ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    India-Indie ซุบซิบกับสะใภ้อินเดีย

    ลำดับตอนที่ #406 : (นอกเรื่อง) 20 ก.ม. ที่คุ้มค่า (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 816
      6
      26 พ.ย. 60

    มีเรื่องมาเล่า...
    ตอน : 20 ก.ม. ที่คุ้มค่า (1)
    เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ (18-19 พ.ย. 60) ที่ผ่านมา อีห่านได้นัดกับเพื่อนๆจะไปเยี่ยมชมพระเมรุมาศกัน กลุ่มเดิมกับที่เคยไปกราบพระบรมศพเมื่อคราวก่อน (ถ้าจำกันได้) เรานัดกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เวลา 11.00 น.

    เพื่อนๆอีห่านมี ฝ้าย (คนนี้ตามไปงานแต่งงานอีห่านถึงอินเดียเลยนะเออ) , ฟิ้น , บอม , เจ๊ยุ่น , เจ๊พี ....ซึ่งฝ้าย บอม เจ๊ยุ่น ไปถึงก่อน เจ๊พีจะตามมาสมทบตอนเย็น เหลือ ฟิ้น กับ อีห่านที่ยังไปไม่ถึง

    ประเด็นอยู่ที่ฟิ้นมาจาก จ. ฉะเชิงเทรา ด้วยความที่บ้านอยู่ไกลกว่า แถมต้องต่อรถหลายต่อ ทั้งสองแถว ทั้ง BTS ทั้ง MRT ก็ออกจากบ้านตั้งแต่ 9 โมง อีห่านถือตัวว่าบ้านอยู่แถวบึงกุ่มใกล้กว่า (เหรอวะ) เลยออกจากบ้านตอน 9.30 แต่ด้วยการจราจรในกรุงเทพฯก็อย่างที่รู้ๆกัน รถติดบัดซบไม่เลือกเวลา กว่าจะไปถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษกก็ปาไป 10.30 แล้ว อีห่านก็ตาลีตาเหลือกขึ้นรถไฟฟ้า ระหว่างนั้นเพื่อนๆก็ส่งข้อความมาว่าถึงกันแล้ว

    ไม่จริง!!! นี่กูไปสายเป็นคนสุดท้ายเหรอวะเนี่ย อีห่านรีบโทร.ไปหาฟิ้นว่าถึงยัง ขณะนั้นรถไฟฟ้าก็กำลังแล่นไปเรื่อยๆโดยมีสถานีต่อไป คือ สถานีสุขุมวิท

    อีห่าน : แกอยู่ไหนแล้ว!

    ฟิ้น : กำลังจะขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน เนี่ย...อยู่สถานีสุขุมวิท อ๊ะ...รถไฟมาแล้ว

    อีห่าน : (คิดในใจ เดี๋ยวนะ...มันขบวนที่กูอยู่นี่หว่า เพราะกำลังเทียบจอดสถานีสุขุมวิท) เฮ้ยๆ...ฉันก็อยู่ในรถเนี่ย แกเข้ารถมาอย่าเพิ่งวางสายนะ เดี๋ยวฉันเดินไปหา

    อีห่านก็เลยเดินจากท้ายขบวนขึ้นไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาชาวประชาที่มองมาประมาณว่าอีนี่มันจะเดินทำไม เพื่อหาฟิ้นที่บอกว่าอยู่ตรงกลางขบวน อีห่านก็สอดส่ายสายตาไปมา จนพบเงาฟิ้นผ่านกระจกแล้วหันไปเจอ ก่อนจะรีบเข้าไปหา อารมณ์ประหนึ่งแบบบังเอิญจังเลยนะแก...แต่คิดในใจ กูควรสำนึกตัวเองไหมเนี่ย บ้านใกล้กว่าแต่ดันมาถึงพอดีกับคนที่บ้านไกลกว่า

    ช่างแม่ง...อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนสุดท้ายคนเดียวที่มาถึง เพราะมีคนสุดท้ายสองคน 5555+ (ดูเลวพิกลลลลล)

    อีห่านกับฟิ้นเดินหาเพื่อนๆที่สถานีหัวลำโพงอยู่สักพักก็พบว่าทุกคนนั่งรออยู่ตรงซอกหลืบบันได หลังจากที่เจอกันเรียบร้อยทุกคนก็เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บไว้ที่โรงแรมแถวถ.ตานี (ข้าวสาร) คือนัดไปค้างคืนกันเพื่อความสะดวก พอเก็บกระเป๋าอะไรกันเสร็จก็พากันเดินไปกินมื้อเที่ยงที่ร้าน การิม โรตี มะตะบะ ถนนพระอาทิตย์ (อีห่านสั่งข้าวกับกุรุหม่าแพะ+มะตะบะปลาสมุนไพร+น้ำใบเตย รสชาติใช้ได้แต่ไม่ที่สุด)

    จากนั้นก็เดินยาวๆจากท่าพระอาทิตย์ไปเรื่อยๆ

    ถึงท่าพระจันทร์ ตรงธรรมศาสตร์ อีห่านรู้สึกร้อนมากเลยเปลี่ยนกางเกงผ้าที่ใส่เป็นผ้าถุงแบบผูกแทน เลยไม่ค่อยเข้ากับเสื้อเท่าไร

    พอถึงท่ามหาราชแวะพักนิดหน่อย

    แล้วก็เดินต่อไปที่ท่าช้าง ตอนนี้เริ่มเดินช้าลง ลมจะจับ แดดร้อนมาก หิวน้ำมาก แถมเมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอน นอนไปช.ม.เดียว แต่ระหว่างนั้นเองสายตาเหลือบไปเจอฝรั่งสองคน งานดีมีคุณภาพ พวกเขาเดินตามหลังมา พวกเราเลยปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านไปก่อนแล้วเดินตาม ค่อยมีเรี่ยวแรงเดินต่อไปถึงท่าเตียน (มันใช่เหรอวะ แบบนี้ก็ได้หรา 5555+)

    พอถึงท่าเตียน ตรงนี้อีห่านปล่อยเพื่อนๆข้ามฟากไปวัดอรุณ โดยตัวเองรอที่นี่ เหตุผลส่วนตัว คือ อีห่านว่ายน้ำไม่เป็น ฉะนั้นจะไม่ชอบขึ้นเรือข้ามฟาก ไม่เข้าใกล้น้ำเด็ดขาด พ่อแม่จะกังวลเวลาเราไปแถวนี้ ถ้าจะให้ไปฝั่งธน อีห่านจะยอมขึ้นแท็กซี่อ้อม คือ แพงไม่ว่า เสียเวลาไม่ว่า ขอแค่ปลอดภัยสำหรับตัวเองพอ ไม่ทำให้พ่อแม่กังวลว่าเราจะนอกลู่นอกทางจากที่เขาสั่ง คนอื่นอาจคิดว่าอีห่านคิดมากนะ เรือมันไม่จมง่ายๆหรอก แต่อีห่านไม่สนใจนะ ถือว่าถ้าเราไม่รักตัวเอง ไม่เซฟความปลอดภัยเพื่อตัวเอง ใครจะมาทำเพื่อเรา ฉะนั้นอะไรที่มันเสี่ยงไม่ปลอดภัยเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แล้วไม่ค่อยได้นอน ง่วงด้วย เหนื่อยด้วย เกิดก้าวพลาดตกน้ำไปก็ซวยอีก เพราะคนที่คิดว่าไม่เป็นอะไรหรอกก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่เป็น อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าเราประมาท สู้ไม่ประมาทเพราะรู้ศักยภาพตัวเองดีกว่า

    ระหว่างอีห่านปล่อยให้เพื่อนๆไปเที่ยววัดอรุณ อีห่านก็เตร็ดเตร่แถวท่าเตียน หาซื้อเสื้อมา 1 ตัว เพื่อใส่ให้เข้ากับผ้าถุง 555+ พอคนขายเห็นอีห่าน นางก็บอกเลย "One hundred" อีห่านก็แบบ "เอ่อ...คนไทยค่ะ" แม้ว่าหน้าจะหมวยก็เถอะ อีห่านสอยเสื้อมา 1 ตัว ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสาธารณะ (ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นอีห่านใส่เสื้อผ้าคนละชุดในรูปที่ลง อีห่านถือคติ เสื้อผ้าฉันมันต้องแมท!!!) จากนั้นก็ไปตากแอร์ชิลๆ จิบน้ำเบอร์รี่โซดา 1 แก้ว กับ สตรอเบอร์รี่ปั่น 1 แก้วที่ร้าน Gloria jean's coffee ระหว่างรอเพื่อนๆ บรรยากาศร้านดีนะ สบายๆ น้ำก็อร่อย แต่ก็ราคาสูงตามสภาพเพราะเน้นขายให้นักท่องเที่ยว แก้วนึงก็ร้อยต้นๆ ราวๆสตาร์บัค ดีทุกอย่างแต่พนักงานคนนึงนินทาลูกค้าต่างชาติผ่านโทรศัพท์ดังไปนิด อาจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายทำไม่ดี+คงฟังภาษาไทยไม่ออก แต่อย่างน้อยน่าจะแอบไปคุยกันลับหลังหน่อย เพราะอย่างเราเป็นคนไทยเราก็ฟังแล้วรู้สึกไม่ดีนิดๆ กลัวว่าถ้าเราออกไปจะโดนนินทาบ้างหรือเปล่าวะ แล้วก็ไม่ใช่ชาวต่างชาติทุกคนจะไม่รู้ภาษาไทย อันนี้ต้องระวังมากๆ

    (โปรดติดตามตอนต่อไป)

















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×