คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : RyuJin - RyuSei [ 2 ] [[ กำเนิดเทพบุตร 2 ]]
ตอนที่ 2 : RyuJin - RyuSei [ 2 ] [[ กำเนิดเทพบุตร 2 ]]
อาทิตย์ส่องแสงลงมาเบาบางราวกับจะจางหายไปจากท้องนภา สรวงสวรรค์เงียบงันเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกได้ดีนัก ไม่มีเสียงดนตรีขับกล่อมคลอเคล้าเสียงเพลงท่วงทำนองหวาน ไม่มีเสียงหัวเราะครื้นเครงสนุกสนานอย่างทุกๆครั้ง แม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยังยากที่จะปรากฏให้เห็น
ข่าวการสิ้นชีพของเทพบุตรริวจินสร้างความโศกเศร้าแก่เหล่าเทพทั้งหลายยิ่งนัก เพราะเหตุใดกันเล่า แค่เพราะสตรีนางเดียวเท่านั้นน่ะหรือ
ถึงทำให้ริวเซพระอนุชาแท้ๆถึงกับปลิดชีวาผู้เป็นพระเชษฐาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้
"ท่านจะทำเยี่ยงไรต่อไปกันเล่าชินจู ..บุตรของท่านต้องมาฆ่าฟันกันเพราะสตรี"
เทนไต ประมุขแห่งเทพเอื้อนเอ่ยสุรเสียงถามพระนางชินจูที่นั่งบนอาสน์ไม่ห่างจากกันมากนักในตำหนักหลวง
..เทวีสาวทอดเนตรมอง เทพเทนไต เทพอาวุโสซึ่งมีอายุมากกว่าตัวนางเองหลายรอบ หากแต่ใบหน้านั้นยังดูอ่อนเยาว์ราวกับเทพหนุ่มๆ ผมสีดำขลับปรกลงมาดูยุ่งๆ คิ้วเข้มโก่งเรียวยาวดั่งคันศร จมูกโด่งได้รูป และริมฝีปากที่เรียวบางดูเอิบอิ่มเป็นสีชมพู ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนช่างลงตัว ไหนจะบุคลิกที่น่าเกรงขาม พินิจดูดีๆแล้วก็คล้ายกับริวจินและริวเซอยู่ไม่น้อย
ไม่ผิดเลย
.เพราะว่า เทพหนุ่มสองพี่น้อง คือ บุตรของเทพเทนไตที่กำเนิดจากพระนางชินจู ผู้เป็นชายานั่นเอง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยสักนิดที่การตายของริวจินจะเป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งสรวงสวรรค์
"ใช่บุตรของข้าคนเดียวเสียเมื่อไร
บุตรของท่านด้วยนั่นแหละ
.."
พระนางชินจูเอ่ยกระทบผู้เป็นสวามีไปเสียที
..พลางทำหน้าหน่ายๆ..ใช่ว่าจะไม่เสียใจที่ริวจินตาย หากแต่ไม่ว่าอย่างไร
ก็คงได้พบกันอีกนั่นเอง
..เทพเทนไตทำหน้าปุเลี่ยนเล็กน้อยที่โดนชายาเอ่ยกระทบตัว
"จะทำเยี่ยงไรได้ล่ะ
ตอนนี้ก็ต้องจัดการเรื่องริวเซก่อนนั่นแหละ..เพราะริวเซได้ชินเทกิไปครั้งการประลองเท็นชิโนะจากงานเทศกาลเท็นชิโนะ โอโดะแล้ว คงต้องจัดพิธีมงคลสมรสให้กระมัง"
พระนางชินจูตอบไปอย่างหน่ายใจยิ่งนัก
เอาเถอะ..จัดการเรื่องของริวเซก่อน..ส่วนเรื่องริวจินเอาไว้ทีหลังก็แล้วกัน
..
...................................................
บริเวณตำหนักของเทพธิดาชินเทกิ ท้องนภาดูหม่นหมอง....อีกทั้งยังดูอึมครึม ไร้แสงสุริยันที่สาดส่องลงมา ทำให้บุปผชาติต่างเหี่ยวเฉา...หมู่ภุมราก็หงอยเหงาน่าหดหู่ใจยิ่งนัก หอคอยสูงของตำหนักเทพธิดาชินเทกิก็ไม่ได้ต่างอะไรกับตำหนักร้าง เพราะมันช่างเงียบไร้เสียงที่จะเข้ามาทำลายความสงัดในตอนนี้ หากแต่ถ้าได้ฟังดีๆ ก็จะได้ยินเสียงร่ำไห้ของสตรีผู้หนึ่ง ไม่ใช่ใครอื่น ชินเทกิ นั่นเอง
"ชินเทกิ..เจ้าจะไม่ทานอะไรบ้างเลยเหรอ"
สหายหญิงของชินเทกิเอ่ยถาม ในขณะที่ยกถาดใส่ผลไม้นานาชนิดมาวางตรงโต๊ะหน้าชินเทกิที่นั่งนิ่งอยู่
"ไม่!!!...."
ชินเทกิปัดถาดผลไม้นั้นออกไปจนมันตกลงกับพื้น ผลไม้ในถาดหกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด เช่นเดียวกับ ใบหน้าสะสวยในขณะนี้ซึ่งถูกบดบังด้วยคราบน้ำตามากมายที่ไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้าง
"ข้าไม่กินอะไรทั้งนั้น...เจ้าคิดว่าข้ามีความสุขพอที่จะมานั่งกินโน่นกินนี่ได้เหรอ....บุรุษที่หมายปองถูกฆ่าไม่พอ ยังโดนจับแต่งงานกับคนที่ฆ่าเขาอีก...ข้ายอมตายเสียดีกว่า"
ชินเทกิตวาดลั่นตำหนัก..อย่างไม่อายใคร.. ใช่สิ..ใครจะไปทนได้...แถมคนที่ฆ่านั้นยังเป็นพระอนุชาแท้ๆอีก ช่างโหดร้ายป่าเถื่อนเสียนี่กระไร สหายหญิงถอนหายใจ
..ไม่รู้จะพูดอะไร
.เพราะชินเทกิพูดถูก
..ริวเซโหดร้ายเหลือเกิน เกินกว่าที่เหล่าเทพจะรับได้
"ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว"
พูดจบสหายหญิงคนสนิทของชินเทกิก็เดินออกจากห้องไป
.ชินเทกิเหลือบมองก่อนจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่พึงพอใจ
..ทำไม
.ทำไม
.ทำไมริวจินต้องถูกฆ่า
.บุรุษที่เธอได้ยินคำร่ำลือว่าช่างงดงามและสง่างาม อีกทั้งยังจิตใจดีมีเมตตา ถึงจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ได้ยินแค่นั้นก็น่าหลงใหลปลาบปลื้มเหลือเกินแล้ว เมื่อมาได้พบเจอครั้งงานเทศกาลเท็นชิโนะ โอโดะ ก็ยิ่งทำให้เชื่อเหลือเกินว่าคำร่ำลือนั้นเป็นจริง
.รู้ตัวอีกทีก็หลงรักไปเสียแล้ว..แต่ไฉนเลยริวจินกลับถูกปลิดชีพด้วยน้ำมือของพระอนุชาผู้มีจิตใจชั่วช้า
..
...................................................
เสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆบ่งบอกว่ามีผู้มาเยือน
.ชินเทกิถึงกลับหงุดหงิดใจยิ่งนัก
.ทำไมต้องมากวนใจอีก
ใครกันนะ หรือว่า สหายหญิงคนเมื่อสักครู่
.. ชินเทกิเหลียวไปมองดูผู้หยุดยืนที่หน้าประตูห้องก่อนจะทำสีหน้าตกใจยิ่งนัก
"ริวเซ!!!"
ริวเซ ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้อง ดวงเนตรสีเงินจ้องมองดูสตรีผู้เป็นที่รักตรงหน้าก่อนจะย่างเท้าก้าวเข้าไปในห้องของชินเทกิช้าๆอย่างถือวิสาสะ
"หยุดนะ..ใครใช้ให้เจ้าเข้ามาในนี้.
.แล้วเจ้าเข้ามาในตำหนักของข้าได้อย่างไร"
ชินเทกิตวาดใส่แล้วลุกขึ้นถอยหลังไปนิดหน่อยอย่างไม่ไว้ใจเทพหนุ่มผู้นี้เสียเท่าไรนัก ริวเซหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบชินเทกิไป
"หึหึ...ทำไมข้าจะเข้ามาไม่ได้ ในเมื่อข้าได้เจ้ามาจากการพนันประลองเท็นชิโนะใครๆก็รู้..แล้วตอนนี้ข้าก็ยังเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่บนสรวงสวรรค์ ใครจะกล้าขัดใจข้า"
ริวเซตอบไปอย่างง่ายๆ
พลางนั่งลงยังอาสน์ตัวที่ชินเทกินั่งเมื่อสักครู่
"ข้าไม่ใช่ของพนันของผู้ใด
"
ชินเทกิตวาดใส่รริวเซอย่างไม่เกรงกลัวและไม่ให้ความเคารพ ..ใครเล่าจะไปเคารพได้ลง นิสัยอย่างนี้ต่อให้เป็นบุตรของประมุขแห่งเทพก็เถอะนะ
.
"ไม่ใช่ของพนัน
.เพราะข้าเป็นผู้ชนะใช่มั้ย
ทำไม
ตอนที่เจ้าริวจินมันชนะ..เจ้าไม่เห็นเดือดร้อนอะไรกับคำว่าของพนันเลย"
"ก็ข้ารักริวจิน
.ข้าไม่ได้รักเจ้า เข้าใจมั้ย
.."
เทพธิดาสาวเอ่ยตะโกนลั่นออกไป
ชลเนตรหลั่งไหลรินอาบแก้ม
.แล้วสะอื้นเบาๆ
..ริวเซทอดเนตรมองชินเทกิ สตรีผู้เป็นที่รักอย่างสับสน
ทำไม
..เจ้าริวจินมันดีกว่าข้าตรงไหนกันเล่า
.
"ข้าสู้ริวจินไม่ได้ตรงไหน ทั้งๆที่ข้าชนะมันนะ แค่นั้นก็รู้แล้วว่าใครเก่งกว่ากัน"
ริวเซเอ่ยบอกไปด้วยเหตุผลที่ดูไร้ค่า
.เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าพระเชษฐาออมแรงออมฝีมือเพื่อเขาขนาดไหน
ชินเทกิมองริวเซด้วยความหยามเหยียดเดียดฉันท์ บุรุษเทพผู้นี้ทรนงเกินตัวยิ่งนัก
"เจ้าสู้ริวจินไม่ได้เพราะเจ้ามันมีจิตใจโหดร้าย หยาบกระด้าง ชั่วช้าน่ะสิ
"
ประโยคนี้ทำเอาริวเซถึงกับเลือดขึ้นหน้า
.ก่อนจะลุกตรงเข้าไปหาชินเทกิด้วยความรวดเร็ว
..ชินเทกิผวาตกใจจะถอยหนี ทว่า..ช้าไป
ริวเซจับข้อมือไว้ได้ก่อนจะดึงร่างชินเทกิเข้ามาสวมกอดไว้อย่างรวดเร็ว
.แล้วเชยคางนางขึ้นจุมพิต ชินเทกิบ่ายตัวหลบแล้วผลักอกเทพหนุ่มออกไปอย่างแรง
"เป็นของเจ้า..ข้ายอมตายเสียดีกว่า"
พูดจบชินเทกิก็หนีออกไปยังระเบียง
..ความสูงของหอคอยเมื่อมองลงไปจากตรงนั้น ไม่ได้ทำให้ชินเทกิสะทกสะท้านอะไรเลยเมื่อเทียบกับรอยจูบที่ประทับบนริมฝีปากอันน่าขยะแขยงเมื่อสักครู่ คิดดังนั้นชินเทกิก็กระโดดลงไปจากหอคอยสูง ริวเซตกใจยิ่งนักเมื่อเห็นอย่างนั้น
เทพบุตรหนุ่มรีบตรงเข้าไปคว้าข้อมือของนางได้ทันพอดีก่อนที่ชินเทกิจะร่วงหล่นลงไป หากแต่ร่างของนางก็ยังอยู่ในอากาศเช่นเดียวกับริวเซ
ที่ใช้มือขวาจับมือของนางไว้
.มือซ้ายเหนี่ยวกับรั้วระเบียง
.
"เจ้าจะทำอะไรน่ะ..ปล่อยข้า
ให้ข้าตกลงไปตายเสียดีกว่าที่จะอยู่ร่วมกินกับคนอย่างเจ้า!!!"
ชินเทกิตวาดลั่น
ในขณะที่ริวเซกัดฟันแน่นแล้วปริปากออกไปอย่างทนไม่ได้
"จะให้ข้าปล่อยเจ้าตกลงไปตาย ข้ายอมตายด้วยดีกว่า
อย่าให้ความรักของข้าต้องทนทุกข์ทรมานเพราะไม่มีเจ้าเลย"
ริวเซเอ่ยบอกนางไป
ชินเทกิเงียบงัน
..ริวเซหลงรักเธออย่างนั้นหรือ
.
"เจ้ารักข้าอย่างนั้นเหรอ
."
ชินเทกิเอ่ยถามอย่างสงสัย
ริวเซไม่ตอบแต่อย่างใด มือขวาที่จับข้อมือเธอไว้กำแน่นกว่าเดิม
แต่แค่นั้นชินเทกิก็รับรู้ความรู้สึกที่ริวเซมีต่อตัวเธอได้แล้ว
"อึ่ก
"
ริวเซกัดฟันแน่นกว่าเดิม
.มือซ้ายที่แดงก่ำเพราะเลือดที่มาคลั่งอีกทั้งยังไม่ถนัดในการใช้งานมันเริ่มรับน้ำหนักตัวของเขาและเธอไม่ไหวแล้ว
.
"ปล่อยข้าเถอะ
"
ชินเทกิเอ่ยเสียงสั่น แล้วเสียน้ำตาอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความโกรธแค้น หากแต่ร้องเพราะความรู้สึกสงสารและเห็นใจเทพหนุ่มผู้นี้เสียมากกว่า
"ถ้าจะตาย เราก็ตายด้วยกัน"
ริวเซตะโกนบอกออกไป มือซ้ายที่จับรั้วระเบียงเริ่มสั่นอย่างอ่อนแรงเหลือเกินแล้ว
. ดวงเนตรสีเงินมองดูไม้เท้าสีดำที่ตกบนพื้นห้องห่างออกไปอย่างเจ็บใจยิ่งนัก
..ไม่น่าลืมไม้เท้าเลย
ไม่เช่นนั้นคงเรียกมังกรออกมาช่วยได้
"ข้าขอโทษนะชินเทกิ
.ที่ข้าทำให้เจ้าไม่พอใจ
หากแต่เพราะข้ารักเจ้าจริงๆ
"
ริวเซเอ่ยพร้อมกับน้ำตาที่คลอดวงเนตรสีเงินนั้น
.
"ขอโทษที่ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้"
ขาดคำ
.ริวเซก็ปล่อยมือจากรั้วระเบียงนั้นทันที..เพราะมือซ้ายรับน้ำหนักไม่ไหวแล้ว
ร่างของทั้งคู่ลอยละลิ่วในอากาศพร้อมตกลงสู่เบื้องล่าง ชินเทกิกรีดร้องด้วยความตกใจ ขณะที่ริวเซใช้แรงเฮือกสุดท้ายคว้านางมากอดได้อีกครั้งแล้วพูดเบาๆ
"เราจะตายด้วยกัน"
สายลมพัดแรงยิ่งนักในอากาศ มันพัดพาร่างของชินเทกิกับร่างของริวเซตกลงปะทะพื้นเบื้องล่างอย่างแรง
..เงียบ
.ไร้เสียงร้องเพราะความเจ็บปวด โลหิตของทั้งคู่ท่วมตัวไหลนองพื้นตรงนั้น
ชินเทกิหายใจแผ่วเบาราวกับลมหายใจนั้นจะหมดไปในไม่ช้า
แล้วหรี่ตามองดูร่างริวเซที่นอนนิ่งสิ้นใจอยู่ข้างๆ
เธอจับมือเขาเอาไว้
.แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาออกไป
"ถึงชาตินี้ข้าไม่อาจเคียงคู่กับท่านได้ริวเซ
แต่ชาติหน้าข้าจะขอเคียงคู่กับท่านละกัน"
พูดจบ
.ชินเทกิก็สิ้นใจ
.คำพูดของนางจางหายไปตามสายลมที่พัดแรงในตอนนั้น
.
...................................................
พื้นหญ้าสั่นไหวน้อยๆราวกับสะอื้นไห้
ต้นไม้สั่นกิ่งก้านไหวไปมาราวกับร่ำร้อง
สายลมพัดแรงกว่าท่วงทำนอง
ประสานขับกล่อมให้ทั้งสองสู่นิทราที่ยาวนาน
ความคิดเห็น