คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ: Elf of Windtanear
“เราคือเผ่าพันธุ์อยู่เหนือมนุษย์อันโสมม...เราคือผู้กำเนิดจาก พระผู้สร้าง ผู้ยิ่งใหญ่...พระองค์ผู้สร้างเราจาก...เส้นผมอันศักดิ์สิทธ์ และ...ลมหายใจอันบริสุทธิ์”...สิ่งเหล่านี้สถิตอยู่ในใจของเอลฟ์ทุกผู้ทุกคน
ณ.ดวงดาวที่ไร้การจารึกและไร้การกล่าวขาน ที่แห่งนี้มี เผ่าพันธุ์ใหญ่ ๆ อยู่ 3เผ่าพันธุ์ นั่นคือ มนุษย์...ปิศาจ....และ เอลฟ์...พวกเขาเรียกดาวดวงนี้ว่า “โลก”
โดยผู้ที่ปกครองพื้นที่กว่า2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดในปัจจุบัน นั่นคือ..มนุษย์...มนุษย์ผู้ต้องการครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนพื้นพิภพ การสู้รบเกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ระหว่าง มนุษย์และปิศาจ...ส่วนเอลฟ์นั้น เป็นเผ่าพันธุ์ที่ถือว่าตนเองคือสิ่งแรกที่พระผู้สร้าง ได้สร้างขึ้น ถือว่าตนเองนั้นเป็นผู้ที่ใกล้เคียงกับเทพเจ้ามากที่สุด...ฉะนั้น หากไม่จำเป็นจึงไม่ต้องการไปยุ่งกับ มนุษย์ หรือ ปิศาจ ....เอลฟ์เป็นเผ่าที่รักสงบ อาศัยอยู่ในป่าลึกกลางหุบเขาศักดิ์สิทธิ์...ที่ว่ากันว่ามีเส้นทางเชื่อมไปสู่สวนแห่งพระเจ้า...
ในอดีต เผ่าเอลฟ์เองก็มิได้รังเกลียดมนุษย์ และยังเห็นว่ามนุษย์ เป็นพี่น้องของตน เพราะ พระผู้สร้างได้ สร้าง มนุษย์ ต่อจากเอลฟ์ เหล่าเอลฟ์ทั้งหลายจึงเห็นว่ามนุษย์เองก็เป็นสิ่งที่เหมือน ๆ กับตนเอง และได้สอนสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำรงชีวิต วิถีทางที่ถูกต้อง และ ยังได้สอนวิทยาการที่สั่งสมมานานของเผ่าเอลฟ์ให้มนุษย์ตัวน้อย วิทยาการทั้งที่ว่าด้วยศิลปะการก่อสร้าง สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ รวมทั้ง เวทมนต์ ศิลปะการต่อสู้แขนงต่าง ๆ เหล่าเอลฟ์ได้เฝ้าฟูมฟัก มนุษย์ตัวน้อย ให้ค่อย ๆ เติบโต...จนกระทั่งเมื่อวันหนึ่งมาถึง....มนุษย์ก็เริ่มมีความคิดว่า...พื้นพิภพ ที่พระผู้สร้างได้สร้างไว้นั้น ได้สร้างไว้เพื่อตนเอง มิใช่เพื่อใครอื่น...จึงเริ่มทำการสู้รบกับเหล่าปิศาจที่ครอบครองพื้นที่อยู่มากมาย ....ในช่วงแรกนั้น พระผู้สร้าง ก็มิได้ต่อว่าอะไรมนุษย์นัก เพราะว่าโลกที่พระองค์สร้าง ถูกเหล่าปิศาจยึดครองอยู่ หากมนุษย์ต้องการ ก็ต้องไปต่อสู้ขับไล่เอาเอง แต่ว่า เมื่อมนุษย์ เริ่มแย่งชิงพื้นที่กลับมาได้ส่วนหนึ่ง ก็เริ่มหันมาสู้กับเผ่าเอลฟ์ เพื่อแย่งชิงดินแดน แห่งความอุดมสมบูรณ์ และต้องการแสดงให้เห็นว่าตนเอง มิได้ด้อยไปกว่า เอลฟ์ที่เป็น ที่รักของ พระผู้สร้าง
สาเหตุที่เริ่มมีความคิดอิจฉาริษยา ความอยากมี อยากได้ เนื่องจาก ตอนที่พระผู้สร้าง ได้สร้างมนุษย์นั้น เทพปิศาจได้แอบ นำสิ่งที่เป็นสิ่งต้องห้ามใส่เข้าไว้นั่นคือ "ความโลภ" ทำให้มนุษย์นั้น เป็นเสมือน ลูกครึ่ง ระหว่าง เทพและปิศาจ แต่ว่า มิได้มีอำนาจ พิเศษใด ๆ ทำให้ถูกเทพบางองค์ เห็นว่าไม่สมควรอาศัยอยู่บนสวรรค์แห่งนี้....เมื่อมนุษย์ที่ถูกสร้างมาที่หลังนั้น ถูกสั่งให้ไปอยู่ ด้านโลกเบื้องล่าง เอลฟ์จึงเกรงว่า จะทำอะไรไม่ได้ จึงได้สอนสิ่งต่าง ๆ ให้มนุษย์ เพราะเอลฟ์เห็นว่ามนุษย์ มิใช่ผู้ผิด มิได้ต้องการ สิ่งต้องห้ามเหล่านี้ แต่ปิศาจนั้นเป็นผู้นำมายัดเยียดให้เองโดยที่มนุษย์หาได้ต้องการสิ่งเหล่านี้ไม่ การที่เทพนั้นได้ขับให้ลงไปอยู่ด้านล่างที่เต็มไปด้วยปิศาจ นั้นเป็นโทษที่ไม่สมควรได้รับ แต่ก็มิได้โกรธเคืองอันใด เพราะถือว่า การตัดสินใจของ พระผู้สร้างเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ และเชื่อว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มีเหตุและผลในตัวเองอยู่แล้ว
แต่แล้ว เมื่อมนุษย์หันมาต่อสู้กับเอลฟ์ ...และเริ่มมีความคิดว่า เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ต้องถูกทำลาย ต้องถูกกำจัดทิ้งเสีย มิฉะนั้น ตนเอง จะถูกทำลาย...ทำให้เหล่าเอลฟ์เห็นและเข้าใจในสิ่งที่พระผู้สร้างได้ตัดสินใจลงไป และเริ่มรู้สึกผิดที่ตนเองได้สอนสิ่งต่าง ๆ ให้กับมนุษย์ ...ด้วยความรู้สึกผิดนี้เหล่าเอลฟ์จึงทูลขอดินแดนส่วนที่เป็นดินแดงเชื่อมต่อกับสวนแห่งพระเจ้า ทางเข้าสู้สวรรค์ เพื่อปกป้องสวรรค์จากความทะเยอทะยานอยากมีอยากได้ของมนุษย์และเพื่อป้องกันปิศาจที่อาจเข้ามาทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สวยงามแห่งนี้...พระผู้สร้างจึงประทานดินแดนส่วนนั้นให้เอลฟ์เป็นผู้ดูแล...
วันเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างได้แปลเปลี่ยนไป ดินแดนที่เป็นของเอลฟ์ เองก็ถูกแบ่งออกไปหลายที่ เหล่าเอลฟ์ต่างหาดินแดน ที่ตนเองต้องการและสร้างเมืองขึ้น หลายพันปีผ่านไป...เหล่าเอลฟ์เองก็ไม่รู้ว่าดินแดนประตูที่เป็นเส้นทางเชื่อมสู่ ดินแดนแห่งพระเจ้าอยู่แห่งใด ช่วงชีวิตของ เอลฟ์เอง ก็สั้นลงจนแทบจะเท่าเทียมกับ มนุษย์ จะมีสิ่งที่แตกต่างกันก็เพียงแค่ รูปร่าง และ พลัง เวทแห่งธรรมชาติ ความสามารถพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ส่วนเรื่องอายุนั้น ที่ว่าแทบจะเท่าเทียมกับมนุษย์นั้นก็คือ เอลฟ์ตนนึง จะมีช่วงชีวิตอยู่เพียงแค่ 2ร้อย- 3 ร้อยปีเท่านั้น ไม่เหมือนสมัยที่พระผู้สร้าง ได้สร้างไว้ที่ยาวนานนับพันปี อาณาจักรเอลฟ์ที่ยังคงอยู่ได้จนถึงปัจจุบันนั้นก็เหลือเพียงแห่งเดียว เท่านั้น นั่นก็คือ “อาณาจักร วินทาเนียร์”
ความคิดเห็น