ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psychopath : Creepy The Clown.

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : Olivia Waterston and her secret.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 321
      34
      19 ก.ค. 62

    ตอนที่ 2 : Olivia Waterston and her secret.






    ค่ำคืนหนึ่งในนามวันฮัลโลวีน


         โอลิเวีย วอลเตอร์สตัน พักอาศัยตามลำพังในบ้านของเพื่อนสาว ขณะที่เจ้าของบ้าน คริสตี้ ไปบันเทิงในปาร์ตี้วันฮัลโลวีนบ้านพวกตัวท็อปคนดัง สาเหตุที่เธอไม่ไปร่วมปาร์ตี้คงเป็นเพราะ เธออึดอัดกับการเข้าสังคม มันทั้งจอมปลอม โกลาหล วุ่นวาย ไร้สาระ ไม่พ้นเรื่องเซ็กส์ ชิงดีชิงเด่น มอมเมา


         ที่สำคัญเธอไม่พร้อมรับมือกับการกลั่นแกล้งจากคนบางคน และอาการคลื่นเหี่ยน วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่เริ่มพูดคุยกับคนใหม่ๆ หรืออยู่ต่อหน้าคนจำนวนมาก เป็นลักษณะของอาการประหม่าจากโรคกลัวสังคม


         ส่วนทำไมเธอถึงไม่อยู่บ้านตัวเอง ก็คงเพราะบ้านเธอไม่เหมือนบ้านตัวเองอีกแล้วน่ะสิ ผู้ชายคนใหม่ของแม่เป็นตำรวจ ส่วนพ่อหย่ากับแม่ได้เกือบปีแล้ว บางครั้งเธออดคิดไม่ได้ว่าคนมีครอบครัวสมบูรณ์เพียบพร้อมช่างโชคดีราวกับได้รับพรจากพระเจ้า เพราะครอบครัวดีๆมีเหลืออยู่น้อยนัก

         ตำรวจคนนี้บุคลิกภาพโดยรวมถือว่าไม่แย่ ไม่มีพุง หัวไม่โล้น ไม่ดื่มเหล้า แต่มีสูบบุหรี่ เดิมเป็นชายผิวขาวแต่เพราะทำงานหนักจึงทำให้ดูหมองลงไป ใบหน้าค่อนข้างตอบ คิ้วสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาลึก ไม่ใช่คนยิ้มแย้ม แต่ดูเป็นคนเข้มงวด ดุ จะพูดจาสุภาพนุ่มนวลกับลูกบ้าน หรือในงานเป็นทางการเท่านั้น

         กับแม่ของเธอ เขาแสดงออกอย่างอ่อนโยน แม้ไม่ชอบแสดงออกทางคำพูด แต่ใส่ใจด้วยการกระทำ เรียกว่าเธอไม่ต้องเหนื่อยเพียงลำพังเพราะเขามักยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะทำอาหาร หรืองานซ่อมแซมบ้าน เขาดูแลเธออย่างดี จนบางครั้งโอลิเวียต้องยอมรับว่าดีกว่าที่พ่อเคยทำให้แม่เสียอีก ข้อเสียคือ เขาเป็นคนเจ้าอารมณ์ และห่วงภาพลักษณ์เป็นที่สุด


         นั่นจึงไม่มีเหตุผลให้โอลิเวียต้องเกลียดเขาตั้งแต่แรกพบ แต่เขาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากเกินรับไหว คอยจับตาว่าเธอทำหน้าบูดหรือไม่ ควบคุมการแต่งตัวแม้จะอยู่แต่ในบ้าน ไม่ให้เล่นโทรศัพท์มือถือเวลาเขากลับจากที่ทำงาน เพราะคิดว่ามันหมายถึงเธอไม่อยากสื่อสารกับเขา ซึ่งเขาคิดถูกเรื่องนั้น

         จนกระทั่งครั้งที่เขาห้ามเธอไม่ให้เข้าชมรมดนตรี มันไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องมายุ่ง เธอคิดว่าเป็นเพราะภรรยาเก่าของเขาเป็นนักดนตรี และมันทำให้เขาเจ็บปวดเมื่อทุกสิ่งรอบตัวหมุนรอบอดีตที่จบไม่สวย แต่เธอไม่ยอมให้คนนอกมาบงการชีวิตเด็ดขาด เราจึงทะเลาะกันรุนแรง พาลไปเรื่องพ่อได้อย่างไรไม่รู้ ทำให้เธอไม่อาจทน จึงย้ายออกจากบ้านมาอยู่บ้านเพื่อน


         เป็นความรู้สึกที่ดี ที่ได้ออกจากบ้านและมีอิสระเสียที แต่ได้ช่วงหนึ่งเท่านั้น บางอย่างเกิดขึ้นในคืนนี้ ในตอนที่กำลังเอนกาย เหยียดแข้งขาบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย ข้อเท้าไขว้พาดบนที่พักแขน เปิดทีวีทิ้งเอาไว้ ช่วงที่เกือบผล็อยหลับ บางอย่างปลุกจากภวังค์


         เสียงแผดแหลม เป็นกรีดร้องของหญิงสาวจากในโทรทัศน์ ทำเธอสะดุ้งเฮือกหอบหายใจอย่างตระหนก สมกับเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเสียจริง โอลิฟข่มใจตัวเองให้สงบ สูดหายใจช้าๆ และมองรอบๆ ทุกอย่างปกติดี สิ่งของยังอยู่ในที่ๆ มันควรอยู่

         เธอกำลังจะโล่งอกอยู่แล้วเชียว ครืด ครืด เสียงหนึ่งทำผวาขึ้นอีก มันคือเสียงโทรศัพท์มือถือที่ถูกปิดเสียงเอาไว้ แต่ตั้งระบบสั่น อยู่ห่างออกไปสองสามก้าวบนโต๊ะ


         คงเพราะคืนนี้เธออยู่บ้านคนเดียว ทำให้ระแวงไปหมดทุกสิ่งอย่าง โอลิเวียลุกเดินนวยนาด เกิดเสียงแห้งๆ จากการเดินลากรองเท้าอยู่บ้านกับพื้น เธอไม่รีบร้อน และถ้าใครที่โทรมาเปลี่ยนใจวางสายไปก่อน เธอก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย ไม่ทันสังเกตว่าเป็นเบอร์จากใคร


         "ฮัลโหล วอลเตอร์สตันค่ะ"

         "หวัดดี โอลีฟ" น้ำเสียงนุ่มนวล น่าหลงใหล และฟังคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก คล้ายคนรู้จัก "สบายดีหรือเปล่า? ผมเจนสันนะ จำได้ไหม? "

         เจนสัน คามาร์โก! 

         ไม่ผิดคนแน่ อดีตที่เกือบลืม แต่อดซุกเก็บไว้ในก้นบึ้งของสมองไม่ได้ เกือบ 6 เดือนได้แล้วที่ขาดการติดต่อ เราไม่เคยเจอตัวกันจริงๆ สักครั้งเดียว ทั้งหมดล้วนสื่อสารผ่านตัวหนังสือ ภาพ เสียง เรียกว่าความสัมพันธ์แก้เหงา ไร้ความมั่นคงก็ว่าได้ ไม่ได้คิดจริงจังอะไร ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างเรา ไม่มีเลย


         “เอ่อ ฉันนึกว่าคุณลืมฉันไปแล้วเสียอีก”

         “ไร้สาระ ผมจะลืมคุณได้ยังไง” เขาสูดหายใจลึกค้างไว้ แล้วค่อยๆ ผ่อนออกอย่างเชื่องช้า รู้สึกจั๊กจี้ชอบกล “ก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างยุ่ง คุณก็ดูเครียดๆ เรื่องเรียนเหมือนกันใช่ไหม?”

         “...ค่ะท่าน" เธอเผลอหลุดบทบาทเก่าออกไป


         “ท่าน” เขาทวนคำ “ผมชอบจังที่คุณยังเหมือนเดิม” ช่วงที่ทั้งสองเงียบ เสียงกรีดร้องเจ็บปวดดังแทรกออกมาจากฉากระทึกขวัญพอดี โอลิเวียไม่ได้สนใจหันไปดู

         “ดูหนังอยู่หรือ?” เขาพูดต่อ “วันนี้ผมอยากไปหาคุณอยู่พอดี ได้ข่าวว่าคุณอยู่คนเดียว?”

         “ค-คุณรู้ได้ยังไง?” โอลิเวียอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

         เธอไม่เคยบอกว่าอยู่ที่ไหน หรือแม้แต่เรื่องที่ย้ายมาเมืองซันเซต แล้วเขารู้ได้ไง? แล้วยังรู้อีกว่าอยู่คนเดียว โอลิเวียหันเลิกลัก ตรวจมองดูนอกหน้าต่างว่าเขาแอบอยู่แถวๆ บ้านหรือเปล่า


         “ผมรู้ เผอิญว่าผมก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน โอกาสดีเลยจริงไหม เราจะได้พบกันเสียที”

         “ค-คุณอยู่ที่นี่? ต-ต-แต่ฉันไม่เคยบอกคุณนี่ เป็นไปได้ไง...ยังไงกัน?” เสียงเธอสั่นและสับสน

         “นั่นน่ะสิ แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกผมล่ะ” เธอเงียบ กลืนน้ำลาย นี่เป็นความผิดเธองั้นหรือ “ว่าไง?”



         “ฉ-ฉันก็ไม่รู้” เขาเงียบ ให้โอกาสเธอแก้ตัว “ฉันคิดว่าเราจบกันไปแล้วตั้งแต่คุณไม่อ่านข้อความ และฉันก็ไม่อยากทำมันอีกแล้ว”

         “ไม่อยากหรือ? มันยังไม่จบหรอกโอลิฟ ถ้าจบ ผมจะเป็นฝ่ายบอกคุณเอง” เขาพ่นลมแผ่วเบา อย่างพึงพอใจ เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มกริ่ม “เข้าใจไหม? เป็นเด็กดี แล้วรอผมที่นั่น...” ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เน้นคำหนึ่งเป็นพิเศษ “สัตว์เลี้ยง”


         เจนสันวางสาย เงียบกริบ ว่างเปล่า รวมถึงสมองเธอด้วย นี่เขาจะมาจริงหรือ? เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ถ้าเขามา

         เธอสัมผัสถึงเหงื่อที่ผุดในฝ่ามือเย็นเฉียบ บางอย่างแตกพล่าน ไหลแล่นไปทั่วร่าง เธอกลัวเหลือเกิน มันเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้คาดว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะคืนนี้ โอลิเวียกำมือแน่น ปลายเท้าจิกเกร็งกับพื้น


         ก็อกๆ!

         เธอหายใจสะดุด สั่นสะท้าน นั่นเขางั้นหรือ? เธอเพิ่งละสายเมื่อตะกี้เอง หรืออาจไม่ใช่ บางทีอาจเป็นเด็กในหมู่บ้านมาขอขนมก็ได้ แม้พยายามหลอกตัวเอง แต่มีลางสังหรณ์ว่าไม่ใช่เด็ก แล้วทำยังไงล่ะ! 

         โอลิเวียกระวนกระวาย ประคองมือที่กำลังสั่นเกินควบคุม เดินวนรอบโซฟา...


         หัวใจเต้นสะท้อนอยู่ในอกแทบระเบิด ใครกันแน่ที่อยู่หน้าประตูบานสีขาว เธอจ้อง ขยับไปใกล้แต่ยังไม่เปิดประตู เขย่งปลายเท้าเล็กน้อย แนบหน้ากับประตู ส่องตาแมว


         ภาพที่ปรากฏผ่านรูเล็กจิ๋ว คือหน้ากากตัวตลกยิ้มแฉ่งยืนติดหน้าประตู พร้อมหมวกทรงสูงบนหัว เพราะเขายืนชิดประตูจึงทำให้มองไม่เห็นอะไรอย่างอื่น โอลีฟยังคงมอง หรือเจนสันอาจอยากแกล้งให้เธอตกใจ?

         ตัวตลกค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ยื่นหน้ามาจ่อติดตาแมวราวกับรับรู้ว่าเธอกำลังมอง ดวงตาสอดส่องผ่านหน้ากากไม้มองกลับมา


         "เปิดประตูให้หน่อย" เขากระซิบเสียงแหบแห้ง ก่อนทุบประตูอีก

         ตึงๆ ๆ

         เสียงเคาะขาดห้วงตอนที่ประตูเปิดออก และติดกึก เพราะบ่วงโซ่สายยูที่คล้องจากข้างใน เกิดช่องว่างเพียงสามนิ้ว ตัวตลกเคาะอากาศไปหนึ่งที


         "ใครน่ะ ลูกอมหมดแล้วหมดเลยนะ" เธอกำลังจะปิด แต่มันใช้มือข้างหนึ่งตบประตู ปัง! ค้ำยันไม่ให้ปิด

         "เฮ้ยยย! สุขสันต์วันวาเลนไทน์" เสียงอิดโรยแต่ติดขี้เล่น มันไอโขลก พยุงตัวเอง "ผมไม่ได้มาเล่นทริกออร์ทรีต แต่ผมต้องการความช่วยเหลือ...คุณผู้หญิงน้ำใจงามช่วยพาผมเข้าไปหลบในบ้านทีเถอะ"


         ใครจะบ้าพาเข้าบ้านล่ะ เธอคิด ก่อนสังเกตเห็นกรรไกรปักคาท้อง เสื้อผ้าโชกเลือด กลิ่นคาวคลุ้งคล้ายกลิ่นสนิม เลือดจริงๆ! เธอตาเบิกโพลง ว่าแต่พลาสติกใสรอบเอวมีไว้ทำไม?


         "เดี๋ยวฉันไปโทรเรียกรถพยาบาลให้-"

         "ไม่ได้! "

         ตัวตลกตวาด ก่อนถอดหน้ากากออก เผยใบหน้าคนที่อยู่ใต้หน้ากาก เธอตะลึงไปหนึ่งวินาที เพราะเป็นใบหน้าขาวโพลนไม่ต่างจากตอนสวมเลย

         แม้ว่าถอดออกแล้วแต่เขาแต่งหน้าสีขาว รอบดวงตาทาเป็นวงสีดำ ใส่คอนแทกเลนส์สีฟ้าข้างหนึ่ง สีขาวอีกข้างหนึ่ง ปากแดงแจ๋ วาดเลิกเลยมุมปากเป็นรอยยิ้มสดใสจอมปลอม แต่สีหน้าย่ำแย่ และคล้ายว่าริมฝีปากล่างกำลังสั่นระริก


         “คุณเป็นใคร?”

         “โอ้โหแฮะ...ยังจะถาม เห็นแก่พระผู้เป็นเจ้าเถอะ”

         เขาตั้งใจพูดเบาๆอีกรอบ “ผมกำลังแย่จริงๆ ขอร้อง ช่วยผมเถอะนะครับ สัญญาว่าจะไม่ทำร้ายคุณ”

         พนมมืออ้อนวอน เธอนิ่งไม่ตอบสนอง ราวกับอินเทอร์เน็ตที่จู่ๆก็หยุดเชื่อมต่อ เขานิ่งตาม รอลุ้นว่าเมื่อไหร่เธอจะได้สติ ก่อนเลิกคิ้วเล็กน้อยตอนเธอกะพริบตาปริบๆ

         เขามองกลอนแวบหนึ่ง ส่งสัญญาณให้เปิดประตู

         "จะให้เลือดหมดตัวตรงนี้ก่อนก็ได้นะ"


         "แต่ฉันไม่ใช่หมอ" เขาทุบประตูเกรี้ยวกราด เธอสะดุ้ง ตัวตลกลืมตัว รีบหลับตาระงับอารมณ์ ก่อนกัดฟันพูดเพราะเจ็บแผล

         "ขอโทษ ผมไปโรงพยาบาลไม่ได้จริงๆ แล้วผมจะอธิบายทีหลัง สัญญาเลย โอลิฟ"


         โอลิฟ? เขาเรียกเธอว่าโอลิฟ มันรู้ชื่อเธอ ตัวตลกยักคิ้วหลิ่วตาตอนที่เธอทำหน้าเหวอ

         "โอลิฟ" มันพูดอีก และดูชอบใจ โอลิเวียยอมเสี่ยง ปิดประตูเพื่อปลดโซ่คล้อง ต้อนรับตัวตลกเข้าบ้าน มันแทบพยุงตัวเองไม่อยู่ เข่าทรุดทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน แต่คว้าเคาน์เตอร์ข้างประตูไว้ทัน

         "คุณ! "

         "ผมโอเค แม่ง! " ตัวตลกสบถ เจ็บแผลอีก แล้วชูมือแสดงท่าทีว่าไม่เป็นไร โอลิเวียตรงดิ่งไปยังโทรศัพท์มือถือ หยิบขึ้นมาเพื่อโทรยกเลิกนัดของเจนสัน แต่โทรศัพท์ถูกกระชาก และกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง คิดว่ามันต้องพังอย่างแน่นอน


         "ทำบ้าอะไรของเธอ! " ตัวตลกกำข้อมือเธอแน่น กลัวเหลือเกินว่าเขาจะฆ่าเธอเพราะเข้าใจผิด

         "เพื่อนของฉันกำลังจะมา ฉันต้องบอกให้เขากลับไป ก่อนจะมาเห็นคุณอยู่ที่นี่...ในสภาพนี้" ตัวตลกปล่อยมือ

          "เหรอ? งั้นรีบโทรเลยด่วน อย่าตุกติกล่ะ" ตัวตลกพูด ยืนเก้ๆ กังๆ ก่อนลากสังขารไปไหนสักแห่งในบ้าน ส่วนโอลิเวียโทรหานายท่าน และมือถือของเธอก็ดับคงเพราะกระแทกก่อนหน้านี้ โชคดีที่ยังมีโทรศัพท์บ้าน ขณะยืนรอสาย ตัวตลกยังคงเดินคลำหาอะไรบางอย่าง

         "ห้องน้ำอยู่ขวามือ" เธอว่า

         "แล้วมีกล่องยาไหม? " เขาตะโกนกลับมา

         "บนตู้ลอย"

         "เจอแล้ว! โอ๊ย!" เขาโอดครวญ เพราะตะเบงเสียง ประตูห้องน้ำปิด กริ๊ก และนายท่านรับสายพอดี


         "ว่าไง โอลิฟ" เจ้าของเสียงเคร่งขรึม คล้ายรู้ว่าจะถูกปฏิเสธ

         "เป็นวันอื่นได้ไหม คือฉันอยากพักผ่อน"

         "มีอะไรหรือ คริสตี้เพื่อนรักคุณกลับมาก่อนตะวันขึ้นหรือยังไง? " นี่เขารู้ทุกอย่างเลยหรือไง!?

         "เปล่า แค่ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี และเพิ่งกินยาไป อีกสักพักก็คงนอนแล้วล่ะ" เขาไม่พูดอะไร ความเงียบระหว่างบทสนทนาเพิ่มขึ้นจนน่าอึดอัดเกิดเป็นสุญญากาศ "ฝันดี นายท่าน"

         เธอตัดบท กำลังจะวางสาย


         "คุณยังเป็นของผมหรือเปล่า" เขาถามสวนขึ้น "ผมต้องการความจริง คิดว่าผมฟังไม่ออกหรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น น้ำเสียงฝืนธรรมชาติแบบนั้นน่ะ...สำหรับผม มันฟังง่ายจะตายไป"

         เสียงเย็นเยียบและนุ่มนวล "ตอบมาผมว่าคุณยังเป็นของของผมอยู่ใช่ไหม โอลิเวีย"

         ฟังออกงั้นเหรอ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝืนธรรมชาติของเธอเป็นยังไง หรือเธอควรบอกความจริงให้เขาช่วย


         "คือ..." เธอลากเสียงอย่างลังเล เสียงกระแอมดังจากในห้องน้ำ "คือฉันไม่สบายจริงๆ " เธอยืนยัน พลางเหลือบมองกำปั้นชูนิ้วโป้งที่ยื่นออกมาจากห้องน้ำ? เธอกลับมาสนใจคู่สนทนา เสียงหายใจรดรินอย่างผิดหวัง "ผมถาม...ว่าคุณยังเป็นของของผมอยู่ใช่ไหม? "


         โอลิเวียกลืนน้ำลาย รู้สึกถึงการคุกคามอย่างแท้จริง การวางอำนาจอยู่เหนือกว่า ก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัด และเล็กจิ๋วอย่างอธิบายไม่ถูก คล้ายกับถูกโอบรัดด้วยความรัก แต่แล้วบดขยี้ ฉีกกระชากอยู่ภายใน

         "ผมจะไปถึงในอีกครึ่งชั่วโมง" พูดแล้วตัดสาย ไม่รอให้เธอพูดอะไรต่อ กริ๊ก กลับสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง


         "พับผ่าสิ!! " ตัวตลกสบถ "ครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ!? ฉิบห*ย เจรจาโคตรเก่งเลยแม่หญิงเอ๊ย! นี่ผมต้องถ่อสารร่างหนีไปบ้านอื่นใช่ไหม? "

         "นี่แอบฟังฉันเหรอ? " นึกได้ว่ามีโทรศัพท์อีกเครื่องในห้องน้ำ ตัวตลกหัวเราะตามด้วยเสียงโอดโอย

         "เปล๊า! ผมใช้พลังจิตแหละ ก็แหม...มันอดใจไม่อยู่นี่” โอลิเวียเดินไปดู หวังอย่างยิ่งว่าห้องน้ำจะไม่เละเทะ ปรากฏว่ามันไม่แย่อย่างที่คิด


         ตัวตลกนั่งหมดแรงบนฝาชักโครก เสื้อถูกฉีกออกเพื่อเตรียมทำแผล ส่วนกรรไกรยังปักคาที่เดิม ตัวเปียกปอนเหมือนเพิ่งอาบน้ำทั้งเสื้อผ้า เว้นแต่เพียงบริเวณใบหน้าเท่านั้นที่ยังแห้งสนิท ไม่หลุดลอก

         "ดูสภาพผมสิ" ผายมือให้ดูแผล "คิดว่ารอดถึงพรุ่งนี้มะ? "

         “แล้วนายได้แผลมายังไง? " ตัวตลกอมยิ้ม มองแบบมีเลศนัย

         "ได้มายังไงน่ะเหรอ ก็พยายามฆ่าคนน่ะสิ" พูดอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง แต่น้ำเสียงเหนื่อยล้า "แต่ไม่ต้องห่วง นัง 'ร่าน' รอดไปได้ คิดว่าตอนนี้ตำรวจกำลังตามหาผมอยู่แหละ"


         “ว่าไงนะ!”

         “หูตึงหรือไง บอกว่าตำรวจกำลังตามหาผมอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าตำรวจมาเจอก็แค่บอกไปว่าถูกผมขู่จะฆ่าถ้าแจ้งความ”

         เธอมองอึ้ง

         “ทำไม? จะเลี้ยงสตูเนื้อหรือไง”

         “แล้วคุณจะทำยังไงกับมัน” เธอเปลี่ยนเรื่อง มองด้ามกรรไกรที่หน้าท้องไม่ละตา

         “ทำยังไง? ก็กินน่ะสิถามได้" ตัวตลกว่า ก่อนหรี่ตาสงสัย "ไม่ได้หมายถึงสตูเนื้อเหรอ?"


         "คุณดูไม่เหมือนคนร้ายเลย แล้วคุณรู้จักฉันได้ยังไง?" ตัวตลกเลิกคิ้ว

         “อย่างงั้นหรือ ผมดูไม่เหมือนคนร้ายงั้นเหรอ? แค่ชมนิดๆ หน่อยๆ ไม่ทำให้ผมใจอ่อนหรอกนะจ๊ะแม่หญิงโอลิฟ?” เธอรู้สึกว่าเขากำลังเลี่ยงไม่ยอมตอบคำถามเธอ มันบีบแตรแปร๋น "หยอกเล่นน่ะ"


         "สรุปว่าคุณจะบอกฉัน-"

         "เอาผ้ามากดตอนผมดึงมันออกนะ" ตัวตลกจับด้ามกรรไกร มองไปที่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก

         เธอเบิกตาโต "ได้ยินไม่ผิดหรอก"


         โอลิเวียนั่งลงข้างๆ กำผืนผ้าในมือ รอกดแผล เสียงหายใจกระหืดกระหอบดังฟืดฟาดเหมือนจะเป็นจะตาย เขาขบกรามแน่น กำด้ามกรรไกร แล้วค่อยๆ ลองดึงเบาๆ ก่อนค้นพบว่าเป็นความคิดที่ห่วยแตกที่สุดในโลก มันสบถ พ่นลมพรืดอีก หน้าเบี้ยวเจ็บปวด

         เขาหลับตา ตั้งสมาธิ ผ่อนลมออกทางปากยาว สงบอาการเจ็บปวด เงยคอเอาหัวพิงกำแพง ลืมตาลอยมองฝ้าเพดานห้องน้ำ

         “ฮื่อ ผมตายแน่เลยโอลิฟ นี่ผมกินยาแก้ปวดไปแล้วนะ ถ้าผมตาย ฝากบอกตำรวจด้วย ว่าผมตายไม่นานหรอก เดี๋ยวผมกลับมา แค่แวะไปเยี่ยมพระเจ้าประเดี๋ยวเดียว”


         "แน่ใจหรือว่าได้ไปสวรรค์น่ะ"

         "ร้ายนะเรา" เขาขำแห้ง “งั้นผมไปวางแผนชั่วกับลูซิเฟอร์แทนละกัน” พูดแล้วกลั้นใจ ทำท่าจะชักด้ามกรรไกรอีก โอลิฟรีบยั้ง

         "เดี๋ยว! จะทำจริงเหรอ"

         “นั่นสิ”

         ตัวตลกคว้ามือเธอกดปากแผลแล้วดึงออกพรวด มันร้องลั่น โอลิฟชักมือออก “เห้ย! กดไว้สิ!” เธอนึกได้รีบวางมือกลับที่เดิม วางลงเบาๆ ในขณะที่เลือดไหลชุ่มผ้าเช็ดตัวอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกอุ่นๆ ซึมเต็มสองฝ่ามือ

         "ทำไมมันไม่หยุดไหล!? "

         "ก็กดดีๆ สิ! " เธอกดแรงขึ้น "โอ๊ย!!!! จะฆ่ากันรึไงนังบ้า"


         ทั้งคู่ยังจุกอยู่ในห้องน้ำ ค้างในท่าซับเลือด เพราะไม่มั่นใจว่าเลือดหยุดไหลหรือยัง ก่อนจัดการใช้ผ้าอนามัยเกือบหมดแพ็ก และตามด้วยก็อตพันอ้อมด้านหลัง ทบรอบเอวไปมา ตัวตลกนั่งหลับตาปล่อยให้โอลิเวียทำ นี่เขาไว้ใจเธอขนาดนี้เลยเหรอ?

         "มีเสื้อไหม? " ตัวตลกถามขึ้น

         "เสื้ออะไร? " เขากลอกตาแล้วทำมือชี้ให้เห็นว่าชุดขาด และสกปรก "ไม่มีหรอก"

         "ยืมเสื้อผัวเธอได้ไหม? "

         "เขาไม่ใช่...ผัวฉันสักหน่อย"

         "อะไรก็ช่าง แต่ผมไม่แก้ผ้าแบบนี้นะ" เขากระดกยาแก้ปวดอีก กลายเป็นว่าเขาสวมชุดนอนของเธอ เสื้อแขนยาวสีขาว และกางเกงขายาว แต่ขนาดตัวที่ใหญ่กว่าทำให้ชุดดูรัดไปหมดทุกส่วน แถมยังติดกระดุมได้ไม่หมด ถึงอย่างไรมันก็ทำให้เขาไม่ต้องแก้ผ้า...


         "ไม่ล้างหน้าออกเหรอ? " เธอถาม ดูพิลึกเวลาเห็นตัวตลกหัวแดงสวมชุดนอนฟิตเปรี๊ยะ เหมือนตัวตลกเกย์ไม่มีผิด

         "ดีเลย ล้างเสร็จก็ฆ่าคุณ เพราะคุณรู้ว่าผมเป็นใคร" มันยักคิ้วสองข้างหยอกเย้า "ฟังดูเป็นไง? "

         “สรุปไม่บอกใช่ไหมว่าคุณเป็นใคร แล้วที่คุณรู้ชื่อฉันอีก?” เธอยังไม่ลืมเรื่องนี้ แม้เขาเลี่ยงแล้วเลี่ยงอีกก็เถอะ


         ก็อกๆ


         ทั้งคู่หันขวับ ไม่ทันตอบคำถามใดๆ เจนสัน? หันกลับไปมองสภาพห้องน้ำ เลือด เลือด เลือด! ห้องน้ำเปียกไปด้วยเลือดสีจางๆ เลือดเจือน้ำ กรรไกร ขยะพลาสติกใส ชุดตัวตลก และผ้าสำหรับซับเลือด


         ก็อกๆ เขาเคาะอีกแล้ว

         "โอลิเวีย? " เสียงเรียกอย่างสุภาพ กดดันทั้งคู่ที่อยู่ในสภาพเงอะงะ อีนุงตุงนัง



         ตัวตลกชูกรรไกรพรวด ยิงฟัน ส่งสายตามีแผนร้าย "ฆ่าเขาด้วยเลยไหม? "

         "ห้ะ? ไม่! บ้าเอ๊ยต้องไม่อยู่แล้ว" ไม่รู้ว่าควรกลัวใครก่อนดี แต่ไม่มีเวลามากพอจะถกเถียง เธอคว้าถุงขยะในครัว เก็บงานด้วยความเร็วแสง และหยิบผ้าอนามัยมาหนึ่งห่อ

         "เอาไอ้นั่นมาทำซากอะไร...มันช่วยให้เรารอดจากหมอนั่นเหรอ? "


         "มันทำให้ฉันรอด ออกประตูหลัง" โทรศัพท์บ้านดังขึ้นพอดี โอลิเวียคว้า ตัวตลกทำท่าจะชิง เธอเบี่ยงตัวหลบ “ฉันอยู่ในห้องน้ำ คุณหยิบกุญแจที่อยู่บนขอบประตูเข้ามาได้เลยค่ะ"

         "บอกมันทำไมวะเนี่ย!? ทำบ้าอะไรเนี่ยโอลิเวีย!! " ตัวตลกกระซิบลนลาน น้ำเสียงตระหนก


         เสียงเล็กๆ ของโลหะแผ่นบางกระทบกัน บ่งบอกว่าเจนสันกำลังไขกุญแจเข้ามา ตัวตลกแยกเขี้ยวใส่ไม่พอใจ ก่อนเผ่นออกไปทั้งๆ ที่เจ็บแผลเจียนตาย ส่วนโอลิเวียนั่งเงียบในห้องน้ำ ขณะฟังเสียงประตูเปิด เสียงกุกกักของรองเท้าคัชชูวางบนพื้น และเงาดำหยุดอยู่ที่ใต้หน้าประตูห้องน้ำ


         "คุณโอเคไหม? "

         "ฉ-ฉันไม่เป็น..."

         ประตูเปิดผางออก ขณะที่เธอนั่งบนฝาชักโครก กางเกงในถอดลงมาอยู่หว่างขา มีผ้าอนามัยเลอะเลือดติดอยู่ ชายเชิร์ตขาวพับแขน ผมดำหยักศก เจ้าของนัยน์ตาสีดำขลับจ้องกลับมา ทั้งคู่ไม่มีท่าทีละสายตาจากกัน ราวกับการพบกันได้จุดความรู้สึกบางอย่างของทั้งสองขึ้น


         "คุณมีรอบเดือน" เสียงสุภาพพูดดึงสติเธอกลับมา "คุณควรบอกผมนะ"

         “คือ ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน…”

         “ไม่เป็นไร” เขาตัดบท เขาควรโกรธแต่ไม่ได้โกรธ ทั้งคู่นิ่งจนเหมือนไม่หายใจ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากไปกว่าสายตาจดจ้อง เธอทำตัวไม่ถูก รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏที่มุมปากเจนสัน เหมือนเขากำลังบอกเป็นนัยว่าอีกไม่นานเธอจะตกเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ มุมปากยกขึ้น แล้วยิ้มกว้างส่งท้ายก่อนปิดประตู


         เจนสันผิวปาก ทิ้งเธอไว้กับความประหม่า ตัวชาดิกเป็นหิน แม้ว่าจะแสร้งว่ามีรอบเดือน แต่ยังรู้สึกว่าเรื่องอย่างว่าต้องเกิดขึ้นอยู่ดี

         ไม่ว่ายังไง โอลิเวียนั่งเปลี่ยนผ้าอนามัย ก่อนออกจากห้องน้ำ และพบว่าเขาไม่อยู่ในห้องรับแขก เธอจึงผลักประตูห้องนอน


         เสียงซวบของเสื้อ พร้อมร่างสูงเข้ามาประชิดแบบไม่ทันตั้งตัว เขาปิดประตูล็อกโดยไม่ต้องหันมอง...กริ๊ก

         จ้องด้วยแววตาหม่น ปากเผยอเล็กน้อย เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากเสียงหัวใจเต้นรัว เจนสันมองเป็นเฮือกสุดท้าย ก่อนลงมือซุกไซร้ต้นคอ อย่างหิวกระหาย ลมร้อนรดรินผิวกายทำเธอขนลุกเกรียว ริมฝีปากไต่ขึ้นจากลำคออย่างเชื่องช้า ละเมียดละไม แล้วเกลี่ยข้างใบหู ซุ่มเสียงครางแผ่วปรารถณาปลุกเร้าอารมณ์เธอ เขาเบียดร่างเด็กสาวติดบานประตู "โอลิเวีย" เขาพูดแผ่ว

         เธอไม่ได้พยายามหนี



         เธอหลับตา สูดกลิ่นกายหอมจางๆจากเจนสัน แต่เขาหยุด

         ฝ่ามือกระด้างข้างหนึ่งสัมผัสที่ใบหน้าเธอ ประคองให้เงยขึ้น เจนสันยิ้ม เม้มปาก จ้องมองริมฝีปากเธออย่างพินิจพิจารณา เกลี่ยด้วยนิ้วโป้ง ก่อนหยิบแท่งลิปสติกสีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ...

         อะไรเนี่ย? ลิปสติกของเขาหรือ?


         นายท่านก็จับคางเอียงซ้ายขวา เชิดขึ้น และบรรจงแต้ม นี่เขากำลังทำอะไรกันแน่? ตอนนี้ปากของเธอคงแดงแจ๋เป็นคุณตัวแล้ว


         "พร้อมไหม? " เขากล่าวและค่อยๆ ก้มลง เธอไม่มั่นใจว่าหมายถึงอะไร เจนสันพร้อมที่จะประทับริมฝีปาก

         "แต่ฉันมีรอบเดือน-"

    เขาจูบเพื่อหุบปาก ไม่สนใจอีกต่อไปว่าเธอจะพล่ามอะไร มือแข็งแกร่งกำรอบข้อมือ ดันติดผนัง ริมฝีปากประกบแนบแน่น บดราวกับต้องการสัมผัสทุกอณูที่เป็นเธอ

         โอลิเวียส่งเสียงอู้อี้เพราะถูกช่วงชิงลมหายใจนานเกินไป เธอผละออกมาเพื่อโกยเอาอากาศ ตอนนี้ปากเขาติดรอยลิปสติกเธอเสียแล้ว


         "ใช่ คุณมีรอบเดือน แต่ผมจูบปากไม่ใช่ตรงนั้น" เจนสันต้องการเห็นเธอเลอะเทอะ โดยเฉพาะจากเขา และเขาก็ได้ทำลายสีแดงฉานนั่นบนปากเธอจนเปรอะออกมา ต่อไปเป็นอย่างอื่นที่ต้องเลอะ


         เขาอุ้มเธอ จับโยนที่ปลายเตียง ก่อนกระชากชุดนอนออกอย่างรีบร้อน เสื้อหลุดลุ่ยเปิดลงมาถึงไหล่ เธออยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน กอดหน้าอกตัวเองอย่างเขินอาย เจนสันปลดเข็มขัดตัวเอง ตามด้วยเสียงรูดซิปกางเกง...

         "เอามือออก"

         "ต-แต่ฉันไม่เคย..."

         "คุณจะเคยวันนี้ เอามือออก" เขาสั่ง เธอทำตาม ไม่กล้าสบตา เจนสันลูบรอยลิปสติกที่เปรอะมุมปากอย่างพอใจ เธอสังเกตเห็นว่าสิ่งนั้นของเขาแข็งแล้วด้วย เจนสันล้วงมือเข้าไปข้างใน มันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...


         เพล้ง!


         เสียงแก้วแตกขัดจังหวะ


         “อะไรวะ!" เขาหลุดสบถ "มีใครอยู่ในบ้านอีกหรือเปล่า?” เธอสั่นหัวงนงก เขาเลื่อนฝ่ามือไปวางหลังศีรษะโอลิเวีย ค่อยๆ รวบผมช้าๆ แล้วกำแน่น “ใคร?”

         เจนสันถามผ่านไรฟันที่ขบแน่น เธอครางด้วยความกลัว พยายามสั่นหน้าอีก เขาขยุ้มผมแรงขึ้นอีก “แค่บอกมาว่าใคร” เธอสั่น ทำไมเขาถึงน่ากลัวขนาดนี้


         เธอไม่พูด เจนสันจึงนิ่ง คลายมือ ลูบหัวเธอเชื่องช้า แล้วทัดผมกับใบหู “รอผมอยู่ตรงนี้” เจนสันละออกไป เดินฉับๆ ออกไปตรวจสอบด้วยตนเอง


         ก้าวพ้นจากประตูห้องนอนก็ต้องหยุดก้มลงสำรวจบริเวณหน้าห้อง เศษขวดแก้วที่แตกกระจายบนพื้น

         "ฮ่า!" ตัวตลกกระโจนออกมาจากด้านหลัง โดยที่เจนสันไม่ทันรู้ตัว มันหุ้มศีรษะเขาด้วยพลาสติกสีขาวขุ่น เป็นม่านจากห้องน้ำ ทั้งคู่ต่อสู้ แต่เท่าที่เธอเห็นเจนสันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ กระทั่งเขาใช้หลังกระแทกตัวตลกเข้ากับผนัง มันก็ร่วง


         เจนสันเหวี่ยงม่านที่คลุมหัวลงพื้น กอบโกยอากาศ แทบขาดใจ “นี่มันบ้าอะไร!”

         “โอ้ว ฉิบ…” มันสบถอย่างโรยแรง ใบหน้าบิดเบี้ยว มือกุมแผล ขาเหยียดยาวบนพื้น

         “แกเป็นใคร” เจนสันมองชุดนอนสีขาวบนตัวตลก “นั่นมันชุดโอลิเวีย...ใช่ไหม?” เขาเขม่นตาจ้อง แต่แล้วเหมือนนึกบางอย่าง ตวัดสายตาหันกลับมาค้อนโอลิเวียที่นั่งบนเตียง “โอลิเวีย!?”


         เจนสันเดินอุกอาดแน่วไปหาเธอ

         “จะไปไหนจ๊ะแดดดี้ซาดิสม์ปากแดง~กลับมาฟัดกันก่อนซี้!”

         เจนสันหันขวับ ตัวตลกเสียบกรรไกรเข้ากลางลำตัว และดันทะลุเนื้อเข้าไปมิดด้าม เจนสันค้างกึก สีหน้าซีดเซียวกะทันหัน

         “ซี้ดดดด! ไหมล่ะ”

         ตัวตลกยักคิ้วรัวๆ ยั่วประสาท แล้วบิดด้ามกรรไกร กระชากออก ก่อนจับหัวไหล่นายเจนสันดึงเข้ามาเสียบซ้ำ ชายร่างสูงทรุดลงทันที คุกเข่า ก่อนสิ้นใจในสภาพคว่ำหน้ากับพื้น “ว้า! เลอะพื้นหมดเลย ตอนแรกกะว่าจะไม่ให้มีเลือดสักหน่อย”


         “นายทำอะไรลงไป” โอลิเวียหน้าซีดเผือด ยืนตัวแข็งทื่อในห้องสลัว มือกำเสื้อที่หลุดลุ่ย

         “ก็ฆ่าเขาไง” มันยักไหล่ “มาช่วยกันยกหน่อยสิ ผมเจ็บแผลอยู่น่ะ”


         เธอสั่นหัวดิก ถอยหลังกล้าๆ กลัวๆ แล้วถอยกรูดไปยกหูโทรศัพท์ในห้องนอน ตัวตลกกระโดดข้ามศพมายื้อแย่งจากมือ เธอไม่ยอมปล่อย มันคว้าข้อมือกระแทกกับโต๊ะ จนหลุดออก เธอสะอื้นไห้ มันกำข้อมือสองข้าง จับกดเข้ากับกำแพง

         “ตั้งสติโอลิเวีย เราจะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาดเข้าใจไหม ฉันรู้จักเธอ เธอเข้มแข็งพอ แต่แค่ต้องตั้งสติหน่อย”

         เธอยังคงร้องไห้ไม่หยุด มันกลัวที่เห็นเธอร้องไห้ ไม่รู้เพราะอะไร เขาค่อยๆ เอาหน้าผากมาชนหน้าผากเธอเบาๆ ทั้งคู่หลับตา เป็นช่วงที่นิ่งสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างติดขัดของโอลิเวีย และมันค่อยๆช้าลง


         ท่ามกลางความเงียบงัน เธอสัมผัสความสงบ โอลิเวียรู้สึกผ่อนคลาย คุ้นเคย และผูกพันอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเราต่างรู้จักกันมานาน อาจเป็นในความฝัน

         ปลายจมูกชน เขากลืนน้ำลาย เกือบจูบเธอแต่ยั้งไว้ได้ทัน ส่วนโอลิเวียก็ดูเหมือนจะดีขึ้น เธอสงบลงแล้ว

         “ผมขอโทษ แต่คุณไม่มีทางเลือกมาก คุณต้องเชื่อใจผม แล้วความลับของเราจะเป็นความลับต่อไป”

         “ฉันต้องทำยังไง”

         “เอาขยะ ชุดตัวตลก ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และอะไรก็ได้ที่เป็นเชื้อเพลิง หรือจุดไฟได้มาให้ผม ส่วนคุณเก็บกวาดบ้าน อาบน้ำ แล้วนอนซะ”

         “คุณไม่ฆ่าฉันเหรอ?”

         “ก็อยากอยู่ แต่ผมมีเหตุผลของผม” มันยักคิ้ว ยิ้มเห็นฟัน ยีผมสีดำของเธอจนยุ่ง “เริ่มทำงานก่อนเพื่อนคุณกลับมาเจอดีกว่านะ”


    สองชั่วโมงต่อมา


    “พบแล้ว! ฆาตกรต่อเนื่องในคราบตัวตลก! อวสานคดีฆาตกรรมหญิงสาวเมืองซันเซต!!”


    -ประกาศข่าวจากช่องโทรทัศน์



    จบตอนที่ 2 : Olivia Waterston and her secret.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×