ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Beyblade]บอดีการ์ดหัวใจ[YuriXKai](Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : InTro[50%]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 52


     บนถนนย่านการค้าแห่งหนึ่งในประเทษรัสเซีย มีผู้คนมากมายต่างก็จับจ่ายซื้อของกันอย่างขวักไขว่ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น มีเด็กคนหนึ่งกำลังวิ่งแหวกฝูงผู้คนอย่างคล่องแคล่ว พร้อมด้วยขนมปังแท่งหนึ่งในมือ เขามีผมตั้งสีแดง นัยตาสีม่วงที่แสนดุดัน เนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าก็เก่าโทรมราวกับเด็กจรจัด


    ขณะที่วิ่งอยู่นั่นเองก็มีชายหนุ่มร่างท้วมใส่ผ้ากันเปื้อนวิ่งไล่ตามหลังมาอย่างเหนื่อยหอบ พลางตะโกนว่า


    ใครก็ได้ช่วยจับเด็กหัวขโมยนัั่นให้ที!มันขโมยขนมปังของฉัน”เสียงที่ตะโกนดังลั่น เรียกความสนใจจากคนรอบข้าง มีชายหนุ่มคนหนึ่งหวังดีว่าจะจับเด็กให้ ก็เลยรีบไปขวางเด็กที่โดนเรียกว่าหัวขโมยแล้วเตรียมท่าจะจับเด็กคนนั้น แต่แล้ว...


    ฟึบ! เด็กที่โดนเรียกว่าหัวขโมย ไม่กลัวชายหนุ่มคนนี้ซักนิด กลับวิ่งประโจนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งหลบเบี่ยงอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าเอ๋อในความเร็วของเจ้าเด็กหัวขโมย รีบหันไปมองดูก็เห็นเด็กวิ่งไปไกลแล้ว


    เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย?”เสียงกระซิบกระซาบจากเหล่าแม่บ้านที่กำลังจ่ายตลาดอยู่

    ทำไมถึงยังจับไม่ได้อีกน่ะ?"เสียงแม่บ้านอีกคนที่เป็นเพื่อนด้วยกันบ่น

    พวกเราเองก็ควรระวังตัวให้ดีๆเข้าไว้ล่ะ"เพื่อนอีกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย


    เด็กหัวขโมยวิ่งพลางหันไปดูข้างหลังก็แสยะยิ้มอย่างพอใจ แต่แล้ว...


    โครม! แต่ด้วยความสะเพร่าที่หันไปมองทางอื่น เลยไปชนกับผู้สูงวัยเข้าอย่างจัง ต่างฝ่ายต่างล้มไปคนละทาง

    โอ๊ย! เจ็บน่ะเว้ย ใครบังอาจมาชนฉัน!”ชายสูงวัยตะโกนเสียงกร้าวด้วยความโมโห


    เด็กชายรู้สึกมึนเล็กน้อยจากการชนเมื่อกี้ แต่เมื่อได้สติ ก็รีบรุกเก็บขนมปังที่ทำหล่นไว้เมื่อตอนชนทันที แล้ววิ่งผ่านชายสูงวัยอย่างรวดเร็ว


    คุณปู่เป็นอะไรรึเปล่า?”เด็าชายที่อยู่ในเหตุการณ์วิ่งไปหาแล้วถามปู่ของตนด้วยความเป็นห่วง เขามีผมสีน้ำเงินสั้น แต่ผมตรงข้างหน้ากลับมีสีเป็นเงินเป็นประกาย นัยตาสีม่วงอมแดงชวนน่าหลงใหล ผิวขาวเนียนน่าสัมผัส สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินยาวเลยเข่า และมีผ้าพันคอสีขาวพันรอบคอยาวเกือบจรดพื้น


    ก็เจ็บน่ะซิ! หนอยเจ้าเด็กบ้านั่น"ชายสูงวัยพูดอย่างหัวเสียพลางยืนขึ้นโดยมีไคคอยช่วยพยุง"ชนแล้วไม่ขอโทษซักคำมันน่านัก! ถ้าเจอมันอีกปู่จะจับมาลงโทษให้เข็ด”


    ไม่ต้องสนใจหรอกปู่ ยังไงซะก็แค่เด็กจรจัด"เด็กผมสีเงินกล่าวอย่างเย็นชา"มีธุระที่ต้องรีบไปทำไม่ใช่เหรอครับ?”


    เฮอะ!”ปู่ของเด็กชายผมเงินสบถอย่างเสียอารมณ์"รู้แล้ว ไปได้แล้ว"แล้วเขาก็เดินหน้าไป


    เฮ้อ...”เด็กชายผมสีเงินถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย


    วิ้ง... มีแสงท้อนบางอย่างแยงตาเขา เขาเหลือบไปมองบนพื้นก็พบนาฬิกาพกสีทองตกอยู่บนพื้น เขาอยู่นิ่งสักพักก่อนจะหยิบมันขึ้นมา พลิกดูไปมา แล้วก็ลองกดปุ่มด้านบนดู ฝานาฬิกาก็เปิดออก


    นี่มัน...”เขาหรี่ตาลง มองดูรูปบนฝานาฬิกา เป็นรูปของหญิงสาวครึ่งตัวที่ใส่เสื้อราตรีสีแดงฉาน โครงหน้าไข่เรียวสวย ปากเรียวทาด้วยลิปสติกสีแดงวาว นัยตาสีม่วง ผมสีแดงบลอนยาวถึงกลางหลัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...ใช่...ผู้หญิงคนนี้...


    คล้ายเจ้าเด็กจรจัดนั่นเลยแฮะ"เด็กผมสีเงินพึมพำ


    ไค! หลานมัวทำอะไรอยู่ รีบเดินเร็วซิ"ปู่เรียกชื่อหลานตัวเองเสียงดัง

    [รู้แล้วน่า]ไคคิดในใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเก็บนาฬิกาพกไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วเดินตามปู่ไปอย่างไม่เต็มใจนัก


    ทางด้านเด็กหัวขโมยนั่นเอง เขาวิ่งเขาไปในซอกหลืบของตึก เขาวิ่งลึกลงไปเรื่อยๆจนนึกว่าลึกพอที่จะไม่มีใครเห็น ก่อนจะนั่งลงพิงกำแพงอย่างเหนื่อยหอบ สักพักเขาก็กินขนมปังที่พึ่งขโมยมาได้หมาดๆ


    ระหว่างกินนั้นเองเขาก็นึกถึงเรื่องราวในอดีต...อดีตที่แสนเจ็บปวด


    การที่เขาต้องมีสภาพแบบนี้ เป็นเพราะเจ้าพ่อบ้าคนเดียว เพราะเจ้าพ่อบ้านั่นดันไปเชื่อคำโกหกของเพื่อนเจ้าเล่ห์นั่น บริษัทคงไม่ต้องมาล้มละลาย แต่ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น...เจ้าบ้านั่นดันหนีเไป ปล่อยให้แม่ต้องลำบากลำบนคอยเลี้ยงดูตนเอง ถึงแม้ว่าสุขภาพร่างกายอ่อนแอ สุดท้ายแม่ก็ต้องจากไปด้วยโรคเรื้อรัง


    ต่อหน้าต่อตาเขา...


    โธ่เว้ย!”เขาสบถอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะเขวี้ยงขนมปังทิ้งอย่างไม่ใยดี เขาลุกขึ้นแล้วต่อยกำแพงไม่ยั้ง เขาต่อยไปเรื่อยๆจนหน้ามือมีเลือดออก แต่ความโกรธที่มีมากจนบดบังความเจ็บปวดไปจนสิ้น


    [แม่...ผมจะทำอย่างไรดี] เขาคิดแล้วเอาหัวไปพิงกับกำแพง


    [ผมคิดถึงแม่เหลือเกินป...] แล้วน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นขึ้นมา เขาค่อยๆขยับมือล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา หวังจะหยิบสมบัติชิ้นสุดท้ายที่แม่มอบให้ก่อนท่านจะจากไป แต่แล้ว...


    ข้างในกระเป๋ากลับว่างเปล่า


    เขาเบิกตาโพลงอย่างตกใจสุดขีด แล้วเอามือที่ล้วงควานหาอีกรอบเมื่อความแน่ใจ แต่ควานหาเท่าไรก็ไม่เจอ เขาเริ่มค้นตัวเองทุกซอกทุกมุมอย่างร้อนรน เมื่อค้นยังไงก็หาไม่เจอ เขาถึงกับหน้าซีดเผือกขึ้นมาทันที


    [หายไปไหน!] เขาวิตกสุดขีด ก่อนจะสบถอย่างหัวเสีย


    [มันจะหายไปได้ยังไง!...หรือว่า!? ตอนนั้น ตอนที่เราชนกับตาแก่นั่น !] เมื่อคิดได้ดังนั้นก็กัดฟันกรอด แล้วก็รรีบวิ่งออกไปทันที


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×