ตอนที่ 256 : ภาค 3-บท 56 คุ้มกันศิลาดาวตก
ในเสี้ยววินาทีที่เทพปีศาจเครเทนกำลังถูกโซ่เส้นสีขาวบริสุทธิ์นับกว่าหลายสิบเส้นแทงทะลุร่างจนพรุน และถูกตรึงไว้จนไม่สามารถขยับกายไปไหนได้นั่นเอง
กันต์ที่อยู่ในสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ตนจะสามารถทำได้ กำลังรวบรวมพลังทั้งหมดไปที่ปลายคมดาบระดับเทพเจ้าในกำมือ
ปีกทั้งหมดและความสามารถจากสายเลือดที่มีกำลังไหลเวียนไปยังตำแหน่ง ๆ เดียว กันต์มองเห็นการเคลื่อนไหวของมานาได้ด้วยสายตาคู่นั้นของเขาเอง
ไกอาที่ปกติจะไม่แสดงสีหน้าและอารมณ์ใด ๆ ออกมาคล้ายกับริสา แต่ในตอนนี้เธอคนนั้นกำลังฝืนตัวเองอยู่อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการยืนและฝ่ามือที่สั่นเทา
ชายหนุ่มยังคงไม่ลืมว่าดาบที่อยู่ในมือของเทพปีศาจเครเทนนั้นเป็นดาบที่สามารถสะท้อนพลังพันธนาการของไกอาออกไปได้ ซึ่งในตอนนี้ดาบนั่นก็กำลังแสดงความสามารถออกมาอยู่ แต่ด้วยความที่ไกอาพยายามฝืนร่างกายของตนเองจึงสามารถรั้งเครเทนเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
ดูเหมือนว่าเธอจะใช้ความพยายามหยุดเครเทนมากกว่าตอนที่พยายามจะหยุดเรล์มเสียอีก
“ผู้ถูกเลือก เจ้าก็รู้ตัวดีมิใช่หรือว่าด้วยพลังเพียงเท่านั้นไม่แต่จะสามารถตัดแขนข้าทิ้งได้เลยด้วยซ้ำ ความพยายามของพวกเจ้ามันไร้ประโยชน์”
เครเทนที่สมควรตายจากการโดนโซ่แทงทะลุทั่วทั้งร่างยังคงกล่าวถากถางเขาได้ตามปกติ ราวกับตัวของมันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือทรมานเลยสักนิด
“แต่ถ้าเป็นพลังของดวงตะวันที่ผสมกับเลือดของครึ่งปีศาจมันก็คนล่ะเรื่อง….อาทิตย์อัสดง !”ชายหนุ่มตะโกนสวนกลับไปก่อนที่จะดิ่งตัวลงจากกลางอากาศและหวดดาบลงไปอย่างเต็มกำลัง
ตัวกันต์เองก็รู้ดีว่า ต่อให้เปิดใช้งานทุกทักษะไปอย่างมากมีพลังถึงขั้นเทพต้นกำเนิดระดับ 40 เพียงเท่านั้น แต่เจ้าเทพปีศาจนี่กลับมีพลังเหนือกว่าเขาไปถึงหลายสิบระดับเทพต้นกำเนิดเลยทีเดียว มันมีพลังมากกว่าจนกันต์ไม่สามารถระบุระดับที่ชัดเจนของมันออกมาได้
แต่ถ้าหากเปิดใช้ทั้ง 2 ทักษะนั่นด้วยกันล่ะก็โอกาสเป็นไปได้ที่จะสังหารมันก็มีอยู่
ดาบเล่มสีขาวในกำมือของชายหนุ่มเริ่มมีสีที่มัวหมองลงพร้อมกับหยดเลือดที่เข้ามาห้อมล้อมดาบเอาไว้อย่างหนาแน่น
และในเสี้ยววินาทีที่ดาบได้สัมผัสร่างกายของเครเทนนั่นเอง แสงอันเจิดจรัสที่เป็นแสงเหมือนกับแสงจากดวงอาทิตย์ก็ได้ระเบิดออกมาและเปล่งแสงออกมาทั่วทั้งบริเวณ
กันต์ค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้นห้องโถงที่ร้อนระอุด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
ปีกทั้งหมดของเขาได้หดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับออร่าต่าง ๆ ที่จางหายไปตาม ๆ กัน ตอนนี้ต่อให้ดื่มโพชั่นฟื้นฟูเข้าไปมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะร่างกายของเขามันมาถึงขีดจำกัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กันต์ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนจากพื้นและเงยหน้ามองไปที่ผลงานของตนเองพร้อมกับความรู้สึกที่คาดหวังอย่างเต็มเปี่ยม
ร่างกายของเครเทนที่โดนระเบิดจากทักษะอาทิตย์อัสดงไปเต็มๆ ก็ถึงกับไหม้เกรียมจนดำ แต่โซ่สีขาวที่แทงทะลุร่างของมันไปก็ยังคงขาวอยู่อย่างนั้น ราวกับว่ามันเป็นโซ่อมตะที่ไม่มีวันถูกทำลาย
“นายมาถึงขีดจำกัดแล้วกันต์ ถอยออกมาก่อน”
กานต์เข้ามาพยุงร่างของชายหนุ่มไว้จากด้านหลังและดึงตัวเขาให้ถอยห่างออกมาจากบริเวณที่ปะทะ
แต่ในขณะเดียวกันนั่นเองร่างของเทพที่มอดไหม้เริ่มขยับคอไปมาอย่างพิลึก ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงคำพูดประโยคหนึ่ง
“ใช้เลือดของครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจเพื่อทำลายผิวหนังที่แข็งแกร่งของข้า จากนั้นค่อยบีบอัดระเบิดแสงตะวันให้เล็กลงเพื่อไม่ให้ตัวเองได้รับลูกหลงและยัดมันเข้าไปไว้ภายใต้ผิวหนังของข้า สมแล้วที่เจ้าเป็นผู้ถูกเลือก แต่นั่นมันยังน้อยเกินไป”
เทพปีศาจเครเทนเริ่มใช้มือทั้ง 2 ข้างของมันฝืนและดึงโซ่ของไกอาเพื่อให้มันยาวพอที่จะเคลื่อนไหวมาจับที่ใบหน้าของตัวเองได้
เครเทนค่อย ๆ บิดหน้าตัวเองให้เข้ารูปและอ้าปากออกมา
และในเสี้ยววินาทีถัดมานั่นเองหนามสีม่วงเข้มก็ได้เจาะเข้าไปในเนื้อหนังที่ดำสนิทของเครเทนและแพร่กระจายพิษบางอย่างไปทั่วทั้งร่าง
“ถ้ายังไม่ตายฉันจะสงเคราะห์ให้เอง พิษจากเผ่าซัคคิวบัสมันไม่ใช่พิษธรรมดาหรอกนะ ต่อให้เป็นเทพที่ร่างกายอ่อนแอก็ตามที” กานต์ได้พูดขึ้นหลังจากที่เธอได้ใช้มือขวาร่ายเวทบางอย่างออกไป
เครเทนที่โดนพิษของกานต์เข้าไปก็ถึงกับหัวเราะเสียงดังลั่นออกมา
“ผู้ถูกเลือกเอ๋ย เจ้าคิดผิดแล้วที่ไม่ทำลายดาบเล่มนี้แต่กลับคิดที่จะมาสังหารข้าแทน ข้าละผิดหวังจริง ๆ”
เมื่อสิ้นเสียงของเทพปีศาจดวงตาของมันก็ส่องประกายแสงสีแดงเลือดหมูออกมาก่อนที่จะปลดปล่อยคลื่นพลังออกมาจากทั่วทั้งร่าง
ผิวหนังที่ไหม้เกรียมได้กระเด็นกระจายออกไปทั่วทั้งบริเวณ พร้อมกับก้อนพิษสีม่วงที่โดนเด้งออกมาพร้อมกัน แต่ทว่าโซ่ของไกอานั้นยังคงเจาะร่างมันไว้อยู่
“อ่า ผิวหนังสีขาวบริสุทธิ์ของข้า ช่างเป็นโชคร้ายของพวกเจ้าที่ข้าสามารถลอกคราบของตัวเองออกได้”
เนื้อหนังของเครเทนในตอนนี้ได้เปล่งออร่าสีขาวออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ แท้จริงแล้วสิ่งที่พวกเขาพยายามโจมตีไปในตอนต้นมันก็เป็นแค่หนังที่ถูกลอกคราบออกเท่านั้นเอง
เทพปีศาจหัวเราะได้อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยกดาบในกำมือของตนขึ้นมาเชยชม แต่ทว่าดาบเล่มสีฟ้าเรืองแสงในกำมือของมันนั้นกลับมีรอยแตกที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนที่กลางใบดาบ
จากนั้นไม่นานนักมันก็แตกหักออกมาเป็นสองส่วนพร้อมกับออร่าเรืองแสงที่มัวหมองหายไปในพริบตา
“หมาย…ความว่ายังไงกัน” เครเทนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อย
“หมายความว่าแกพลาดแล้วไงล่ะเทพปีศาจ ฉันเล็งดาบนั่นแต่แรกแล้ว แกเองก็พยายามส่งมานาเข้าไปสร้างเป็นเกราะคุ้มกันตัวดาบอยู่เพราะกลัวว่าฉันจะเล็งดาบ แต่ว่าแค่นั้นมันหยุดระเบิดอาทิตย์อัสดงไม่ได้หรอก” กันต์ตอบกลับและผละตัวออกจากอ้อมแขนของกานต์เพราะเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองแล้ว
ทันใดนั้นเองโซ่สีขาวบริสุทธิ์ของไกอาก็ได้พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการเสริมหนามเข้าไปตามแต่ละห่วงโซ่อย่างน่าหวาดกลัว
เทพปีศาจเครเทนที่ถูกแทงเข้าแบบไม่ยั้งก็ถึงกับกระอักเลือดสีดำออกมา และบริเวณรอบ ๆ ตัวมันนั้นก็มีแอ่งเลือดและคราบเลือดกระจัดกระจายเต็มไปหมด
เนื่องจากดาบเล่มที่สามารถขัดขวางและป้องกันพลังของไกอาได้ถูกทำลายลงไป เธอจึงสามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่
เรล์มที่พยายามฝืนตัวเองและต้านทานการเข้าครอบงำของอเมมอนอยู่นั้นก็เริ่มหลับตาลงและนั่งพิงเสาหินด้วยความเหนื่อยล้า เพราะในที่สุดเขาก็หมดห่วงเรื่องตรงนี้เสียที จะได้ไปใช้พลังงานกับการต้านทานอัญมณีแห่งความตายที่จะเข้ามาครองร่างอย่างสุดความสามารถ
ร่างของเทพปีศาจเครเทนที่บาดเจ็บเจียนตายก็ล้มลงไปกองกับพื้น และใช้กำมือของตนเข้าบดขยี้ดาบเล่มนั้นที่ชิงมาจากเรล์มจนแหลกเป็นชิ้น ๆ ด้วยความโกรธแค้น
“บนโลกใบนี้สิ่งที่ผิดไม่ใช่พวกข้าแต่เป็นเทพสูงสุด มันทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง และพวกเจ้าก็ยังเต้นอยู่บนฝ่ามือของมันอยู่อีก !...ชีวิตข้าตั้งแต่ต้นจนมาถึงตอนนี้ก็เต้นบนฝ่ามือของมันมาตลอดเช่นกัน แต่…วันนี้มันจะไม่ใช่อีกแล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงของเครเทนจู่ ๆ เศษเสี้ยวของใบดาบที่แตกเป็นชิ้น ๆ เพราะพลังของกันต์และเครเทนก็ล่องลอยไปทางศิลาดาวตกด้วยความเร็วสูง
ไกอาที่มีสายตารวดเร็วจึงคิดเข้าขัดขวางโดยทันที ถึงแม้จริงอยู่ที่ตัวดาบจะสูญเสียพลังไปแล้วแต่ทว่าเครเทนอาจจะมีไพ่ตายบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้ จึงต้องปลอดภัยไว้ก่อน
เธอจึงเร่งร่ายเวทและส่งโซ่ใต้ควบคุมของเธอเข้าไปดึงเศษชิ้นส่วนดาบเหล่านั้นให้กลับมา พร้อมกับใช้มืออีกข้างหนึ่งส่งโซ่เข้าไปเจาะทะลวงร่างของเครเทนให้พรุนยิ่งไปกว่าเดิม แต่ไม่ว่าจะแทงมันไปสักเท่าไหร่เครเทนก็ไม่มีท่าทีว่าจะตายลงไปเลย
กันต์ที่เห็นดังนั้นเขาก็มองไกอาเปลี่ยนไปจากเดิมในทันที เพราะบางทีเธอคนนี้อาจจะมีอำนาจและพลังเป็นรองเพียงแค่เทพสูงสุดก็ได้ ขนาดเทพปีศาจก็ยังไม่แม้แต่จะสามารถขัดขืนพลังอำนาจของเธอได้เลย
แต่ทว่าในระหว่างที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปภายใต้การควบคุมของไกอานั่นเอง สายตาที่ได้รับความสามารถพิเศษจากจิตสายเลือดมนุษย์ระดับสูงก็ได้บอกอะไรบางอย่างให้แก่เขา
“ไกอา เศษดาบพวกนั้นมันของปลอม ของจริงถูกซ่อนอยู่ที่ช่องว่างมิติ !” กันต์ตะโกนขึ้นอย่างสุดเสียงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หญิงสาวผู้เป็นเหมือนระบบเมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น
แท้จริงแล้วเครเทนได้ส่งเศษดาบของจริงไปยังช่องว่างมิติเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของไกอาและคนอื่น ๆ พร้อมกับสร้างเศษดาบของปลอมที่เสมือนจริงแทบทุกประการขึ้นมาเพื่อหลอกสายตาทุกคน
แต่ทว่ากันต์นั้นกลับสามารถมันผัสและรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่ผิดปกติจากความว่างเปล่า เขาจึงอนุมานขึ้นมาว่าคลื่นพลังเหล่านั้นน่าจะมาจากการแทรกแซงช่องว่างมิติ
และผู้เดียวที่จะสามารถใช้เวทมิติได้ในที่นี้ก็มีเพียงแค่ไกอาเพียงคนเดียวเท่านั้น
ในขณะเดียวกันนั่นเองมิติบริเวณใกล้ ๆ กับศิลาดาวตกก็เริ่มบิดเบี้ยวอย่างผิดปกติ ก่อนที่ช่องว่างมิติจะถูกเปิดออกมาพร้อมกับส่งเศษใบดาบเหล่านั้นเข้าไปตามรอยแตกของศิลาดาวตก
แต่กว่าไกอาจะรู้สึกตัวมันก็สายเกินไปเสียแล้ว อันที่จริงเธอนั้นก็จะตรวจสอบทุกช่องว่างมิติที่มีอยู่นับไม่ถ้วนอยู่เสมอเพื่อความปลอดอภัยจากการซุ่มโจมตีของนักเวทมิติ
แต่เครเทนนั้นกลับมีเวทสร้างของลอกเลียนแบบที่น่าหวาดกลัวและมันก็สามารถดึงความสนใจของไกอาไปได้จนหมดสิ้น
เศษใบดาบที่คาดว่าน่าจะหมดพลังไปแล้วนั้นกลับเรืองแสงขึ้นมาอย่างน่าประหลาดเมื่อมันได้เข้าใกล้กับศิลาดาวตก เพราะดาบเล่มนั้นที่เรล์มได้มาจากลัทธิบูชาปีศาจมันก็ถูกสร้างขึ้นมาจากวัตถุดิบเดียวกับศิลาดาวตกนั่นเอง
พวกมันทั้ง 2 มีแหล่งพลังงานเดียวกันและสามารถแบ่งปันแหล่งพลังงานร่วมกันได้ จึงทำให้เศษดาบเหล่านั้นกลับมาเรืองแสงได้อีกครั้ง
ทันใดนั้นเองศิลาดาวตกก็เริ่มมีรอยร้าวที่ปรากฏให้เห็นมากกว่าเดิม ก่อนที่มันจะแตกสลายออกมาคล้าบกับผลึกแก้ว
เสียงของเศษผลึกที่ตกและกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณได้ทำให้ทุกคนหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ก่อนที่คลื่นพลังสีฟ้าเข้มจะระเบิดออกมาจากตัวผลึกและกระจายพลังไปทั่วทั้งผืนพิภพ
ศิลาดาวตกได้ถูกทำลายลงแล้ว
ในขณะเดียวกันนั่นเองที่ศิลาดาวตกก็ได้มีเสียงของใครบางคนดังออกมาอย่างน่าประหลาดใจ “เจ้าสิ่งมีชีวิตผู้โง่เขลา เหตุใดพวกเจ้าถึงยังคิดต่อต้านโชคชะตาอยู่อีก อันตัวข้านั้นสร้างศิลาดาวตกขึ้นมาไม่ใช่เพื่อต้านทานการแทรกแซงของสมาคมเงามืดแห่งโลกอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อต้านทานการโจมตีของผู้บุกรุกต่างมิติด้วยเช่นกัน”
“ดังนั้นแล้วพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องได้รับผลจากการกระทำที่ได้ก่อขึ้น จงพึงระลึกคำกล่าวของข้าไว้ให้ดี”
เมื่อสิ้นเสียงของชายปริศนาที่ดังออกมาจากศิลาดาวตก ไกอาที่กำลังล้วงมือเข้าไปในช่องว่างมิติก็รีบชักมือทั้ง 2 ของเธอกลับมาและกุมไปที่ศีรษะด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด
เครเทนที่บาดเจ็บเจียนตายนั้นก็รีบเฟ้นหาช่องทางสำหรับหลบหนีโดยทันที เพราะโซ่และพลังทุกอย่างของไกอาที่รั้งตัวมันไว้ได้แตกสลายไปหมดแล้ว
กันต์ไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าไปหาไกอาโดยการวิ่งเหยียบร่างเครเทนที่นอนอยู่กับพื้นและเข้าไปช่วยพยุงเธอไว้โดยทันที
ไกอายังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาและเลื่อนมือลงมาปิดที่หูด้วยความทุกข์ทรมาน ก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้นมาและจ้องตรงไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม
ภายในนัยน์ตาของเธอนั้นได้ปรากฏให้เห็นตัวเลขและอักษรรูนโบราณมากมายที่กำลังไหลผ่านม่านตาของเธอด้วยความเร็วสูง ก่อนที่มิติโดยรอบห้องโถงแห่งนี้จะเกิดการสั่นสะเทือนในระดับรุนแรง
“โลกใบนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้อีกแล้ว” ไกอาได้พูดขึ้นพร้อมกับประตูมิติสีขาวบริสุทธิ์มากมายที่ได้เปิดออกจากทุกทิศทุกทาง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

739 ความคิดเห็น
-
#731 Chaos I (จากตอนที่ 256)วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 / 13:55พูดสั้นๆคือเละ...#7311
-
#731-1 SuruMaster(จากตอนที่ 256)8 ธันวาคม 2563 / 17:54แน่นอนครับ555#731-1
-