ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดุจทรายใต้ตะวัน

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.34K
      29
      6 ต.ค. 59

    ตอนที่ 3

     

    ทหารหลายนายต่างโค้งศีรษะน้อยๆให้รัชทายาทหนุ่มที่เดินไปตามทางระเบียงเพื่อกลับบริเวณของตน ซึ่งกินพื้นที่บริเวณฝั่งปีกขวาของพระราชวังเกือบทั้งหมด เนื่องจากชีคยัสซิมต้องการให้เขาได้มีความเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายจากความเครียดเรื่องงาน จึงกลายเป็นสถานที่หวงห้ามสำหรับคนภายนอกแม้แต่เหล่าญาติพี่น้องก็ไม่สามารถเข้ามาหากไม่ได้รับอนุญาต

    เสียงฝีเท้าที่ดังตามหลังมาไม่ได้ทำให้เขาหยุดจนกระทั่งร่างเล็กของท่านยามีล่าปรี่ขวางหน้าเอาไว้ สองแขนกางปิดกั้นไม่ให้พี่ชายผ่านจนชายหนุ่มอดนึกขำไม่ได้เพราะในความจริงแค่ดันเบาๆแม่น้องสาวตัวดีก็คงกระเด็นแล้ว

    มีอะไรยามีล่า? เขาถามถึงจุดประสงค์

    น้องมีเรื่องอยากถามเกี่ยวกับท่านราเนียค่ะ

    มีอะไรรีบว่ามา...พี่เหนื่อยเหลือเกินอยากพักผ่อนเต็มทน

    ในตอนนี้ชีคลีธรู้สึกเมื่อยล้าเพราะการออกงานทั้งวัน ยิ่งต้องมาคุยเรื่องผู้หญิงคนนั้นทำให้เพลียกว่าเดิม

    เหตุใดท่านพี่ลีธจึงเกลียดชังท่านราเนีย น้องไม่เคยพบท่านพี่แสดงพฤติกรรมแย่ๆกับสตรีคนใดมาก่อนเลยนะคะ?

    บุรุษหนุ่มเหลียวมองเหล่าทหารที่ยืนเฝ้าทางเข้าออกของพื้นที่ส่วนตัวอย่างชั่งใจอยู่ชั่วครู่

    ตามพี่มาพูดจบร่างสูงโปร่งก็เดินนำสตรีสูงศักดิ์เข้าไปในบริเวณหวงห้ามก่อนเปิดประตูห้องทำงานแล้วดันตัวน้องสาวเข้าไป และเมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงค่อยตอบคำถามนั้น

    พี่ไม่ไว้ใจในตัวราเนีย

    ทำไมคะ?

    พี่คิดว่าราเนียเป็นพวกกบฏคำตอบของชีคลีธสร้างความตกใจให้แก่ท่านยามีล่าเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เธอเข้าใจถึงสาเหตุที่เขาต้องพามาคุยในห้องทำงานส่วนตัว เนื่องจากเรื่องนี้ค่อนข้างร้ายแรงพอสมควรและมีโทษถึงประหารชีวิตเลยทีเดียว

    เหตุใดท่านพี่จึงคิดเช่นนั้นคะ?

    น้องรู้เกี่ยวกับประเทศของเราอยู่แล้วยามีล่า ว่า...ท่านพ่อเพิ่งก่อตั้งสหรัฐอาหรับฟาเราะห์ได้แค่สามสิบปี ซึ่งก่อนหน้านี้มีการช่วงชิงอำนาจระหว่างชนเผ่าต่างๆบ่อยครั้ง การปฏิรูประบอบการปกครองของท่านพ่อทำให้หลายชนเผ่ายอมรับและสนับสนุนเป็นกษัตริย์  ต่อมาจึงแต่งตั้งผู้นำบางเผ่าขึ้นปกครองรัฐต่างๆที่รวมจากชนเผ่าน้อยใหญ่กลายเป็นประเทศ

    ภายหลังท่านพ่อก็แต่งตั้งรัฐนูมานเป็นรัฐอารักขา ตามด้วยสถาปนารัฐคาฟาห์ขึ้นใหม่เพื่อให้ท่านพี่คาฟาห์ไปปกครองดูแล เพราะสองรัฐนี้จะขนาบรัฐยัสซิมซึ่งเป็นเมืองหลวงเอาไว้เหมือนเกราะป้องกัน ท่านยามีล่าตอบตามที่ได้รู้มาจากปากต่อปาก

    น้องเข้าใจ ว่า...แท้จริงแล้วการแต่งตั้งรัฐนูมานเป็นรัฐอารักขาเพื่อปกป้องรัฐยัสซิมสินะ?

    ใช่ค่ะ

    ถ้าเช่นนั้นพี่จะบอกความจริงที่ท่านพ่อเคยเล่าให้ฟัง ว่า...ศัตรูของเผ่ายัสซิมในอดีต คือ เผ่านูมาน ต่างฝ่ายต่างแข็งแกร่งจนยากจะล้มล้าง แต่ท่านพ่อได้รับความนิยมจากประชาชนต่างรัฐมากกว่าจึงได้ขึ้นปกครองประเทศแทนชีคนูมาน อูล่าห์ แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ของเผ่านูมานก่อเกิดเป็นรัฐนูมาน ตอนนี้น้องเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นหรือไม่?

    อย่าบอกนะคะ ว่า...ท่านพ่อแต่งตั้งรัฐนูมานเป็นรัฐอารักขาเพื่อจับตาเฝ้าดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด

    ถูกต้อง! แล้วการที่ทางรัฐนูมานส่งราเนียมาหมั้นหมายเมื่อรู้ว่าพี่ได้เป็นรัชทายาท น้องจะไม่แปลกใจหรือสงสัยบ้างหรืออย่างไร? คำถามของพี่ชายสร้างความคลางแคลงใจแก่ท่านยามีล่าพอสมควร ทว่า เธอก็ยังหาได้เชื่อมั่นว่าท่านราเนียจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องราวเหล่านี้

    น้องคิดว่าท่านพี่ลีธอาจระแวงมากเกินไป

    เหตุใดน้องจึงคิดเช่นนั้น? เขาถามด้วยความสงสัย

    ในตอนนี้ชีคนูมานก็สิ้นไปแล้วทำให้ชีคอัปดุลขึ้นครองตำแหน่งผู้นำรัฐแทน ท่านพี่คิดว่าเรื่องในอดีตจะถูกนำมาปลุกปั่นถึงรุ่นลูกกระนั้นหรือคะ? คราวนี้เป็นฝ่ายชีคลีธที่ชะงักเมื่อโดนย้อนถามกลับมา อีกประการ...อย่างไรเสียท่านราเนียก็เป็นสตรี น้องมิเห็นสมควรที่ท่านพี่จะแสดงพฤติกรรมแย่ๆกับเธอทั้งคำพูดและการกระทำโดยไร้หลักฐานว่าเป็นกบฎหรือไม่ หากผู้ใดได้ยินเข้าจะเสื่อมเสียถึงเกียรติยศในภายภาคหน้า ทั้งวันนี้ยังปล่อยให้ท่านราเนียกลับมาเพียงลำพัง...ช่างอันตรายเหลือเกิน

    จะอันตรายได้อย่างไร...ในเมื่อรัฐยัสซิมมีความปลอดภัยเข้มงวด แม้จะเป็นรองรัฐคาฟาห์ก็เถอะ!”

    ตอนนี้ท่านราเนียเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในฐานะว่าที่คู่หมั้นของรัชทายาท หากมีผู้ก่อการร้าย หรือ กบฏจริงๆแล้วหล่อนไม่เกี่ยวข้องจะไม่อันตรายกระนั้นหรือคะ?

    สตรีสูงศักดิ์ก้าวออกจากห้องทำงานส่วนตัวของชีคลีธอย่างไม่สนใจสีหน้าของพี่ชายซึ่งไม่สู้ดีนัก คำพูดของท่านยามีล่าค่อนข้างมีเหตุผลพอสมควร หากท่านราเนียต้องเดือดร้อนโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรือ ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาคิดมากจนเกินไปคงรู้สึกผิดจนวันตายเป็นแน่

    แสงอาทิตย์สาดจากประตูระเบียงซึ่งเปิดกว้างเข้ามากระทบดวงหน้าหวานที่พริ้มตาหลับบนเตียงขนาดใหญ่ มือบางยกขึ้นปิดตาอย่างรำคาญพลางก้มลงแนบหมอนหนาฟูฟ่องด้วยความงัวเงีย

    ชาไมราห์...แสบตาจังเลย เธอเอ่ยบอกเสียงดัง

    ถ้าเช่นนั้นก็ตื่นได้แล้ว...แม่คนขี้เซา

    นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ ท่านราเนียตอบพลางตั้งท่าจะนอนต่อ แต่แล้วก็เริ่มเอะใจอะไรบางอย่างเนื่องจากสาวใช้คนสนิทไม่เคยปลุกด้วยวิธีแบบนี้ อีกทั้งน้ำเสียงของอีกฝ่ายก็แปร่งแปลกและห้วนพิลึกจึงได้ค่อยๆลืมตาขึ้นมองดู พลัน ต้องตกใจเป็นอย่างมากเมื่อพบชายหนุ่มในชุดกันดูเราะห์กำลังยืนอยู่ตรงระเบียง

    กรี๊ดดด...คุณเข้ามาในห้องฉันได้อย่างไรเนี่ย!”

    ผมเข้ามาทางประตู

    มือหนาชี้ไปทางประตูอย่างยียวนกวนประสาท แต่นั่นไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นเลย

    ฉันหมายถึง...คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องของฉัน!” ท่านราเนียตวาด

    ทำไมจะไม่มี...ในเมื่อผมเป็นว่าที่คู่หมั้นของคุณ อีกหน่อยก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว เขาตอบพร้อมส่งยิ้มให้ สตรีสูงศักดิ์พยายามอดทนไม่ต่อล้อต่อเถียงแล้วถามถึงจุดประสงค์ทันที

    คุณมีธุระอะไรกับฉัน?

    รีบอาบน้ำแต่งตัว...ผมจะพาคุณไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า!” คำสั่งนั้นเลิกคิ้วโก่งสวยของท่านราเนียขึ้นสูงอย่างประหลาดใจพอสมควร

    คุณจะพาฉันไปเนี่ยนะ?

    ใช่...มันเป็นคำสั่งของท่านพ่อ ถ้ารู้แล้วก็รีบปฏิบัติตาม ส่วนผมจะไปรอที่โถงด้านล่าง!”

    ชีคลีธทำท่าจะเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็หยุดชะงักแล้วหันกลับมามองหญิงสาวบนเตียงอีกครั้ง

    มีอะไรอีก!” เธอร้องถาม

    คราวหน้าใส่ชุดนอนยั่วกว่านี้อีกหน่อยนะ คำพูดของเขาทำให้ท่านราเนียก้มลงมองตัวเองอย่างตกใจเมื่อพบ ว่า...ชุดที่สวมใส่อยู่นั้นไม่ค่อยเรียบร้อยจากการนอน

    กรี๊ดดดด...คนลามก ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลย!” เธอกรีดร้องพลางหยิบผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายเอาไว้

    เฮ้อ...จะโวยวายทำไม อีกหน่อยก็ต้องเห็นอยู่แล้ว! พูดจบเขาก็รีบออกจากห้องแล้วปิดประตูก่อนที่หมอนใบโตจะถูกเขวี้ยงมา เสียงวี้ดว้ายดังตามหลังทำให้รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของชีคลีธเมื่อนึกขำกับท่าทางของอีกฝ่าย

    ห้างสรรพสินค้าในวันนี้ค่อนข้างมีผู้คนหนาตา จึงทำให้ชายหนุ่มหญิงสาวกลายเป็นจุดสนใจพอสมควรเมื่อหลายคนจดจำได้ว่าทั้งคู่คือใคร แม้ท่านราเนียไม่ค่อยอยากออกมาซื้อของกับชีคลีธแต่เมื่อเป็นคำสั่งชีคยัสซิมจึงไม่อาจขัด โชคดีที่ชาไมราห์ได้รับอนุญาตให้ติดตามจึงลดความกังวลพอสมควร

    อาจเพราะยามอยู่รัฐนูมานหญิงสาวไม่ค่อยไปเที่ยวที่ไหน ต้องอยู่คฤหาสน์เป็นส่วนใหญ่เพราะไม่มีกิจธุระสำคัญเฉกเช่นโอรสธิดาของชายาเอกซึ่งมักออกงานต้อนรับท่านผู้นำรัฐต่างๆบ่อยครั้งสมัยที่ท่านพ่อยังคงมีชีวิต ครั้นจะออกไปซื้อข้าวของด้วยตัวเองก็ใช่เรื่อง...ในเมื่อมีสาวใช้คอยสรรหามาให้ การมาเที่ยวห้างสรรพสินค้าต่างรัฐครั้งนี้จึงสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ท่านราเนียพอสมควร

    ชีคลีธไม่ได้สนใจข้าวของอะไรเป็นพิเศษพลางเดินตามท่านราเนียเข้าร้านโน้นออกร้านนี้พร้อมชาไมราห์อย่างสนอกสนใจ เพราะเธออยากได้ไปหมดเสียทุกอย่าง ทั้งข้าวของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ซื้อสักที ราวกับเด็กที่นานๆได้ออกจากบ้านสักครั้งแล้วตื่นตาตื่นใจกับรอบข้างมากกว่าสนใจซื้อของ จวบจนมาหยุดยังร้านเครื่องประดับแห่งหนึ่ง

    เครื่องประดับมากมายถูกวางกองบนเคาน์เตอร์อย่างละลานตา ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือ กำไล แหวน และ สร้อยข้อเท้า ทั้งหมดล้วนมีราคาจนทำให้ท่านราเนียต้องตัดสินใจเลือกซื้อแค่ชิ้นถึงสองชิ้นอย่างรักพี่เสียดายน้อง

    สร้อยคอเส้นนี้ทำจากเพชรแฟนซีไดมอนด์สีชมพูและเจียระไนละเอียดถึงห้าสิบสองเหลี่ยม แต่ถ้าท่านราเนียต้องการใส่สบายๆ...สร้อยคอเส้นนั้นก็เหมาะเพราะทำจากมรกตสีเขียวอมฟ้า ส่งตรงจากเหมืองชิวอร์ โคลัมเบียเลยนะคะ พนักงานขายพยายามแนะนำสินค้ามีคุณภาพที่สุดในร้านให้หญิงสาวซึ่งกำลังตัดสินใจมานานกว่าครึ่งชั่วโมง จนชายหนุ่มเพียงคนเดียวต้องเอ่ยตัดบท

    เอามาทั้งหมดเลยละกัน!”

    นี่คุณ...ทั้งหมดราคาเป็นล้านเลยนะ แล้วฉันก็ไม่มีปัญญาจ่ายด้วยท่านราเนียร้องบอกเบาๆ ขณะที่พนักงานสาวรีบจัดแจงนำเครื่องประดับใส่ถุงแล้วคิดเงินอย่างว่องไว

    ผมไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดพาผู้หญิงมาช็อปปิ้งแล้วให้ออกเงินเองหรอกนะ พูดจบเขาก็ล้วงเช็คออกมากรอกจำนวนเงินตามใบแจ้งยอดแล้วส่งแลกกับถุงใส่เครื่องประดับพลางยื่นให้ชาไมราห์ถือไว้ท่ามกลางความตกตะลึงของท่านราเนีย

    ใครจะนึกถึง ว่า...ผู้ชายร้ายกาจอย่างชีคลีธจะใจดีกับเธอครั้งแรก!

     

    ถาดใส่แฮมเบอร์เกอร์ปลา เฟรนด์ฟราย นักเก็ตไก่ และ น้ำอัดลม จำนวนสามที่ ถูกวางลงบนโต๊ะโดยชีคลีธถือมาบริการ ท่านราเนียมองดูผู้คนมากมายภายในร้านฟาสต์ฟู๊ดด้วยความหวาดระแวงเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มานั่งกินอาหารท่ามกลางสาธารณชน แม้เป็นแค่ธิดาซึ่งกำเนิดจากชายารองแต่ชีคนูมานผู้เป็นบิดาก็ไม่ประสงค์ให้ทำเรื่องส่วนตัวในที่สาธารณะ ส่วนชาไมราห์ก็ได้รับอนุญาตจากชายหนุ่มให้นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันอย่างเสมอภาค

    นี่คุณ...มากินอาหารในที่แบบนี้จะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ? เธอเอ่ยถามเขาซึ่งบัดนี้นั่งลงยังฝั่งตรงข้าม

    จะเป็นอะไรได้อย่างไร ใครๆเขาก็กินกัน

    ไม่ใช่! ฉันหมายถึง...มันจะดูเหมาะสมเหรอ ในเมื่อคุณเองก็เป็นถึง... ท่านราเนียยั้งคำพูดเอาไว้เพราะไม่มั่นใจว่าสมควรกล่าวหรือไม่

    ตำแหน่งรัชทายาท มันก็แค่สิ่งที่สร้างหรืออ้างขึ้นมาเท่านั้น ไม่ว่าจะมีตำแหน่งสูงส่งหรือต่ำต้อย ร่ำรวยล้นฟ้าหรือยากจนข้นแค้น ก็ล้วนเป็นคนที่ต้องกินทั้งนั้น อาหารจะดีหรือไม่ดีควรดูจากราคาหรือคุณค่าที่ร่างกายได้รับล่ะ?”

    อืมมม...ก็จริง คุณดูเป็นกันเองกว่าที่ฉันคิดนะ

    เพิ่งรู้เหรอ? เขาย้อนถามอย่างกวนๆ

    แต่ฉันรู้มานานแล้วนะคะ ชาไมราห์สวนตอบอย่างอารมณ์ดี ทำให้ผู้เป็นนายรีบหันมองด้วยสายตาดุดัน ส่วนชีคลีธก็หัวเราะเบาๆอย่างไม่ถือสาหาความ

    ฉันหมายถึง...คุณค่อนข้างใช้ชีวิตเรียบง่ายและเป็นกันเองในที่สาธารณชนแบบนี้ ท่านราเนียอธิบายให้ชัดเจนมากขึ้น

    ผมจะเป็นกษัตริย์ที่ดีได้อย่างไร หากไม่เข้าถึงประชาชนจริงๆ

    สตรีสูงศักดิ์มองชีคลีธที่เริ่มกัดแฮมเบอร์เกอร์เข้าปากอย่างไม่สนใจรอบข้างด้วยความนึกไม่ถึง นี่เป็นมุมมองใหม่ๆในตัวของเขาซึ่งเธอไม่เคยพานพบกับตัวเองมาก่อน ทั้งความเป็นสุภาพบุรุษและคำพูดคำจามีเหตุผลล้วนสร้างความประทับใจจนอดชื่นชมลึกๆไม่ได้

    แล้วคุณมาเดินเล่นหรือกินอาหารที่นี่บ่อยๆเหรอคะ? เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อผู้คนส่วนใหญ่เหลียวมองเป็นบางครั้งบางคราว แต่หาได้มีใครแสดงทีท่าประหลาดใจหรือตื่นตระหนกเพราะได้พบรัชทายาทของประเทศในสถานที่แบบนี้

    ใช่...แต่ไม่ได้มาในตำแหน่งนี้หรอกนะ คุณคงไม่รู้ว่าก่อนขึ้นรับตำแหน่งรัชทายาทเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา ผมทำงานเป็นนักข่าวสายการเมืองประจำสำนักข่าวแห่งรัฐคาฟาห์

    เอ๊ะ...ทำไมต้องไปทำอาชีพนั้นด้วยล่ะคะ?

    เพราะท่านพ่อต้องการให้ผมฝึกฝนงานต่างๆเยี่ยงสามัญชนเพื่อทำความเข้าใจประชาชน ผมจึงเลือกเรียนและทำงานด้านข่าวสายการเมืองจะได้สะดวกระหว่างเดินทางติดต่อทั้งภายในและภายนอกพระราชวัง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีเพราะตลอดเวลาเกือบสิบปีที่ได้พบเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ทำให้ผมสามารถเก็บประสบการณ์ต่างๆได้มากมายชีคลีธตอบตามตรงแล้วยิ้มน้อยๆ

    คุณยิ้มทำไม? ท่านราเนียเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว

    ก็คุณยิ้มก่อน...ประทับใจผมล่ะสิ!”

    ในตอนนั้นเองมือหนาก็คว้าหมับเข้าที่แฮมเบอร์เกอร์ปลาในส่วนของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

    เอ๊ะ...คุณจะทำอะไรน่ะ?

    ผมเห็นคุณไม่กินสักที...เลยนึกว่าไม่เอา

    ใครบอก...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

    ว่าแล้วเธอก็ตีลงบนมือของอีกฝ่ายดังเพี้ยะจนเขาต้องรีบปล่อย ท่านราเนียไม่รอช้าหยิบอาหารกลับไปแล้วเริ่มลงมือกินทันที

    ความสนิทสนมของทั้งคู่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆส่งผลให้ชาไมราห์และคนอื่นๆรู้สึกดี ไม่ต่างจากชีคลีธซึ่งสบายใจกว่าที่เคยเป็น เมื่อเขาพยายามเก็บเรื่องราวต่างๆหลังพูดคุยกับท่านยามีล่าเมื่อวานแล้วนำไปไตร่ตรองตลอดทั้งคืน จนในที่สุดก็ตัดสินใจลดอคติที่มีต่อท่านราเนียอย่างไม่ยึดติดกับความคิดไร้เหตุผลและไร้หลักฐานของตนเอง

    รถยุโรปคันงามแล่นเข้ามาจอดในพระราชวังก่อนเวลาพลบค่ำพอดิบพอดี ท่านผู้นำประเทศซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่บริเวณสวนหย่อมด้านหน้าเหลียวมองเด็กๆแล้วคลี่ยิ้มทักทาย

    พวกเจ้าไปไหนกันมาทั้งวัน?

    ท่านราเนียปรี่เข้าไปหาชีคยัสซิมแล้วถวายความเคารพอย่างนอบน้อม

    ออกไปห้างสรรพสินค้ามาค่ะ...ขอบคุณมากนะคะ

    คิ้วหนาเข้มขมวดมุ่นอย่างสงสัยในคำพูดและการกระทำของว่าที่ลูกสะใภ้ยิ่งนัก

    ราเนีย...เจ้าขอบคุณข้าด้วยเรื่องอะไร?

    ฉันขอบคุณเรื่องที่ท่านให้ชีคลีธพาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าค่ะคำตอบฉะฉานนั้นทวีความงุนงงแด่ผู้อาวุโสมากยิ่งขึ้น

    เอ๊ะ...ข้าพูดตอนไหน?

    เอ่อ...ท่านพ่อครับ พวกเรารีบเข้าไปรอมื้อเย็นที่ห้องอาหารกันเถอะครับ ผมรู้สึกหิวแล้ว!” ชีคลีธตัดบทสนทนาของทั้งคู่พลางประคองชีคยัสซิมเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความแปลกประหลาดใจของท่านราเนีย

    นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

    ชีคลีธตั้งใจพาท่านราเนียไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า คนอะไรทั้งหล่อเหลา สง่างาม ใจดี และเป็นสุภาพบุรุษ คำชื่นชมของชาไมราห์เฉลยคำถามค้างคาใจให้สตรีสูงศักดิ์จนใบหน้าคมสวยร้อนผ่าว เธอไม่นึกเฉลียวใจเลยแม้แต่น้อย ว่า...เรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับชีคยัสซิม ความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นในหัวใจของหญิงสาวเป็นระยะจนอดชื่นชมเขาอยู่ลึกๆไม่ได้

    เห็นมั้ยคะ...ชีคลีธเป็นคนดีจริงๆ สาวใช้คนสนิทยังคงสรรเสริญชายหนุ่มไม่ขาดปากจนผู้เป็นนายต้องชม้ายตามองค้อนแล้วเดินหนีเข้าอาคารไปด้วยความรู้สึกเขินอาย ทว่า เสียงฝีเท้าที่ดังไล่หลังมาทำให้เธอต้องหยุดชะงัก

    ท่านราเนียครับ!”

    ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาหาพลางยื่นซองจดหมายปิดผนึกส่งให้อย่างรวดเร็ว

    จดหมายจากผู้ใด?

    จากพี่ชายของท่านราเนียครับคำตอบนั้นสร้างความยินดีเป็นอย่างมาก มือบางเอื้อมรับจดหมายมาถือไว้ด้วยหัวใจที่ปรีดิ์เปรม

    ทหารนายนั้นโค้งศีรษะน้อยๆแล้ววิ่งออกไปอย่างว่องไว ไม่ต่างจากสตรีสูงศักดิ์ที่รีบกลับขึ้นห้องตนเอง โดยไม่ใส่ใจชาไมราห์ซึ่งยังคงยืนมองทหารชายจนลับสายตาด้วยความสงสัยอะไรบางอย่าง

    ทันทีที่ถึงห้องส่วนตัวท่านราเนียก็รีบตรงดิ่งไปยังโต๊ะเขียนหนังสือแล้วเปิดโคมไฟดวงเล็ก ทว่า เมื่อได้พิจารณาซองจดหมายฉบับนั้นอย่างถี่ถ้วนก็ต้องประหลาดใจ ไม่มีการจ่าหน้าซอง ติดแสตมป์ และ ปั้มตราประทับ ดั่งเช่นจดหมายตอบกลับของท่านพี่ราชิด พอวิเคราะห์แล้ว...คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอเพิ่งส่งจดหมายตอนเช้าตรู่แต่ได้รับการตอบกลับมาในตอนเย็นซึ่งค่อนข้างรวดเร็วจนผิดปกติ

    ทุกอย่างกระจ่างแจ้งทันทีที่ซองจดหมายถูกเปิด เพราะพี่ชายคนนั้น คือ ชีคอัปดุล อูล่าห์ ! การส่งจดหมายมาครั้งแรกของพี่ชายต่างมารดาไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจมากไปกว่าข้อความภายในนั้น

     

    …………………………….....…………………………….....……………………

     

    ถึง ราเนีย

     

    พี่หวังว่าการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรัฐยัสซิมของน้องจะมีความสุขดี สื่อต่างๆที่ออกข่าวทำให้พี่พึงพอใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าน้องนั้นได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติในฐานะของว่าที่คู่หมั้นชีคลีธ โมฮัมหมัด ทว่า พี่มิปรารถนาให้น้องลืมตำแหน่งอันแท้จริง แม้ต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเกิดจะใกล้หรือไกลอย่างไรเสียน้องก็ยังเป็นธิดาของชีคนูมาน และ ตอนนี้ก็ยังเป็น น้องสาวของชีคอัปดุล ผู้ปกครองรัฐนูมาน

    ดังนั้น...พี่จึงหมายให้น้องช่วยเหลือ โดยการแอบนำเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจการเงินของรัฐยัสซิมส่งมาให้พี่โดยผ่านทหารคนที่ส่งจดหมายฉบับนี้ให้น้อง

     

    จาก ชีคอัปดุล

    …………………………….....…………………………….....……………………

     

    ภายในหัวของท่านราเนียงุนงงสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าชีคอัปดุลต้องการสื่ออะไร? แล้วเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจการเงินของรัฐยัสซิมเกี่ยวข้องกับรัฐนูมานอย่างไร? หญิงสาวไม่รีรอให้ความสงสัยครอบคลุมไปมากกว่านี้ รีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาพี่ชายต่างมารดาอย่างรวดเร็ว

    เหตุใดท่านพี่จึงต้องการเอกสารทางการเงินของรัฐยัสซิมคะ? ทันทีที่ปลายสายตอบรับเธอก็ถามทันที

    ทำไมน้องต้องถามพี่ให้มากความ เพียงแค่นำมันมาให้พี่ก็เพียงพอ!!!” อีกฝ่ายไม่แถลงไขให้เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว

    น้องจะไม่ทำหากท่านพี่ไม่บอก!”

    เจ้าไม่มีสิทธิ์ถามหรือเล่นแง่ เป็นแค่ธิดาชายารองหาได้มีอำนาจอันใดมาต่อรองกับข้าที่เป็นโอรสของชายาเอกและเป็นชีคผู้นำรัฐ ณ ขณะนี้ ข้าสั่งอะไรเจ้าก็ควรกระทำตาม!!!” ชีคอัปดุลตวาดกลับมาด้วยน้ำเสียงดุดัน

    ตะ...แต่ว่า...หากท่านพี่ต้องการให้น้องกระทำในสิ่งอันไม่สมควรหรือคิดไม่ซื่อต่อรัฐยัสซิม นั่นหมายถึงกบฏนะคะ!” เธอตอบกลับไป

    แล้วคิดว่าข้าส่งเจ้ามาเป็นคู่หมั้นด้วยสาเหตุใดกันเล่า!”

    อย่าบอกนะคะ ว่า...ท่านพี่ส่งน้องมาเป็นสายสืบเรื่องภายในพระราชวังเพื่อก่อการกบฏ

    ราเนีย...เจ้าฉลาดขึ้นแล้วนะ ฮ่าๆๆ เสียงหัวเราะที่ดังเล็ดลอดจากปลายสายทำให้หัวใจหญิงสาวสั่นสะท้านไม่ต่างจากมือบอบบางซึ่งพยายามประคับประคองโทรศัพท์และสติอย่างสุดความสามารถ เพราะเรี่ยวแรงทั้งหมดกำลังอันตราธานหายไปราวต้องสาป

    นะ...น้องไม่ทำ!!!” เธอพยายามแข็งใจขัดคำสั่ง แม้ให้ตัดพี่ตัดน้องก็ยินยอมเพื่อรักษาความถูกต้อง

    หากกล้าก็ลองดู แต่อย่าได้ลืม ว่า...ท่านกาเนียมารดาของเจ้าอยู่กับพวกข้า หรือ เจ้าปรารถนาส่งนางไปพบกับท่านพ่อเร็วๆล่ะ!” คำขู่กรรโชกช่างโหดร้ายจนเกินทน ท่านราเนียคาดไม่ถึงจริงๆว่าพี่ชายร่วมสายเลือดครึ่งหนึ่งจะทำกับเธอและแม่ราวไม่ใช่มนุษย์เยี่ยงนี้

    อย่าทำอะไรท่านแม่นะ!!!” หญิงสาวร้องบอกด้วยความหวาดกลัว

    ถ้าเช่นนั้นก็จงทำตามคำสั่ง หาทางตีสนิทชีคลีธแล้วนำเอกสารทางการเงินส่งมาให้ข้า ออ...หลังจากนี้ไม่ต้องโทรมาอีกเพราะหากแผนการรั่วหลุดออกไปเจ้ากับแม่จะไม่มีวันได้พบหน้ากันอีกตลอดกาล!”

    ปลายสายถูกตัดพร้อมน้ำตาใสๆไหลหยาดอาบเต็มใบหน้าของสตรีสูงศักดิ์ ร่างบางทรุดลงบนพื้นแล้วสะอื้นอย่างเสียใจที่สุดในชีวิต

    เธอควรทำอย่างไร...ในเมื่อความถูกต้องคาบเกี่ยวด้วยความเป็นความตายของบุพการี แล้วแบบนี้ศักดิ์ศรีกับชีวิตจะต่างอะไรจากการประณามหยามเหยียดของชีคลีธซึ่งเคยกล่าวไว้แต่แรก เพราะเพิ่งรู้ตัว ณ บัดนี้ ว่าเป็น กบฏ โดยไม่ตั้งใจ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×