ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจสังหาร

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 66



    ปัง !

    เสียงปืนนัดสุดท้าย ก่อนที่ร่างเล็กของหญิงสาวจะร่วงลงสู่หน้าผา เบื้องล่างแม้จะเป็นแม่น้ำ แต่ก็สูงมากพอจะทำให้คนที่ตกลงไปไร้ลมหายใจ 

    ทำไม 

    หญิงสาวตั้งคำถาม เธออยากตะโกนมันออกไป แต่ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ร่างกายบอบช้ำจากการถูกทำร้าย ทั้งยังถูกยิง และถูกมีดบาดตามร่างกาย เธอไม่อาจทนพิษบาดแผลไหว 

    นัยน์ตาสีน้ำตาลเริ่มพร่าเลือน ภาพท้องฟ้าสุดท้ายค่อย ๆ มืดดับ จนมองไม่เห็นสิ่งรอบตัว 

    ตู้ม !! 

    สายน้ำฟุ้งกระจาย แตกตัวจากแรงกระแทก ก่อนร่างเล็กจะจมหายไป 

    "เรียบร้อยครับ" 

    ชายชุดดำโทรรายงานหัวหน้าทันที เพื่อจบภาระกิจ 

    "ขอโทษนะเฟยหมิง" แม้จะรู้สึกผิด แต่ด้วยหน้าที่แล้ว ไม่อาจปฏิเสธได้ สิ่งสุดท้ายที่ชายชุดดำทำให้ เขายืนสงบนิ่งเพื่อส่งวิญญาณหญิงสาวสู่สุคติ 





    "อาตง ๆ"

    "ครับ" ชายหนุ่มตะโกนออกมาจากบ้านไม้ ก่อนร่างสูงโปร่งจะวิ่งตามเสียงมา 

    "ท่านพาใครมาด้วย" 

    ตาแก่เฉินไม่ตอบคำถามลูกศิษย์ เขาเร่งให้ตงหยางช่วยพยุงร่างบอบช้ำของหญิงสาวเข้าไปในบ้าน 

    ตงหยางวางร่างเล็กในชุดดำสนิทแนบเนื้อลงบนแคร่ไม้ไผ่ สังเกตุคร่าว ๆ ด้วยสายตา เห็นบาดแผลตามร่างกาย ราวกับเพิ่งผ่านสนามรบมา 

    เสื้อผ้าเปียกปอนด์ แต่ร่างกายของหญิงสาวกลับร้อนผ่าวจากพิษไข้ 

    "นางจะรอดไหมครับ" 

    "นั่นเป็นหน้าที่ของเจ้าแล้วล่ะ" 

    "ท่านอา" เมื่อได้เห็นสีหน้าจริงจังของอาเฉิน ตงหยางก็ไม่อาจปฏิเสธ แม้จะไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่เขามีความรู้และอาจารย์ที่เก่งกาจ แน่นอนว่าเขาต้องทำได้ 

    ตงหยางเริ่มสำรวจดูบาดแผล แต่มีอยู่บาดแผลหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ตรงหัวไหล่ซ้าย ราวกับมีบางอย่างทะลุผ่านและฝังอยู่ด้านใน 

    "เจ้าต้องเอามันออกมา" อาเฉินบอก 

    "อะไรเหรอครับ" 

    "กระสุนปืน"

    อาเฉินที่เคยเห็นบาดแผลเช่นนี้มาก่อน เขารู้ดีว่าจะจัดการกับมันยังไง ชายแก่หยิบมีดปลายแหลมขึ้นมา เขาใช้ไฟลนเพื่อฆ่าเชื้อ จัดการจรดปลายมีดลงบนบาดแผลที่หัวไหล่ซ้าย 

    ควับ 

    หัวกระสุนถูกผ่าออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กแม้จะหลับใหล แต่ด้วยความเจ็บปวดทำให้เธอร้องออกมา ก่อนจะสลบไปอีกครั้ง 

    เลือดจำนวนมากไหลออกมา ตงหยางรับหน้าที่ต่อ เขาจัดการล้างบาดแผล ทำความสะอาด ด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนอาเฉินจะใช่มีดเล่มเดิมจ่อเข้าที่เปลวไฟอีกครั้ง คราวนี้เขาใช้ด้านข้างของมีดที่ยังร้อน นาบลงบนบาดแผล เลือดค่อย ๆ หยุดไหล 

    ตงหยางมองอาจารย์ไม่ละสายตา เขาจดจำทุกขั้นตอนเอาไว้ใส่สมอง 

    "นางเสียเลือดมากจึงมีไข้" อาเฉินบอกลูกศิษย์ ก่อนจะบอกให้ตงหยางเช็ดตัวให้หญิงสาว และทำการรักษาบาดแผลตามร่างกาย 

    "แต่นางเป็นผู้หญิง จะให้ข้าเช็ดตัวนางเหรอครับอาจารย์" ตงหยางพูด เขาไม่อยากหยามเกียรติสตรี

    "หากเจ้าไม่ทำ นางคงมีชีวิตรอดไม่พ้นคืนนี้" 

    "ข้าจะไปต้มยา" ตาแก่เฉินคว้าไม้เท้าประจำตัว พร้อมอุ้มหม้อยาเดินออกจากบ้านไม้ เขาหยิบสร้อยล็อคเก็ตสีเงินออกมา ภาพชายหนุ่มและหญิงสาวคุ้นหน้าทำให้เขาไม่อาจกลั้นน้ำตาไม่ไหว 

    "ข้าขอโทษ" อาเฉินบอกกับคนในภาพถ่าย มือเหี่ยวยกขึ้นปาดน้ำตา 



    ตงหยางทำใจอยู่นาน เขากล่าวคำขอโทษเกินสิบครั้ง กรรไกรเหล็กตัดเสื้อสีดำของหญิงสาวจนขาดออกจากกัน ตงหยางใช้ผ้าห่มปกปิดเรือนร่างให้เธอ นัยน์ตาสีน้ำตาแทบจะปิดสนิทเมื่อต้องสัมผัสใกล้ชิดเนินอกของหญิงสาว 

    "ข้าไม่ได้จะลวนลามเจ้านะ" 

    "ข้าเป็นหมอ" ตงหยางบอก 

    "นางคงไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก" อาเฉินที่ต้มยาเสร็จก่อน เข้ามาดูอาการของหญิงสาว 

    "นางมีรอยสักนกอินทรีย์ด้วย ท่านว่านางเป็นคนของพรรคอินทรีย์หรือเปล่า" ตงหยางถามขึ้น 

    หากเป็นเช่นที่เขาคิด ตงหยางคงเสียใจมากที่ต้องให้การช่วยเหลือเธอ  

    "เจ้าเป็นหมอ หน้าที่เดียวของเจ้าคือช่วยชีวิตคน ไม่ว่าคน ๆ นั้น จะเป็นคนดี หรือคนพาล" อาเฉินเอ่ยคำสอน 

    "ครับ" 

    อาเฉินตบไหล่ลูกศิษย์ราวกับให้กำลังใจ รอยยิ้มที่น้อยครั้งจะเผยออกมา วันนี้กลับปรากฎให้ตงหยางได้เห็น 

    "นางไม่ใช่คนของพรรคอินทรีย์อย่างที่เจ้ากังวลหรอก"  

    "เข้ามาสิลู่ฟาง" 

    หญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วมเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมเสื้อผ้าผู้หญิง  

    "ข้าให้ลู่ฟางมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง เจ้าจะได้คลายกังวล" อาเฉินกล่าว 

    "อ๋อ ครับ" ตงหยางรีบลุกออกจากที่นั่งทันที มอบหน้าที่ส่วนที่เหลืออยู่ให้ลู่ฟางจัดการ 

    "รบกวนด้วยนะครับท่านอา" 



    ระหว่างรอลู่ฟาง อาเฉินได้ทดสอบความรู้ของลูกศิษย์ เขาเอ่ยถามถึงบาดแผลคล้ายมีดบาดตามร่างกายของหญิงสาว ถึงวิธีการรักษาและสมุนไพรที่ใช้ 

    ตงหยางที่มีทฤษฎีเต็มหัว เขาจดจำสมุนไพรได้ทุกตัว และตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง สร้างความพอใจให้อาเฉินไม่น้อย 

    ติดอยู่อย่างเดียวคืออาการมือสั่นเมื่อเห็นเลือดจำนวนมาก นั่นเป็นสาเหตุให้อาเฉินต้องยื่นมือเข้ามาช่วยรักษา 

    ตงหยางก้มมองมือทั้งสองข้างของตัวเอง พลางนึกตำหนิในใจ ที่ไม่อาจก้าวพ้นความกลัวนี้ไปได้ 

    "อีกหน่อยเจ้าจะผ่านมันไปได้" อาเฉินยังคงให้กำลังใจลูกศิษย์ 

    "มันคงเป็นปมในใจข้าไปอีกนาน" 

    ภาพในอดีตหวนมาในความคิดอีกครั้ง ชายหนุ่มชุดดำที่มีรอยสักนกอินทรีย์สิ่งสุดท้ายที่ตงหยางเห็น ก่อนเด็กน้อยจะวิ่งไปกอดร่างของพ่อ เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผล รอยดาบกลางอกแทงทะลุผ่านด้านหลัง นอกจากพ่อแล้ว แม่ และน้องสาวยังถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น 

    เด็กชายวัยสิบขวบนั่งจมกองเลือด ร้องไห้จนตาแดงกล่ำ เขาสาบานต่อกองเลือดนั้นจะแก้แค้นให้ครอบครัว 

    น้ำตาไหลอาบสองแก้มด้วยรู้สึกผิด ที่เขาไม่อาจทำตามคำสาบานนั้นได้ กลับมีชีวิตเพื่อรักษาคนอื่น รวมไปถึงนกอินทรีย์อีกตัวที่เขาเพิ่งช่วยชีวิต 

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ ให้อภัยข้าด้วยเถิด" 

    "พ่อกับแม่คงภูมิใจในตัวเจ้า" อาเฉินปลอบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×