ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rose & Snowdrop แผนการร้าย...คุณชายซาตาน

    ลำดับตอนที่ #2 : น่ารังเกียจ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 51


    ตอนที่ 2 : น่ารังเกียจ

             โครม!!! ร่างบางๆของนานาโกะถูกผลักเข้าไปกระแทกผนังห้องน้ำอย่างแรง จนเธอทรุดลงไปนั่งที่พื้นเพราะความเจ็บ เรียวยะหันไปเอ่ยสั่งชินอิจิเพื่อนสนิทที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

             "แกดูต้นทางดีๆนะ"

             "ได้เลย"

             ชินอิจิตอบรับเสียงใสแล้วปิดประตูห้องน้ำเพื่อขังให้คนทั้งคู่อยู่ด้วยกัน หญิงสาวนั่งมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มเยาะราวกับปีศาจร้ายด้วยความหวั่นเกรงเล็กน้อย

             "นายจะทำอะไรน่ะ"

             นานาโกะตะโกนถามเสียงดัง เรียวยะลงไปนั่งยองๆก่อนใช้มือจิกผมหญิงสาวอย่างแรงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลจนน่าขนลุก

             "ก็พาเธอมาล้างชุดตามคำสั่งอาจารย์น่ะสิ...ยัยโสโครก"

             "มะ...ไม่ต้อง!!! ฉันจัดการเองได้"

             นานาโกะบอกด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวแต่ก็สั่นรัว ทั้งๆที่พยายามจะไม่แสดงความกลัวแต่น้ำเสียงนั้นกลับแสดงความตื่นตระหนกได้อย่างชัดเจน จนดวงตาสีเขียวฉายประกายวาววับด้วยความยินดีกับท่าทีของหญิงสาวตรงหน้า

             "อวดดีเหลือเกินยัยเด็กบ้านนอก เป็นบุญขนาดไหนแล้วที่ฉันอุตส่าห์ลงแรงมาล้างตัวให้เธอ เอาเถอะ...รีบๆล้างชุดได้แล้ว เหม็นกลิ่นโคลนสาปควายมากกว่ากลิ่นราเมนเสียอีก"

             พูดจบเขาก็กระชากแขนหญิงสาวอย่างแรง นานาโกะตกใจที่โดนลากด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจนล้มลุกคลุกคลานไปกับพื้นกระเบื้องที่ชื้นแฉะ แต่ถึงกระนั้นเรียวยะก็ไม่ได้ใส่ใจ คว้าสายยางขึ้นมาแล้วฉีดน้ำไปยังร่างของเธอทันที ซ่า!!! เนื้อตัวและชุดนักเรียนของหญิงสาวเปียกชุ่ม นานาโกะพยายามดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้นแล้วหมายจะวิ่งออกไปจากตรงนั้น หากแต่เรียวยะก็จับเธอผลักลงไปอีกครั้ง

             "ยัยโง่!!! เธอจะหนีไปไหนพ้น"

             เขาพูดในขณะที่มือข้างหนึ่งฉีดน้ำลงไปที่ร่างกายของหญิงสาว และอีกมือหนึ่งก็จับคางเธอเชยขึ้น ดวงตาสีเขียวจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลในระยะไม่ถึงฝ่ามือ 

             "นอกจากล้างชุด สงสัยจะต้องล้างตัวด้วย"

             ยังไม่ทันที่นานาโกะจะตอบอะไรกลับไป มือที่เชยคางหญิงสาวก็แปรเปลี่ยนมาจับที่ชุดนักเรียนของเธอ แล้วกระชากอย่างแรงจนกระดุมหลายเม็ดกระเด็นหลุดพร้อมเศษผ้าที่ขาดติดมือไปด้วย 

             "กรี๊ดดด!!!"

             หญิงสาวกรีดร้องดังลั่นหวังจะให้ใครสักคนได้ยิน แต่ก็ดูเหมือนไร้ค่า อีกทั้งเรียวยะยังไม่ใส่ใจกับเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาผลักตัวเธอลงไปนอนที่พื้นก่อนนั่งคร่อมทับเอาไว้ นานาโกะพยายามปัดมือของเรียวยะที่ลูบไล้ไปตามร่างกายท่อนบนของเธอด้วยความรู้สึกขยะแขยงที่สุดในชีวิต ชายหนุ่มใช้สายยางฉีดน้ำใส่ร่างของนานาโกะในขณะที่มืออีกข้างก็ลูบไล้ผิวขาวละเอียดของหญิงสาวไปด้วย

             "จะดิ้นไปทำไม ฉันแค่จะล้างตัวให้เธอ"

             เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่รู้สึกรู้สา ความเย็นของน้ำทำให้หญิงสาวรู้สึกหนาวเย็น แต่ดวงตาสีเขียวคู่งามที่จดจ้องมองดูร่างกายของเธอทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุกยิ่งกว่า สายตาที่นิ่งเฉยดูไร้อารมณ์ กับ รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ตรงมุมปากตลอดเวลาราวกับมีความสุขที่เห็นเธอกรีดร้องหรือดีดดิ้นไปมา มือที่สัมผัสร่างกายก็ชวนขยะแขยงจนรู้สึกสะอิดสะเอียนอยากอาเจียนเหลือเกิน

             "จะล้างท่อนล่างต่อมั้ย"

             เขาก้มลงกระซิบถามที่ข้างหูหญิงสาวอย่างกวนอารมณ์ นานาโกะสะบัดหน้าหนี เธอรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของเขา และรู้สึกเจ็บใจเหลือเกิน จนน้ำตาใสๆไหลรินคลอดวงตาสีน้ำตาลคู่งาม 

             "งั้นไว้คราวหน้าก็ได้"

             เขาพูดพลางโยนสายยางทิ้งไว้ข้างตัวนานาโกะที่ยังคงนอนนิ่งบนพื้นห้องน้ำ ก่อนลุกขึ้นแล้วยืนยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง

             "อย่าได้คิดว่าสิ่งที่ฉันทำเพราะต้องการอยู่ใกล้ๆหรือมีใจ ที่ฉันยอมลงทุนไปเกลือกกลิ้งกับคนน่ารังเกียจอย่างเธอเพื่อบีบคั้นให้ยอมยื่นใบลาออก ดังนั้นถ้าไม่อยากโดนอะไรมากกว่านี้ก็น่าจะรู้ตัวว่าควรทำยังไง"

             เรียวยะพูดจบก็เดินออกไปโดยไม่แยแสกับหญิงสาวที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิม น้ำตาใสๆไหลคลออาบแก้มทั้งสองข้าง ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องแบบด้วยล่ะ เธอจะยอมแพ้คนไร้มารยาท ไร้ความเป็นคนเหรอ ไม่มีวันเสียล่ะ เธอไม่ยอมให้เงินเก็บก้อนสุดท้ายที่แม่อุตส่าห์ส่งเสียให้เธอเรียนต้องสูญเปล่า แต่ว่า…เธอจะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนที่เฮงซวยดีแต่เปลือกนอกได้ยังไง

             "โห...แกไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมเปียกโชกเหมือนลูกหมาตกน้ำ"

             นาริตะเอ่ยถามน้องสาวที่เดินเข้ามาในร้านดอกไม้ด้วยความตกใจ หญิงสาวฝืนยิ้มให้พี่ชายแล้วส่ายหน้าช้าๆ 

             "ไม่มีอะไรหรอกพี่นาริตะ หนูจะล้างมือ แล้วพอดีก็อกมันเสีย น้ำก็พุ่งมาโดนจนเปียกไปหมด อาจารย์เลยอนุญาตให้กลับบ้านก่อน"

             หญิงสาวโกหกพี่ชายตัวเองเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง ทั้งๆที่ความจริงเธอแอบหนีกลับมาก่อนต่างหาก อีกทั้งยังต้องแวะไปซื้อเสื้อมาคลุมชุดนักเรียนที่ขาดรุ่งริ่ง คุณยูริเจ้าของร้านดอกไม้ที่พี่ชายของเธอทำงานอยู่เดินเข้ามาหาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กๆ

             "นานะรีบเช็ดตัวให้แห้งก่อนเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัดนะจ้ะ"

             "ขอบคุณค่ะ"

             เธอรับความหวังดีของคุณยูริ ก่อนนำผ้ามาเช็ดผมเผ้าที่ยังคงเปียกชื้น ก่อนคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน สิ่งที่เจ็บใจรองลงมาจากเรื่องของเรียวยะ ก็คือเรื่องของทุกๆคน หลังจากที่เรียวยะออกไปจากห้องน้ำแล้ว เธอก็หยิบเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำมาสวมใส่ปกปิดร่างกายแล้วเปิดประตูออกไป สิ่งที่เธอเห็นก็คือ มีคนมากมายที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่แถวนั้น แต่ทำไมถึงไม่มีใครสักคนได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว หรือ พวกเขาทำเป็นไม่ได้ยินกันแน่ นี่น่ะเหรอสิ่งที่เรียกว่าคนมีการศึกษา ที่แท้ก็แค่คนที่เอาความรู้มาบังหน้าแล้วดันตัวเองให้สูงขึ้นไปจนเหยียบย่ำคนอื่นได้ง่ายๆ

             "นานะ!!!"

             นาริตะตะโกนเรียกน้องสาวของตัวเองที่ยืนเหม่อลอย จนเธอสะดุ้งเฮือกทำหน้าเหรอหรา

             "มีอะไรเหรอพี่นาริตะ"

             "พี่บอกให้ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่อพาร์ทเม้นท์ จะได้สบายเนื้อสบายตัว แล้วลงมาช่วยพี่ขายของด้วย"

             "อ๋อ...อืมๆ..."

             นานาโกะรับคำพลางเดินไปหลังร้าน เพื่อลัดเข้าอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ใกล้ๆ นาริตะกับคุณยูริมองดูนานาโกะด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมายพลางช่วยกันจัดดอกไม้เพื่อเตรียมให้ลูกค้าที่สั่งซื้อไว้ต่อ

             น้ำอุ่นๆจากฝักบัวไหลรดร่างกายเปล่าเปลือย นานาโกะพยายามล้างรอยสัมผัสบนร่างกายของผู้ชายคนนั้นออกไป แต่ก็รู้สึกถึงรอยสัมผัสที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ เพราะการกระทำที่ไร้มารยาทและป่าเถื่อนนั่น 

             ใครกันแน่ที่น่ารังเกียจ เธอหรือเขา ผู้ชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน ตั้งแต่เธอเกิดมา ยังไม่เคยพบมนุษย์เพศผู้ที่ทำร้ายผู้หญิงเพียงเพราะอารมณ์สนุกได้ขนาดนี้เลย...

             นานาโกะมองดูข้อมือที่มีรอยแดงๆอย่างเจ็บใจ คำพูดของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธอตลอดเวลา "อย่าได้คิดว่าสิ่งที่ฉันทำเพราะต้องการอยู่ใกล้ๆหรือมีใจ ที่ฉันยอมลงทุนไปเกลือกกลิ้งกับคนน่ารังเกียจอย่างเธอเพื่อบีบคั้นให้ยอมยื่นใบลาออก ดังนั้นถ้าไม่อยากโดนอะไรมากกว่านี้ก็น่าจะรู้ตัวว่าควรทำยังไง"ทำไมเธอจะต้องลาออกเพราะเรื่องไร้สาระอย่างนั้น คุณมาซาฮิโร่ โคโทโกะ หรือ แม่ของอีตานั่นเป็นคนรับเธอเข้ามาเรียนโดยไม่ได้เกี่ยงฐานะหรือชาติกำเนิด แต่ทำไมลูกชายถึงได้ยึดค่านิยมภายนอกผิดๆนะ

             แล้วเธอจะไม่ลาออกเหรอ ในเมื่อวันแรกยังโดนขนาดนี้ ถ้าขืนอยู่ต่อไปคงเจออะไรหนักแน่ๆ หญิงสาวครุ่นคิดด้วยความสับสน แต่ก็ลงเอยที่ว่าเธอไม่อยากยอมแพ้ผู้ชายคนนั้น!!!

            ร้านดอกไม้ของคุณยูริค่อนข้างใหญ่โตและมีชื่อเสียง แบ่งออกเป็นสองโซน คือ ดอกไม้เมืองร้อน กับ ดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งดอกไม้เมืองร้อนจะปลูกอยู่ในกระถางตกแต่งอยู่บริเวณหน้าร้าน ถัดมาข้างในจะเป็น ดอกไม้เมืองหนาวต้องปลูกไว้ในห้องเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิ ถัดไปข้างๆก็คือห้องรับรองและที่ทำงาน ไว้จัดดอกไม้ตามที่ลูกค้าสั่ง

             ดอกไม้หลากสายพันธุ์ และ หลากสีสัน กำลังส่งกลิ่นฟุ้งขจรขจายจนรู้สึกผ่อนคลายความเครียดได้เป็นเท่าตัว นานาโกะสูดความหอมของดอกกุหลาบสีแดงซึ่งกำลังเบ่งบานอยู่ในกระเช้าที่นาริตะกับคุณยูริเพิ่งเตรียมไว้ให้ลูกค้าเสร็จพลางเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

             "ดอกกุหลาบนี่หอมจังเลยนะ"

             เธอเอ่ยแล้วใช้นิ้วเขี่ยกลีบบางๆของมันอย่างอารมณ์ดี คุณยูริหัวเราะเบาๆพลางถามเธอ

             "นานะชอบกุหลาบเหรอจ้ะ"

             "ชอบสโนว์ดรอปมากกว่าค่ะ"

             "อ้าว...ฉันนึกว่านานะชอบดอกกุหลาบเสียอีก"

              "จริงๆกุหลาบก็ชอบค่ะ แต่ชอบสโนว์ดรอปมากกว่า กุหลาบแม้จะสวยงาม แต่ก็มีหนามแหลมคมอันตรายเอาไว้ปกป้องตัวของมันเอง ต่างจากสโนว์ดรอปที่เข้มแข็ง สามารถทนความหนาวเย็นของหิมะที่ตกหนักได้อย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วยังปกป้องตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไรเลย นี่คือเสน่ห์ของมันค่ะ"

             นานาโกะเอ่ยตอบตามความรู้สึก ที่โอซาก้าก็มีดอกสโนว์ดรอปเหมือนกันแต่ไม่ค่อยเจอบ่อยนัก เธอเคยมองดูความเข้มแข็งของมันจนรู้สึกทึ่ง ถ้าเรียกว่า เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เข้มแข็งก็ย่อมได้ เธออยากจะอดทนให้เหมือนสโนว์ดรอป อดทนต่อความหนาวเย็นของมนุษย์บนโลกใบนี้...

             "นานะอีกสักพักลูกค้าที่สั่งกระเช้าดอกไม้ไว้จะมารับ เธอช่วยจัดการแทนด้วยนะ เดี๋ยวพี่กับคุณยูริจะไปรับดอกไม้ที่มาส่งตรงตลาด"

             นาริตะเอ่ยบอก ก่อนที่นานาโกะจะพยักหน้าหงึกหงักมองดูผู้เป็นพี่กับผู้เป็นนายเดินออกจากร้านไป หญิงสาวนั่งลงบนโซฟารับแขกพลางเอนกายลงไปที่พนักพิงเพื่อผ่อนคลายความฟุ้งซ่านต่างๆ เธอได้กลิ่นหอมของดอกไม้ ได้สัมผัสถึงความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศ

             "มารับกระเช้าดอกไม้ครับ"

             เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าร้าน ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว แล้วตาลีตาเหลือกคว้ากระเช้าดอกไม้ที่จัดเตรียมไว้เพื่อเอาไปให้ลูกค้าที่เดินเข้ามา

             "กระเช้าดอกไม้ที่สั่งได้แล้วค่ะ..."

             แต่แล้วนานาโกะก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ รู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อพบว่าบุคคลที่มารับของ คือ ผู้ชายที่ชื่อ มาซาฮิโร่ เรียวยะ...



    -s b- mimi_ mimi  + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×