ตอนที่ 3 : ภาค 1-บท 3 ความฝันหรือความจริง
“เรากลับมาที่ห้องแล้ว ?” กันต์กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง
ห้องที่พูดถึงในที่นี้คือห้องนอนของกันต์นั่นเอง
หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ดับลงไปแล้ว ทั้งๆที่เจ้าตัวจำได้ว่าไม่ได้ปิด แต่นั่นก็ไม่สำคัญ
“ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลย” กันต์รีบขยับตัวอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าห้องน้ำ
สิ่งที่กันต์เห็นนั่นก็คือ นาฬิกาปลุกที่บอกเวลาว่าตอนนี้ใกล้จะ 8 โมงเช้าแล้ว
เรื่องเมื่อวานอาจจะเป็นเพียงแค่ฝันเท่านั้น นั่นเป็นประโยคที่กันต์กำลังท่องเอาไว้ปลอบใจตัวเองเพื่อให้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
ด้วยเหตุเพราะเขาอยู่บ้านคนเดียวมาหลายปีแล้วทำให้ต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง พ่อและแม่ของเขาได้ออกไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ก็ยังส่งเงินมาให้เรื่อยๆ
เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วเหลือเพียงแค่ทานอาหารเช้า แต่กันต์ก็เลือกที่จะไม่กินมัน เพราะจะทำให้เขาไปโรงเรียนสาย
แต่เมื่อเขาเดินออกจากบ้านไปไม่นานก็เริ่มได้ยินเสียงกรีดร้องโวยวาย กันต์จึงรีบหันมองไปที่ต้นเสียงทันที
ประตูสีดำทมิฬ 4 เหลี่ยมจัตุรัสที่สูงประมาณ 8 เมตร ได้ตั้งตระหง่านอยู่กลางหมู่บ้านของประชาชน
มันเป็นประตูมิติที่มีลักษณะคล้ายกับในเกม Farness World ไม่มีผิด ซึ่งประตูมิติพวกนี้มันมาจากที่ไหนกันก็มไ่ทราบ
กองกำลังทหารของรัฐบาลนั้นมาถึงอย่างรวดเร็วเพราะจุดเกิดเหตุไม่ได้ห่างไปจากค่ายทหารมากนัก
ที่กันต์รู้ได้อย่างละเอียดนั่นก็เพราะบ้านของเขาอยู่ไม่ได้ห่างไปจากประตูปริศนาขนาดใหญ่นั่นนักเช่นเดียวกัน
ทั้งรถถัง รถตำรวจ และเฮลิคอปเตอร์อีกประมาณ 2 ลำต่างพากันล้อมประตูปริศนาที่ว่าไว้
“ขอให้ประชาชนทุกคนที่ได้ยินเสียงประกาศนี้รีบอพยพไปที่ค่ายอพยพด้วยนะครับ” เสียงประกาศของตำรวจได้ดังขึ้น 2-3 ครั้ง
“หมายความว่า เมื่อวานเป็นเรื่องจริง” กันต์แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
กันต์ได้แต่จ้องไปที่ประตูมิติปริศนา ในขณะที่ตัวเองกำลังนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน
ทันใดนั้นเอง ประตูมิติก็เริ่มแปลกไป มิติภายในของมันเริ่มหมุนวน และในที่สุดก็มีอะไรบางอย่างก้าวออกมาจากประตู
“พวกหมาป่า พวกปีศาจทั้งนั้นไม่ใช่รึไง”
สายตาขอชายหนุ่มจ้องมองไปยังกองกำลังของปีศาจเริ่มออกมาจากประตูมิติ ก่อนที่จะกล่าวขึ้น
ทั้งทหารและตำรวจที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ใกล้ๆ จึงได้ตัดสินใจในทันทีว่าพวกมันคือสิ่งที่ต้องกำจัดทิ้ง
“ถอยไปเดี๋ยวนี้ ถ้ายังก้าวมาอีก พวกเราจะไม่รับประกันความปลอดภัย”
พวกปีศาจนั้นแน่นอนว่าฟังภาษามนุษย์ไม่รู้เรื่อง พวกมันคำรามใส่กองทัพทหารและเปิดฉากการโจมตี
กระสุนปืนทุกชนิดรวมไปถึงรถถังเริ่มระดมยิงแทบจะทันทีหลังจากที่พวกมันคำราม
กระสุนปืนได้ผลเป็นอย่างดี สามารถสกัดพวกปีศาจไว้ได้แต่นั่นก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น
“แบบนี้ต้องมีพวกปีศาจที่หนังเหนียวกว่านี้ออกมาแน่” กันต์ไม่รอช้ารีบสตาร์ทเครื่องยนตร์ของจักรยานยนต์และเตรียมเผ่นทันที
ถึงแม้กันต์จะเข้าไปช่วยเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เขาเป็นเพียงเด็กมัธยมปลายคนหนึ่งเท่านั้นจะไปทำอะไรกับปีศาจได้
แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของบางสิ่งที่ไม่ธรรมดา
เต่าตัวสีเขียวสูงประมาณ 4 เมตร ก้าวออกมาจากประตูมิติอย่างเชื่องช้าแต่ก็มั่นคง
เต่ายักษ์กินคน มันคือมอนสเตอร์ที่อึด ถึก ทน มีแค่เวทเท่านั้นที่โจมตีมันเข้า แต่เพราะการป้องกันทางกายภาพที่สูงจึงทำให้มันเดินได้ช้าและโจมตีช้าไปด้วย
“ไม่ดีแน่ แบบนี้มันเหมือนมอนสเตอร์จากในเกมหมดเลยนี่หว่า”
ทุกเรื่อง ทุกอย่างคือของจริง เขาไม่ได้ฝันไปเองรวมถึงเกมนั่นด้วย
[ภารกิจบังคับ-ปราบเต่ายักษ์กินคนที่ออกมาจากประตูมิติ ภายใน 20 นาที]
เสียงจากระบบดังเข้ามาในหัวของกันต์
“อยากให้ฉันตายรึไง” กันต์ถามกลับไปแต่ก็ไม่มีใครตอบ
[ผลจากการเลเวลอัพ คุณได้กลายเป็นผู้เล่นเลเวล 2 กรุณาเลือกทักษะที่ต้องการจากตัวละครใดตัวละครหนึ่ง]
[ในทุก ๆ ครั้งที่เลเวลของผู้เล่นเพิ่มขึ้น 2 เลเวลผู้เล่นจะได้รับสิทธิ์ในการเลือกทักษะเพิ่มจากตัวละครใดตัวละครหนึ่ง ยกเว้นเฉพาะกรณีพิเศษบางกรณี]
“มันไม่มีให้เลือกแบบหน้าจอสกิลเหมือนในเกมหรือในนิยายที่เราอ่านเลย” เสียงจากระบบมันดังแค่ในหัวของเขา มันไม่ได้มีหน้าต่างอะไรให้เลือกและดูสักนิด
“คงต้องใช้ความจำเอาเองว่ามีสกิลอะไรบ้าง...ฉันเลือกสกิล กู่ก้องคำราม”
ทักษะกู่ก้องคำรามคือทักษะที่สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตได้ด้วยเสียง และมันยังสามารถเพิ่มสถานะทางกายภาพของเราเป็น 2 เท่าอีกด้วย
[ทักษะยังไม่ถูกปลดล็อค คุณไม่สามารถเลือกได้]
“สงสัยเครกของเรายังเลเวลไม่ถึง ฉันขอเลือกสกิลทำลายจากภายใน”
[คุณได้รับทักษะทำลายจากภายใน เมื่อใช้ทักษะจะอ้างอิงสถานะจากตัวละครเครก]
ถ้าให้เทียบแล้วกันต์คงมีค่าสถานะที่ต่ำกว่าเครกหลายเท่ามากๆ ถ้าอ้างอิงสถานะจากเครกเลยก็ทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นมาหน่อย
ดังนั้นนี่ก็จะหมายความว่า เวลาที่ผมใช้ทักษะนี้จะมีพลังโจมตีเท่ากับตอนที่ตัวละครเครกใช้ เพราะอ้างอิงมาจากค่าสถานะของเครก
หลังจากใช้ทักษะไปแล้วค่าสถานะของผมก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม มันจะอ้างอิงค่าสถานะของตัวละครมาก็ต่อเมื่อตอนที่ผมเปิดใช้ทักษะเท่านั้น
“น่าเสียดาย ภารกิจบังคับมันไม่สามารถยกเลิกได้ และถ้าทำผิดพลาด ก็มีผลลัพธ์คือตาย คงหนีไม่ได้แล้ว”
ถึงแม้กันต์จะไม่แน่ใจว่าตัวเขาจะสามารถกลับมาเกิดใหม่เหมือนในเกมได้รึเปล่า แต่อย่างน้อยก็พยายามไม่ตายให้มากที่สุดไว้จะดีกว่า
เคยมีครั้งหนึ่งในเกมที่กันต์ทำพลาด เขาทำภารกิจบังคับล้มเหลว ผลลัพธ์ก็คือ ตัวละครตัวนั้นตาย แล้วต้องเริ่มเกมใหม่
รถมอเตอร์ไซค์ของกันต์รีบมุ่งหน้าไปยังทิศที่เจ้าเต่ายักษ์อยู่ทันที
เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าลูกกระสุนธรรมดาไม่สามารถเจาะทะลุผิวหนังของเต่ายักษ์ได้ ทำให้พวกทหารและตำรวจเริ่มที่จะล่าถอยกัน
ด้วยร่างอันขนาดใหญ่ของเต่ายักษ์มันได้สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในบริเวณรอบ ๆ ที่เห็นมัน
รถถังยังคงระดมยิงต่อไป เพราะกระสุนปืนของรถถังนั้นมีความรุนแรงมากพอที่จะยิงเจาะเข้าหนังมันได้ แต่ก็เปรียบได้กับถูกต่อยเบาๆ ถึงจะไม่บาดเจ็บมาก แต่พอโดนมากเข้าก็รู้สึกทรมาน
กระดองของมันมีความแข็งและทนทานจากการโจมตีทางกายภาพยิ่งกว่าผิวหนังของมัน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ที่สุด
เต่ายักษ์กินคนมีทักษะโจมตีระยะไกลที่ชดเชยความเชื่องช้าของมันอยู่ คือทักษะลมปากของมัน
“ไม่ดีแล้ว พวกทหารต้องล้มตายเพราะสกิลลมปากมันแน่” กันต์รีบบิดคันเร่งเข้าไปอีก
ลมปากของเต่ายักษ์นั้นน่าสะอิดสะเอียนและเหม็นมาก(โคตรๆ) ต้องเปิดบาเรียเวทเท่านั้นถึงจะป้องกันได้ มันมีความรุนแรงพอๆ กับพิษระดับ 3
เต่ายักษ์กินคนเริ่มสูดลมหายใจเข้าไปในปอดและเตรียมตัวปล่อยออกมา
ควันสีเขียวที่เทียบเท่ากับพิษระดับ 3 กำลังถูกปล่อยออกมาในไม่ช้า
“ไม่ปล่อยให้ได้ใช้สกิลนั่นหรอก” กันต์ได้เข้ามายังเขตพื้นที่ต่อสู้แล้ว
พวกปีศาจตัวอื่นๆ ที่เห็นเต่ายักษ์เริ่มสูดลมหายใจ จากนั้นพวกมันก็รีบเผ่นกลับเข้าไปในประตูมิติทันที เพราะลมปากนั่นสามารถฆ่าพวกเดียวกันเองได้ด้วย
ด้วยเหตุนั้นเองจึงทำให้รถมอเตอร์ไซค์ของกันต์สามารถขับเข้ามาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องคอยหลบพวกปีศาจที่เดินออกมาเป็นกองทัพ
“รีบหนีไปเร็วเจ้าหนูที่นี่อันตราย!” เสียงตะโกนของตำรวจคนหนึ่งดังขึ้น
“ขอโทษครับ ผมเหลือเวลาไม่มากแล้วผมจะอธิบายทีหลัง”
กันต์ขับรถฝ่าด่านตำรวจไปทันที แม้แต่พวกตำรวจก็ไม่อาจหยุดเขาได้ เพราะพวกเขาคาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าเสี่ยงตายขนาดนี้
“เรียก เฮลิคอปเตอร์หมายเลข 873 มีเด็กวัยรุ่นขับยานพาหนะ 2 ล้อ เข้าไปในบริเวณปะทะ รีบพาตัวเขาออกมาโดยด่วน” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นเปิดวิทยุสื่อสาร
“873 ทราบแล้ว เราจะพาตัวเขาออกมาจากบริเวณปะทะเดี๋ยวนี้”
เฮลิคอปเตอร์ที่รับคำสั่งมานั้นเริ่มออกทำงานในทันที
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ภารกิจบังคับไม่รีบทำก็ตาย แต่มีคนเห็นหน้าพระเอกแล้วทำไงดี ?
เปิดตัวยังกับมาสไรเดอร์ ไปเลยพาหนะคู่ใจของช๊านนน