ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    xXห้องรวมตัวละครXx

    ลำดับตอนที่ #9 : Myungku Guren - Prophet ยัยบ๊องอยากเป็นศาสดา

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 63


    The Application

    “โอยะ? เจ้ามีของกินหรือเปล่า? แล้วจะช่วยบอกทางข้าได้ใช่มั้ย ดีมากเจ้าหนู- อะไร? ข้านั้นแก่กว่าเจ้าเถอะ!”

     

    ชื่อ-สกุล : เมียงกุ  กุเร็น - Myungku Guren

     

    ชื่อเล่น : เมียงกุ

     

    ฉายา : จิ้งจอกเร่ร่อน , จิ้งจอกเฒ่า , เมียงกุจอมถังแตก

     

    เผ่าพันธุ์ : จิ้งจอกวิญญาณ - เผ่าพันธุ์ที่เดิมทีเป็นเพียงจิ้งจอกตัวน้อยเท่านั้น  แต่ดันสามารถยึดร่างสิงมีชีวิตต่างๆแล้วกลืนกินวิญญาณพวกเขาได้  และหากอยู่ในร่างนั้นนานๆจะทำให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับร่างๆนั้นแบบที่เมียงกุเป็น  และสิ่งที่ยืนยันว่าได้เป็นหนึ่งเดียวกับร่างแล้วจริงๆคือการที่จะมีหูและหางงอกออกมา และหากรวมเป็นหนึ่งกับร่างได้แล้วจริงๆจะไม่สามารถย้ายไปร่างอื่นได้อีก  ที่สำคัญคือเผ่าพันธุ์นี้จะไม่มีวันตายลงได้ยกเว้นจะถูกฆ่าหรือฆ่าตัวตายเอง  และเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยตั้งแต่ยุคอิคิลิบี

     

    นิสัย :

      เห็นแก่กินและขี้เล่น - เรียกได้ว่าเมียงกุเป็นชายที่รักการกินและเห็นแก่กินอย่างมาก  ใช่  แค่มีอาหารให้เขาเยอะๆเขาก็พร้อมจะอยู่กับคุณได้ง่ายๆแล้ว  และการให้อาหารเขานั้นก็เหมือนการทำให้เขาติดหนี้บุญคุณแบบใหญ่หลวงเลยล่ะ  แต่ว่านอกจากจะเห็นแก่กินแล้ว  เขายังขี้เล่นมากๆด้วยนะ  ชอบแหย่คนอื่นไปทั่วเลยเชียว  แถมชอบแย่งอาหารคนอื่นด้วย…

      คนเจ้าเล่ห์ที่แสนกวนประสาท - เมียงกุเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวจริง  เขาชอบพูดกลับกลอกไปมา(ยกเว้นเรื่องอาหาร)  ยั่วโมโหคนอื่นเก่งมากด้วย  แน่นอนว่าความจริงใจของเมียงกุน่ะเขาให้ได้100%นะ  แต่คำพูดของเขาน่ะถ้าไม่ใช่เรื่องอาหารก็อย่าไปเชื่อมากเลย  แล้วก็ไม่แนะนำให้ไปฟังมากด้วย  เพราะเขาชอบพูดจากวนประสาทอีกฝ่ายจนหัวเสียไงล่ะ  ถึงเขาจะไม่ทำก็ตามที

      จอมลุยเดียวที่แสนจุ้นจ้าน - เมียงกุไม่ชอบทำงานเป็นทีมมากนัก แต่ก็พอจะทำงานร่วมด้วยได้  ทว่าถ้าเกิดมีงานที่ให้ลุยเดียวล่ะก็เขาจะขออาสาทันทีเลยล่ะ  อ่อ นอกจากนี้เมียงกุเขานั้นเป็นคนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นมากๆ  เรียกได้ว่ามีข่าวอะไรเขาไม่เคยพลาดนะ  แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเขาก็จะไม่ยุ่งหรอก  อย่างเช่นเรื่องส่วนตัวบางเรื่องน่ะนะ

      มองการณ์ไกล - เมียงกุเป็นคนที่มองการณ์ไกลและคาดการณ์ได้เก่งมาก  ดังนั้นคำพูดของเขาหากเป็นเวลาทำงานควรฟังไว้บ้าง  และหากไม่ฟังแล้วพลาดกลับมา  เขาจะเหยียดหยามคุณทันที  และตัวของเมียงกุจะไม่ยอมทำงานที่มีโอกาสสำเร็จต่ำกว่า60%เด็ดขาด  เพราะเขามองว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง และเขาสามารถคิดถึงเส้นทางอื่นๆนอกจากทางปกติได้ไวมาก แต่จะใช้ได้จริงมั้ยนั้นก็ 50-50

      สุภาพบุรุษที่อ่อนโยน - จากนิสัยอื่นๆของเมียงกุ  อาจจะไม่มีใครทราบเรื่องนี้  เพราะลึกๆนั้นเมียงกุเป็นสุภาพบุรุษมากๆ  ไม่เคยแอบดูสาวอาบน้ำสักครั้ง  และไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียใดๆที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิง  นอกจากนี้เขานั้นอ่อนโยนกับผู้หญิงมากๆ  และก็ไม่คิดจะแต๊ะอั๋งหรือลวนลามพวกเธอเลยแม้แต่น้อย

      คนหลงทิศที่ขี้โวยวาย - ความวุ่นวายของเมียงกุนอกจากเรื่องอาหารก็คงเป็นเรื่องทิศทาง  เขาไม่สามารจำได้เลยจริงๆว่าทิศไหนเป็นทิศไหน  ทำให้เขาหลงทางอยู่แทบตลอดเวลา  ยกเว้นจะมีป้ายบอกหรือมีคนนำทาง  แน่นอนว่าเพราะนิสัยนี้จึงทำให้เมียงกุไม่มีทางจำได้ว่าบ้านเขามันตั้งอยู่ทิศไหน  และนอกจากจะชอบหลงทิศแล้ว  เมียงกุยังเป็นจอมโวยวายอีกด้วย  เขาโวยวายเก่งมากเลยนะ  แต่จริงๆคือเขาโวยวายเพราะเรียกร้องความสนใจไปงั้นแหละ เขาไม่ได้ต้องการจริงๆหรอก(ยกเว้นเรื่องอาหาร)  แน่นอนว่าเขารู้นะว่าควรโวยวายตอนไหนหรือไม่ควร

     

    ลักษณะภายนอก : เมียงกุเป็นชายแก่ที่มีรูปร่างเล็ก และดูเด็กกว่าวัยมาก  เป็นคนที่มีผิวดูเนียนนุ่มมากๆ  และเป็นชายที่มีดวงตาสีเดียวกับดวงตะวันยามเย็น  ครอบครองเรือนผมสีควันบุหรี่  มีหูกับหางจิ้กจิกสีแดงดุจไวน์  ชอบใส่ชุดนักรบโบราณและแบกกล่องบางอย่างไว้ที่หลัง  และชอบมีขวดน้ำเต้าแขวนอยู่ข้างๆ โดยด้านบนขวดน้ำเต้ามักเป็นดาบคะตะนะ ที่เมียงกุตั้งชื่อให้ว่ามิโฮโกะ  และเมียงกุนั้นเวลายิ้มส่วนมากเขาจะชอบยิ้มแบบเจ้าเล่ห์มากกว่าจะยิ้มดีๆ

     

    ประวัติ : เมียงกุเป็นจิ้งจอกวิญญาณตัวน้อยที่แม่ตัวเองตายตั้งแต่ที่เขาเกิดมา  และดันโชคร้ายที่แม่ของเขานั้นไม่ได้อยู่รวมกับฝูง  แต่แยกออกมาและกลายเป็นหนึ่งกับหญิงสาวคนนึง  และเมียงกุนั้นมีพี่สาวคนนึงที่รวมร่างกับมนุษย์ไปแล้ว  แต่ว่าพี่สาวของเมียงกุนั้นไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่  เพราะเธอมองว่าจิ้งจอกวิญญาณตัวผู้มันเป็นพวกชั้นต่ำ  เขาจึงมักถูกเธออดน้ำอดข้าวจนต้องแอบออกไปขโมยของมากิน  แล้วพอกลับมาก็โดนเธอทุบตีจนปางตายอยู่บ่อยๆ  เขาเป็นที่ระบายอารมณ์ของพี่สาวเขาตั้งแต่เขาเกิดมาเลยแหละ  แต่เขาก็ไม่เคยเกลียดพี่สาวตัวเองแม้แต่น้อย  กลับกันเขาดันสนุกและชอบที่ให้เธอทุบตีเขามากกว่าเสียอีก  แต่แล้วเมื่อเขาอายุได้ครบ 5 ปี แขนแห่งเว็กเตอร์เส้นแรกก็งอกออกมา  ด้วยความหวาดกลัวต่อสิ่งนี้แบบแปลกๆเขาจึงพยามปกปิดมันไว้ไม่กล้าให้พี่สาวรู้  เพราะเขากลัว…  กลัวเธอจะไม่ทำร้ายเขาอีก  แต่แล้วเธอก็ได้รับรู้ว่าเขามีแขนแห่งเว็กเตอร์  ทว่าเธอนั้นรับไม่ได้ที่เขามีแต่เธอไม่มี  เธอจึงจะฆ่าเมียงกุ  และด้วยสัญชาตญาณบางอย่างในตัว  เมียงกุจึงเผลอบังคับแขนแห่งเว็กเตอร์ให้ฆ่าพี่สาวของเขา  และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเจ็บปวดแบบไม่เคยเป็นมาก่อน  พี่สาวของเขาตายต่อหน้าเขา  และเขาไม่อาจทนดูได้เขาพยามจะรักษาเธอ แต่ก็ไม่ได้ผล  เพราะเขาก็เป็นได้เพียงจิ้งจอกตัวน้อยๆที่มีอายุเพียง 5 ขวบ  เขาไม่ได้รู้อะไรมากมายขนาดนั้น…  เขาจึงตัดสินใจที่จะออกเดินทางเพื่อศึกษาโลกใบนี้   เพราะตอนนี้เขาก็ไม่เหลือใครแล้ว  ไม่มีใครอีกแล้วด้วย  เขาจึงได้ออกเดินทางไป  แต่เขาก็ไม่ลืมที่เก็บชิ้นส่วนของพี่สาวของเขาบางส่วนอย่าง ‘หัวกะโหลก’ มาพกติดตัวไปเสมอ  กระทั่งเขาอายุได้ 12 ปี  หลังจากที่เขาเดินทางเร่ร่อนไปทั่วในร่างของจิ้งจอกน้อย  เขาได้พบเจอกับฝูงจิ้งจอกวิญญาณฝูงแรกในชีวิต  เขาได้เข้าไปอยู่ในฝูงนั้นชั่วคราวและได้รู้เรื่องราวใหม่ๆบนโลก  จน 1 ปีผ่านไป เขาอายุ 13 ปี เขาก็ได้ร่างที่จะรวมเป็นหนึ่ง   มันเป็นร่างของเด็กชายจากสลัมที่ต้องการตายจึงยอมมาเป็นภาชนะให้เขา  จากนั้นเขาก็ใช้ร่างนี้แบบไม่เคยเปลี่ยนสักครั้งจนรวมเป็นหนึ่งได้สำเร็จ  เขาจึงตัดสินใจออกจากฝูงจิ้งจอกวิญญาณนี้เพื่อไปท่องโลกต่อ  จนใน100ปีต่อมาเขาก็ได้ขโมยดาบคะตะนะเล่มหนึ่งมาจากร้านขายอาวุธจนโดนตามล่าอยู่พักใหญ่เพียงเพราะเขาถูกใจคะตะนะเล่มนี้แล้วไม่มีเงินจ่ายเท่านั้น  และเขาก็ได้ตั้งชื่อให้คะตะนะเล่มนี้ว่า มิโฮโกะ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับพี่สาวของเขา…  กระทั่งในหลายปีต่อมารู้ตัวอีกทีเขาก็คงเป็นคนเร่ร่อนไม่กี่คนที่มีเส้นสายเยอะไปทั่ว  ซึ่งในตอนนั้นเขาก็มีแขนแห่งเว็กเตอร์เกิน500เส้นไปเสียแล้ว  ส่วนกะโหลกของพี่สาวเขาในตอนนี้ก็มีที่เก็บอย่างดีแล้ว  ใช่  เขาเก็บไว้ในกล่องไม้ที่ทนทานมากๆซึ่งเขาจะแบกไปไหนมาไหนตลอด  ไม่เว้นแม้แต่ตอนอาบน้ำ  และในระหว่างที่เขาตระเวนไปทั่วโลกต่อเพื่อหาของกินอร่อยๆซึ่งมันจะทำให้เขารู้สึกเหมือนได้อยู่กับพี่สาวเขาอีกครั้งเขาก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับหนึ่งในเส้นสายทางขุนนางที่เขามีอยู่…  ตระกูลฮิมาวาริ  ว่าเด็กสาวคนนึงในตระกูลนี้นั้นมีความฝันแปลกๆที่ดูน่าสนใจอยู่  เขาจึงได้เข้าร่วมด้วยคน  และเขาหวังว่าน่าจะมีของอร่อยให้กินเยอะๆ-

     

     

    ผู้เป็นเลิศในด้าน : อิทธิฤทธิ์ - แขนแห่งเว็กเตอร์ : เป็นพลังที่มีแต่ชาวจิ้งจอกวิญญาณเท่านั้นถึงจะมีได้  แต่ก็ใช่ว่าจะมีทุกตัว และแน่นอนว่าเมียงกุเป็นตัวผู้ไม่กี่ตัวที่มี  เพราะส่วนใหญ่พลังนี้ชาวจิ้งจอกวิญญาณตัวเมียเท่านั้นที่มีได้  แถมยังแข็งแกร่งมากๆ  และแขนแห่งเว็กเตอร์จะงอกขึ้นมาเพิ่มทุกๆ 1 ปี (แต่แขนแรกจะขึ้นตอนที่5ขวบครับ หากไม่มีก็คือไม่มีจริงๆ)  ซึ่งแขนแห่งเว็กเตอร์นั้นจะเป็นแขนใสไม่มีใครมองเห็นนอกจากเผ่าพันธุ์จิ้งจอกวิญญาณเท่านั้น และแขนแห่งเว็กเตอร์นั้นมันจะอยู่ที่หลังของผู้ใช้อยู่เสมอไม่เคยไปไหนเพียงแค่หลบซ่อนอยู่ด้านในหรือโผล่ออกมาด้านนอกเท่านั้นและความยาวของแขนแห่งเว็กเตอร์นั้นยืดยาวได้ถึง5กิโลเมตรเลยทีเดียว  (เป็นแขนคล้ายๆแบบในเรื่อง Elfen Liedครับ)

     

     

    พลังความสามารถ : การควบคุมแขนแห่งเว็กเตอร์มากกว่า1000แขน - เป็นการควบคุมที่สามารถใช้ทั้งต่อสู้(ฆ่า) และปกป้องได้ไปในตัว  ซึ่งรูปแบบการโจมตีก็จะเป็นแบบ กระชาก  ตัด  บีบ แทง  ซึ่งทำได้ง่ายๆมาก  เรียกได้ว่าจะลอบสังหารหรือซึ่งๆหน้าก็ทำได้  ส่วนรูปแบบการป้องกันนั้นก็จะเป็นการสะท้อนทุกสิ่งที่โดนแขนแห่งเว็กเตอร์ทั้งหมด  ยกเว้นจะเจอแขนแห่งเว็กเตอร์ด้วยกันเองมันจะเป็นอีกรูปแบบที่ต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างเท่านั้นเพราะแขนแห่งเว็กเตอร์สามารถจับกันเองได้แต่นอกจากนั้นจะไม่สามารถจับแขนแห่งเว็กเตอร์ได้  แต่ก็มีพลังที่ป้องกันแขนแห่งเว็กเตอร์ได้เช่นกัน  และแขนแห่งเว็กเตอร์ไม่สามารถโจมตี ปกป้อง หรือจับต้องพวกจิตวิญญาณได้ทำได้แต่จับต้อง ปกป้อง และ โจมตีกายหยาบเท่านั้น(ง่ายๆก็คือสามารถทำร้ายและป้องกันได้เฉพาะสิ่งที่มีกายหยาบที่เป็นสะสารต่างๆ ไม่นับพวกผี วิญญาณ พลังจิต  ภาพมายา หรือ ภูติที่จับต้องไม่ได้)

     

    อาวุธ : 1. แขนแห่งเว็กเตอร์

     

             

             2. คะตะนะธรรมดาๆที่ไปจิ๊กคนอื่นมาที่มีชื่อว่า ‘มิโฮโกะ’ ซึ่งจะใช้ตอนไม่สามารถใช้แขนแห่งเว็กเตอร์ได้

     

    เพิ่มเติม :

    - เมียงกุหากไม่ได้กินอะไรเลยก่อนใช้แขนแห่งเว็กเตอร์จะทำให้เขาใช้ไม่ได้เพราะมันกินพลังงานเยอะมาก  เขาจึงจะต้องใช้คะตะนะแทน

    - ปัจจุบันอายุของเมียงกุคือ 500 - 1000 ปี  แต่มีแขนแห่งเว็กเตอร์แค่ 600-700 เส้นเท่านั้น  นอกนั้นเขาใช้แขนแห่งเว็กเตอร์ดึงส่วนเกินออกให้หมดเนื่องจากมันกินพลังงานเขาเกินไป

    - แขนแห่งเว็กเตอร์จะกินพลังงานของผู้ใช้เยอะมากๆ  นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เมียงกุชอบกินอาหารส่วนนึง  แต่อีกส่วนก็เพราะมันทำให้เขานึกถึงพี่สาวของเขาที่ตายไปแล้วเสมอ

    - เมียงกุไม่ยอมให้กะโหลกหรือชิ้นส่วนของพี่สาวเขาเป็นอะไรแน่ๆ  เขาหวงมันยิ่งกว่าชีวิตเขาเสียอีก

    - ตอนเมียงกุอาบน้ำเขาก็จะพกกะโหลกพี่สาวเขาไปทำความสะอาดด้วย…

    - เมียงกุไม่ค่อยชอบเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟังเท่าไหร่  เพราะเขารู้ว่ามันค่อนข้างแปลกนิดหน่อยสำหรับเรื่องราวชีวิตของเขา

    - เมียงกุเขาถังแตก…  เขาไม่มีติดตัวแม้แต่นิดเดียวเลยล่ะ  ส่วนอาหารที่กินอยู่ทุกวันถ้าไม่เพราะไปขอจากเส้นสายก็ไปเก็บจากธรรมชาติมาทั้งนั้น  แต่ก็มีบ้างที่แอบขโมยกิน

    - เมียงกุเขาชอบใช้คำพูดแบบโบราณ  แทนตัวเองว่า ‘ข้า’ แทนคนอื่นที่เด็กกว่าว่า ‘เจ้า’ ไม่ก็ ‘เจ้าหนู’ เรียกผู้ที่โตกว่าว่า ‘ผู้อาวุโส’ ไม่ก็ ‘พี่สาว’ หรือ ‘พี่ชาย’  และมีคำติดปากว่า ‘โอยะ’ ซึ่งเป็นเสียงคล้ายๆอุทานปนล้อเลียนเล็กน้อย ซึ่งเวลาเขาพูดคำนี้ทีไรมักจะมี ‘รอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์’  ไม่ก็ ‘รอยยิ้มที่ดูยียวนกวนประสาท’ เสมอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×