(EXO)ปฏิบัติการรักล็อกหัวใจนายสุดเลิ๊ฟ
เมื่อเข้า'จงอิน'หนุ่มสุดแบทบอยที่มาพร้อมด้วยเสห่น์กลับมาตกหลุ่มรักกับ'ดี.โอ' หนุ่มสุดซื้อบื้อที่จะร้องไห้ได้ทุกเวลาที่โดนขัดใจแล้วจะเกิดจะไรขึ้นเมื่อคนรักเก่าของจงอินมาทวงความรักของเธอคืน!
ผู้เข้าชมรวม
68
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“แฮร่กๆ~”
“จงอินเร็วๆสิประตูจะปิดแล้วนะ!”เสียงของชานยอลที่มันนำไปก่อนหน้านี้ตะโกนมาหาผมที่วิ่งตามหลังมันมา
ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่รีบวิ่งไปให้ทันมันก็เท่านั้นและแล้วตอนนี้เราสองคนก็วิ่งมาหยุดที่ประตูขนาดใหญ่ที่ปิดพอดีกับตอนที่เราวิ่งมาถึงบัตซบเอ๊ย!
“โถ่วโว้ยยยย!”ชานยอลตะโกนเสียงดังจนยามที่เป็นคนปิดประตูสะดุ้งโหยง
“เห้ยไม่เป็นไรเว้ย
แค่โดนวิ่งรอบสนามสิบรอบเท่านั้นเอง”
“สิบรอบนั้นมันปีที่แล้วปีนี้สิบห้ารอบต่างหากล่ะ”ครูสาวสวย?
ที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้น ว่าไงนะสิบห้ารอบอย่างงั้นหรอ แค่สิบรอบผมก็จะตายแล้วนะ
“โห้ยอะไรอ่ะครูนี้เปิดเทอมวันแรกเอง
เด็กอย่างพวกเราก็ต้องมาสายเป็นธรรมดาอยู่แล้วอ่า”
“นี้ปาร์คชานยอล
เธออยู่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ม.สี่แล้วนะ เธอก็น่าจะรู้ว่ากฎของโรงเรียนเป็นยังไง
ยามเปิดประตูให้เด็กพวกนี้เข้ามา”เมื่อครูพูดจบนางก็หันไปสั่งยามชอดๆ
ผมนี้สงสารยามจริงๆที่ต้องมาทำตามคำสั่งยัยนี้ทุกเช้า
“เอ้า
ยืนทำไมกันอยู่ล่ะไปวิ่งได้แล้วล่ะวิ่งให้ครบล่ะ”นางหันมายิ้มแล้วก็เดินกลับไปนั่งตรงโต๊ะม้าหินใกล้ๆสนาม
ให้ตายเหอะผมรู้จักครูคนนี้ดีนางชอบไปอยู่กับพวกผู้ชายไม่ว่าจะตอนไหนก็ตามเคยถูกเรียกไปพบหลายรอบแล้วแต่นางก็ยังทำตัวเหมือนเดิมอยู่
ผมไม่รู้จริงๆว่าเธอเป็นครูได้ยังไง
“ไปเหอะมึง”ชานยอลพูดแล้วออกเดิน
พวกเราเดินมาถึงที่สนามแล้วเริ่มวิ่ง
ผมก็น่าจะโชคดีหน่อยมั้งที่เป็นนักกีฬาเก่าไม่เหมือนชานยอลที่วันๆไม่ทำห่าอะไรเลยนอกจากนอนอย่างเดียว
ข้าวปลาก็ไม่ค่อยกินนะมันหน่ะ
“แฮร่กๆ”ผมหยุดวิ่งเพราะอาการเหนื่อยที่เริ่มจะมากขึ้นเข้าไปทุกที
สนามนี้ไม่ใช่เล็กๆนะ ขนาดมันเท่ากับสนามกีฬาแห่งชาติเลยนะ
“นี้นายหน่ะ
หยุดวิ่งทำไมเหลืออีกห้ารอบวิ่งไปเร็วๆเข้า!”โว้ยยยยยย
อิเจ๊นี้ยังจะตะโกมข้ามสนามมาได้อีกเนอะ พลังเสียงไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย
“มึงไหวป่ะว่ะ”ชานยอลที่วิ่งมาหยุดอยู่ข้างๆผมพูดขึ้น
ก่อนที่จะถามคนอื่นนี้ถามตัวเองก่อนบ้างหรือป่าว สภาพดูไมได้ยิ่งกว่ากูอีก
“ไหวดิมึง
ไปเหอะเหลืออีกแค่ห้ารอบเอง”ผมพูดแล้วเริ่มวิ่งต่อ
เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มเรียนคาบแรกแล้ว ถ้าเราไปไม่ทันคาพแรกอีก
เดี๋ยวก็จะโดนทำทาอีก โรงเรียนนี้แม่งโหดจริงๆ
พรึ่บ!
พอวิ่งจนครบขาของผมมันก็ร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที่
ถ้าเลือกได้อยากจะนอนมันสะตรงนี้เลยจริงๆ
“จับมือเราสิ”
อยู่ดีๆก็มีมือเล็กๆขาวๆยื่นมาตรงหน้าผม
มันทำให้ผมมองไล่จากมือจนไปเห็นใบหน้าสีขาวที่มีดวงตากลมโต ทะ...ทำไมน่ารักจังว่ะ
หมับ
“ผมตัดสินใจจับมือเล็กๆนั้น
มือเล็กๆนั้นก็ออกแรงดึงผมขึ้นยืน
ทั้งๆที่ตัวเองตัวเล็กมากแท้ๆยังจะพยายามดึงผมอีกนะ
“ขอบใจนะ”ผมพูดขึ้นพร้อมมองตากลมโตนั้น
“ไม่เป็นไรหรอก
อ่ะ เรารู้ว่านายเหนื่อย”พูดไม่ทันจบร่างเล็กๆนั้นก็ส่งน้ำเปล่ามาให้ผม
“ขอบใจอีกรอบนะ”ผมรับน้ำนั้นมาแล้วเปิดกินจนหมดขวด”ว่าแต่นายรู้จักฉันหรอ?”
“ป่าวหรอกพอดีเราญาติดีหน่ะเห็นใครก็อยากจะรู้จักแล้วก็อยากช่วยไปหมดเลยพอดีเราเห็นนายโดนทำโทษแบบนี้เลยสงสารหน่ะ
วันหลังก็อย่ามาช้าอีกสิจะได้ไม่ต้องโดนทำโทษบ่อย”ร่างเล็กนั้นพูดไปก็ทำหน้าสงสารผมเข้าไปเรื่อยๆ
“พูดอย่างกับว่านายเป็นแม่ฉันอย่างงั้นล่ะ
วันนี้วันแรกใครมันจะไม่มาสายกันบ้างว่ะ”
“เราไง”ร่างเล็กนั้นมองตาผมแล้วกระพริบตาปริบๆ
“เอออ
พ่อคนดีศรีกรุงโซลลลลล”
“ห้าๆๆๆๆ
เราชื่อคยองซูนะ เรียกว่าดีโอก็ได้ เราพึ่งมาเรียนที่นี้เป็นปีแรกแต่อยู่ม.ห้าแล้ว”อะไรของมันว่ะเข้ามาตอนม.ห้าเนื่ยนะ
“อ่าวทำไมย้ายมากลางเทอมขนาดนี้อ่ะ”
“คือเราต้องย้ายบ้านหน่ะ
ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราไปล่ะ”แล้วร่างเล็กก็หันหลังเดินจากผมไป
อะไรของเข้าว่ะ
“เห้ยยยไอ้เพื่อนเวร
มึงไม่คิดจะรอกูเลยใช่ม้ายยยยยย”ชานยอบที่วิ่งมาหาผมในสภาพที่เหมือนไปรบมาพูดขึ้น
“อะไรของมึงว่ะ”
“เห้นแล้วนี้ไปเอาน้ำมาจากไหนเห้ยกูอยากแดกบ้างว่ะไปซื้อน้ำกัน
มึงแบกกูหน่อยกูจะไมไหวแล้ววว”
“พ่องมึงอ่ะเดินเองเลยมึง”ผมหันไปทำหน้าโหดๆใส่มันทีนึงแล้วเดินหนีมันมา
“ฮืออออออออ
จงอินใจร้าย”แล้วชานยอลก็เดินตามผมมา
ผมเดินมาถึงห้องด้วยความยากลำบากเพราะแขนข้างนึงก็ประคองชานยอลอีกข้างก็ต้องจับราวจับกำแพงยึดตัวเองเพราะสภาพพวกเราจะไมไหวกันแล้ว
ขามันออกกำลังมากเกินไปทำให้รู้สึกปวดกล้ามเนื้อแปล๊บๆเวลาเกร็งมัน
“นี้พวกเธอเกือบมาสายนะรู้มั๊ย”พอพวกเราก้าวเข้าไปให้ห้องปุ๊ป
ครูประจำชั้นก้เริ่มด่าพวกเราทันที แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าทั้งห้องก็หันมามอพวกผม
แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่าคนที่อยู่ข้างๆครูก็หันมามองผม
และนั้นทำให้ผมรู้ว่า เราได้เจอกันอีกแล้ว
“พวกนายนะ
ไปหาที่นั่งเลยนะ แล้วตั้งใจฟังเพื่อนใหม่แนะนำตัวแล้วถ้าไม่ฟังอีกนะพวกนายได้เจอดีแน่ๆ”สิ้นสุดเสียงสวดตอนเช้าของครูผมกับชานยอลก็พากันไปนั่งที่ของตัวเองที่นั่งตั้งแต่ปีที่แล้ว
“ ผมชื่อโด คยองซูครับชื่อเล่นชื่อดีโอ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”คยองซูพูดพร้อมกับก้มหัวลงเก้าสิบองศา
“เอาล่ะเนื่องจากว่าห้องเรามีคนเพิ่มมาใหม่เพราะงั้นโต๊ะก็จะมีเพิ่มมาหนึ่งตัวแต่ถ้าจะให้คยองซูไปนั่งคนเดียวมันก็จะโหดร้ายไปงั้นครูขอเพิ่มโต๊ะไปตรงแถวหลังสุดของห้องแล้วกันนะ”เฮือกกกกก
ว่าไงนะหลังสุดของห้องก็เป็นที่ของผมกับชานยอลนี้ คยองซูจะมานั่งงั้นหรอ ไม่น้า
คยองซูเดินมาพร้อมกับโต๊ะและเก้าอี้ที่ลากมาด้วยและมาหยุดตรงข้างๆผม
คยองซูยิ้มอย่างรวยฟันให้ผมทีนึ่งแล้วจัดการกับโต๊ะและข้าวของ ของตัวเอง
คยองซูทำหน้ามุ้ยๆให้กับหนังสือที่อยู่เต็มกระเป่าแล้วจัดการหยิบมันขึ้นมาใส่เข้าไปที่ใต้โต๊ะของตัวเอง
แม่งโครตน่ารักเลยว่ะ
“นายมองหน้าเราทำไมอ่ะ
หน้าเรามีอะไรผิดปกติหรือป่าว?” ผมสะดุ้งเล็กน้อยและหันหน้ามามองตรงไปที่กระดาน
ถ้าคนตัวเล็กไม่ทักผมก็คงไม่รู้หรอกว่าผมของหน้าเข้าไปนานมากขนาดไหน
ส่วนไอ้ชานยอลตอนนี้มันหลับไปแล้วเพราะอาการเหนื่อยมันกำเริบ
“ป่าวนี้ไม่มีอะไร”
“เรามานั่งด้วยกันแล้วนะนายไม่คิดจะแนะนำตัวกับเราหน่อยหรอ
หรือเรามันไม่น่าคบขนาดนั้นเลย”คนตัวเล็กทำหน้าเศร้าลงหลังจากที่พูดประโยคนี้จบ
ในตาเริ่มแดงก่ำไม่นานน้ำตาก็ไหลออกมาก นี้มันอะไรกันว่ะเนี่ยยยย
“เห้ยร้องไห้อ่อว่ะ
เห้ยยยอย่าร้องดิ ก็บอกว่าอน่าร้องไงงงงง”
“ฮึก~ ฮืออออออออออออออ~”ผมยิ่งพูดคนตัวเล็กก็ยิ่งร้องไห้เอาเข้าไปเถอะชีวิตของจงอิน
“เห้ย
ฉันทำอะไรให้นายเนี่ยนายร้องไห้ทำไป หมาที่บ้านตายหรอ?”
“นายฮึกนายปากเสีย
ฮึก เราฮึก หมา ฮึก ฮือออออออออออออออ~”เอาเข้าไปพูดก็ไม่เป็นประโยคแถมด่าตัวเองอีก
“โอ๋ๆไม่ร้องๆ
เดี๋ยวเลี้ยงขนมเอามั้ย?”คนตัวเล็กสะดุ้งนิดนึงแล้วหันมามองตาผม
“จริงหรอ
นายจะเลี้ยงขนมเราจริงๆหรอ”คนตัวเล็กเอามือมาปาดน้ำตาตัวเอง
มันทำให้ผมคิดได้ว่าตัวเองมีผ้าเช็ดหน้าหนิหว่าเลยหยิบขึ้นมาแล้วซับน้ำตาของคนตัวเล็กเบาๆ
ทีแรกคนตัวเล็กก็สะดุ้งเบาๆแต่ก็ยอมให้ผมเช็ดน้ำตาแต่โดยดี ดีนะที่ขี้แยแต่ไม่ดื้อน่ารักจริงๆ
“จริงสินายอยากกินอะไรหล่ะ”
“เอาอะไรก็ได้
เราชอบกินของหวานมากๆเลยนายเลี้ยงของหวานเราหน่อยนะๆ”มือเล็กๆเอื้มมาจับแขนผมแล้วเขย่าไปเขย่ามาเหมือนเด็กๆ
“ได้สิๆ”
“เย้!”ล่างเล็กชูมือขึ้นเหนือหัวแล้วยิ้มอย่างพอใจออกมา”นายยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าชื่ออะไร”
“อ่อ
เราชื่อคิม จงอินหน่ะเรียกว่าไคก็ได้นะ”ผมยิ้มไปให้คนตัวเล็กๆที่นั่งอยู่ตรงข้ามเบาๆ
“โห๊
งั้นเราเรียกว่าจงอินแล้วกันนะ จงอินวันนี้ไปกินข้าวกับเรานะๆๆๆๆ”และอีกครั้งล่างเล็กเลื่อนมือมาจับแขนผมแล้วเขย่าอีกครั้ง
“ได้สิ
แล้วนี้คยองซูมีเพื่อนหรือยัง?”
“มีแล้วๆ
จงอินไงเพื่อนเรา เพื่อนคนแรกของเราในโรงเรียนนี้เลยนะ”คยองซูมองหน้าผมแล้วทำตาโตๆ
เอิ่มคือ น่ารัก
“โห๊
มีเพื่อนตั้งหลายคนดีใจด้วยนะคยองซู”ผมยิ้มอย่างรวยฟันให้คยองซูหนึ่งที
“จงอินอ่ะ
อย่าแกล้งเราสิ
เราไม่ค่อยได้คุยกับใครหรอกนะนี้เราคุยกับจงอินตั้งเยอะจงอินไม่ดีใจหรอ”คยองซูทำหน้ามุ้ยๆใส่ผม
“โอ๋~ ไม่งอนนะครับคนดี “แล้วผมก็เอื้อมมือไปจับหัวคยองซูแล้วโยกไปโยกมา
“จงอินอะ
ชอบแกล้งเรานี้เราพึ่งรู้จักกันวันแรกเองนะ จงอินยังแกล้งเราขนาดนี้เลย”
“ห้าๆๆๆ
ก็คยองซูเหมือนเด็กอ่ะน่าแกล้งดีออก
นี้คยองซูอยู่โรงเรียนเก่าโดนแกล้งแบบนี้หรือป่าวเนี่ย”
“ไม่เลยจงอิน
ที่โรงเรียนเก่าเรามันแย่มากเลยล่ะ ทุกคนเอาแต่เห็นแก่ตัว
ที่นั้นมีแต่คนเดินคนเดียวกินข้าวคนเดียวทำอะไรก็ทำคนเดียวเวลาสอบก็แข่งกันอยู่นั้นและ
ขนาดตอบคำถามในห้องยังแข่งกันเลย
เราโชคดีมากๆเลยนะที่ได้มาโรงเรียนนี้แล้วก็ได้มาเป็นเพื่อนกับจงอินอ่ะ”คยองซูหันมามองหน้าผมอีกครั้งและมันทำให้หัวใจของผมกระตุกไปชั่วนึงแล้วก็กลับมาเต้นตามจังหว่ะเดิมของมัน
“ฉันว่าคยองซูคงเหงาแย่แต่ไม่เป็นไรนะ
เราอยู่ตรงนี้แล้วปรึกษาเราได้เสมอ”ผมยิ้มให้คยองซูอีกรอบแล้วก็หันไปเห็นครูที่เดินเข้ามาในห้อง
“
เอิ่ม..ครูมาสายไปสิบห้านาทีพวกเธอคงไม่ว่าอะไรหรอกเนอะก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่เปิดเทอมวันแรก
ไหนเปิดเทอมวันแรกใครยังไม่มีเพื่อนบ้างยกมือขึ้น”ครูพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเพื่อหาเสียงแต่ทว่า
ทั้งห้องเงียบกริบ
...
“อ่าวแล้วครูได้ข่าวว่าห้องนี้มีคนมาใหม่
มีเพื่อนแล้วหรอลูกไหนขอดูหน้าหน่อยสิ”ครูพูดพร้อมกับกวาดสายตาเพื่อหาคยองซู
“อ่อ..ผมมีเพื่อนแล้วครับ”คยองซูยืนขึ้นพร้อมพูด
แต่ก็พูดติดๆเพราะว่าเขิน ก็แน่ล่ะคนทั้งห้องมองเลยนะนั้น
“ว้าว
ดีจังมีเพื่อนแล้วนี้พึ่งเรียนคาบแรกเองดีมาก งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่าเนอะ
ทุกคนเปิดไปหน้าสองแล้วอ่านให้ครูฟังสิ”
แล้วเราก็เรียนกันไปเรื่อยๆ ผมอยากจะบอกเลยว่า
ตลอดการเรียนความรู้ไม่ค่อยได้เข้าหัวผมเลยไม่ว่าจะเป็นสูตรอะไรทั้งหลายแหล่
ผมยิ้มได้ทุกทีที่มองหน้าคยองซูเวลาเข้าไม่เข้าใจอะไรบางอย่างแล้วทำหน้ามุ้ยๆ มันน่ารักดี
พักกลางวัน
ผมชานยอลแล้วก็คยองซูเดินลงมาที่โรงอาหารพร้อมกัน
หน้าชานยอลตอนนี้ก็เหมือนคนไม่ได้นอนมาสิบชาติแต่คือตลอดชั่วโมงเรียนมันหลับทุกคาบเลย
“โห๊~ โรงอาหารคนเยอะจังจงอิน”คยองซูยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูทาง
แต่ผมว่าค่ามันก็คงจะเท่าเดิมเพราะคยองซูตัวเล็กมาก
“เหอะ
พวกเราก็อยู่อย่างนี้มาหลายปีละ
ระวังเหอะนายหน่ะจะโดนชนโดยไม่รู้ตัวยิ่งตัวเล็กๆอยู่”ชานยอลหันมาพูดกับคยองซู
“ชานยอลอ่ะ
อย่าพูดขู่เราสิ เรากลัวนะ”คยองซูทำตาโตๆแล้วมองชานยอลด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไหร่
“ถ้าคยองซูกลัว
เราไปซื้อข้าวให้ก็ได้นะ คยองซูไปรอที่โต๊ะเหอะ”
“อืม ก็ด่ะ
ฝากด้วยนะจงอิน”แล้วคยองซูก็รีบวิ่งไปที่โต๊ะว่างๆที่เหลือน้อยเต็มทีแล้วก็นั่งลง
ผมกับชานยอลก็เดินมาซื้อข้าวแบบปกติ
“เหอะ
เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยจะเลี้ยงข้าวแต่กับไปเลี้ยงให้ไอ้มนุษย์ฮอบบิตนั้นอะนะ
มันน่าน้อยใจจริงๆ”ระหว่างที่เรากำลังต่อแถวซื้อข้าวผมก็โดนชานยอลแซว
“อะไรของมึงว่ะ
ขนมกูก็เคยเลี้ยงมึงตอนนั้นมึงไม่ได้เอากระเป๋าตังมากูก็เลี้ยงมึง
นี้กูเห็นเค้าน่าจะดูแลตัวเองไม่ได้ต่างหากกูเลยอาสาช่วย”
“หรอออออ
มึงไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลยไอ้ห่า”แล้วผมก็โดนชานยอลพลั่กหัว ผมผิดอะไรเนี่ยยยยยยย
ไม่นานนักผมก็เดินมาที่โต๊ะ แต่ภาพที่ผมเห็นคือคนตัวเล็กนอนเอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะสีขาวแล้วก็เอามือลูบท้องตัวเองไปมา
“นี้นายโว้ยยยยยย
ตื่นโว้ยยยยย ข้าวมาแล้วโว้ยยยยยย!!!!”ชานยอลเดินมาเมื่อเห็นคยองซูอยู่ในท่านั้นก็ตะโกนทันที
คยองซูที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็รีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วมองไปมาซ้ายทีขวาที
“ชานยอลอ่ะ
ทำไมต้องตะโกนด้วยเล่า พูดดีๆกับเราก็ได้หนิ เราตกใจหมดเลย”คยองซูทำหน้ามุ้ยๆใส่ชานยอล
ผมเห็นแบบนั้นเลยพูดออกไปว่า
“เมื่อกี้เห็นนอนฟุบที่โต๊ะเป็นอะไรหรือป่าว”ผมถามออกไปพร้อมกับวางข้าวไปตรงหน้าของคนตัวเล็กก่อนที่จะนั่งลงข้างๆเข้า
“คือ
เราหิวหน่ะ ฮ่ะๆ”คยองซูยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนที่จะตักข้าวคำใหญ่ๆเข้าปากตัวเอง
“ไม่ต้องรีบกินก็ได้นะคยองซูเดี๋ยวกสำลักหรอก
“ไอ่อ้องเอ็นอ่วง
เอาอำแอบอี้อะอำ”คยองซูที่มีข้าวอยู่ในปากเต็มไปหมดหันมาพูดกับผม
นี้ถ้ามันพุ่งใส่หน้าผมนะ ไม่ว่าคยองซูจะน่ารักขนาดไหนก็ตามผมก็ถีบได้หมดนะจะบอกให้
“เอิ่มกินให้หมดแล้วค่อยพูดก็ได้นะคยองซูเราไม่หนีไปไหนหรอก”
“เหอะ!”ชานยอลทำหน้าเบื่อๆแล้วก็หันไปมองตรงทางเดินแล้วชานยอลก็เบิกตากว้างขึ้น
“อะไรของมึงว่ะชานทำหน้าอย่างกับเจอนางงาม”
“มึงกูเจอแล้ว
เนื้อคู่กู”ชานยอลพูดแล้วชี้ไปที่
ผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆหน้าเรียวๆท่าทางร่าเริงตลอดเวลา
ริมฝีปากบางเชียบผมสีน้ำตาลอ่อน มันแลดูเข้ากับสีผิวสุดๆไปเลย
“ชานยอลนิยมแบบนี้หรอ?”คยองซูพูดก่อนที่จะตักข้าวเข้าปาก
“อืมกูชอบแบบนี้ล่ะ
ตัวเล็กน่ารักน่ากอดหู๊ยยยยยย ถ้าได้มาเป็นแฟนนะ”แล้วชานยอลก็ทำหน้าหื่นๆ เห้ยยยมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วว่ะ
“มึง
หยุดเลยถ้าไม่ไหวไปห้องน้ำก่อนได้นะเว้ยแล้วไปเจอกันที่ห้อง”
“มึงนี้บ้าหรอ
มึงเห็นกูเป็นคนยังไงว่ะจงอิน กูดูเหมือนคนโรคจิตขนาดนั้นเลยหรอ?”
ถามมาได้เนอะเพื่อนกู
“ไม่หรอก
ดีแล้ว ดีใจด้วยนะที่ชานยอลค้นพบตัวเองแล้วขอให้ได้คบกับคนนะชานยอลหน่ะเป็นคนที่ชอบตะโกนมากเลยระวังเข้าจะเบื่อชานยอลเพราะการที่ชานยอลตะโกนบ่อยๆเหมือนที่พูดด้วยอยู่ห่างร้อยเมตรอย่างนั้นล่ะแล้วก็ขอให้คบกันนานๆด้วยขอให้ไม่มีปัญหาใดๆทั้งปวงขอให้ชานยอลดูแลคนนั้นดีๆเหมือนที่คนนั้นจะดูแลชานยอลหลังจากนี้ล่ะตลอดไป
ขอให้ที่เราพูดมาเมื่อกี้เป็นความจริงทุกประการเพี้ยงงงงงงงงง”แล้วคยองซูก็พนมมือแล้วก็สวดๆๆๆๆให้ชานยอล
เล่นเอาผมกบชานนี้อึ้งเลย
“นี้นายมาจากลักธิขงจื้อหรือป่าวเนี่ยหรือว่าถึงไปเข้าวัดบวดมาสิบชาติ”
“ป่าวนะ
นี้ชานยอลไม่เชื่อที่เราอวยพรไปหรอ”คยองซูมองหน้าชานยอลพร้อมกับทำหน้าสงสัย
“ก็...ป่าว”ผมมองชานยอลด้วยหางตาเล็กน้อยล่ะนั้นก็ทำให้ชานยอลที่กำลังจะเถียงคยองซูเงียบลง
หลังเลิกเรียน
ผมเดินออกมาจากที่โรงเรียนพร้อมกับคยองซูเพราะชานยอลบอกว่าขาเวลาไปตามหารักก่อนเลยไล่ให้ผมกับคยองซูกลับก่อน
คยองซูก็โวยวายจะกินขนมมาตั้งแต่พักกลางวันแล้ว และก็หาว่าผมไม่ซื้อขนมให้อีก
ตอนเย็นนี้มันเลยเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องพาคยองซูมาหาของหวานกิน
“นี้ๆจงอินๆร้านนั้นน่ากินจังๆ
ไม่เอาๆ ร้านนี้น่ากินกว่าๆ หู๊ยยยยยย~ ร้านนั้นตกแต่งร้านน่ารักมากอ่ะ
จงอินนนนช่วยเราเลือกหน่อยสิ”คยองซูเดินลากผมมาตรงซอยเดินเข้าโรงเรียนที่มีของขายเต็มไปหมด
ส่วนมากก็พวกร้านของหวานแบบนี้เนี่ยล่ะ
ไม่ก็พวกร้านข้าวเพื่อพวกนักบอลที่กลับบ้านเย็นๆจะหิว ร้านขายเสื้อผ้าหรือของเล็กๆน้อยๆก็มีในซอยนี้นะไม่ใช่ว่าจะไม่มี
“ฉันว่านะกินร้านนั้นดีกว่า”ผมชี้ไปที่ร้านที่มีชื่อว่า
น้ำหวาน ภายในร้านมีสีชมพูดูหวานแหว๋วมาก แถมพวกผู้หญิงในห้องชอบบอกด้วยว่าน้ำหวานอร่อยงั้นงี้
แต่เอาความจริงป่ะ ผมไม่เคยเข้าร้านแบบนี้เลย ทุกทีเวลาเลิกเรียนก็กลับบ้านเลยหรือไม่ก็ไปเที่ยวกับชานยอลแล้วก็ไปต่อกันที่ร้านเหล้า
“หู๊ยๆ
น่ากินๆ ป่ะๆๆๆ ไปกันๆ”คยองซูหันมาตามเสียงผมแล้วก็ทำตาโตขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นน้ำหวานแล้วก็รีบวิ่งไปก่อนเลย
โดยไม่รอผม ได้ไงอ่ะ?
ผลงานอื่นๆ ของ TANGMO_CWP ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ TANGMO_CWP
ความคิดเห็น