คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : InTro[50%]
ขณะที่วิ่งอยู่นั่นเองก็มีชายหนุ่มร่างท้วมใส่ผ้ากันเปื้อนวิ่งไล่ตามหลังมาอย่างเหนื่อยหอบ พลางตะโกนว่า
“ใครก็ได้ช่วยจับเด็กหัวขโมยนัั่นให้ที!มันขโมยขนมปังของฉัน”เสียงที่ตะโกนดังลั่น เรียกความสนใจจากคนรอบข้าง มีชายหนุ่มคนหนึ่งหวังดีว่าจะจับเด็กให้ ก็เลยรีบไปขวางเด็กที่โดนเรียกว่าหัวขโมยแล้วเตรียมท่าจะจับเด็กคนนั้น แต่แล้ว...
ฟึบ! เด็กที่โดนเรียกว่าหัวขโมย ไม่กลัวชายหนุ่มคนนี้ซักนิด กลับวิ่งประโจนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งหลบเบี่ยงอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าเอ๋อในความเร็วของเจ้าเด็กหัวขโมย รีบหันไปมองดูก็เห็นเด็กวิ่งไปไกลแล้ว
“เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย?”เสียงกระซิบกระซาบจากเหล่าแม่บ้านที่กำลังจ่ายตลาดอยู่
“ทำไมถึงยังจับไม่ได้อีกน่ะ?"เสียงแม่บ้านอีกคนที่เป็นเพื่อนด้วยกันบ่น
“พวกเราเองก็ควรระวังตัวให้ดีๆเข้าไว้ล่ะ"เพื่อนอีกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
เด็กหัวขโมยวิ่งพลางหันไปดูข้างหลังก็แสยะยิ้มอย่างพอใจ แต่แล้ว...
โครม! แต่ด้วยความสะเพร่าที่หันไปมองทางอื่น เลยไปชนกับผู้สูงวัยเข้าอย่างจัง ต่างฝ่ายต่างล้มไปคนละทาง
“โอ๊ย! เจ็บน่ะเว้ย ใครบังอาจมาชนฉัน!”ชายสูงวัยตะโกนเสียงกร้าวด้วยความโมโห
เด็กชายรู้สึกมึนเล็กน้อยจากการชนเมื่อกี้ แต่เมื่อได้สติ ก็รีบรุกเก็บขนมปังที่ทำหล่นไว้เมื่อตอนชนทันที แล้ววิ่งผ่านชายสูงวัยอย่างรวดเร็ว
“คุณปู่เป็นอะไรรึเปล่า?”เด็าชายที่อยู่ในเหตุการณ์วิ่งไปหาแล้วถามปู่ของตนด้วยความเป็นห่วง เขามีผมสีน้ำเงินสั้น แต่ผมตรงข้างหน้ากลับมีสีเป็นเงินเป็นประกาย นัยตาสีม่วงอมแดงชวนน่าหลงใหล ผิวขาวเนียนน่าสัมผัส สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินยาวเลยเข่า และมีผ้าพันคอสีขาวพันรอบคอยาวเกือบจรดพื้น
“ก็เจ็บน่ะซิ! หนอยเจ้าเด็กบ้านั่น"ชายสูงวัยพูดอย่างหัวเสียพลางยืนขึ้นโดยมีไคคอยช่วยพยุง"ชนแล้วไม่ขอโทษซักคำมันน่านัก! ถ้าเจอมันอีกปู่จะจับมาลงโทษให้เข็ด”
“ไม่ต้องสนใจหรอกปู่ ยังไงซะก็แค่เด็กจรจัด"เด็กผมสีเงินกล่าวอย่างเย็นชา"มีธุระที่ต้องรีบไปทำไม่ใช่เหรอครับ?”
“เฮอะ!”ปู่ของเด็กชายผมเงินสบถอย่างเสียอารมณ์"รู้แล้ว ไปได้แล้ว"แล้วเขาก็เดินหน้าไป
“เฮ้อ...”เด็กชายผมสีเงินถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
วิ้ง... มีแสงท้อนบางอย่างแยงตาเขา เขาเหลือบไปมองบนพื้นก็พบนาฬิกาพกสีทองตกอยู่บนพื้น เขาอยู่นิ่งสักพักก่อนจะหยิบมันขึ้นมา พลิกดูไปมา แล้วก็ลองกดปุ่มด้านบนดู ฝานาฬิกาก็เปิดออก
“นี่มัน...”เขาหรี่ตาลง มองดูรูปบนฝานาฬิกา เป็นรูปของหญิงสาวครึ่งตัวที่ใส่เสื้อราตรีสีแดงฉาน โครงหน้าไข่เรียวสวย ปากเรียวทาด้วยลิปสติกสีแดงวาว นัยตาสีม่วง ผมสีแดงบลอนยาวถึงกลางหลัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...ใช่...ผู้หญิงคนนี้...
“คล้ายเจ้าเด็กจรจัดนั่นเลยแฮะ"เด็กผมสีเงินพึมพำ
“ไค! หลานมัวทำอะไรอยู่ รีบเดินเร็วซิ"ปู่เรียกชื่อหลานตัวเองเสียงดัง
[รู้แล้วน่า]ไคคิดในใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเก็บนาฬิกาพกไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วเดินตามปู่ไปอย่างไม่เต็มใจนัก
ทางด้านเด็กหัวขโมยนั่นเอง เขาวิ่งเขาไปในซอกหลืบของตึก เขาวิ่งลึกลงไปเรื่อยๆจนนึกว่าลึกพอที่จะไม่มีใครเห็น ก่อนจะนั่งลงพิงกำแพงอย่างเหนื่อยหอบ สักพักเขาก็กินขนมปังที่พึ่งขโมยมาได้หมาดๆ
ระหว่างกินนั้นเองเขาก็นึกถึงเรื่องราวในอดีต...อดีตที่แสนเจ็บปวด
การที่เขาต้องมีสภาพแบบนี้ เป็นเพราะเจ้าพ่อบ้าคนเดียว เพราะเจ้าพ่อบ้านั่นดันไปเชื่อคำโกหกของเพื่อนเจ้าเล่ห์นั่น บริษัทคงไม่ต้องมาล้มละลาย แต่ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น...เจ้าบ้านั่นดันหนีเไป ปล่อยให้แม่ต้องลำบากลำบนคอยเลี้ยงดูตนเอง ถึงแม้ว่าสุขภาพร่างกายอ่อนแอ สุดท้ายแม่ก็ต้องจากไปด้วยโรคเรื้อรัง
ต่อหน้าต่อตาเขา...
“โธ่เว้ย!”เขาสบถอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะเขวี้ยงขนมปังทิ้งอย่างไม่ใยดี เขาลุกขึ้นแล้วต่อยกำแพงไม่ยั้ง เขาต่อยไปเรื่อยๆจนหน้ามือมีเลือดออก แต่ความโกรธที่มีมากจนบดบังความเจ็บปวดไปจนสิ้น
[แม่...ผมจะทำอย่างไรดี] เขาคิดแล้วเอาหัวไปพิงกับกำแพง
[ผมคิดถึงแม่เหลือเกินป...] แล้วน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นขึ้นมา เขาค่อยๆขยับมือล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา หวังจะหยิบสมบัติชิ้นสุดท้ายที่แม่มอบให้ก่อนท่านจะจากไป แต่แล้ว...
ข้างในกระเป๋ากลับว่างเปล่า
เขาเบิกตาโพลงอย่างตกใจสุดขีด แล้วเอามือที่ล้วงควานหาอีกรอบเมื่อความแน่ใจ แต่ควานหาเท่าไรก็ไม่เจอ เขาเริ่มค้นตัวเองทุกซอกทุกมุมอย่างร้อนรน เมื่อค้นยังไงก็หาไม่เจอ เขาถึงกับหน้าซีดเผือกขึ้นมาทันที
[หายไปไหน!] เขาวิตกสุดขีด ก่อนจะสบถอย่างหัวเสีย
[มันจะหายไปได้ยังไง!...หรือว่า!? ตอนนั้น ตอนที่เราชนกับตาแก่นั่น !] เมื่อคิดได้ดังนั้นก็กัดฟันกรอด แล้วก็รรีบวิ่งออกไปทันที
ความคิดเห็น