงงๆ เสียอย่างนั้น
เพื่อนคนแรกที่ญี่ปุ่นแหละ
---------
talk
ไม่ได้เขียนบทบรรยายนาน มันแปลกมั้ยทุกคนแงง5555
หวังว่าจะชอบกันนะคะ นี่จะเป็นพาร์ทอดีตของทั้งคู่
ตอนนั้นก็คือซายะอายุ8ขวบ ส่วนพี่โอยของเรานั้นอายุ6ขวบนะคะ ห่างกัน2ปี (พี่โอยอายุเท่าน้องสาวของซายะค่ะ)
------
ยูคาริ ซายะ เจอเด็กหนุ่มครั้งแรกในปีที่หิมะตกในรอบ8ปีของเธอ
ครอบครัวยูคารอย้ายมาจากต่างประเทศก่อนจะมาตั้งหลักกันที่จังหวัดมิยางิ จังหวัดบ้านเกิดขอฃพ่อเธอ เด็กหญิงวัย8ขวบที่มีใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดู แก้มที่ขึ้นสีชมพูจากอากาศที่เริ่มติดลบ ทำให้เธอรีบวิ่งกลับไปยังบ้านของตนหลังจากที่ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกมาก
ประเทศญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่เด็กน้อยตื่นตา โดยเฉพาะ บรรยากาศและธรรมชาติที่แสนสวยงามนี้ หลังนากที่ขนของเข้าบ้านกันเสร็จเธอจึงขอคุณแม่และคุณพ่อของตัวเองออกไปวิ่งรอบๆไม่ไกลจากตัวบ้าน เพราะมัวแต่สนใจสิ่งรอบๆตัวทำเอาเด็กน้อยตัวเล็กหลงทาง ยังดีที่ซายะโตพอที่จะไม่ร้องไห้แต่ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ที่ตัวเองวิ่งเลานจนเกิดหลงทางแบบนี้
เด็กน้อยหันมองซ้ายขวาเพื่อจะมองหาผู้ใหญ่ที่ดูน่าไว้ใจได้สักคน แต่เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวที่หิมะใกล้จะตกอยู่แล้วเลยแทบจะไร้ผู้คนเลยก็ว่าได้ นอกจากเด็กน้อยบางกลุ่มที่ออกมาวิ่งเล่นกับเพื่อน
เธอเม้มปากแน่น มือเล็กๆที่สวมถุงมือสีชมพูอ่อนเอาไว้ หยิบมือถือเครื่องเล็กในกระเป๋าเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ที่แม่ของเธอเป็นคนซื้อมาให้เผื่อฉุกเฉิน
กดเข้าแชทกลุ่มครอบครัวก่อนจะขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยแชร์ที่อยู่บ้านของเธอมาให้หน่อย
เด็กน้อยเริ่มยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าตนหาทางแก้ไข้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าตอนแรกจะแอบใจเสรยอยู่ไม่น้อย ประสมการณ์การเข้าแคมป์ฤดูร้อนที่ผ่านมาแอบช่วยเธอได้อยู่ รวมทั้งสังคมที่เด็กน้อยอยู่นั้นต่างต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยูคาริ ซายะจะดูโตเกินวัยไปนิดหน่อย
ร่างเล็กวิ่งเข้าไปเปิดประตูบ้านสีขาวสะอาดตาที่เป็นบ้านใหม่หลังจากนี้ เด็กน้อยถอดรองเท้าอย่างเป็นระเบียบก่อนจะวิ่งโผล่เข้ากอดผู้เป็นแม่ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าเล็กๆซุกลงที่อกของมารดา พร้อมกับแขนป้อมๆที่กอดหญิงวัยกลางคนไว้แน่น
คุณนายยูคาริอดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ นึกเอ็นดูลูกสาวของตนที่ดันหลงทางและกลับบ้านมาถูก
"เก่งมาก" เสียงหวานที่ทำเอาใจดวงน้อยๆฟูขึ้นมาทันที ไม่แปลกถึงแม้ว่าเธอจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยแต่ก็อดห่วงไม่ได้ คุณแม่คนสวยที่มีเอกลักษณ์เด่นอย่างรอยยิ้มสุดใจดีและดวงตาคู่สวยที่ชี้ขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงสองสายเหลือที่ผสมอยู่ในตัว
คุณนายยูคาริอุ้มลูกสาวคนโตขึ้นมาในอ้อมกอดแม้ว่าตอนนี้ลูกเธอจะโตจนถึงเอวเธอได้แต่นิสัยขี้อ้อนก็ยังคงอยู่จดอดที่จะอุ้มขึ้นมาปลอดใจไม่ได้
พาเด็กน้อยที่ซนตั้งแต่วันแรกมายังห้องนั่งเล่นก็ได้เจอกับคุณพ่อที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่และลูกสาวอีกคนที่กำลังเล่นของเล่นอยู่ด้านล่าง ใบหน้าที่ถอดแบบออกมาจากกัน แต่ที่แตกต่างก็คงเป็น ไฝเล็กๆที่อยู่ตรงมุมตาข้างขวา ต่างจากซายะที่มีไฝเล็กๆสองจุดที่อยู่ข้างซ้าย
"ซานๆ ไปไหนมาาา" ลูกสาวคนเล็กที่ได้ยินเสียงคุณแม่ที่กำลังอุ้มพี่สาวอีกคนอยู่เอ่ยทักขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส ซายะเองที่หลังจากถูกเรียกขวัญเรียบร้อยแล้วก็ผละตัวออกจากผู้เป็นแม่วิ่งมาหาน้องเล็ก
"ออกไปสำรวจมาแหละ" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นพร้อมฉีกยิ้มอย่างภูมิใจ
"ว้าววว" เสียงร้องตื่นเต้นตามมาพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่เปร่งประกาย
ผ่านมาได้เกือบเดือนหลังจากที่ซายะและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่จังหวัดมิยางิ
แน่นอนว่าเพราะช่วงนี้เป็นช่วงเดือนธันวา โรงเรียนจึงยังคงปิดอยู่ ทั้งเธอและน้องก็เลยยังคงได้วิ่งเล่นและทำการประบพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นใหม่อีกรองแม้ว่าพวกเราทั้งคู่จะพูดได้ แต่ถ้าเทียบกับเด็กญี่ปุ่นคนอื่นๆ ซายะและน้องสาวก็ยังคงต้องปรับตัวอีกเยอะ โดยคนที่เน้นการเรียนมากกว่าคือซายะเพราะเด็กน้อยนั้นกำลังจะขึ้นขั้นประถมศึกษาปีที่3ในเดือนเมษานี้ ส่วนน้องน้อยของบ้านเองก็เพิ่งจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่1 จึงยังไม่ได้ต้องฝึกอะไรมากนักเพราะการเรียนยังคงอยู่ในระดับง่ายอยู่
"ซานๆไปเล่นกันนนน" เสียงเรียกของยูคาริ ริโตะดังมาจากหน้าห้องนอนของเธอพร้อมกับเสียงเคาะประตู
เด็กหญิงที่อยู่ในชุดแขนยาวขายาวลุกออกจากโต๊ะญี่ปุ่นที่เอามากลางไว้ตรงกลางห้องนอนเพื่ออ่านหนังสือและทำแบบฝึกเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นลุกขึ้นมาเปิดประตูให้กับน้องเล็กของตน
"ว่าไงริโตะจัง"
"ไปเล่นกันๆๆ หิมะหยุดตกแล้ว" ร่างเล็กที่ถูกห่อด้วยเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ทำให้ตัวของริโตะดูกลมๆไปหมด ไม่ต้องคิดเลยว่าเป็นฝีมือใครนอกจากพ่อของเธอ
ซายะหันไปมองนอกหน้าต่างจึงได้เห็นว่าเป็นอย่างที่น้องของเธอว่าจริงๆ
หิมะหยุดตกแล้ว
ใบหน้าเล็กที่มีแก้มกลมๆสองข้างยิ้มขึ้นมาก่อนจะเอ่ยตกลง
"เอาสิ เจอกันหน้าประตูบ้านนะ" ว่าจบ เด็กน้อยตัวเล็กก็ร้องตะโกนอย่างดีใจรีบวิ่งลงไปข้างล่างอย่างตื่นเต้นไม่วายแวะไปหยิบลูกกลมๆมาด้วย
ซายะที่เห็นท่าทางแสบสันของน้องสาวตัวเองก็หลุดหัวเราะออกมา เดินไปหยิบเสื้อคลุมกันหนาวและถุงน้ำร้อนอีกสองถุงเผื่อน้องเล็กที่คงจะตื่นเต้นจนลืมพกไปแน่ๆไปด้วย
"ดูแลกันดีๆนะ ริโตะใส่หมวกด้วย" เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นก่อนจะเดินมาหาลูหน้อยทั้งสองที่ยทนอยู่หน้าประตู ก่อนจะหยิบหมวกไหมพรมชมพูอ่อนและสีขาวมา
สีชมพูของริโตะ
สีขาวของซายะ
หญิงวัยกลางคนยิ้มอ่อนก่อนจะกำชับพี่โตอย่างซายะให้ดูแลน้องดีๆ ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับกาอนจะเอื้อมมือไปกุมมือน้อยๆที่อยู่ข้างๆแล้วพากะนวิ่งไปเล่นที่สนามเด็กเล่น
"ซานๆ ส่งบอลลล" เสียงเล็กตะโกนอย่างสดใสก่อนจะวิ่งไปเก็บลูกบอลเป็นรอบที่ห้าของวัน
ซายะอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของน้องเล็กที่ดูตื่นเต้นทุกครั้งที่เธอส่งบอลให้
เราสองคนกำลังเล่นวอร์เลย์บอลอยู่
ซายะเคยเล่นเพราะตอนไปเข้าแคมป์ฤดูร้อนเมื่อที่ผ่านมา รุ่นพี่ในค่ายพากันสอนเธอเล่นแม้ว่าตัวของซายะจะอายุเพียง8ขวบ แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา พี่ๆในค่ายค่อยๆสอนแถมยังคอยเล่นเป็นเพื่อนเธออยู่ตลอด จนพอกลับมาที่บ้าน ซายะจึงได้เอามาเล่นกับน้องน้อยของตนบ้าง แม้ว่าจะทำได้เพียงส่งลูกเบาๆเท่านั้น แต่นั้นก็เป็นช่วงที่ทำให้สองพี่น้องได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
"โอว้!!! มีคนอยู่ด้วยแหละอิวะจัง" เสียงที่ดังมาจากด้านหลังระหว่างที่ซายะกำลังยืนมองริโตะที่ถือลูกบอลวิ่งกลับมาหาเธอ เด็กหญิงหันไปด้านหลังจึงได้พบกับเด็กชายที่ดูจะอายุน้อยกว่าเธอกำลังเดินตรงมาทางนี้เช่นกัน
ดวงตาสีดำเหมือนท้องฟ้ายางราตรีหรี่ลงเพื่อมองผู้มาใหม่
เด็กคนแรกที่กำลังโบกไม้โบกมือมาทางพวกเธออย่างอารมณ์ดีดูท่าจะเป็นพวกที่เข้าสังคมง่าย ใบหน้าน่ารักที่มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกสวมด้วยหมวดไหมพรมสีฟ้าเข้ม ข้างๆเป็นเพื่อนอีกคนที่ตีหน้านิ่ง และมีสายตาดุดันกว่า เส้นผมสีดำทำให้สามารถแยกทั้งคู่ออกจากกันได้
"เห้?? ใครนะ" ริโตะที่วิ่งเข้ามาหาเธอเอียงตัวมองเด็กผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามาทักเราทั้งคู่ก่อนจะเบิกตากว่าเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนมือของเด็กผู้ชายผมดำ
นั้นลูกวอร์เลย์บอลนิ!!
"สวัสดี" ซายะเอ่ยทักก่อนจะรับลูกบอลจสกน้อยสาวของตน
"หวัดดี ไม่เคยเห็นหน้าเลยมาใหม่หรอ" เด็กน้อยคนแรกที่มีเส้นผมสีน้ำตาลเอายทักพร้อมรอยยิ้มสว่างจัดจ้าน
"อืม เพิ่งย้ายมาได้1เดือนแล้วล่ะ" เธอตอบก่อนที่มองทั้งคู่สลับกันไปมา
"โอว้ ฉันโออิคาวะ โทรุนะ ส่วนนี้เพื่อนฉันเอง อิวะจัง" เด็กน้อยเอ่ยตอบ ก่อนจะแนะนำเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"อิวาอิซึมิ ฮาจิเมะต่างหาก" เด็กน้อยที่มีผิวที่เข้มกว่าคนข้างๆเอ่ยแก้ก่อนจะส่งยิ้มให้กับพวกเธอ
"อ้าาา! ฉัน ยูคาริ ริโตะ อายุ6ขวบ! ส่วนนี้พี่สาวฉัน พี่ซายะ" เด็กน้องที่ดูจะตื่นเต้นที่ได้เพื่อนใหม่รีบเอายทักทายทันที
หลังจากนั้นก็กลายเป็นว่า พวกเราสี่คนมาเล่นงอร์เลย์บอลด้วยกันอย่างงงๆ เสียอย่างนั้น
เพื่อนคนแรกที่ญี่ปุ่นแหละ
---------
talk
ไม่ได้เขียนบทบรรยายนาน มันแปลกมั้ยทุกคนแงง5555
หวังว่าจะชอบกันนะคะ นี่จะเป็นพาร์ทอดีตของทั้งคู่
ตอนนั้นก็คือซายะอายุ8ขวบ ส่วนพี่โอยของเรานั้นอายุ6ขวบนะคะ ห่างกัน2ปี (พี่โอยอายุเท่าน้องสาวของซายะค่ะ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น