สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 48 : ภาค 1-บท 48 ผู้ติดตามคนแรก

อ่า ดูเหมือนระบบมันอยากให้ผมตั้งชื่อให้เธอมาก

เท่าที่จำได้ดูเหมือนว่าเธอจะนับถือเทพพระเจ้าเรติอุสสินะ

“ข้าจะเรียกเจ้าว่าเรติน่า หลังจากนี้มันจะเป็นชื่อของเจ้า” ผมเอาชื่อนี้มาจากวิชาชีววิทยา

[ผู้ติดตาม คนที่1 เรติน่า ได้ถูกบันทึกแล้ว]

[ผู้ติดตามของคุณจะได้รับ วงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียว กรุณายื่นมือไปทางผู้ติดตามของคุณ]

ผมไม่รอช้าลองทำตามที่ระบบบอกทันที

เครกยื่นมือไปทางตรงหน้าของเรติน่าหรือนักบุญศักดิ์สิทธิ์

วงเวทสีทองได้ถูกวาดขึ้นกลางอากาศและลอยเข้าไปประทันที่กลางหน้าอกของเรติน่า

วงเวทสีทองนั่นก็คือวงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียวนั่นเอง

[หลังจากนี้ผู้เล่นจะสามารถเรียกผู้ติดตามจากที่ไหนก็ได้โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นตัวของผู้เล่นหรือตัวละคร]

[และยังสามารถสื่อสารทางไกลผ่านวงเวทหนึ่งเดียวได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด]

[เมื่อต้องการเรียกผู้ติดตามให้ใช้ทักษะ เรียกผู้ติดตาม]

ในระหว่างที่กันต์ในร่างของเครกกำลังทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบผู้ติดตามนั่นเอง

กลุ่มองครักษ์ของเรติน่าต่างพากันกรูเข้ามาดูวงเวทบนกลางอกของเธอ

ถ้าดูให้ดีแล้วมันเป็นวงเวทสีทองลวดลายเหมือนกับแท่นบูชาอะไรบางอย่าง

“มันคือเวทอะไร” องครักษ์คนหนึ่งถาม

“ข้าไม่รู้เหมือนกัน” องครักษ์อีกคนตอบ

“มันคือวงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียว มันทำให้ข้าสามารถเรียกตัวเธอมาเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ และสามารถสื่อสารกันผ่านวงเวทนี้ได้”

เครกเป็นคนตอบคำถามให้กับเหล่าองครักษ์

[ภารกิจต่อเนื่องจากเรติน่า คงเหลือเวลา48 ชั่วโมง]

[พาเรติน่าและองครักษ์ของเธอกลับเข้าไปยังภายในอาณาจักรมนุษย์ทางตอนใต้]

[อาณาจักรมนุษย์ทางตอนใต้เกิดความระส่ำระส่ายเมื่อราชาของเขาได้ตายลงพร้อมกับนักบุญศักดิ์สิทธิ์ที่หายตัวไป]

[หนทางที่จะแก้ไขนั่นก็คือดึงความเชื่อมั่นของปวงชนกลับมาอีกครั้ง]

[ภารกิจต่อเนื่อง-ผู้เล่นสามารถออกจากระบบและเปลี่ยนตัวละครมาเล่นระหว่างภารกิจได้]

[ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการเปลี่ยนตัวละครมาทำภารกิจ]

[ภารกิจต่อเนื่องทุกภารกิจมีเวลาจำกัดกรุณาคำนวณเวลาให้ถูกต้อง]

ภารกิจที่มากะทันหันแบบนี้มันมักจะยากตลอด แต่ในครั้งนี้คงไม่ยากท่าไหร่

แค่พาคนกลับไปที่เมืองบ้านเกิดมันจะไปยากอะไร

“ตามข้ามา ข้าจะกลับไปช่วยผู้คนที่อยู่ในเมืองของเจ้า”

เครกเดินนำนักบุญศักดิ์สิทธิ์เข้าไปยังประตูมิติ

เรติน่าและองครักษ์ของเธอมองแผ่นหลังของเครกด้วยสีหน้าที่มีความสุข

เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเธอต้องการมาตั้งนานแล้ว

ที่โลกอีกด้านหนึ่งของประตูมิติ

สภาพโดยรอบดูย่ำแย่กว่าครั้งก่อนที่เขามาที่นี่

มันเต็มไปด้วยร่องรอยของซากปรักหักพังและอาวุธสงครามจากโลกเดิม

กฤติธีอาจจะมีความคิดจะฟื้นฟูที่นี่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่นั่นคงเป็นเรื่องยาก

เพราะรอบ ๆ ที่นี่ถูกล้อมไปด้วยกองทัพปีศาจ รวมถึงกองทัพของดันเต้ที่น่าจะอยู่ไม่ไกล

“รีบไปกันได้แล้ว ข้าไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก”

อย่างแรกที่ผมคิดไว้คือจะเดินทางกลับไปที่เมืองแรกที่ผมเคยมาที่นี่ก่อน

ผมจำได้ว่าใกล้ ๆ เมืองนั้นจะมีถนนเส้นทางหลักที่เอาไว้เดินทางอยู่

ใช่แล้วมันคือเส้นทางที่ผมได้เจอกับขบวนเดินทางของนักบุญศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรก

แต่ก่อนที่ผมจะได้ออกเดินทางนั่นเอง เสียงเรียกจากใครบางคนก็ดังขึ้น

“คุณเครกครับ คุณเครก” มันเป็นเสียงร้องเรียกชื่อเขาจากหน้าประตูมิติ

รถม้าคันหนึ่งได้เดินทางผ่านประตูมิติออกมา

มันเป็นรถม้าที่คล้าย ๆ กับในหนัง มีต้นแบบมาจากรถม้าราชวงศ์อังกฤษ

มีชายคนหนึ่งขับรถม้าออกมาและมุ่งตรงมายังเครก

“ท่านประธานบอกว่าพวกคุณต้องใช้มันนะครับ ถือว่าเป็นของขวัญก่อนจากลา”

เมื่อรถม้าได้จอดลงหน้าพวกเขาแล้ว ชายคนนั้นก็เดินกลับไปที่ประตูมิติ

ทั้งเครกและกลุ่มนักบุญศักดิ์สิทธิ์ต่างมองไปที่รถม้าด้วยสีหน้าสงสัย

“ข้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง” หนึ่งในองครักษ์ของเรติน่ากล่าว

หลังจากพูดจบเธอก็ขึ้นไปทำหน้าที่ของคนขับรถม้าทันที

กลุ่มองครักษ์ของเรติน่ามีกันเพียง5 คนเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ยังอยู่ในเมือง

ดังนั้นแล้วการเข้าเมืองก่อนในตอนนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

และแล้วคณะเดินทางก็ได้เริ่มออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรทางตอนใต้

ณ ปราสาทแห่งหนึ่ง

ปราสาทนี้มันเคยเป็นสถานก่อสร้างที่สวยงาม แต่แล้วมันก็ถูกเปลี่ยนโฉมให้เป็นสถานที่น่าหวาดกลัวและวังเวง

ภายในห้องโถงที่กว้างใหญ่ บนบัลลังก์นั้นมีปีศาจรูปร่างคล้ายมนุษย์ตนหนึ่งกำลังนั่งอยู่

ปีศาจตนนั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพ หากแต่เป็นเทพที่ตั้งตัวอยู่ตรงข้ามกับพระเจ้าเท่านั้น

ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ปรากฏให้เห็นร่างของปีศาจอัศวินดำที่กำลังเดินเข้ามา

เสียงเกราะสีดำกระทบกันในขณะที่กำลังเดิน ส่งให้เกิดเสียงที่น่าหวั่นเกรง

ปีศาจตนนี้คือผู้นำกองพันปีศาจลำดับที่10 ด้านหลังของเขายังมีปีศาจอัศวินดำอีก4 ตนเดินตามหลังมา