ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RyuJin - RyuSei ริวจิน - ริวเซ

    ลำดับตอนที่ #3 : RyuJin - RyuSei [ 3 ] [[ จินโนะ บุตรแห่งทิวา ]]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 49


    ตอนที่ 3 : RyuJin - RyuSei [ 3 ] [[ จินโนะ บุตรแห่งทิวา ]]

             หมู่บ้านโมคุไซ …หมู่บ้านเล็กๆที่มีอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน แต่ก็อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี…หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองของมหานครคินได เมืองหลวงที่มั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยนั้น…..

             ลำธารสายเล็กๆที่ไหลผ่านหมู่บ้านโมคุไซ  เป็นที่ๆชาวบ้านนิยมใช้ทำมาหากินในบริเวณนี้กันเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการทำไร่ทำนาหรือแม้แต่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิต  จึงถือเป็นลำธารสายหลักของหมู่บ้านแห่งนี้  

             อีกทั้งบริเวณริมลำธารก็มักเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะร่มเย็นด้วยร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ ไหนจะลมที่พัดโชยเข้ามา ทำให้รู้สึกสบายตัวอยู่ตลอดเวลา มีเสียงน้ำไหลที่ฟังแล้วชื่นฉ่ำหัวใจประสานกับเสียงใบไม้ไหวตามแรงลมที่ชวนรู้สึกผ่อนคลาย ราวกับ เรื่องต่างๆถูกสายน้ำและสายลมพัดพาให้หายไปจนหมดสิ้นนั่นเอง…              

             พวกชาวบ้านได้ช่วยกันปลูกศาลาไม้เล็กๆไว้ที่บริเวณริมลำธารไม่ห่างจากตัวหมู่บ้านมากนัก…และศาลาไม้แห่งนี้ก็มักจะเป็นที่ๆเด็กๆในหมู่บ้านชอบมานั่งเล่นเป็นประจำในช่วงเวลากลางวัน และช่วงเวลาเย็นๆ ค่ำๆก็มักจะมีหนุ่มสาวหลายคู่มาพลอดรักกันที่บริเวณนี้…..

    ...................................................

             แสงอาทิตย์วันนี้ยังคงร้อนแรงไม่แพ้ทุกๆวัน..หากแต่ความร้อนนั้นก็ไม่สามารถทำให้พวกเด็กๆสนใจไปมากกว่าการวิ่งเล่นไล่จับบริเวณลานหญ้าไม่ห่างจากศาลาไม้ริมท่าน้ำเท่าไรนัก….เสียงเจื้อยแจ้วสนุกสนานของเด็กชายและเด็กหญิงหลายคนที่กำลังเล่นกันอยู่ที่ลานหญ้านั้น ทำเอาเด็กหญิงวัยสิบขวบคนหนึ่งที่นั่งพักอยู่บริเวณศาลาไม้ถึงกับถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยแทน….

             เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนเล็กๆเช็ดเหงื่อตามใบหน้าเพราะความร้อนในเวลากลางวัน..ก่อนจะเสยผมสีน้ำตาลขึ้นไปแล้วใช้เชือกฟางแห้งๆมาผูกผมไว้ เผยให้เห็นใบหน้าขาวๆ ที่ดูน่ารัก รับกับดวงตาสีน้ำตาลเหมือนสีผมของเธอ…ดวงตาสีน้ำตาลนั้นจดจ้องเด็กชายวัยเดียวกันที่กำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนตรงลานหญ้านั้นอย่างสนุกสนานด้วยความสนใจ

             "จินโนะ…ข้าจะจับเจ้าให้ได้"

             เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยเสียงดังพลางจะตะครุบตัวจินโนะที่วิ่งนำหน้าเขาไป จินโนะรีบวิ่งให้เร็วกว่าเดิม ก่อนจะเอามือคว้ากิ่งไม้แล้วโหนตัวขึ้นไปทันใด ในจังหวะที่เพื่อนชายเข้ามาตะครุบตัวพอดี….พรืดดดด!!!…เด็กชายไถลไปกับพื้นหญ้าเพราะจับตัวจินโนะไม่ได้…แล้วเหลือบมองดูจินโนะที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้หัวเราะขบขันอยู่

             "ฮ่าๆๆๆ….ขอโทษนะ….ถ้าคิดจะจับข้า คงยากเสียหน่อยล่ะ"

             จินโนะหัวเราะร่วนก่อนจะกระโดดลงมาจากกิ่งไม้….แล้วเอามือป้องแดดที่สาดแสงแรงจ้าจนแสบตา…. ผมสีขาวดูเงาวับเมื่อโดนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาจับต้อง นัยน์ตาสีทองจับจ้องไปยังศาลาไม้ริมท่าน้ำ พลางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเด็กหญิงที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว…….

             "ชินเทกิ…..เจ้าไม่มาเล่นกับพวกเราเหรอ…นั่งอยู่คนเดียว ไม่เหงาหรืออย่างไรกัน"

             เด็กชายเอ่ยถามเด็กหญิงที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ตัวยาวอย่างแปลกใจ….ชินเทกิมองดูผู้ถามก่อนตอบเขากลับไป

             "ไม่ล่ะ…เล่นอะไรกันก็ไม่รู้ เหงื่อไหลไคลย้อย สกปรกจะตาย….เชอะ.."

             เด็กหญิงพูดพลางสะบัดหน้าเชิดมองออกไปทางอื่น…ทำเอาจินโนะหัวเราะร่วนกับความเอาแต่ใจของชินเทกิ ในขณะที่เด็กชายคนอื่นๆวิ่งเข้ามาแล้วตะโกนบอกว่า..

             "จินโนะ..เจ้าจะชวนชินเทกิทำไมเล่า…คุณหนูชินเทกิเขาไม่มาเล่นกับพวกเราหรอก..แค่เสวนาด้วยก็บุญแล้ว ฮ่าๆๆๆ"

             ชินเทกิหันควับไปทำหน้าทำตาค้อนเด็กชายที่ตะโกนคนนั้น…ทำไมล่ะ…ก็ในเมื่อเธอเป็นถึงลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้าน ฐานะก็มีอันจะกิน… ทำไมต้องมาเล่นอะไรสกปรกๆ ตากแดดตากลม คลุกดินคลุกฝุ่นด้วยเล่า…..ถ้าไม่มีเขา…เธอคงไม่ยอมมาอยู่ในกลุ่มเด็กพวกนี้เป็นแน่…เขาคนนั้น…จินโนะ….คิดดังนั้น…ชินเทกิก็เหลือบมองดูจินโนะที่นั่งทอดกายสบายๆพักเหนื่อยอยู่ข้างๆไม่ห่างจากกันมากนัก…เด็กชายที่มีผมสีขาว นัยน์ตาสีทองช่างดูโดดเด่นน่าสนใจ…เพราะสีผมและสีตานี่เองทำให้เขาดูไม่เหมือนเด็กทั่วๆไป…

             พวกชาวบ้านต่างร่ำลือว่าเขาเป็นคนพิเศษ เป็นบุตรของเทพยดาบนสรวงสวรรค์ที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์  เพราะมีชาวบ้านที่เข้าไปล่าสัตว์ในป่าลึก แล้วบังเอิญได้ยินเสียงเด็กร้องบริเวณศาลเจ้าชินโตร้างกลางป่า  พอเข้าไปดูก็พบเด็กทารกคนหนึ่งนอนร้องไห้อยู่…น่าแปลกที่ว่าเด็กคนนี้มีผมสีขาว นัยน์ตาสีทอง ชาวบ้านก็เชื่อว่าเขาเป็นบุตรของเทพยดาเลยนำมาเลี้ยงในหมู่บ้าน….โดยตั้งชื่อว่า จินโนะ….

             จินโนะถูกรับเลี้ยงโดยหัวหน้าหมู่บ้าน นั่นก็คือ พ่อของเธอ ในฐานะ บุตรบุญธรรม แม้ว่าจินโนะจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ว่าพ่อของเธอก็รักเขาเท่าๆกับเธอ เพราะเขาเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย มีจิตใจดีงาม  อีกทั้งยังเฉลียวฉลาด…แต่ถึงอย่างนั้น…จินโนะ ก็มีความลับข้อหนึ่งที่คนในหมู่บ้านไม่รู้…ความลับที่มีแต่คนในครอบครัวของเธอเท่านั้นที่รู้…..

    ...................................................

             "ชินเทกิ!!!"

             เสียงของจินโนะดังขึ้น ชินเทกิสะดุ้งตื่นจากภวังค์ก่อนจะสบตาจินโนะที่มองเธออยู่อย่างแปลกใจ

             "อะไรเหรอจินโนะ"

             "อ้าว….ข้าสิ..ควรถามเจ้า….ว่าอะไรเหรอ…ข้าเห็นเจ้ามองข้าตั้งนานแล้วนะ…"

             จินโนะถามอย่างสงสัย….ในขณะที่ชินเทกิหน้าแดงระเรื่อ…นี่เธอมองเขาอยู่อย่างนั้นเหรอ…ลืมไปเลย…ชินเทกิหลบสายตาของเด็กชายที่ยังคงจ้องมองเธอ ทว่า เด็กหญิงยังไม่ทันจะพูดอะไรตอบไป…เด็กชายสี่ถึงห้าคนก็วิ่งเข้ามาหาหลังจากที่เล่นกันเสร็จ 

             "จินโนะ….ชินเทกิ……รู้มั้ยว่าที่ทุ่งหญ้าท้ายหมู่บ้านน่ะ…มีฝูงม้ามากินหญ้าทุกๆเย็นเลยนะ"

             เสียงเด็กชายคนหนึ่งเอ่ยบอก….พลางชี้มือชี้ไม้ไปทางท้ายหมู่บ้าน…..

             "รู้ได้อย่างไร ว่ามีฝูงม้ามากินหญ้าที่ท้ายหมู่บ้าน"

             ชินเทกิถามอย่างสงสัยพลางทำสีหน้าแปลกใจ เช่นเดียวกับจินโนะ…

             "ก็เมื่อวานข้าได้ยินลุงของข้าเล่าให้ฟัง ตอนกลับมาถึงบ้านหลังล่าสัตว์เสร็จน่ะสิ เขาบอกว่า..ช่วงนี้เห็นฝูงม้ามากินหญ้าที่ท้ายหมู่บ้านทุกวันเลย น่าไปดูชะมัด"

             เด็กชายคนนั้นเล่า…ทำเอาเด็กๆหลายคนรวมทั้งชินเทกิและจินโนะสนอกสนใจทันที

             "ถ้าเช่นนั้น เย็นนี้พวกเราไปดูกันมั้ย"

             ชินเทกิกระตือรือร้นอยากไปดู….ก็เธอเป็นผู้หญิงนี่…ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไกลๆอย่างท้ายหมู่บ้านบ่อยๆเหมือนพวกเด็กผู้ชาย…อีกทั้งจะได้เห็นฝูงม้าด้วย อย่าว่าแต่ฝูงม้าเลย  ที่หมู่บ้านโมคุไซซึ่งห่างไกลความเจริญ ม้าสักตัวยังหาดูยากเต็มที เพราะชาวบ้านมักเดินเท้ากันมากกว่า

             "ขอโทษนะ…ข้าคงไปไม่ได้….เย็นนี้ลุงข้าใช้ให้ไปช่วยตักน้ำที่ลำธาร"

             เด็กชายคนที่เอาข่าวเรื่องฝูงม้ามาบอกเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสลดๆ  ในขณะที่เด็กชายอีกหลายคนก็ต่างพูดว่า

             "ข้าก็ไม่ไปเหมือนกัน…เดี๋ยวโดนแม่ว่า…งานบ้านยังไม่ได้ช่วยเลย"

             "ข้าด้วยๆ…."

             เด็กๆหลายคนเอ่ยขึ้น….นั่นทำเอาชินเทกิรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก….อะไรกัน…เอาข่าวเรื่องฝูงม้ามาบอกให้คนอื่นอยากไปดู แล้วตัวเองกลับไปไม่ได้..แย่ที่สุด… จินโนะมองดูเด็กหญิงที่ทำสีหน้าโกรธเคืองเพื่อนชายหลายคนปนผิดหวัง…ก่อนจะครุ่นคิดแล้วเอ่ยบอกเธอไป…

             "ถ้าเจ้าอยากไป…ข้าจะพาไปดูเองชินเทกิ"

             ชินเทกิหันไปมองหน้าจินโนะแล้วยิ้มแก้มแทบปริอย่างดีใจเป็นที่สุด…..จินโนะ..เจ้าช่างใจดีกับข้าเหลือเกิน….ชินเทกิคิดในใจ.….ถ้าโตขึ้นข้าคงไม่ขออะไรมากมาย..ขอแค่ได้เคียงคู่กับเจ้า ข้าก็คงมีความสุขเหลือเกินแล้ว….

    ...................................................

             พงพนาเขียวขจีร่มรื่นในยามเย็น….ลำต้นของต้นไม้แต่ละต้น ใหญ่โตบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี…..กิ่งก้านใบของมันปกคลุมทึบจนแสงสุริยันที่ว่าแน่ก็ยังมิสามารถเล็ดลอดผ่านลงไปได้ง่ายๆ นั่นทำให้พื้นดินชื้นแฉะเพราะไอน้ำที่มีอยู่มากมายทั่วไป…..

             ชินเทกิเดินตามจินโนะอย่างกระชั้นชิด..พลางมองดูป่าไม้รอบตัวของเธอระหว่างที่เดินอยู่นั่นเอง….เถาวัลย์มากมายเลื้อยเลาะไปตามกิ่งก้านของต้นไม้แต่ละต้นดูราวกับอสรพิษที่คอยจับจ้องมองดูเธออยู่เต็มไปหมด….ชินเทกิจับมือจินโนะไว้ด้วยความกลัว….ก็เธอไม่เคยเข้ามาในป่านี้นี่…จินโนะมองดูเด็กหญิงพลางนึกขำกับท่าทางของเธอ

             "อะไร..ชินเทกิ….เจ้ากลัวเหรอถึงได้จับมือข้าเสียแน่นเลย"

             จินโนะเอ่ยเมื่อเห็นว่าชินเทกิจับมือเขาไว้แน่น  ชินเทกิมองดูมือของเธออย่างตกใจ..เธอเผลอไปจับมือจินโนะตอนไหนล่ะเนี่ย น่าอายชะมัด… เด็กหญิงรีบปล่อยมือพร้อมใบหน้าแดงระเรื่อแล้วทุบเข้าไปที่ไหล่จินโนะเบาๆ

             "กลัวสิ..ก็ข้าไม่เคยเข้ามาในป่านี่…แค่ไปทุ่งหญ้าท้ายหมู่บ้าน ทำไมต้องพาอ้อมเข้ามาในป่าก็ไม่รู้ น่ากลัวจะตาย"

             ชินเทกิบ่นอย่างอดไม่ได้….ก็จะเดินไปท้ายหมู่บ้านง่ายๆ ไม่ได้หรืออย่างไร ทำไมต้องพาอ้อมเข้ามาทางป่าเพื่อไปท้ายหมู่บ้านก็ไม่รู้

             "อ้าว…ก็พ่อของเจ้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปท้ายหมู่บ้านตอนเย็นๆไม่ใช่เหรอ…ถ้าเราเดินผ่านทางปกติก็ต้องมีชาวบ้านเห็นแล้วเอาไปบอกพ่อของเจ้าแน่ๆ ข้าก็เลยพาลัดเลาะเข้ามาในป่าข้างๆเพื่อไปยังท้ายหมู่บ้าน จะได้ไม่มีใครเห็นอย่างไรล่ะ"

             จินโนะตอบเธอไปตามความเป็นจริง….ชินเทกิได้แต่ทำหน้าทำตาค้อนนิดๆ..เพราะไม่รู้จะเถียงอะไรนั่นเอง…เอาเถอะ ถึงจะให้ไปไหนถ้ามีจินโนะอยู่ข้างกายก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ…..

       ...................................................

             ทุ่งหญ้ากว้างเบื้องหน้าเขียวขจีดูสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งพอแสงสีทองทอลงมาจับต้องก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ได้ ความรู้สึกมันผสมผสานกลมกลืนกันไปหมด….ยอดหญ้ากำลังพริ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดแรงในตอนนี้…..

             ชินเทกิสูดหายใจรับอากาศสดชื่นเข้าไปเสียให้เต็มปอด ในขณะที่จินโนะกลับมองทุ่งหญ้าเบื้องหน้าด้วยความพินิจ…ก่อนเหลือบไปเห็นม้าฝูงหนึ่งที่กำลังเล็มหญ้าห่างออกไปไม่ไกลเท่าไร แล้วชี้ให้เด็กหญิงดู

             "ชินเทกิ…นั่น..ฝูงม้า!!!"

             ชินเทกิมองไปตามทิศที่จินโนะชี้ก่อนจะทำหน้าตื่นตาตื่นใจ.. ม้าฝูงใหญ่ ราวๆสามสิบกว่าตัว มันกำลังเล็มหญ้ากินอย่างสบายอารมณ์….ช่างน่าดูชมทีเดียว เด็กชายและเด็กหญิงเดินช้าๆเข้าไปหาฝูงม้าเพื่อดูมันใกล้ๆ หากแต่ก็ยังเว้นระยะไว้พอสมควร เพราะไม่ไว้ใจพวกมันว่าจะแตกตื่นหรือเปล่า 

             อาชาตัวใหญ่มีทั้งสีดำ สีขาว สีเทา และสีน้ำตาล พวกมันกำลังมีความสุขกับการกินอาหารอันโอชะตรงหน้า….โดยไม่คิดใส่ใจมนุษย์สองคน ที่กำลังจดจ้องพวกมันด้วยความสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว

    ...................................................

             "พวกเจ้าเป็นใครน่ะ!!!"

             เสียงหนึ่งเอ่ยขัดขึ้น…..จินโนะและชินเทกิหันไปมองเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันที่ยืนอยู่ไม่ห่าง….เธอมีผมสีดำยาวตรงสลวย หากแต่นัยน์ตากลับมีสีเขียวดั่งมรกต ช่างน่าแปลกตาดีเหมือนกัน แต่ก็ยังน้อยกว่า จินโนะที่มีทั้งผมสีขาวและนัยน์ตาสีทอง ..

             จินโนะจับจ้องเด็กหญิงคนนี้ด้วยความสนใจเล็กน้อย…ชินเทกิแอบมองเห็นสายตาของจินโนะที่มองดูเด็กหญิงคนนี้ ทำให้เธอไม่พอใจก่อนตะโกนตอบเด็กหญิงแปลกหน้าไปว่า

             "ข้าชื่อ ชินเทกิ ส่วนนี่ จินโนะ พวกเราเป็นลูกของหัวหน้าหมู่บ้านโมคุไซ"

             "อย่างนั้นหรือ….แล้วพวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่ล่ะ……"

             เด็กหญิงคนนั้นถามต่อไป…จินโนะได้ฟังคำถามก็เอ่ยตอบเธอไปทันที

             "พวกเราได้ข่าวมาว่า มีฝูงม้ามาที่ทุ่งหญ้าท้ายหมู่บ้านทุกๆเย็น…ชินเทกิอยากดู ข้าก็เลยพามา…ไม่ทราบว่า..ม้าฝูงนี้เป็นของผู้ใด"

             เด็กหญิงคนนั้นได้ฟังก่อนแย้มริมฝีปากเรียวบางเล็กน้อย

             "ม้าฝูงนี้เป็นของจอมเวทย์คาโอ ผู้วิเศษแห่งราชสำนักคินได ส่วนข้า ชื่อ มิโดริ เป็นลูกศิษย์ของจอมเวทย์คาโอ"

             เด็กหญิงเอ่ยแนะนำตัวไปทีเดียว…..นั่นทำให้จินโนะรู้สึกทึ่งกับเด็กหญิงตรงหน้าเหลือเกิน…ได้ข่าวมาจากพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเหมือนกันที่ร่ำลือว่า  ในเมืองหลวงมีจอมเวทย์คนหนึ่งที่เก่งกาจ…..นามว่า คาโอ ไม่นึกว่าจอมเวทย์คาโอจะมีลูกศิษย์เป็นเด็กหญิงวัยแค่นี้…แสดงว่าเธอคงต้องมีพรสวรรค์หรือความสามารถอะไรสักอย่างที่สามารถทำให้จอมเวทย์ผู้เก่งกาจนั้น..ยอมรับเธอเป็นลูกศิษย์

             "เจ้านี่มีสีผมสีตาแปลกดีนัก…."

             มิโดริเอ่ยถาม…พลางพินิจผมสีขาวของจินโนะ มันขาวสะอาดราวกับหิมะ ก่อนจะเหลือบไปสบนัยน์ตาสีทองดุจอำพันที่แวววาวน่าจับตาจับใจ

             "ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะข้ามีสีผมและสีตาแบบนี้มาตั้งแต่เกิด….ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม………"

             จินโนะหยุดชะงัก…เขาเงียบกริบ นิ่งงันไม่พูดอะไรต่อ… ทำเอามิโดริถึงกับแปลกใจ….

             "เจ้าเงียบทำไม"

             มิโดริเอ่ยถามด้วยความสงสัย….ทว่า…ชินเทกิสะดุ้งเล็กน้อยมองดูจินโนะที่ยืนนิ่งราวกับถูกตรึงเอาไว้อยู่กับที่….หรือว่า….ก่อนที่เธอจะเหลือบมองท้องฟ้าเบื้องบนที่แปรเปลี่ยนเป็นสีเทาแกมส้มบ่งบอกเวลาเย็นมากแล้ว…..อีกไม่กี่นาทีพระอาทิตย์ก็คงลับขอบฟ้า….บรรยากาศรอบตัวเริ่มมีความมืดครอบคลุมเข้ามา…ชินเทกิหันไปมองร่างของจินโนะที่สั่นเล็กน้อย…...อย่างตกใจ

             "จินโนะ"

             ชินเทกิตะโกนลั่นเรียกเด็กชายที่ยังคงยืนสั่น…จินโนะไม่หันมามองชินเทกิแม้แต่นิดเดียว…..ราวกับไม่ได้ยินเสียงของเธอ….ไม่นะ…เธอไม่น่ามาดูฝูงม้าในยามเย็นแบบนี้เลย เธอลืมไปได้อย่างไร ว่าเวลาเย็นใกล้ค่ำแบบนี้….มันไม่ใช่เวลาของจินโนะ..ความลับของจินโนะจะต้องมีอีกคนที่รู้ คือเธอ มิโดริ!!!…..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×