ตอนที่ 83 : ภาค 1-บท 83 หยดโลหิตไร้มลทิน(1)
ดาบสีทองและดาบสีเงินได้เข้าปะทะกันอีกครั้งหลังจากที่เรล์มได้เปิดใช้ทักษะไป
“ดาบสีทองเล่มนั้นคงมีไว้เพื่อกำจัดปีศาจโดยเฉพาะ มันใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก”
ดันเต้เอ่ยพร้อมกับตวัดดาบออกไปอีกครั้ง
ด้วยค่าสถานะและความเร็วที่เหนือกว่าจึงทำให้เรล์มโดนโจมตีเข้าอีกครั้งอย่างง่ายดาย
เลือดของเขาหลั่งรินออกมาอีกครั้งจากปากแผล และในครั้งนี้มันเป็นแผลที่ฟันเข้าบริเวณต้นคอแต่ไม่ลึกมากนัก
ทันใดนั้นเอง หยดเลือดทั้งหมดที่ไหลอยู่บนพื้นได้ลอยขึ้นมากลางอากาศ
แต่ด้วยจำนวนเลือดที่เรล์มเสียไปนั้นมีมากจึงทำให้รอบ ๆ เต็มไปด้วยหยดเลือดที่ลอยได้
แม้แต่เลือดที่กำลังไหลออกจากปากแผลก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศด้วยเช่นกัน
[หยดโลหิตไร้มลทินระดับ 1 ทำงาน-ผู้เล่นได้รับเลเวลเพิ่มขึ้นชั่วขณะ 5 เลเวลหรือจนกว่ามานาจะหมดลง]
ดันเต้ก้าวเท้าถอยหลังโดยอัตโนมัติสัญชาติญาณของเขากำลังบอกว่าปีศาจตรงหน้ามันไม่ใช่ปีศาจธรรมดา
“ระวังให้ดี! เจ้าดันเต้มันมีเวทเปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นปีศาจได้ อย่าพึ่งตายจนกว่าร่างกายของข้าจะฟื้นฟูเสร็จ”
ดยุกไมล์ตะโกนเสียงดังลั่นในขณะที่เขากำลังถอยกลับไปตั้งหลัก พร้อมด้วยบาดแผลฉกรรจ์
และเมื่อดยุกไมล์ถอยทัพจึงทำให้ทหารทั้งกองทัพถอยตามไปด้วย ทำให้เหลือเพียงแค่เรล์มคนเดียวที่อยู่นอกกำแพงเมือง
ดยุกไมล์ตัดสินใจเปลี่ยนจากแผนโจมตีเป็นตั้งรับแทน เพราะทั้งทหารและตนก็เหนื่อยล้ามานานมากแล้ว
เรล์มหันหลังไปฟังเพียงครึ่งประโยคก็หันหน้ากลับมามองที่ดันเต้ เพราะสิ่งที่ดยุกไมล์พูดมานั้นกันต์รู้ดีอยู่แล้ว
ด้วยเลเวลที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้เรล์มสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและโจมตีรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ถึงจะเหลือแค่เรล์มคนเดียวที่สู้อยู่นอกกำแพงเมือง พวกปีศาจก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาอยู่ดี
“พลังแค่นั้นมันยังไม่มากพอจะจัดการข้า เจ้าก็รู้ดี”
ถึงแม้ดันเต้จะพูดไปอย่างนั้น แต่เขาก็หวาดกลัวหยดเลือดรอบ ๆ ตัวเหมือนกัน
ดันเต้กระทืบเท้าเสียงดังและแทงดาบลงบนพื้นดิน
“เขตแดนมนตราราชันไร้พ่าย” ดันเต้ร่ายเวท
วงเวทสีฟ้าขนาดใหญ่ถูกกางออกเป็นบริเวณกว้างบนพื้น และส่องสว่างออกมา
กองทัพปีศาจที่กำลังต่อสู้กับทหารบนกำแพงเมืองต่างพากันถอยห่างจากรัศมีวงเวทของดันเต้
“ในเขตแดนนี้เวททุกบทจะถูกทำให้ไม่สามารถใช้งานได้และไร้ผลไปในที่สุด”
ดันเต้ดึงดาบกลับมาและพุ่งตัวเข้าโจมตีเรล์มอีกครั้ง
และผลลัพธ์ก็เป็นเช่นเดิม เรล์มเป็นฝ่ายเสียเปรียบและสุดท้ายก็ต้องถอยกลับไปตั้งหลัก
ในครั้งนี้เขาได้แผลฉกรรจ์มาอีกหนึ่งแผล มันเป็นรอยฟันยาวบริเวณไหล่ซ้าย
[หยดโลหิตไร้มลทินระดับ 2 ทำงาน-ผู้เล่นได้รับเลเวลเพิ่มขึ้นชั่วขณะ 10 เลเวลหรือจนกว่ามานาจะหมดลง]
ในทุกระดับที่เพิ่มขึ้นของหยดโลหิตไร้มลทินนั่นหมายถึงเลเวลที่เพิ่มขึ้น 5 เลเวล
เท่ากับว่าในตอนนี้เรล์มมีเลเวล 60 แล้วนั่นเอง
ดันเต้จ้องมองไปที่คู่ต่อสู้ด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด
ทั้ง ๆ ที่เขาเปิดเขตแดนราชันไร้พ่ายไปแล้วแต่ทำไมหยดเลือดพวกนี้ถึงยังลอยได้อยู่กัน
จริงอยู่ที่มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก เวลาโดนตัวก็ไม่ได้เป็นอะไร
สิ่งที่น่าสนใจคือเจ้าพวกนี้อาจจะไม่ใช่เวทแต่เป็นทักษะทางสายเลือด หรือไม่ก็เป็นเวทที่มีระดับสูงกว่าเขตแดนราชันไร้พ่าย
“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ มนุษย์ก็ไม่ใช่ ปีศาจก็ไม่เชิง”
เรล์มเลือกที่จะเงียบตอบ และไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ในขณะเดียวกันนั่นเองพวกของเรติน่าก็ได้มาถึงยังกำแพงเมือง
พวกเธอกำลังมองไปที่เรล์มและดันเต้ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันอย่างสูสี
แต่ถ้ามองให้ดีแล้วจะเห็นได้ว่าเรล์มกำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
บาดแผลบนร่างกายของเขานั้นมากมายเสียเหลือเกิน แตกต่างจากดันเต้ที่แทบจะไม่เป็นอะไรเลย
“เราควรจะไปช่วยเขา” เรติน่ามองไปยังบริเวณต่อสู้ด้วยความสลดใจ
ไม่ว่าใครมาเห็นก็ต่างพากันบอกเป็นเสียงเดียวว่าแพ้แน่นอน ยังไงก็แพ้
“ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์ ท่านกลับมาแล้วจริง ๆ เทพเจ้ายังคงอยู่เคียงข้างเรา”
ด้านข้างของเธอนั้นมีดยุกไมล์ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ แต่ดู ๆ แล้วสภาพของเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากเรล์มมากนัก
“ดยุกเซซาร์อยู่ที่ไหน เขาเสียชีวิตแล้วงั้นรึ” เรติน่าเอ่ยถาม
ดยุกไมล์ถอนหายใจออกมาด้วนสีหน้าที่เจ็บปวด
“ใช่ครับ ดยุกเซซาร์พยายามถ่วงเวลาดันเต้ให้ ข้าหนีออกมาจากหัวเมืองหลัก”
ในขณะเดียวกันนั่นเองเสียงตะโกนฮือฮาของพวกทหารบนกำแพงก็ได้ดังขึ้น จนทหารผุูติดตามดยุกไมล์หันไปมองและชี้นิ้ว
“ท่านดยุกไมล์ ดูนั่น ปีศาจตนนั้นกำลังทำอะไรบางอย่าง”
เมื่อดยุกไมล์หันหน้าไปมองยังเบื้องล่างกำแพง พร้อมกับเรติน่า พวกเขาจึงมั่นใจได้อย่างหนึ่ง
ปีศาจที่เข้ามาช่วยพวกเขาไว้นั้นไม่ใช่ปีศาจธรรมดา
ในขณะเดียวกันนั่นเอง ภายในมิติแห่งหนึ่ง
ร่างของจอมมารเวลโดรที่หลับใหลและถูกกักขังด้วยโซ่สีขาวบริสุทธิ์
ดวงตาของจอมมารลืมขึ้นอีกครั้ง และกระชากโซ่สีขาวจนขาดกระเด็น
ที่มือของเขาเต็มไปด้วยวงเวทขนาดเล็กสีม่วงที่กำลังทำงานและหมุนวนอย่างหนัก
โดยปกติแล้วถ้าโซ่ถูกทำลายมันจะฟื้นฟูกลับมาได้ด้วยตัวเอง
แต่ในครั้งนี้กลับไม่ใช่โซ่สีขาวที่ขาดไปแล้วก็ขาดเลย มันไม่ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเช่นเคย อีกทั้งยังเปลี่ยนเป็นสีม่วงอีกด้วย
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร ลูกไก่ในกำมือหรือว่าของเล่น?”
จอมมารเวลโดรเอ่ยพลางไล่ฉีกกระชากโซ่สีขาวทิ้งด้วยความโกรธแค้น
“รอข้ากลับไปก่อนเถอะ สำหรับโซ่โง่ ๆ นี่ อีกแค่ 2 วันก็พอ”
เมื่อโซ่สีขาวที่พันธนาการร่างของจอมมารเวลโดรขาดไปทั้งหมดแล้วนั้นจะเกิดอะไรขึ้น คงมีแต่พระเจ้าที่รู้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

741 ความคิดเห็น
-
#192 Fikusa (จากตอนที่ 83)วันที่ 24 มกราคม 2563 / 13:43สุดยอดจอมมารหลุดออกมาคงวอดวายล่ะ#1921
-
#192-1 SuruMaster(จากตอนที่ 83)24 มกราคม 2563 / 14:14ถ้าได้ออกมานะครับ555#192-1
-
-
#168 ChaiyapakTop (จากตอนที่ 83)วันที่ 20 มกราคม 2563 / 19:35คนับบบ#1681
-
#168-1 SuruMaster(จากตอนที่ 83)20 มกราคม 2563 / 20:10ขอบคุณครับบบ#168-1
-
-
#167 PANTHER. (จากตอนที่ 83)วันที่ 20 มกราคม 2563 / 19:33เวรกรรมแล้วกันต์ จอมมารหลุดมาแล้ววว#1671
-
#167-1 SuruMaster(จากตอนที่ 83)20 มกราคม 2563 / 20:10555บางทีพี่กว่าที่แกจะหลุดอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย#167-1
-
-
#166 Unique Universe (จากตอนที่ 83)วันที่ 20 มกราคม 2563 / 16:06แจ้งเตือน! แจ้งเตือน! จอมมารกำลังแหกคุก#1661
-
#166-1 SuruMaster(จากตอนที่ 83)20 มกราคม 2563 / 17:00ตอนนี้พี่แกแค่โผล่มาเตรียมตัวเข้าภาค 2 เฉย ๆ ครับ 555#166-1
-