สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 46 : ภาค 1-บท 46 ความลับที่คาดไม่ถึง

สถานที่ตั้งของประเทศสิงคโปร์แห่งนี้กำลังถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฐานที่มั่นแรกของปีศาจ

การบุกรุกเข้ามายังโลกใบนี้ ถือว่าทำได้ดีสำหรับก้าวแรก

เหล่าปีศาจช่วยกันสร้างที่พักและอาวุธสำหรับเตรียมบุกครั้งต่อไป

“ท่านต้องการบอกให้ข้ายอมแพ้แล้วหนีไปงั้นรึ”

ลูซิเฟอร์เงยหน้าขึ้นมองฟ้าและพึมพำเบา ๆ

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปฆ่ามันก่อนที่มันจะได้แข็งแกร่งกว่านี้”

ลูซิเฟอร์โบกมือเรียกอาวุธของตน นั่นทำให้เคียวสีดำที่ถูกวางไว้กับพื้นลอยกลับเข้าไปที่มือของเขา

“ได้เวลาโจมตีต่อแล้ว เดินทางขึ้นเหนือ ข้ามน้ำผ่านทะเล”

ลูซิเฟอร์ตะโกนเพื่อปลุกขวัญกำลังใจของกองทัพปีศาจ

กองทัพปีศาจโห่ร้องออกมาด้วยความฮึกเหิม พวกมันอย่างจะบุกโจมตีเมืองต่อไปจนแทบจะขาดใจแล้ว

กลับไปยังกำแพงของบริษัทฮิวแมนคริเทค

หลังจากหลบหนีกลุ่มนักข่าวได้เรียบร้อยแล้ว เครกจึงได้ถูกเชิญมายังห้องส่วนตัวของกฤติธี

มันเป็นห้องส่วนตัวที่เอาไว้พูดคุยเกี่ยวกับความลับทางธุรกิจโดยเฉพาะ

[ทักษะอัญเชิญจิตวิญญาณหมดเวลาแล้ว จิตวิญญาณของเครกถูกย้ายออกจากร่าง]

ผมกลับมาแล้ว หมายถึงผมกลับมาที่ร่างของเครกแล้ว ส่วนร่างต้นก็นอนอยู่ในห้องพยาบาลเหมือนเดิม

“เครก ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนาย” กฤติธีกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

กฤติธีนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ผมเองก็นั่งลงที่โซฟาเช่นกัน

“ว่ามา” ในจังหวะนี้ผมต้องสวมบทเป็นเครก การพูดเลยดูแปลกไปสักหน่อย

“หลังจากที่นายปรากฏตัวต่อสายตาคนทั้งโลกแล้ว นายจะใช้ชีวิตยากขึ้น”

กฤติธีเปลี่ยนกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจัง และแน่นอนทั้งคู่พูดกันด้วยภาษาแลงเกล

“ตัวอย่างก็คือพวกนักข่าวที่รุมนายเมื่อกี้ แต่เพื่อตอบแทนการที่นายช่วยจัดการปีศาจพวกนั้น ฉันมีข้อเสนอให้กับนาย”

“ลองพูดมา” เครกยังคงย้ำคำเดิม

“เซ็นต์สัญญาเข้าร่วมกับบริษัทฮิวแมนคริเทค แล้วเรื่องชีวิตในโลกฝั่งนี้ทุกอย่างฉันจะจัดการให้เอง ไม่ว่านายอยากได้อะไร”

กฤติธีส่งมอบข้อเสนอที่แทบทุกคนบนโลกอยากจะได้ แต่ผมเชื่อว่าข้อเสนอแบบนี้มันต้องมาพร้อมกับข้อผูกมัดบางอย่างแน่นอน

“ข้อผูกมัดคืออะไร ถ้าคิดจะทำสัญญากับข้ามันต้องทำอย่างยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งเสียเปรียบข้าจะไม่ทำเด็ดขาด”

ผมหวังว่าตัวเองคงไม่ได้พูดอะไรแปลก ๆ ออกไปหรอกนะ

[จิตใต้สำนึกของเครกชื่นชมทักษะการพูดของคุณ ผู้เล่นพูดได้ถูกใจเครกมาก]

[จิตใต้สำนึกของเรล์มกำลังพยายามเข้าใจธุรกิจของโลกใบนี้ด้วยความพยายามที่มี]

[จิตใต้สำนึกของเวรัคชื่นชมคุณที่ไม่หลงไปกับอำนาจเงินทอง]

กฤติธีจ้องมองเข้าไปยังดวงตาของเครก ก่อนที่จะหัวเราะออกมา

“ใช้ได้ ใช้ได้ นายเป็นมนุษย์จากต่างโลกที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”

“ข้ามีเวลาว่างไม่มาก”

ยิ่งเสียเวลาไปกับตรงนี้มาก ผมก็อดเข้าเรียนช่วงบ่ายแน่

“ข้อผูกมัดของบริษัทเราก็ง่าย ๆ เวลามีใครถามว่ามาจากบริษัทหรือสังกัดไหน ให้ตอบว่าฮิวแมนคริเทคก็พอ”

“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่เซ็นต์สัญญา” ผมรู้สึกว่าการทำแบบนั้นมันทำให้เครกผูกพันกับโลกฝั่งนี้มากเกินไป

บางทีเครกคงอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา หลังจากที่เขาจัดการจอมมารลงได้

เครกไม่ได้สนใจชื่อเสียงหรือเงินทองใด ๆ ทั้งนั้น เขาแค่รักความยุติธรรมเท่านั้นเอง

“นายอยากได้อะไร ถ้ามันไม่เกินความสามารถของฉัน ก็พอจะหามาให้ได้”

กฤติธีเดาใจของชายตรงหน้าของเขาไม่ออกเลยจริง ๆ แต่แล้วกฤติธีก็คิดบางอย่างออก

“ถ้าเป็นความลับของโปรเจกต์Farness World จะว่าไง”

กฤติธีพูดในสิ่งที่เครกคาดเดาไม่ถึงออกมา

“Farness Worldมันคืออะไร”

เท่าที่ผมรู้จักมันคือเกมที่ผมติดงอมแงมมาเป็นปีพร้อมกับเพื่อนที่ชื่อว่านนท์

และมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมีชีวิตอย่างทุกวันนี้

“โปรเจกต์ลับขององค์กรใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มันคือโปรเจกต์ที่มีอีกชื่อว่า พระเจ้าจุติ”

“ทุก ๆ อย่างในองค์กรนี้ล้วนถูกปิดเป็นความลับ ไม่ว่าสหประชาชาติจะพยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับองค์กรนี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ทำไม่ได้”

“แต่บริษัทของเราทำได้ และกำลังค่อย ๆ ล้วงข้อมูลของพวกมันออกมาเรื่อย ๆ”

“เหตุผลที่พวกเราสามารถพูดภาษาแลงเกลได้และรู้เกี่ยวกับมานา เพราะเราล้วงข้อมูลนี้มาจากองค์กรนั่น"

กฤติธียังอธิบายต่อไป

"อันที่จริงแล้วความรู้เกี่ยวกับภาษาแลงเกลที่พวกเรามีอยู่มันเก่ามากแล้ว แต่ขององค์กรใต้ดินนั่นเหมือนจะอัพเดทอยู่เรื่อย ๆ "

"พวกมันทำอย่างกับรู้ทุกการเคลื่อนไหวของโลกอีกฝากของประตูมิติ"

ข้อสงสัยของผมถูกคลี่คลายแล้ว เหตุผลที่พวกเขารู้ความลับเกี่ยวกับมานานั่นก็เพราะองค์กรใต้ดินนั่น

แล้วทำไมFarness World ที่ผมรู้จักมันถึงเป็นแค่เกมธรรมดา ๆ กัน

บางทีเรื่องนี้อาจจะมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่คิดหลายเท่า

“ดูเหมือนนายอยากรู้เรื่องนี้มากเป็นพิเศษ แต่ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ก็เซ็นสัญญาเข้ากับบริษัทของเราก่อน”

กฤติธีมอบกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับเครก มันเป็นกระดาษที่เอาไว้สำหรับลงนามเซ็นสัญญา

สงสัยหลังจากนี้ผมต้องหาข้อมูลของFarness World เสียแล้ว

มันกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมรู้จักดีที่สุดได้ปรับเปลี่ยนกลับกลายเป็นสิ่งที่ลึกลับที่สุดไปเสียได้

หลังจากนั้นผมก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมกับบริษัทฮิวแมนคริเทค แต่นั่นก็แค่ในนาม

พวกเขาตกลงที่จะมอบข้อมูลเกี่ยวกับFarness World ที่เขารู้ทุกเรื่องให้กับผม