ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stop Your Heart สะกดหัวใจให้นายรักฉัน!

    ลำดับตอนที่ #3 : อันตรายจากความรัก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 52


    ตอนที่ 3 : อันตรายจากความรัก

     

    บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ...ว่าทำยังไงเรตะถึงได้คบกับแก!!!”

    อ่อกกก...”

    ฉันกำลังจะตายเพราะโดนยัยแตงโมบีบคอเค้นความจริงอยู่ในห้องน้ำหญิง ให้ตายสิ...ทำไมไม่ให้ตายดีๆหน่อยนะ อย่างน้อยในห้องน้ำชายก็ได้... =.,=

    นี่...เดี๋ยวยัยซูกัสก็ได้กลายเป็นคุณฮานาโกะผีเฝ้าห้องน้ำคนที่สองหรอก

    ลูกหมีตบไหล่แตงโมที่คลุ้มคลั่งก่อนที่มันจะยอมปล่อยฉันเป็นอิสระ TT^TT

    ฉันก็บอกพวกแกไปแล้วไง ว่าใช้นาฬิกาล็อคเก็ตอันนี้สะกดจิตเขา ฉันพูดพลางล้วงของกลางที่สวมคล้องคอให้เพื่อนสาวสองคนดู

    อย่ามาขี้จุ๊...เรื่องไร้สาระพรรค์นี้จะเป็นจริงไปได้ยังไง

    แตงโมส่ายหน้าด็อกแด็กไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเช่นเดียวกับลูกหมี

    นั่นสิ...แกไม่ได้เป็นนักสะกดจิตด้วย มันจะได้ผลอะไรขนาดนั้น

    งั้นทำไมฉันถึงได้เป็นแฟนกับเรตะล่ะ ถ้ามันไม่ได้ผลแบบที่พวกแกว่า!”

    เงียบ...ทั้งคู่นิ่งเหมือนหาคำตอบไม่ได้ ก็แน่ล่ะ...ฉันเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะได้ผลจริงๆนี่มันยิ่งกว่าเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกซะอีก!

    เออ...เอาเถอะ ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย

    นั่นสิ...ฉันก็พูดไม่ออกเหมือนกัน ลูกหมีเห็นด้วยกับแตงโม

    ออ...แต่แกต้องระวังตัวไว้นะ อยู่ดีๆยัยเพื่อนรักก็เอ่ยขึ้นมา

    แหม...รู้แล้วน่า ฉันไม่ใจง่ายยอมเผลอตัวเผลอใจให้เรตะหรอก ฉันพูดพลางตบไหล่แตงโมอย่างเขินอาย แต่มันทำหน้าเบ้ตวาดแว้ดกลับมาว่า

    มะเหงกแหน่ะ...ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น!”

    อ้าว...งั้นระวังเรื่องอะไรเหรอ?ฉันถามพลางทำหน้าแอ๊บแบ้วกลับไป

    ระวังแฟนคลับเรตะ รับรองว่าแกโดนเขม่นแน่ๆ!!!”

    เออ...จริงด้วย เรตะมีคนชอบเป็นร้อยๆพันๆ ใครมาจีบก็ไม่สนใจแถมบอกปัดปฏิเสธแต่อยู่ดีๆฉันก็ฉกเขาไป...พวกหล่อนคงโกรธแน่ๆ คิดแค่นั้นก็รู้สึกหนาวจนขนลุกไปหมดเหมือนความปลอดภัยของชีวิตหายไป 50%

    แก...อย่าพูดให้ฉันกลัวสิ

    ฉันกระตุกแขนเสื้อแตงโมเบาๆ

    เฮอะ...ก็พูดจริงๆ แต่เอาเถอะ...มันอาจไม่มีอะไรก็ได้อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย

    อ้าว...ตบหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า พูดให้กลัวแล้วมาปลอบใจ =_=*

    หลังจากนั้นพวกเราก็โยกย้ายถ่ายเทออกจากห้องน้ำเมื่อหมดคาบพัก แน่นอนว่าเรื่องนี้โด่งดังเร็วมากในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเพราะทันทีที่เข้าห้องเรียนก็มีเพื่อนๆมาถามมากมาย ถ้ายัยลูกหมีไม่ได้อยู่กับพวกเราตลอดคงคิดว่ามันเป็นคนกระจายข่าวแน่ๆ แต่ในกรณีนี้แสดงว่าเรื่องเด่นประเด็นร้อนจริงๆถึงได้พูดต่อๆกันจนทั่ว...

    นี่ถ้าฉันไม่ได้ยินจากปากเรตะต้องไม่มีวันเชื่อแน่ๆเลยว่าเธอเป็นแฟนเขา

    นั่นสิ...ฉันล่ะช็อคจริงๆ เห็นติ๋มๆแบบนี้ก็ไวใช่เล่นนะยะ!” เพื่อนสาวในห้องหลายคนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม แต่นี่ยังเบาะๆเพราะถ้าพบสายตาจ้องจิกชนิดแทบมองกันให้ทะลุตายกันไปข้างของผู้หญิงหลายคนที่เพ่งเล็งฉันตั้งแต่ออกจากห้องเรียนยันพ้นประตูรั้วหน้าโรงเรียนในตอนเย็นแล้วล่ะก็...จะหนาวกว่านี้ TT^TT

    เห็นมั้ยแก...ฉันบอกแล้วว่าได้โดนเขม่นแน่ๆ!” แตงโมเอ่ยบอกขณะพวกเรากำลังรอขึ้นรถเมล์ตรงป้าย

    ฉันหวั่นใจยังไงไม่รู้...เวลาโดนมองด้วยสายตาแบบนั้น

    ก็สมควรล่ะ...แกเล่นจับชายหนุ่มขวัญใจสาวๆทั้งโรงเรียนได้นี่หว่า ถ้าฉันไม่ใช่เพื่อนแกคงเขม่นด้วยเหมือนกัน

    แสดงว่าแกเห็นมิตรภาพของเพื่อนสำคัญกว่าผู้ชายใช่มั้ย?

    ฉันส่งสายตาเป็นประกายวิบวับให้แตงโมอย่างตื้นตันในน้ำใจ

    เปล่า...ฉันพยายามปลงแล้วคิดว่าเรตะตาถั่วที่เลือกแกเป็นแฟนจนมองข้ามความงามของฉัน!!!”

    เล่นเอาพูดไม่ออกเลย =_=”

    ขอโทษนะยะ...ใครจะไปรู้ว่าไอ้วิธีสะกดจิตแบบนั้นมันจะได้ผลง่ายๆ ฉันตอบมันที่ส่ายหน้าเบาๆ

    เฮ้อ...ช่างเถอะ...พูดไปก็ยังไม่อยากเชื่อว่ามันจะได้ผลจริงๆ อ๊ะ...ฉันกลับก่อนนะรถเมล์มาแล้ว มันโบกมือบ๊ายบายแล้วกระโดดขึ้นรถเมล์ไป

    หลังจากนั้นไม่นานฉันก็กระโดดตามขึ้นคันหลัง ไม่ใช่เพราะเป็นสายที่ผ่านบ้านตัวเองแต่เพราะมีนักเรียนหญิงโรงเรียนฉันกลุ่มหนึ่งตรงดิ่งทำท่าจะเข้ามาหาเลยรีบลี้ภัยก่อน TT^TT

    กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปเกือบหกโมงเย็นเพราะต้องนั่งรถเมล์อีกสายย้อนกลับมา ฉันรีบตรงดิ่งเข้าไปในห้องรับแขกพลางโยนกระเป๋าแล้วทิ้งตัวตามลงไปบนโซฟา เฮ้อ...เพลียชะมัด

    นี่... เสียงมารผจญดังขึ้น ทำให้ฉันต้องหันมองน้องชายตัวแสบที่เพิ่งกลับถึงบ้านเช่นกัน

    มันถอดสูทนักเรียนสีดำกับเนคไทสีเดียวกันโยนลงบนโซฟา ( พี่น้องนิสัยเหมือนกันเปี้ยบ =_=” ) ก่อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในทุกเม็ดเผยหุ่นที่มีซิกแพคชัดเจน นี่ถ้าไม่ใช่น้องชายแท้ๆคงเลือดกำเดาพุ่งไปแล้วนะเนี่ย =.,=”

    มีอะไร? ฉันถามกลับไป

    จริงหรือเปล่า...ที่เขาลือไปทั่วโรงเรียนว่าพี่คบกับนักเรียนแลกเปลี่ยนลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นอะไรนั่น?

    โห...ขนาดน้องชายฉันมันยังรู้เลยเหรอเนี่ย =_=”

    เอ่อ...ทำนองนั้นล่ะ

    ฉันทำท่ายืดนิดๆเหมือนอยากบอกว่า ในที่สุดพี่สาวแกก็หาแฟนได้แล้วนะ โฮะๆๆ...

    เขาพิการทางสายตาหรือเปล่า ถึงคว้าพี่มาเป็นแฟนเนี่ย!”

    มะเหงกแหน่ะ...พูดแบบนี้เดี๋ยวศพไม่สวยหรอก

    คูก้าหัวเราะเบาๆเมื่อฉันแว้ดกลับไป

    งั้นทำไมเขาถึงมาคบกับพี่ล่ะ ผมเคยได้ยินข่าวลือว่าไอ้หมอนี่มันไม่ยอมคบสาวๆคนไหนเลยไม่ใช่เหรอ?

    เอ่อ...ถ้าฉันเล่าให้ฟัง แกจะเชื่อมั้ยล่ะ?

    ก็เล่ามาสิ!”

    จากนั้นฉันก็เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องชายฟัง ตั้งแต่ไปซื้อหนังสือ คู่มือสร้างรักแบบฉบับสาวฮอต!!!” ยันลองทำตามเทคนิคต่างๆจนถึงยืมนาฬิกาล็อคเก็ตของมันไปทดลอง...

    เว่อร์น่า...พี่ใช้นาฬิกาล็อคเก็ตที่ยืมผม ไปสะกดจิตนายเรตะนั่นจนได้คบเป็นแฟนเนี่ยนะ

    ก็เออสิ...ฉันไม่ได้โกหกนะ เราเป็นแฟนกันแล้วจริงๆ

    ผมไม่ได้บอกว่าพี่โกหกเรื่องที่ได้เป็นแฟน แต่รู้สึกว่ามันทะแม่งๆยังไงไม่รู้!”

    ยังไง?

    ถ้าวิธีสะกดจิตมันทำได้ง่ายขนาดนั้น คนทั่วไปไม่เอาไปใช้จนรักกันทั้งโลกแล้วเหรอ?

    มันก็ใช่...แต่ในคู่มือเขาเขียนว่าถ้าเป็นเนื้อคู่จะได้ผลนะ ฉันอาจเป็นเนื้อคู่กับเขาก็ได้

    ความจริงฉันไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เลย ถ้ามันไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง...

    ไร้สาระน่า! มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

    ถ้าเป็นไปไม่ได้...ทำไมเขาถึงยอมคบฉันล่ะ? ฉันถามน้องชายกลับไป

    เขาหลอกพี่หรือเปล่า อาจแกล้งทำว่าตัวเองโดนสะกดจิต

    งั้นเขาจะหลอกหรือแกล้งทำไมในเมื่อไม่มีเหตุผลอะไรให้ทำแบบนั้น เพราะเขาปฏิเสธผู้หญิงที่เข้ามาทุกคน แถมยังไม่เคยรู้จักฉันมาก่อนด้วยจนกระทั่งเช้าวันนี้

    เออ...นั่นสินะ...จะว่าเขาแอบหลงรักพี่มานานแล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะพี่ไม่ได้มีเสน่ห์ตรงไหนเลย เป็นผมเอาพี่จัสมินดีกว่า

    ขอบใจนะ...ไอ้น้องรัก =_=*

    เอาเถอะๆ...ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาหรอก ฉันขึ้นไปทำการบ้านดีกว่าฟังแกพูดแล้วปวดหัวชะมัด!” ฉันตัดบทพลางจะเดินขึ้นบันได แต่เสียงน้องชายที่ดังรั้งท้ายมาก็อดทำให้รู้สึกกังวลใจไม่ได้

    ยังไงๆก็ระวังตัวเอาไว้ด้วยละกัน เพราะไอ้หมอนั่นมีแฟนคลับเยอะแยะเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน!!!”

     

    วันรุ่งขึ้น...ที่โต๊ะอาหารนั้นมีน้องชายตัวแสบนั่งทานแซนวิชกับน้ำส้มที่คุณแม่ทำเผื่อไว้ให้อยู่ก่อนแล้ว เพราะฉันตื่นสายไปหน่อยเนื่องจากเมื่อคืนวานไม่ได้นอนเลยหลับยาวรวดเดียว ไม่งั้นคงไม่เห็นคูก้าเวอร์ชั่นพร้อมไปโรงเรียนแน่ๆ...

    อ้าว...จะไปโรงเรียนแล้วเหรอ? มันถามฉันพลางยัดแซนวิชคำสุดท้ายเข้าปากไปจนแก้มตุ่ย

    เออสิ...นี่มันจะเจ็ดโมงแล้วนะยะ ฉันบอกพลางดื่มน้ำส้มรวดเดียวจนหมดโดยไม่แตะแซนวิชเพราะไม่อยากเสียเวลาแล้วทำท่าจะโกยออกนอกบ้าน แต่คูก้ากลับเอ่ยขึ้นว่า...

    นี่...”

    มีอะไร? ฉันเบรกตัวโก่งถามคูก้าที่ทำสีหน้าเคร่งเครียด

    ถ้า...แซนวิชอันนี้พี่ไม่กินผมขอนะ...”

    ฟังแล้วอยากด่าโคตรเหง้าศักราช แต่ไม่อาจทำได้ TT^TT

    ตามใจแกสิ!” ฉันตอบพลางจะออกตัวจากจุดสตาร์ท...

    นี่... น้องชายจอมแสบรั้งเอาไว้อีกทำให้ฉันต้องหันไปตวาดมันทันที

    แกจะกินอะไรก็กินไปเลย ไม่ต้องขอ!”

    เปล่า...ไม่ใช่เรื่องนั้น มันปฏิเสธกลับมา

    งั้นมีอะไร ฉันจะรีบไปโรงเรียน

    ถ้า...ผมเป็นพี่จะไม่รีบไปโรงเรียนหรอก

    อ้าว...ทำไมล่ะ? ฉันฟังแล้วอดสงสัยไม่ได้

    เวลาว่างๆก่อนเข้าแถวตอนเช้าคงมีสาวๆหลายคนจ้องเล่นงานพี่แน่ๆ เพื่อความปลอดภัยไปโรงเรียนพร้อมกับผมเถอะ

    มันยิ้มแฉ่งเห็นฟันครบสามสิบสองซี่ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกยินดีกับข้อเสนอนั้นเลย

    จะบ้าเหรอ...ฉันไม่ได้สนิทกับอาจารย์ฝ่ายปกครองเหมือนแกนะ จะได้เอ้อระเหยจนต้องเข้าออกที่นั่นเป็นว่าเล่น!” ฉันปฏิเสธพลางวิ่งออกไปจากบ้านทันที

    ให้ตายเถอะ...ไร้สาระที่สุด ใครจะมาทำอะไรในโรงเรียนที่คนเยอะแบบนั้นได้ ทว่า...วิ่งไปได้สักพักฉันก็ต้องยูเทิร์นกลับมา

    อ้าว...ตัดสินใจไปโรงเรียนพร้อมกับผมแล้วใช่เปล่า? มันถามพลางกัดแซนวิชของฉันเข้าปาก

    น้องใครฟะ...กินจุจริงๆ =_=*

    เปล่า...แต่เอาไอ้นี่มาคืนให้แกเพราะฉันคงไม่ต้องใช้มันแล้ว

    ฉันถอดนาฬิกาล็อคเก็ตที่สวมส่งคืนให้มันที่แบมือรับ

    แน่ใจใช่มั้ย...ว่าจะไม่ไปโรงเรียนพร้อมผมจริงๆ? คูก้าถามย้ำกลับมาอีกครั้ง

    เออสิ...แล้วแกก็รีบๆไปโรงเรียนด้วยล่ะ ฉันบอกพลางวิ่งออกไปทันที เพราะไม่อยากเก็บของๆคนอื่นเอาไว้กับตัวเกิดทำหายขึ้นมาจะยุ่ง แม้มันอาจไม่มีราคาแต่ก็คงมีค่าสำหรับน้องชายฉันถึงได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

    ทันทีที่ถึงโรงเรียนฉันก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตรอบๆตัวเต็มไปหมด มีผู้หญิงหลายคนทั้งมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาปลายต่างเพ่งเล็งมาทางฉัน ทั้งจ้องมอง ทั้งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ จนรู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ จะหาที่พึ่งก็ไม่ได้เพราะแตงโมกับลูกหมียังไม่มา ฉันพยายามเดินเร็วๆเพื่อเข้าอาคารเรียนแต่รู้สึกขามันก้าวช้าผิดปกติคงเพราะโดนกดดันจากบรรยากาศรอบตัวกระมัง

    นี่...เธอน่ะ...

    ฉันเหลียวไปมองนักเรียนหญิงระดับเดียวกัน ห้อง C ราวๆห้าถึงหกคน ถ้าจำไม่ผิดพวกนี้ตั้งชื่อกลุ่มว่า R-F มาจาก Reita Fanclub พวกเธอเข้ามารายล้อมฉันเอาไว้... =[]=”

    เอ่อ...มีอะไรเหรอ? ฉันถามกลับไปด้วยสีหน้าเป็นปกติ แม้ในใจอดหวาดกลัวไม่ได้

    มาด้วยกันหน่อยสิ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ซอยผมซึ่งย้อมเป็นสีน้ำตาลจนสั้น ใส่ต่างหูห่วงเงินอันเล็กๆ ดูท่าทางเป็นหัวโจกเอ่ยบอก

    เอ่อ...คือ... ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็มีผู้หญิงอีกสองคนหิ้วปีกฉันไปทันที

    ปล่อยฉันนะ!!!” ฉันโวยวาย แต่ยัยหัวโจกนั่นหันกลับมาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

    เงียบๆ...ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!”

    พวกนั้นพาฉันเข้าไปในห้องน้ำหญิงตรงแถวสนามบาสเก็ตบอล ก่อนผลักฉันเข้าไปจนกระแทกกับผนังอย่างแรง

    ตึงงงง!!!

    โอ้ย...เจ็บนะ ฉันไปทำอะไรให้พวกเธอเนี่ย!” ฉันโวยวายถามกลับไป ยัยหัวโจกรีบปรี่เข้ามาประชิดตัวโดยเร็ว

    นี่เธอยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าทำอะไร ผิงผิง...ช่วยบอกยัยนี่ทีสิ!!!” เธอหันไปเอ่ยบอกเพื่อนสาวที่มัดแกละสองข้าง

    ได้สิ...ดรีม

    ผิงผิงเดินเข้ามาประกบฉันไว้อีกคนพลางเอ่ยบอกว่า

    ฉันไม่รู้ว่าเธอไปอ่อยเรตะวิธีไหนเขาถึงได้ยอมคบกับผู้หญิงโง่ๆห้องจีอย่างเธอ และมันก็ทำให้พวกเราไม่พอใจมากเพราะไม่ว่าจะมองยังไงเธอกับเขาก็ไม่เห็นจะเหมาะสมกันเลยสักนิดเดียว

    ฉันฟังอย่างอึ้งๆนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้ามาหาเรื่องแบบในซีรีย์ญี่ปุ่นหรือเกาหลี รู้งี้เชื่อที่น้องชายตัวแสบพูดก็ดีเพราะปกติมันไม่ค่อยชอบให้ฉันไปโรงเรียนพร้อมกันแท้ๆ สงสัยมีเซ้นท์แน่ๆว่าพี่สาวสุดที่รักจะต้องโดนหาเรื่องแบบนี้ TTwTT

    ฉันไม่ได้อ่อยเขานะ... ฉันพยายามปฏิเสธข้อกล่าวหา

    แล้วเธอใช้วิธีไหนล่ะ เขาถึงได้หลงผิดมาคบเธอแบบนี้เนี่ย ห๊ะ!!!” หัวโจกที่ชื่อดรีมตะคอกใส่หน้าฉัน

    ฉัน...แค่...

    ถ้าบอกว่า...ฉันสะกดจิตเขา พวกหล่อนจะเชื่อเหรอเนี่ย

    ว่าไง!!!”

    ดรีมผลักอกฉันอย่างแรงแต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันปริปากบอก เพราะคิดว่าพวกเธอคงไม่มีสมองพอจะเข้าใจไม่เช่นนั้นคงไม่กล้ามาหาเรื่องคนอื่นแบบไร้มนุษยธรรมเยี่ยงนี้แน่ๆ

    จะใช้วิธีไหนมันก็เรื่องของฉัน...หรือพวกเธออิจฉาอยากเอาวิธีฉันไปใช้บ้างล่ะ ถ้างั้นจะได้สงเคราะห์บอกให้!!!” ฉันตอกกลับไปเพราะรู้สึกโมโหมาก

    ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยกับการมาหาเรื่องเพราะผู้ชายคนเดียว ฉันไม่ได้ไปแย่งแฟนใครสักหน่อย ทำไมจะไม่สิทธิ์คบเขาล่ะ!!!

    หนอย...ยัยนี่!!!”

    ดรีมเงื้อมือทำท่าจะตบฉัน ในตอนนั้นเอง...

    ทำอะไรกันน่ะ? เสียงสวรรค์เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่กลุ่ม R-F จะแตกสลายวิ่งกระจายไปคนละทิศละทาง ฉันมองต้นเสียงนั้นจากหน้าห้องน้ำก็พบว่าเป็นเรตะนั่นเอง

    เป็นอะไรมั้ยครับซูกัส?

    เขาเดินเข้ามาในห้องน้ำหญิงอย่างไม่เกรงสายตาใคร พลางใช้สองมือจับใบหน้าฉันและไล่ไปตามเนื้อตัวราวกับต้องการเช็คความผิดปกติ

    ไม่เป็นอะไรหรอก...เอ่อ...เรตะคุงรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่? ฉันถามกลับไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะมาช่วยไว้ราวกับอัศวินขี่ม้าขาว ให้ตายเถอะ...มันทำให้ฉันปลื้มมากกว่าเดิมอีกนะเนี่ย...

    ออ...พอดีจัสมินเห็นคุณโดนลากตัวไปก็เลยรีบมาบอกผมนะ

    เรตะเหลือบมองไปทางหญิงสาวผมยาว หน้าตาสะสวยที่ยืนเยื้องด้านหลัง

    ขอบคุณนะคะ

    ฉันยิ้มหล่อนให้นิดๆ รู้สึกเกรงใจพอสมควรเพราะเธอเพิ่งสารภาพรักกับเรตะไปเมื่อเร็วๆนี้ คงชอบเรตะมากแต่กลับต้องมาช่วยฉันที่ได้คบกับเขา...รู้สึกผิดยังไงไม่รู้ TT^TT

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อ๊ะ...เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะคะ

    จัสมินยิ้มหวานแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้ฉันอยู่กับเรตะเพียงลำพังสองคน

    ซูกัสไม่เป็นอะไรจริงๆใช่มั้ย? เขาถามย้ำอีกครั้ง

    จ๊ะ...ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

    รู้สึกหัวใจเต้นแรงพิกล คงเพราะยังตื่นเต้นจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ และ เขินที่ต้องอยู่กับเขาเพียงลำพังแบบนี้

    โล่งอก...ผมเป็นห่วงแทบตาย ออ...เมื่อเย็นวานผมรอที่หน้าโรงเรียนตั้งนานแต่มีคนบอกว่าซูกัสกลับไปแล้ว วันนี้ตอนเช้าจะไปรับก็ไม่รู้ทางไปบ้าน แย่จังเลย...ผมเป็นแฟนที่ไม่เอาไหนจริงๆ ไม่งั้นซูกัสคงไม่โดนเล่นงานแบบนี้แน่ๆถ้ามีผมอยู่ด้วย เรตะก้มหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า

    เอ่อ...ไม่ใช่ความผิดของเรตะคุงหรอก ฉันขอโทษที่ไม่ได้รอกลับบ้านด้วยเพราะ... ฉันยั้งเอาไว้เพราะอายที่จะพูด

    เพราะอะไรเหรอ? เขาถามกลับมา

    เอ่อ...เพราะฉันไม่เคยมีแฟนน่ะสิ ก็เลยไม่รู้ว่าคนที่เขาคบกันต้องทำยังไงบ้าง

    อายชะมัด! เหมือนกำลังประจานให้คนที่รักรู้ว่าตัวเองไร้เสน่ห์สุดๆ TT^TT เรตะเงียบไปชั่วครู่ก่อนยิ้มนิดๆแล้วตอบว่า

    ผมดีใจนะ...ที่ได้เป็นแฟนคนแรกของซูกัส เขาพูดพลางกอดฉันเอาไว้

    อ้ากกกกก!!!...ตายกี่ชาติก็ยอม ทั้งคำพูดและการกระทำของนายจะทำให้ฉันตายเพราะหัวใจสูบฉีดเลือดเร็วเกินไปนะ TT///TT ว่าแล้วก็กอดตอบแบบเนียนๆ...ฮี่ๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×