ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ผู้มาเยือนจอมยุ่ง
นิโนะกลับบ้านตัวเองไปแล้ว เพราะตอนนี้ก็ใกล้จะค่ำแล้ว เหลือแต่คาซึที่นั่งอิ่มแปล้อยู่บนโซฟาคนเดียวในบ้าน เขาคิดว่าเดี๋ยวตัวเองก็คงจะเข้านอนได้แล้ว จึงรีบไปอาบน้ำสระผมที่ห้องน้ำข้างๆห้องนอนของเขา
‘นิโนะ...หวังว่าพอฉันจ้างมันแล้วจริงๆ ไอ้หมอนั่นคงไม่มาขโมยของในบ้านฉันไปหมดหรอกนะ........แต่ก็ช่างเถอะ บ้านฉันก็ไม่ค่อยมีของอะไรให้มันขโมยไปได้ง่ายๆอยู่แล้ว .....ถ้ามันจะขโมยจริงคงต้องแบกใส่รถบรรทุกละน้า......’ คาซึอาบน้ำไปก็คิดเรื่องวันนี้ไป นี่เขาคิดยังไงถึงได้ไปจ้างนิโนะมาเป็นพ่อครัวเนี่ย ........ทั้งๆที่เมื่อบ่ายนี้ที่ร้านขนมปัง นิโนะทำเอาเขาอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน แต่ความจริงเขาก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรมาก (เพราะคาซึเองก็มีความด้านอยู่พอสมควรเหมือนกัน....) คิดไปๆ จะติดเป็นเรื่องตลกด้วยซ้ำ................
พอคาซึอาบน้ำเสร็จ ก็นำชุดนอนมาใส่ เขาเดินไปมารอบห้องนอนพลางเช็ดผมที่เพิ่งสระที่ยังไม่แห้ง เพราะไม่มีอะไรทำ คาซึเดินไปมาหลายรอบจนรู้สึกเบื่อ จึงเดินออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียง
“เฮ้อ....เซ็ง.......หวังว่าคงไม่มีอะไรประหลาดๆพุ่งใส่ฉันอีกนะ.....ไม่เอาแล้ว.....แค่นี้ฉันก็วุ่นวายจะแย่อยู่แล้ว....แต่...ริฟเน่ก็น่ารักดีนะ มีคนน่ารักๆแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”  คาซึพูดไป ก็ยิ้มหวานคิดถึงหน้าริฟเน่ไป...
“เอ๋.....อะไรน่ะ ฝนดาวตกรึเปล่า จะได้ขอพรซะเลย.......เหอะๆ ไม่ใช่แล้วมั้งเนี่ย  คงไม่มีฝนดาวตกที่พุ่งเป็นเส้นตรงเร็วขนาดนี้หรอก หรือว่ามนุษย์ต่างดาว ขอเถอะ .....ฉันไม่อยากรับเลี้ยงมนุษย์ต่างดาวไว้ในบ้าน ......หรือว่าจะถ่ายภาพเอาไปขายให้พวกนักข่าวดี ไม่ไหวๆ แล้วเมื่อไหร่มันจะไปทางอื่นซะทีเล่า คิดจะตรงมาทางฉันรึไง!?” ขณะที่คาซึเช็ดผมและคิดอะไรไปพลางๆ เขาก็สังเกตเห็นแสงแวบหนึ่ง แสงนั้นสว่างชัดขึ้นเรื่อยๆ จนคาซึมั่นใจว่า สิ่งนั้นมันตรงมาทางเขาอย่างแน่นอน.......
“ยะฮู้!!! ฉันมาแล้ววววว~~” .......เสียงคนคนหนึ่งพูดขึ้น ตามมาด้วยเสียง....ตุ้บ!! ปัง!!....
“ว๊ากกกก !! อะไรวะเนี่ย.. เจ็บนะเฟ้ย! ลุกออกไปซิฟะ! ไอ้บ้า!!”  คาซึเห็นคนที่เป็นเจ้าของเสียงทักนี้โผล่ออกมาจากแสงสว่างนั่น และหล่นตุ้บจากกลางอากาศมาทับเขาเต็มๆ
“อ๋า......ขอโทษด้วยจ้ะๆ ขอโทษจริงๆ ....ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าบาดเจ็บนะ” เจ้าของเสียงนี้พูดขอโทษคาซึเป็นการใหญ่ และลุกขึ้น เอามือปัดฝุ่นตามเสื้อผ้า (ทั้งๆที่บ้านคาซึน่ะ ไม่ค่อยจะมีฝุ่นซักเท่าไหร่..) คนคนนี้มีผมสีเงินยาวสลวยเป็นเงางามเมื่อต้องแสงจันทร์ นัยน์ตาสีแดงใสเป็นประกายสวยคล้ายลูกแก้วที่ติดอยู่ตรงปลายต่างหูเงินยาวที่คนคนนี้ใส่ .....สวมชุดสีขาวยาวถึงข้อเท้า และมีชุดคลุมสีแดงที่มีริ้วสีเงินสวมทับอีกทีนึง.......รูปร่างผอมบาง แต่ก็ไม่ผอมมาก สูงประมาณ 176 ซม....และมีท่าทางแปลกๆคือถ้าไม่ได้ทำอะไร มือทั้ง2 ข้าง จะต้องซุกอยู่ในแขนเสื้อของอีกข้างหนึ่งเสมอ.......
“ไม่ได้ตั้งใจหรอ!! รู้มั้ยว่าฉันโดนแบบนี้มาสองรอบแล้วนะ” คาซึพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ พลางเอามือถูๆตรงข้อศอกของของตัวเอง และมองไปที่รอยถลอกด้วยสีหน้ามุ่ยๆ.....ขณะที่ตัวเขาเองก็ยังนั่งชันเข่าข้างหนึ่งอยู่ที่พื้นห้องนอน เพราะแรงกระแทกนั้น.....
“หรอ....แต่ข้าขอโทษเจ้าไปแล้วนา.....มันเป็นอุบัติเหตุ ช่วยไม่ได้นี่...” คนคนนี้หลับตาพูดด้วยน้ำเสียงลอยๆ.......คาซึสงสัยว่าไอ้ความสุภาพตะกี้นี้มันหายไปไหนหมด แล้วอีกอย่าง...ผมยาวๆแบบนี้...ผู้หญิงหรือผู้ชายวะเนี่ยยยย!?.......
“นายนี่มัน.............เฮอะ! ช่างเถอะ...ว่าแต่นายเป็นใคร แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง  เอ๊ะ......หน้าคุ้นๆ .............อ๋อ อากิระใช่มั้ย ได้เวลาคิดบัญชีซะที!!” คาซึรู้สึกโมโหมาก เพราะท่าทางของคนคนนี้ ช่างกวนประสาทเขาซะเหลือเกิน  แต่พอคิดดูอีกที..... เขารู้สึกคุ้นหน้าคนผู้นี้เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน....
“อะไรของเจ้า...อากิระอะไร ข้าไม่ใช่อากิระหรอก.... ข้าเป็นพี่ชายมันเองแหละ.....นึกแล้วว่าเจ้าต้องได้เจอกับน้องข้าแล้ว เป็นไงๆ น้องชายข้าหน้าตาหน้ารักใช่ม้า....” คนผู้นี้ลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมาเพื่อมองคาซึ แต่ท่าทีที่ดูสำรวมเมื่อกี้นั้น เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นท่าทางดี๊ด๊าๆแทน...
“เฮ้ยย!..อย่ามาเข้าใกล้ฉันนะ ออกไปไกลๆเลย เออ.....ว่าแต่เป็นผู้ชายหรอเนี่ย อืม.......”
“ใจร้าย!! มาไล่ข้าแบบนี้ได้ไง ใจร้ายจริงๆ” พอได้ฟังที่คาซึพูด ชายคนนี้ยิ่งยื่นหน้าที่มีน้ำตาคลอเบ้ามาใกล้ใบหน้าของคาซึเข้าไปอีก จนจมูกจะชนกันอยู่แล้ว......
“น่าหยะแหยง! เอาหน้านายออกไป” คาซึพูดด้วยน้ำเสียงโกรธๆ เพราะยิ่งชายคนนั้นทำท่าทางแบบนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนผู้หญิงมากขึ้นเท่านั้น(ดันมาหน้าหวานเหมือนผู้หญิงอีกแน่ะ...) แล้วเอามือดันหน้าของชายคนนั้นออกไป
“ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ แล้วมาทำอะไรที่นี่” คาซึถามก่อนที่ชายคนนั้นจะร้องไห้วิ่งหนีไป........ ชายคนนั้นรีบวิ่งตึงๆกลับมาอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินคำถามของคาซึ.....
“ข้าชื่อซาสุเกะ เป็นนักบวชชั้นสูงของHolyland มาที่นี่เพื่อแจ้งข่าวเรื่องพลังพิเศษทีเจ้าได้มาจากท่านริฟเน่  ท่านโรเชลคิดว่าน่าจะเป็นพลังลม เพราะในบรรดาพลังทั้งหลาย พลังลมเป็นพลังที่ควบคุมได้ยากที่สุด .......ดังนั้นผู้ที่ได้ผลพวงมาจากท่านริฟเน่โดยตรงนั้น จึงน่าจะเป็นผู้ที่ได้พลังที่ยากแก่การควบคุมและการใช้มากที่สุดเช่นกัน และท่านโรเชลฝากมาถามว่า เจ้าจะว่างอีกเมื่อไหร่ จะได้มารับตัวไปที่อาณาจักรของพวกเราเพื่อตามหาร่างของท่านริฟเน่” ตอนนี้ชายคนนี้พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
“เฮ้อ...เป็นไงเป็นกันวะ.....อีกอาทิตย์กว่าๆ รอให้พ้นวันงานโรงเรียนไปก่อนแล้วกัน” คาซึพูดอย่างเรียบๆ เพราะยังไงเขาก็คงต้องช่วยริฟเน่อยู่แล้ว ก็จิตของริฟเน่ ตอนนี้อยู่ในตัวเขาไม่ใช่หรือ........
“อืม.... ข้าจะรายงานท่านโรเชลเดี๋ยวนี้แหละ” ชายคนที่ชื่อซาสุเกะ นำกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อ แล้วจู่ๆ กระดาษแผ่นนั้นก็กลายเป็นนกพิราบสีขาว ซาสุเกะพูดข้อความที่คาซึบอกตัวเองให้เจ้านกตัวนั้นฟัง แล้วจึงปล่อยให้มันบินออกไป......
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย......งั้นก็กลับไปซะทีสิครับ ลาก่อนครับ..” คาซึคิดว่าซาสุเกะมาเพื่อถามเขาแค่นี้ แล้วจะกลับเลย จึงพูดสุภาพกับซาสุเกะทิ้งท้าย.....
“แหม......พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ... ข้าส่งข่าวไปแล้วอากิระก็คงจะมารับตัวข้ากับเจ้าไปพร้อมกันนั่นแหละ” ซาสุเกะกลับมาอยู่ในท่าทางสุภาพ โดยเอามือไว้ในแขนเสื้อเหมือนเดิม....
“ก็กลับเองสิครับ...จะรอเจ้านั่นทำไม คุณก็น่าจะกลับเองได้นะ” คาซึเริ่มโมโห และกัดฟันพูดเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับซาสุเกะ
“ก็กลับเองไม่ได้น่ะสิ คนที่สามารถส่งสิ่งอื่นหรือตัวเองข้ามไปยังอีกโลกได้น่ะ มีแต่อากิระเท่านั้นแหละ ข้าไม่มีพลังเคลื่นย้ายแบบนั้นได้หรอก เผอิญน้องข้าเก่งน่ะ เลยสามารถเคลื่อนย้ายมนุษย์ข้ามมิติได้ ส่วนพลังพิเศษของข้านั้น........เป็นความลับจ้ะ อ้อ...นกนั่นก็เป็นของอากิระนะ” ซาสุเกะพูดด้วยสีหน้าเชิ่ดสุดๆ จนคาซึหมั่นไส้.....
“อะไรนะ.........กลับไปได้แล้วไป๊!!!” คาซึพูดเสียงดังด้วยควาโมโหใส่ซาสุเกะ พลางชี้มือไปที่ระเบียง.......ประมาณว่ามาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย......
“งะ.......แง้ๆๆ  กะ.....ก็ข้ากลับไม่ได้อ่ะ  คาซึจังใจร้าย.......” ซาสุเกะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นระริก น้ำตาที่คลอเบ้าค่อยๆไหลออกมา....แล้ววิ่งออกจากห้องนอนไป
“หมอนั่นมันอายุเท่าไหร่กันวะ ขี้แยเป็นบ้าเลย...นักบวชชั้นสูงจริงๆหรอเนี่ย....” คาซึงงกับท่าทางของซาสุเกะมาก เขาเริ่มสงสัยว่านักบวชของที่นั่นเป็นแบบนั้นทุกคนรึเปล่าน้า...... และอีกอย่างหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าซาสุเกะจะวิ่งไปไหน แต่ใส่ชุดแบบนั้น...ใครเห็นคงคิดว่าประหลาดแน่ๆ
..........ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คาซึจึงเลิกสนใจเรื่องซาสุเกะ และขึ้นเตียงนอนทันทีด้วยความง่วง เพราะผมของเขาตอนนี้ก็แห้งสนิทแล้วด้วย.........
‘หึหึ......โรเชล...นี่นายส่งตัวป่วนมาให้ฉันหรอ......จะให้ฉันเจอเรื่องยุ่งๆไปถึงไหน~~ ’
‘นิโนะ...หวังว่าพอฉันจ้างมันแล้วจริงๆ ไอ้หมอนั่นคงไม่มาขโมยของในบ้านฉันไปหมดหรอกนะ........แต่ก็ช่างเถอะ บ้านฉันก็ไม่ค่อยมีของอะไรให้มันขโมยไปได้ง่ายๆอยู่แล้ว .....ถ้ามันจะขโมยจริงคงต้องแบกใส่รถบรรทุกละน้า......’ คาซึอาบน้ำไปก็คิดเรื่องวันนี้ไป นี่เขาคิดยังไงถึงได้ไปจ้างนิโนะมาเป็นพ่อครัวเนี่ย ........ทั้งๆที่เมื่อบ่ายนี้ที่ร้านขนมปัง นิโนะทำเอาเขาอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน แต่ความจริงเขาก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรมาก (เพราะคาซึเองก็มีความด้านอยู่พอสมควรเหมือนกัน....) คิดไปๆ จะติดเป็นเรื่องตลกด้วยซ้ำ................
พอคาซึอาบน้ำเสร็จ ก็นำชุดนอนมาใส่ เขาเดินไปมารอบห้องนอนพลางเช็ดผมที่เพิ่งสระที่ยังไม่แห้ง เพราะไม่มีอะไรทำ คาซึเดินไปมาหลายรอบจนรู้สึกเบื่อ จึงเดินออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียง
“เฮ้อ....เซ็ง.......หวังว่าคงไม่มีอะไรประหลาดๆพุ่งใส่ฉันอีกนะ.....ไม่เอาแล้ว.....แค่นี้ฉันก็วุ่นวายจะแย่อยู่แล้ว....แต่...ริฟเน่ก็น่ารักดีนะ มีคนน่ารักๆแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย”  คาซึพูดไป ก็ยิ้มหวานคิดถึงหน้าริฟเน่ไป...
“เอ๋.....อะไรน่ะ ฝนดาวตกรึเปล่า จะได้ขอพรซะเลย.......เหอะๆ ไม่ใช่แล้วมั้งเนี่ย  คงไม่มีฝนดาวตกที่พุ่งเป็นเส้นตรงเร็วขนาดนี้หรอก หรือว่ามนุษย์ต่างดาว ขอเถอะ .....ฉันไม่อยากรับเลี้ยงมนุษย์ต่างดาวไว้ในบ้าน ......หรือว่าจะถ่ายภาพเอาไปขายให้พวกนักข่าวดี ไม่ไหวๆ แล้วเมื่อไหร่มันจะไปทางอื่นซะทีเล่า คิดจะตรงมาทางฉันรึไง!?” ขณะที่คาซึเช็ดผมและคิดอะไรไปพลางๆ เขาก็สังเกตเห็นแสงแวบหนึ่ง แสงนั้นสว่างชัดขึ้นเรื่อยๆ จนคาซึมั่นใจว่า สิ่งนั้นมันตรงมาทางเขาอย่างแน่นอน.......
“ยะฮู้!!! ฉันมาแล้ววววว~~” .......เสียงคนคนหนึ่งพูดขึ้น ตามมาด้วยเสียง....ตุ้บ!! ปัง!!....
“ว๊ากกกก !! อะไรวะเนี่ย.. เจ็บนะเฟ้ย! ลุกออกไปซิฟะ! ไอ้บ้า!!”  คาซึเห็นคนที่เป็นเจ้าของเสียงทักนี้โผล่ออกมาจากแสงสว่างนั่น และหล่นตุ้บจากกลางอากาศมาทับเขาเต็มๆ
“อ๋า......ขอโทษด้วยจ้ะๆ ขอโทษจริงๆ ....ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าบาดเจ็บนะ” เจ้าของเสียงนี้พูดขอโทษคาซึเป็นการใหญ่ และลุกขึ้น เอามือปัดฝุ่นตามเสื้อผ้า (ทั้งๆที่บ้านคาซึน่ะ ไม่ค่อยจะมีฝุ่นซักเท่าไหร่..) คนคนนี้มีผมสีเงินยาวสลวยเป็นเงางามเมื่อต้องแสงจันทร์ นัยน์ตาสีแดงใสเป็นประกายสวยคล้ายลูกแก้วที่ติดอยู่ตรงปลายต่างหูเงินยาวที่คนคนนี้ใส่ .....สวมชุดสีขาวยาวถึงข้อเท้า และมีชุดคลุมสีแดงที่มีริ้วสีเงินสวมทับอีกทีนึง.......รูปร่างผอมบาง แต่ก็ไม่ผอมมาก สูงประมาณ 176 ซม....และมีท่าทางแปลกๆคือถ้าไม่ได้ทำอะไร มือทั้ง2 ข้าง จะต้องซุกอยู่ในแขนเสื้อของอีกข้างหนึ่งเสมอ.......
“ไม่ได้ตั้งใจหรอ!! รู้มั้ยว่าฉันโดนแบบนี้มาสองรอบแล้วนะ” คาซึพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ พลางเอามือถูๆตรงข้อศอกของของตัวเอง และมองไปที่รอยถลอกด้วยสีหน้ามุ่ยๆ.....ขณะที่ตัวเขาเองก็ยังนั่งชันเข่าข้างหนึ่งอยู่ที่พื้นห้องนอน เพราะแรงกระแทกนั้น.....
“หรอ....แต่ข้าขอโทษเจ้าไปแล้วนา.....มันเป็นอุบัติเหตุ ช่วยไม่ได้นี่...” คนคนนี้หลับตาพูดด้วยน้ำเสียงลอยๆ.......คาซึสงสัยว่าไอ้ความสุภาพตะกี้นี้มันหายไปไหนหมด แล้วอีกอย่าง...ผมยาวๆแบบนี้...ผู้หญิงหรือผู้ชายวะเนี่ยยยย!?.......
“นายนี่มัน.............เฮอะ! ช่างเถอะ...ว่าแต่นายเป็นใคร แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง  เอ๊ะ......หน้าคุ้นๆ .............อ๋อ อากิระใช่มั้ย ได้เวลาคิดบัญชีซะที!!” คาซึรู้สึกโมโหมาก เพราะท่าทางของคนคนนี้ ช่างกวนประสาทเขาซะเหลือเกิน  แต่พอคิดดูอีกที..... เขารู้สึกคุ้นหน้าคนผู้นี้เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน....
“อะไรของเจ้า...อากิระอะไร ข้าไม่ใช่อากิระหรอก.... ข้าเป็นพี่ชายมันเองแหละ.....นึกแล้วว่าเจ้าต้องได้เจอกับน้องข้าแล้ว เป็นไงๆ น้องชายข้าหน้าตาหน้ารักใช่ม้า....” คนผู้นี้ลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมาเพื่อมองคาซึ แต่ท่าทีที่ดูสำรวมเมื่อกี้นั้น เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นท่าทางดี๊ด๊าๆแทน...
“เฮ้ยย!..อย่ามาเข้าใกล้ฉันนะ ออกไปไกลๆเลย เออ.....ว่าแต่เป็นผู้ชายหรอเนี่ย อืม.......”
“ใจร้าย!! มาไล่ข้าแบบนี้ได้ไง ใจร้ายจริงๆ” พอได้ฟังที่คาซึพูด ชายคนนี้ยิ่งยื่นหน้าที่มีน้ำตาคลอเบ้ามาใกล้ใบหน้าของคาซึเข้าไปอีก จนจมูกจะชนกันอยู่แล้ว......
“น่าหยะแหยง! เอาหน้านายออกไป” คาซึพูดด้วยน้ำเสียงโกรธๆ เพราะยิ่งชายคนนั้นทำท่าทางแบบนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนผู้หญิงมากขึ้นเท่านั้น(ดันมาหน้าหวานเหมือนผู้หญิงอีกแน่ะ...) แล้วเอามือดันหน้าของชายคนนั้นออกไป
“ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ แล้วมาทำอะไรที่นี่” คาซึถามก่อนที่ชายคนนั้นจะร้องไห้วิ่งหนีไป........ ชายคนนั้นรีบวิ่งตึงๆกลับมาอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินคำถามของคาซึ.....
“ข้าชื่อซาสุเกะ เป็นนักบวชชั้นสูงของHolyland มาที่นี่เพื่อแจ้งข่าวเรื่องพลังพิเศษทีเจ้าได้มาจากท่านริฟเน่  ท่านโรเชลคิดว่าน่าจะเป็นพลังลม เพราะในบรรดาพลังทั้งหลาย พลังลมเป็นพลังที่ควบคุมได้ยากที่สุด .......ดังนั้นผู้ที่ได้ผลพวงมาจากท่านริฟเน่โดยตรงนั้น จึงน่าจะเป็นผู้ที่ได้พลังที่ยากแก่การควบคุมและการใช้มากที่สุดเช่นกัน และท่านโรเชลฝากมาถามว่า เจ้าจะว่างอีกเมื่อไหร่ จะได้มารับตัวไปที่อาณาจักรของพวกเราเพื่อตามหาร่างของท่านริฟเน่” ตอนนี้ชายคนนี้พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
“เฮ้อ...เป็นไงเป็นกันวะ.....อีกอาทิตย์กว่าๆ รอให้พ้นวันงานโรงเรียนไปก่อนแล้วกัน” คาซึพูดอย่างเรียบๆ เพราะยังไงเขาก็คงต้องช่วยริฟเน่อยู่แล้ว ก็จิตของริฟเน่ ตอนนี้อยู่ในตัวเขาไม่ใช่หรือ........
“อืม.... ข้าจะรายงานท่านโรเชลเดี๋ยวนี้แหละ” ชายคนที่ชื่อซาสุเกะ นำกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อ แล้วจู่ๆ กระดาษแผ่นนั้นก็กลายเป็นนกพิราบสีขาว ซาสุเกะพูดข้อความที่คาซึบอกตัวเองให้เจ้านกตัวนั้นฟัง แล้วจึงปล่อยให้มันบินออกไป......
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย......งั้นก็กลับไปซะทีสิครับ ลาก่อนครับ..” คาซึคิดว่าซาสุเกะมาเพื่อถามเขาแค่นี้ แล้วจะกลับเลย จึงพูดสุภาพกับซาสุเกะทิ้งท้าย.....
“แหม......พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ... ข้าส่งข่าวไปแล้วอากิระก็คงจะมารับตัวข้ากับเจ้าไปพร้อมกันนั่นแหละ” ซาสุเกะกลับมาอยู่ในท่าทางสุภาพ โดยเอามือไว้ในแขนเสื้อเหมือนเดิม....
“ก็กลับเองสิครับ...จะรอเจ้านั่นทำไม คุณก็น่าจะกลับเองได้นะ” คาซึเริ่มโมโห และกัดฟันพูดเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับซาสุเกะ
“ก็กลับเองไม่ได้น่ะสิ คนที่สามารถส่งสิ่งอื่นหรือตัวเองข้ามไปยังอีกโลกได้น่ะ มีแต่อากิระเท่านั้นแหละ ข้าไม่มีพลังเคลื่นย้ายแบบนั้นได้หรอก เผอิญน้องข้าเก่งน่ะ เลยสามารถเคลื่อนย้ายมนุษย์ข้ามมิติได้ ส่วนพลังพิเศษของข้านั้น........เป็นความลับจ้ะ อ้อ...นกนั่นก็เป็นของอากิระนะ” ซาสุเกะพูดด้วยสีหน้าเชิ่ดสุดๆ จนคาซึหมั่นไส้.....
“อะไรนะ.........กลับไปได้แล้วไป๊!!!” คาซึพูดเสียงดังด้วยควาโมโหใส่ซาสุเกะ พลางชี้มือไปที่ระเบียง.......ประมาณว่ามาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย......
“งะ.......แง้ๆๆ  กะ.....ก็ข้ากลับไม่ได้อ่ะ  คาซึจังใจร้าย.......” ซาสุเกะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นระริก น้ำตาที่คลอเบ้าค่อยๆไหลออกมา....แล้ววิ่งออกจากห้องนอนไป
“หมอนั่นมันอายุเท่าไหร่กันวะ ขี้แยเป็นบ้าเลย...นักบวชชั้นสูงจริงๆหรอเนี่ย....” คาซึงงกับท่าทางของซาสุเกะมาก เขาเริ่มสงสัยว่านักบวชของที่นั่นเป็นแบบนั้นทุกคนรึเปล่าน้า...... และอีกอย่างหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าซาสุเกะจะวิ่งไปไหน แต่ใส่ชุดแบบนั้น...ใครเห็นคงคิดว่าประหลาดแน่ๆ
..........ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คาซึจึงเลิกสนใจเรื่องซาสุเกะ และขึ้นเตียงนอนทันทีด้วยความง่วง เพราะผมของเขาตอนนี้ก็แห้งสนิทแล้วด้วย.........
‘หึหึ......โรเชล...นี่นายส่งตัวป่วนมาให้ฉันหรอ......จะให้ฉันเจอเรื่องยุ่งๆไปถึงไหน~~ ’
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น