(EXO)ปฏิบัติการรักล็อกหัวใจนายสุดเลิ๊ฟ - นิยาย (EXO)ปฏิบัติการรักล็อกหัวใจนายสุดเลิ๊ฟ : Dek-D.com - Writer
×

    (EXO)ปฏิบัติการรักล็อกหัวใจนายสุดเลิ๊ฟ

    เมื่อเข้า'จงอิน'หนุ่มสุดแบทบอยที่มาพร้อมด้วยเสห่น์กลับมาตกหลุ่มรักกับ'ดี.โอ' หนุ่มสุดซื้อบื้อที่จะร้องไห้ได้ทุกเวลาที่โดนขัดใจแล้วจะเกิดจะไรขึ้นเมื่อคนรักเก่าของจงอินมาทวงความรักของเธอคืน!

    ผู้เข้าชมรวม

    68

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    68

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    3
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ค. 58 / 18:05 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    “แฮร่กๆ~

    “จงอินเร็วๆสิประตูจะปิดแล้วนะ!”เสียงของชานยอลที่มันนำไปก่อนหน้านี้ตะโกนมาหาผมที่วิ่งตามหลังมันมา

     ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่รีบวิ่งไปให้ทันมันก็เท่านั้นและแล้วตอนนี้เราสองคนก็วิ่งมาหยุดที่ประตูขนาดใหญ่ที่ปิดพอดีกับตอนที่เราวิ่งมาถึงบัตซบเอ๊ย!

    “โถ่วโว้ยยยย!”ชานยอลตะโกนเสียงดังจนยามที่เป็นคนปิดประตูสะดุ้งโหยง

    “เห้ยไม่เป็นไรเว้ย แค่โดนวิ่งรอบสนามสิบรอบเท่านั้นเอง”

    “สิบรอบนั้นมันปีที่แล้วปีนี้สิบห้ารอบต่างหากล่ะ”ครูสาวสวย? ที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้น ว่าไงนะสิบห้ารอบอย่างงั้นหรอ แค่สิบรอบผมก็จะตายแล้วนะ

    “โห้ยอะไรอ่ะครูนี้เปิดเทอมวันแรกเอง เด็กอย่างพวกเราก็ต้องมาสายเป็นธรรมดาอยู่แล้วอ่า”

    “นี้ปาร์คชานยอล เธออยู่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ม.สี่แล้วนะ เธอก็น่าจะรู้ว่ากฎของโรงเรียนเป็นยังไง ยามเปิดประตูให้เด็กพวกนี้เข้ามา”เมื่อครูพูดจบนางก็หันไปสั่งยามชอดๆ ผมนี้สงสารยามจริงๆที่ต้องมาทำตามคำสั่งยัยนี้ทุกเช้า

    “เอ้า ยืนทำไมกันอยู่ล่ะไปวิ่งได้แล้วล่ะวิ่งให้ครบล่ะ”นางหันมายิ้มแล้วก็เดินกลับไปนั่งตรงโต๊ะม้าหินใกล้ๆสนาม ให้ตายเหอะผมรู้จักครูคนนี้ดีนางชอบไปอยู่กับพวกผู้ชายไม่ว่าจะตอนไหนก็ตามเคยถูกเรียกไปพบหลายรอบแล้วแต่นางก็ยังทำตัวเหมือนเดิมอยู่ ผมไม่รู้จริงๆว่าเธอเป็นครูได้ยังไง

    “ไปเหอะมึง”ชานยอลพูดแล้วออกเดิน

     พวกเราเดินมาถึงที่สนามแล้วเริ่มวิ่ง ผมก็น่าจะโชคดีหน่อยมั้งที่เป็นนักกีฬาเก่าไม่เหมือนชานยอลที่วันๆไม่ทำห่าอะไรเลยนอกจากนอนอย่างเดียว ข้าวปลาก็ไม่ค่อยกินนะมันหน่ะ

    “แฮร่กๆ”ผมหยุดวิ่งเพราะอาการเหนื่อยที่เริ่มจะมากขึ้นเข้าไปทุกที สนามนี้ไม่ใช่เล็กๆนะ ขนาดมันเท่ากับสนามกีฬาแห่งชาติเลยนะ

    “นี้นายหน่ะ หยุดวิ่งทำไมเหลืออีกห้ารอบวิ่งไปเร็วๆเข้า!”โว้ยยยยยย อิเจ๊นี้ยังจะตะโกมข้ามสนามมาได้อีกเนอะ พลังเสียงไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย

    “มึงไหวป่ะว่ะ”ชานยอลที่วิ่งมาหยุดอยู่ข้างๆผมพูดขึ้น ก่อนที่จะถามคนอื่นนี้ถามตัวเองก่อนบ้างหรือป่าว สภาพดูไมได้ยิ่งกว่ากูอีก

    “ไหวดิมึง ไปเหอะเหลืออีกแค่ห้ารอบเอง”ผมพูดแล้วเริ่มวิ่งต่อ เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มเรียนคาบแรกแล้ว ถ้าเราไปไม่ทันคาพแรกอีก เดี๋ยวก็จะโดนทำทาอีก โรงเรียนนี้แม่งโหดจริงๆ

    พรึ่บ!

     พอวิ่งจนครบขาของผมมันก็ร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที่ ถ้าเลือกได้อยากจะนอนมันสะตรงนี้เลยจริงๆ

    “จับมือเราสิ”

     อยู่ดีๆก็มีมือเล็กๆขาวๆยื่นมาตรงหน้าผม มันทำให้ผมมองไล่จากมือจนไปเห็นใบหน้าสีขาวที่มีดวงตากลมโต ทะ...ทำไมน่ารักจังว่ะ

    หมับ

    “ผมตัดสินใจจับมือเล็กๆนั้น มือเล็กๆนั้นก็ออกแรงดึงผมขึ้นยืน ทั้งๆที่ตัวเองตัวเล็กมากแท้ๆยังจะพยายามดึงผมอีกนะ

    “ขอบใจนะ”ผมพูดขึ้นพร้อมมองตากลมโตนั้น

    “ไม่เป็นไรหรอก อ่ะ เรารู้ว่านายเหนื่อย”พูดไม่ทันจบร่างเล็กๆนั้นก็ส่งน้ำเปล่ามาให้ผม

    “ขอบใจอีกรอบนะ”ผมรับน้ำนั้นมาแล้วเปิดกินจนหมดขวด”ว่าแต่นายรู้จักฉันหรอ?”

    “ป่าวหรอกพอดีเราญาติดีหน่ะเห็นใครก็อยากจะรู้จักแล้วก็อยากช่วยไปหมดเลยพอดีเราเห็นนายโดนทำโทษแบบนี้เลยสงสารหน่ะ วันหลังก็อย่ามาช้าอีกสิจะได้ไม่ต้องโดนทำโทษบ่อย”ร่างเล็กนั้นพูดไปก็ทำหน้าสงสารผมเข้าไปเรื่อยๆ

    “พูดอย่างกับว่านายเป็นแม่ฉันอย่างงั้นล่ะ วันนี้วันแรกใครมันจะไม่มาสายกันบ้างว่ะ”

    “เราไง”ร่างเล็กนั้นมองตาผมแล้วกระพริบตาปริบๆ

    “เอออ พ่อคนดีศรีกรุงโซลลลลล”

    “ห้าๆๆๆๆ เราชื่อคยองซูนะ เรียกว่าดีโอก็ได้ เราพึ่งมาเรียนที่นี้เป็นปีแรกแต่อยู่ม.ห้าแล้ว”อะไรของมันว่ะเข้ามาตอนม.ห้าเนื่ยนะ

    “อ่าวทำไมย้ายมากลางเทอมขนาดนี้อ่ะ”

    “คือเราต้องย้ายบ้านหน่ะ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราไปล่ะ”แล้วร่างเล็กก็หันหลังเดินจากผมไป อะไรของเข้าว่ะ

    “เห้ยยยไอ้เพื่อนเวร มึงไม่คิดจะรอกูเลยใช่ม้ายยยยยย”ชานยอบที่วิ่งมาหาผมในสภาพที่เหมือนไปรบมาพูดขึ้น

    “อะไรของมึงว่ะ”

    “เห้นแล้วนี้ไปเอาน้ำมาจากไหนเห้ยกูอยากแดกบ้างว่ะไปซื้อน้ำกัน มึงแบกกูหน่อยกูจะไมไหวแล้ววว”

    “พ่องมึงอ่ะเดินเองเลยมึง”ผมหันไปทำหน้าโหดๆใส่มันทีนึงแล้วเดินหนีมันมา

    “ฮืออออออออ จงอินใจร้าย”แล้วชานยอลก็เดินตามผมมา

     ผมเดินมาถึงห้องด้วยความยากลำบากเพราะแขนข้างนึงก็ประคองชานยอลอีกข้างก็ต้องจับราวจับกำแพงยึดตัวเองเพราะสภาพพวกเราจะไมไหวกันแล้ว ขามันออกกำลังมากเกินไปทำให้รู้สึกปวดกล้ามเนื้อแปล๊บๆเวลาเกร็งมัน

    “นี้พวกเธอเกือบมาสายนะรู้มั๊ย”พอพวกเราก้าวเข้าไปให้ห้องปุ๊ป ครูประจำชั้นก้เริ่มด่าพวกเราทันที แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าทั้งห้องก็หันมามอพวกผม แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่าคนที่อยู่ข้างๆครูก็หันมามองผม และนั้นทำให้ผมรู้ว่า เราได้เจอกันอีกแล้ว

    “พวกนายนะ ไปหาที่นั่งเลยนะ แล้วตั้งใจฟังเพื่อนใหม่แนะนำตัวแล้วถ้าไม่ฟังอีกนะพวกนายได้เจอดีแน่ๆ”สิ้นสุดเสียงสวดตอนเช้าของครูผมกับชานยอลก็พากันไปนั่งที่ของตัวเองที่นั่งตั้งแต่ปีที่แล้ว

    “ ผมชื่อโด คยองซูครับชื่อเล่นชื่อดีโอ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”คยองซูพูดพร้อมกับก้มหัวลงเก้าสิบองศา

    “เอาล่ะเนื่องจากว่าห้องเรามีคนเพิ่มมาใหม่เพราะงั้นโต๊ะก็จะมีเพิ่มมาหนึ่งตัวแต่ถ้าจะให้คยองซูไปนั่งคนเดียวมันก็จะโหดร้ายไปงั้นครูขอเพิ่มโต๊ะไปตรงแถวหลังสุดของห้องแล้วกันนะ”เฮือกกกกก ว่าไงนะหลังสุดของห้องก็เป็นที่ของผมกับชานยอลนี้ คยองซูจะมานั่งงั้นหรอ ไม่น้า

     คยองซูเดินมาพร้อมกับโต๊ะและเก้าอี้ที่ลากมาด้วยและมาหยุดตรงข้างๆผม คยองซูยิ้มอย่างรวยฟันให้ผมทีนึ่งแล้วจัดการกับโต๊ะและข้าวของ ของตัวเอง

    คยองซูทำหน้ามุ้ยๆให้กับหนังสือที่อยู่เต็มกระเป่าแล้วจัดการหยิบมันขึ้นมาใส่เข้าไปที่ใต้โต๊ะของตัวเอง แม่งโครตน่ารักเลยว่ะ

    “นายมองหน้าเราทำไมอ่ะ หน้าเรามีอะไรผิดปกติหรือป่าว?” ผมสะดุ้งเล็กน้อยและหันหน้ามามองตรงไปที่กระดาน ถ้าคนตัวเล็กไม่ทักผมก็คงไม่รู้หรอกว่าผมของหน้าเข้าไปนานมากขนาดไหน ส่วนไอ้ชานยอลตอนนี้มันหลับไปแล้วเพราะอาการเหนื่อยมันกำเริบ

    “ป่าวนี้ไม่มีอะไร”

    “เรามานั่งด้วยกันแล้วนะนายไม่คิดจะแนะนำตัวกับเราหน่อยหรอ หรือเรามันไม่น่าคบขนาดนั้นเลย”คนตัวเล็กทำหน้าเศร้าลงหลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ในตาเริ่มแดงก่ำไม่นานน้ำตาก็ไหลออกมาก นี้มันอะไรกันว่ะเนี่ยยยย

    “เห้ยร้องไห้อ่อว่ะ เห้ยยยอย่าร้องดิ ก็บอกว่าอน่าร้องไงงงงง”

    “ฮึก~ ฮืออออออออออออออ~”ผมยิ่งพูดคนตัวเล็กก็ยิ่งร้องไห้เอาเข้าไปเถอะชีวิตของจงอิน

    “เห้ย ฉันทำอะไรให้นายเนี่ยนายร้องไห้ทำไป หมาที่บ้านตายหรอ?”

    “นายฮึกนายปากเสีย ฮึก เราฮึก หมา ฮึก ฮือออออออออออออออ~”เอาเข้าไปพูดก็ไม่เป็นประโยคแถมด่าตัวเองอีก

    “โอ๋ๆไม่ร้องๆ เดี๋ยวเลี้ยงขนมเอามั้ย?”คนตัวเล็กสะดุ้งนิดนึงแล้วหันมามองตาผม

    “จริงหรอ นายจะเลี้ยงขนมเราจริงๆหรอ”คนตัวเล็กเอามือมาปาดน้ำตาตัวเอง มันทำให้ผมคิดได้ว่าตัวเองมีผ้าเช็ดหน้าหนิหว่าเลยหยิบขึ้นมาแล้วซับน้ำตาของคนตัวเล็กเบาๆ ทีแรกคนตัวเล็กก็สะดุ้งเบาๆแต่ก็ยอมให้ผมเช็ดน้ำตาแต่โดยดี ดีนะที่ขี้แยแต่ไม่ดื้อน่ารักจริงๆ

    “จริงสินายอยากกินอะไรหล่ะ”

    “เอาอะไรก็ได้ เราชอบกินของหวานมากๆเลยนายเลี้ยงของหวานเราหน่อยนะๆ”มือเล็กๆเอื้มมาจับแขนผมแล้วเขย่าไปเขย่ามาเหมือนเด็กๆ

    “ได้สิๆ”

    “เย้!”ล่างเล็กชูมือขึ้นเหนือหัวแล้วยิ้มอย่างพอใจออกมา”นายยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าชื่ออะไร”

    “อ่อ เราชื่อคิม จงอินหน่ะเรียกว่าไคก็ได้นะ”ผมยิ้มไปให้คนตัวเล็กๆที่นั่งอยู่ตรงข้ามเบาๆ

    “โห๊ งั้นเราเรียกว่าจงอินแล้วกันนะ จงอินวันนี้ไปกินข้าวกับเรานะๆๆๆๆ”และอีกครั้งล่างเล็กเลื่อนมือมาจับแขนผมแล้วเขย่าอีกครั้ง

    “ได้สิ แล้วนี้คยองซูมีเพื่อนหรือยัง?”

    “มีแล้วๆ จงอินไงเพื่อนเรา เพื่อนคนแรกของเราในโรงเรียนนี้เลยนะ”คยองซูมองหน้าผมแล้วทำตาโตๆ เอิ่มคือ น่ารัก

    “โห๊ มีเพื่อนตั้งหลายคนดีใจด้วยนะคยองซู”ผมยิ้มอย่างรวยฟันให้คยองซูหนึ่งที

    “จงอินอ่ะ อย่าแกล้งเราสิ เราไม่ค่อยได้คุยกับใครหรอกนะนี้เราคุยกับจงอินตั้งเยอะจงอินไม่ดีใจหรอ”คยองซูทำหน้ามุ้ยๆใส่ผม

    “โอ๋~ ไม่งอนนะครับคนดี “แล้วผมก็เอื้อมมือไปจับหัวคยองซูแล้วโยกไปโยกมา

    “จงอินอะ ชอบแกล้งเรานี้เราพึ่งรู้จักกันวันแรกเองนะ จงอินยังแกล้งเราขนาดนี้เลย”

    “ห้าๆๆๆ ก็คยองซูเหมือนเด็กอ่ะน่าแกล้งดีออก นี้คยองซูอยู่โรงเรียนเก่าโดนแกล้งแบบนี้หรือป่าวเนี่ย”

     

    “ไม่เลยจงอิน ที่โรงเรียนเก่าเรามันแย่มากเลยล่ะ ทุกคนเอาแต่เห็นแก่ตัว ที่นั้นมีแต่คนเดินคนเดียวกินข้าวคนเดียวทำอะไรก็ทำคนเดียวเวลาสอบก็แข่งกันอยู่นั้นและ ขนาดตอบคำถามในห้องยังแข่งกันเลย เราโชคดีมากๆเลยนะที่ได้มาโรงเรียนนี้แล้วก็ได้มาเป็นเพื่อนกับจงอินอ่ะ”คยองซูหันมามองหน้าผมอีกครั้งและมันทำให้หัวใจของผมกระตุกไปชั่วนึงแล้วก็กลับมาเต้นตามจังหว่ะเดิมของมัน

    “ฉันว่าคยองซูคงเหงาแย่แต่ไม่เป็นไรนะ เราอยู่ตรงนี้แล้วปรึกษาเราได้เสมอ”ผมยิ้มให้คยองซูอีกรอบแล้วก็หันไปเห็นครูที่เดินเข้ามาในห้อง

    “ เอิ่ม..ครูมาสายไปสิบห้านาทีพวกเธอคงไม่ว่าอะไรหรอกเนอะก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่เปิดเทอมวันแรก ไหนเปิดเทอมวันแรกใครยังไม่มีเพื่อนบ้างยกมือขึ้น”ครูพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเพื่อหาเสียงแต่ทว่า ทั้งห้องเงียบกริบ

    ...

    “อ่าวแล้วครูได้ข่าวว่าห้องนี้มีคนมาใหม่ มีเพื่อนแล้วหรอลูกไหนขอดูหน้าหน่อยสิ”ครูพูดพร้อมกับกวาดสายตาเพื่อหาคยองซู

    “อ่อ..ผมมีเพื่อนแล้วครับ”คยองซูยืนขึ้นพร้อมพูด แต่ก็พูดติดๆเพราะว่าเขิน ก็แน่ล่ะคนทั้งห้องมองเลยนะนั้น

    “ว้าว ดีจังมีเพื่อนแล้วนี้พึ่งเรียนคาบแรกเองดีมาก งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่าเนอะ ทุกคนเปิดไปหน้าสองแล้วอ่านให้ครูฟังสิ”

     แล้วเราก็เรียนกันไปเรื่อยๆ ผมอยากจะบอกเลยว่า ตลอดการเรียนความรู้ไม่ค่อยได้เข้าหัวผมเลยไม่ว่าจะเป็นสูตรอะไรทั้งหลายแหล่ ผมยิ้มได้ทุกทีที่มองหน้าคยองซูเวลาเข้าไม่เข้าใจอะไรบางอย่างแล้วทำหน้ามุ้ยๆ มันน่ารักดี

    พักกลางวัน

     ผมชานยอลแล้วก็คยองซูเดินลงมาที่โรงอาหารพร้อมกัน หน้าชานยอลตอนนี้ก็เหมือนคนไม่ได้นอนมาสิบชาติแต่คือตลอดชั่วโมงเรียนมันหลับทุกคาบเลย

    “โห๊~ โรงอาหารคนเยอะจังจงอิน”คยองซูยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูทาง แต่ผมว่าค่ามันก็คงจะเท่าเดิมเพราะคยองซูตัวเล็กมาก

    “เหอะ พวกเราก็อยู่อย่างนี้มาหลายปีละ ระวังเหอะนายหน่ะจะโดนชนโดยไม่รู้ตัวยิ่งตัวเล็กๆอยู่”ชานยอลหันมาพูดกับคยองซู

    “ชานยอลอ่ะ อย่าพูดขู่เราสิ เรากลัวนะ”คยองซูทำตาโตๆแล้วมองชานยอลด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไหร่

    “ถ้าคยองซูกลัว เราไปซื้อข้าวให้ก็ได้นะ คยองซูไปรอที่โต๊ะเหอะ”

    “อืม ก็ด่ะ ฝากด้วยนะจงอิน”แล้วคยองซูก็รีบวิ่งไปที่โต๊ะว่างๆที่เหลือน้อยเต็มทีแล้วก็นั่งลง

     ผมกับชานยอลก็เดินมาซื้อข้าวแบบปกติ

    “เหอะ เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยจะเลี้ยงข้าวแต่กับไปเลี้ยงให้ไอ้มนุษย์ฮอบบิตนั้นอะนะ มันน่าน้อยใจจริงๆ”ระหว่างที่เรากำลังต่อแถวซื้อข้าวผมก็โดนชานยอลแซว

    “อะไรของมึงว่ะ ขนมกูก็เคยเลี้ยงมึงตอนนั้นมึงไม่ได้เอากระเป๋าตังมากูก็เลี้ยงมึง นี้กูเห็นเค้าน่าจะดูแลตัวเองไม่ได้ต่างหากกูเลยอาสาช่วย”

    “หรอออออ มึงไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลยไอ้ห่า”แล้วผมก็โดนชานยอลพลั่กหัว ผมผิดอะไรเนี่ยยยยยยย

     ไม่นานนักผมก็เดินมาที่โต๊ะ แต่ภาพที่ผมเห็นคือคนตัวเล็กนอนเอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะสีขาวแล้วก็เอามือลูบท้องตัวเองไปมา

    “นี้นายโว้ยยยยยย ตื่นโว้ยยยยย ข้าวมาแล้วโว้ยยยยยย!!!!”ชานยอลเดินมาเมื่อเห็นคยองซูอยู่ในท่านั้นก็ตะโกนทันที คยองซูที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็รีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วมองไปมาซ้ายทีขวาที

    “ชานยอลอ่ะ ทำไมต้องตะโกนด้วยเล่า พูดดีๆกับเราก็ได้หนิ เราตกใจหมดเลย”คยองซูทำหน้ามุ้ยๆใส่ชานยอล ผมเห็นแบบนั้นเลยพูดออกไปว่า

    “เมื่อกี้เห็นนอนฟุบที่โต๊ะเป็นอะไรหรือป่าว”ผมถามออกไปพร้อมกับวางข้าวไปตรงหน้าของคนตัวเล็กก่อนที่จะนั่งลงข้างๆเข้า

    “คือ เราหิวหน่ะ ฮ่ะๆ”คยองซูยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนที่จะตักข้าวคำใหญ่ๆเข้าปากตัวเอง

    “ไม่ต้องรีบกินก็ได้นะคยองซูเดี๋ยวกสำลักหรอก

    “ไอ่อ้องเอ็นอ่วง เอาอำแอบอี้อะอำ”คยองซูที่มีข้าวอยู่ในปากเต็มไปหมดหันมาพูดกับผม นี้ถ้ามันพุ่งใส่หน้าผมนะ ไม่ว่าคยองซูจะน่ารักขนาดไหนก็ตามผมก็ถีบได้หมดนะจะบอกให้

    “เอิ่มกินให้หมดแล้วค่อยพูดก็ได้นะคยองซูเราไม่หนีไปไหนหรอก”

    “เหอะ!”ชานยอลทำหน้าเบื่อๆแล้วก็หันไปมองตรงทางเดินแล้วชานยอลก็เบิกตากว้างขึ้น

    “อะไรของมึงว่ะชานทำหน้าอย่างกับเจอนางงาม”

    “มึงกูเจอแล้ว เนื้อคู่กู”ชานยอลพูดแล้วชี้ไปที่ ผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆหน้าเรียวๆท่าทางร่าเริงตลอดเวลา ริมฝีปากบางเชียบผมสีน้ำตาลอ่อน มันแลดูเข้ากับสีผิวสุดๆไปเลย

    “ชานยอลนิยมแบบนี้หรอ?”คยองซูพูดก่อนที่จะตักข้าวเข้าปาก

    “อืมกูชอบแบบนี้ล่ะ ตัวเล็กน่ารักน่ากอดหู๊ยยยยยย ถ้าได้มาเป็นแฟนนะ”แล้วชานยอลก็ทำหน้าหื่นๆ เห้ยยยมันเริ่มจะไม่ไหวแล้วว่ะ

    “มึง หยุดเลยถ้าไม่ไหวไปห้องน้ำก่อนได้นะเว้ยแล้วไปเจอกันที่ห้อง”

    “มึงนี้บ้าหรอ มึงเห็นกูเป็นคนยังไงว่ะจงอิน กูดูเหมือนคนโรคจิตขนาดนั้นเลยหรอ?” ถามมาได้เนอะเพื่อนกู

    “ไม่หรอก ดีแล้ว ดีใจด้วยนะที่ชานยอลค้นพบตัวเองแล้วขอให้ได้คบกับคนนะชานยอลหน่ะเป็นคนที่ชอบตะโกนมากเลยระวังเข้าจะเบื่อชานยอลเพราะการที่ชานยอลตะโกนบ่อยๆเหมือนที่พูดด้วยอยู่ห่างร้อยเมตรอย่างนั้นล่ะแล้วก็ขอให้คบกันนานๆด้วยขอให้ไม่มีปัญหาใดๆทั้งปวงขอให้ชานยอลดูแลคนนั้นดีๆเหมือนที่คนนั้นจะดูแลชานยอลหลังจากนี้ล่ะตลอดไป ขอให้ที่เราพูดมาเมื่อกี้เป็นความจริงทุกประการเพี้ยงงงงงงงงง”แล้วคยองซูก็พนมมือแล้วก็สวดๆๆๆๆให้ชานยอล เล่นเอาผมกบชานนี้อึ้งเลย

    “นี้นายมาจากลักธิขงจื้อหรือป่าวเนี่ยหรือว่าถึงไปเข้าวัดบวดมาสิบชาติ”

    “ป่าวนะ นี้ชานยอลไม่เชื่อที่เราอวยพรไปหรอ”คยองซูมองหน้าชานยอลพร้อมกับทำหน้าสงสัย

    “ก็...ป่าว”ผมมองชานยอลด้วยหางตาเล็กน้อยล่ะนั้นก็ทำให้ชานยอลที่กำลังจะเถียงคยองซูเงียบลง

    หลังเลิกเรียน

     ผมเดินออกมาจากที่โรงเรียนพร้อมกับคยองซูเพราะชานยอลบอกว่าขาเวลาไปตามหารักก่อนเลยไล่ให้ผมกับคยองซูกลับก่อน คยองซูก็โวยวายจะกินขนมมาตั้งแต่พักกลางวันแล้ว และก็หาว่าผมไม่ซื้อขนมให้อีก ตอนเย็นนี้มันเลยเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องพาคยองซูมาหาของหวานกิน

    “นี้ๆจงอินๆร้านนั้นน่ากินจังๆ ไม่เอาๆ ร้านนี้น่ากินกว่าๆ หู๊ยยยยยย~ ร้านนั้นตกแต่งร้านน่ารักมากอ่ะ จงอินนนนช่วยเราเลือกหน่อยสิ”คยองซูเดินลากผมมาตรงซอยเดินเข้าโรงเรียนที่มีของขายเต็มไปหมด ส่วนมากก็พวกร้านของหวานแบบนี้เนี่ยล่ะ ไม่ก็พวกร้านข้าวเพื่อพวกนักบอลที่กลับบ้านเย็นๆจะหิว ร้านขายเสื้อผ้าหรือของเล็กๆน้อยๆก็มีในซอยนี้นะไม่ใช่ว่าจะไม่มี

    “ฉันว่านะกินร้านนั้นดีกว่า”ผมชี้ไปที่ร้านที่มีชื่อว่า น้ำหวาน ภายในร้านมีสีชมพูดูหวานแหว๋วมาก แถมพวกผู้หญิงในห้องชอบบอกด้วยว่าน้ำหวานอร่อยงั้นงี้ แต่เอาความจริงป่ะ ผมไม่เคยเข้าร้านแบบนี้เลย ทุกทีเวลาเลิกเรียนก็กลับบ้านเลยหรือไม่ก็ไปเที่ยวกับชานยอลแล้วก็ไปต่อกันที่ร้านเหล้า

    “หู๊ยๆ น่ากินๆ ป่ะๆๆๆ ไปกันๆ”คยองซูหันมาตามเสียงผมแล้วก็ทำตาโตขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นน้ำหวานแล้วก็รีบวิ่งไปก่อนเลย โดยไม่รอผม ได้ไงอ่ะ?


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น