สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 72 : ภาค 1-บท 72 หลักการของวงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียว

“พวกเจ้าเป็นใครกัน” 

คนขับรถม้าผู้เป็นองครักษ์หญิงของเรติน่าตะโกนถามกลุ่มชายปริศนา ด้วยท่าทางหวาดระแวง

เมื่อบุคคลปริศนาตรงหน้าดึงชุดคลุมออก ปรากฏให้เห็นชายหน้าหล่อคนเดิม

ใช่แล้วเขาคนนั้นคือเรย์ในรูปแบบของผู้ชายนั่นเอง

“พวกเจ้าต่างหากที่เป็นใคร” เรย์ถามกลับ

ก่อนที่คนขับรถม้าจะได้ตอบกลับนั่นเอง เสียงเปิดประตูรถม้าก็ได้ดังขึ้น

เรติน่าก้าวเท้าออกมาจากรถม้า และเดินไปยืนตรงเบื้องหน้าของเรย์

“ข้าคือนักบุญศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรมนุษย์ทางตอนใต้ ในขณะนี้มีนามว่าเรติน่า”

เรติน่าเอ่ยชื่อเต็มและฐานะของเธออย่างครบถ้วน

ซึ่งเรติน่าก็เป็นชื่อที่เครกตั้งให้เมื่อไม่นานมานี้ โดยส่วนตัวแล้วเธอรู้สึกชอบชื่อนี้มากเป็นพิเศษ ส่วนเหตุผลเธอเองก็ไม่ทราบ

“ดยุกดันเต้หันหลังให้เผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว นักบุญศักดิ์สิทธิ์หายตัวไป ราชาถูกสังหาร”

เรย์เริ่มบรรยายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ในระหว่างที่เมืองกำลังตกอยู่ในความโกลาหล เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา แล้วเจ้ามีหลักฐานที่ทำให้ข้าเชื่อได้หรือไม่”

เรติน่านิ่งคิด พลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอยังฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ก็ต้องมอบให้กับเครกไปเพื่อพิสูจน์ว่าเครกคือคนตามคำทำนาย

ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอกลับมาร่อยหรอ จนแทบไม่เหลือ

และใบหน้าของนักบุญศักดิ์สิทธิ์แต่ละคนไม่ใช่ของที่จะเห็นได้ง่าย ๆ เพราะถูกคุ้มกันให้ปลอดภัยในระดับสูงสุด

“ขออภัยในตอนนี้ข้าไม่สามารถแสดงพลังให้ท่านได้ เพราะหลังจากการต่อสู้ พลังของข้ายังไม่คืนกลับมา”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็จงพิสูจน์มาว่าไม่ใช่ปีศาจหรือพวกคนสาวกลัทธิบูชาปีศาจ”

เรย์ชี้ดาบสีเงินที่มีชื่อว่าเพลซเบลดไปทางเรติน่า

เรติน่านิ่งคิดอีกครั้ง เธอต้องใช้อะไรกันถึงจะบ่งบอกได้ว่าเธอไม่ใช่สาวกลัทธิบูชาปีศาจ อะไรที่พอจะเป็นตัวยืนยันให้ได้

ในระหว่างที่เรติน่ากำลังคิดอยู่นั่นเอง วงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวที่สลักไว้กลางหน้าอกของเธอได้เปล่งแสงสีเหลืองอ่อน ๆ ออกมา

เรย์มองไปยังแสงสีทองที่ส่องผ่านเสื้อผ้าอันขาวบริสุทธิ์ของเธอด้วยความสงสัยใคร่รู้

แม้แต่เจ้าตัวเรติน่าเอง ยังสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมวงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวถึงทำงานได้ด้วยตัวของมันเอง

ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้ใช้มัน แต่มันกลับทำงานขึ้นมา

ด้วยความสงสัย เรย์จึงค่อย ๆ ย่างเท้าเข้าไปใกล้เรติน่าเพื่อดูให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ทันใดนั้นเองแสงสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเรย์

ลำแสงสีฟ้าส่องแสงเจิดจรัสเสียยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ในยามเช้า

มันทำให้เรย์จำใจต้องยกแขนขึ้นมาปิดตาทั้ง 2ไว้

เมื่อแสงสีฟ้าจางหายไป จึงทำให้เรย์มองไปยังทางข้างหน้าได้ชัดเจนอีกครั้ง

“เจ้ากำลังสงสัยในวงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวรึ” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น

“…”

เบื้องหน้าของเรย์ปรากฏให้เห็นเสื้อผ้าอันบางและเรียบง่ายของบุคคลตรงหน้า

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองไปด้านบนนั่นเอง มันจึงทำให้สายตาของเธอจ้องตรงไปยังใบหน้าของชายตรงหน้า

“เครก โคนอส” เรย์กล่าวสั้น ๆ

“นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกัน”

ในอดีตเครกและเรย์เคยพบกันมาหลายต่อหลายครั้ง และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาคุยกันเข้าใจ

“ขออภัย สำหรับการกระทำเมื่อสักครู่” เรย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ 

เรย์รีบก้าวเท้าถอยหลังกลับ เพราะเธอรู้สึกว่ากำลังเข้าใกล้เครกมากเกินไป

“ท่านเครก ข้าอยู่ตรงนี้” 

เรติน่าพยายามเรียกร้องให้เครกหันกลับมาที่เธอ

ทั้งกลุ่มของชายในชุดคลุมและองครักษ์ของเรติน่า พากันมองไปที่พวกเขาทั้ง 3 คนด้วยสีหน้าท่าทางแปลก ๆ

“เรติน่า มีเรื่องอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า” 

เครกหันหลังกลับและเอ่ยถามเรติน่า

“ข้าคิดว่าวงเวทนี้จะทำงานเมื่อมีจิตสังหารส่งตรงมาถึงข้า วงเวทนี้ถึงได้ทำงานโดยอัตโนมัติ”

“แต่ท่านอย่าพึ่งเข้าใจผิดไป กลุ่มชายรอบ ๆ เราพวกเขาไม่ใช่คนไม่ดี พวกเขาแค่สงสัยว่าข้าเป็นใครเท่านั้นเอง”

เครกเงียบฟังความคิดของเรติน่า บางทีทฤษฎีของเธออาจจะถูกต้อง

[วงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวจะทำงานเมื่อผู้ติดตามมีความปรารถนาอยากให้ผู้เล่นมาปรากฏตัวพุ่งถึงขีดสุด]

[และฝ่ายผู้เล่นต้องยินยอมที่จะไป วงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวถึงจะสามารถทำงานได้]

[ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือผู้เล่นต้องยอมจ่ายมานาครึ่งหนึ่งจากจำนวนสูงสุดที่เก็บได้เพื่อใช้งาน]

[สำหรับวิธีแรกนั้นจะไม่ใช้มานา แต่วิธีที่ 2 จะใช้มานาเป็นการแลกเปลี่ยน]

หืม เรติน่าต้องการให้ผมมาช่วยเธอสินะ วงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวถึงได้ทำงาน

นั่นแสดงว่าทฤษฎีของเรติน่าผิดพลาด แต่การที่จะปล่อยให้เธอเข้าใจผิดอยู่แบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีนัก

"เรติน่า วงเวทนี้จะทำงานขึ้นเมื่อเจ้าต้องการให้ข้าปรากฏตัวเท่านั้น มันจะทำงานเมื่อเจ้าปราถนาให้ข้ามายืนเคียงข้างเจ้า"

เครกอธิบายให้เรติน่าฟังสักพัก และหันหน้าไปทางเรย์และยื่นมือไปแตะบนไหล่ของเขา

“ในครั้งที่แล้วข้ายังไม่ได้ทราบนามของเจ้า ช่วยเอ่ยนามของเจ้าให้ข้าฟังได้หรือไม่”

เรย์สะดุ้งกับการกระทำของเครกเล็กน้อย ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนสีหน้าและท่าทางให้ดูกลับมาเป็นชายผู้องอาจเช่นเดิม