ตอนที่ 22 : ภาค 1-บท 22 โรงพยาบาลที่วุ่นวาย
“ใจเย็นก่อน” ผมรีบหยุดการทะเลาะวิวาทด้วยการยืนขวางหน้า
“หลบไป ข้าจะฆ่ามัน เมื่อกี้นังนั่นจะเอาเข็มมาแทงท่านนักบุญแล้ว”
องครักษ์ทั้งหลายของท่านนักบุญต่างประสานเป็นเสียงเดียวกัน
ผมรีบโบกมือไล่ให้พยาบาลหนีไปก่อน แล้วค่อยพาพวกองค์รักษ์กลับเข้าไปในห้องพักคนป่วย
คนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั่นก็คือท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์ ลูกศรเพลิงทมิฬยังคงปักอยู่กลางอกของเธอ
“อาการบาดเจ็บแบบนี้ เรากำลังหาวิธีรักษาอาจจะใช้เวลานานเพราะมันอยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้ของเรา” เล็กพูดพร้อมกับกอดอก
“เจ้าพูดภาษาแลงเกลได้ ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้าไปเรียนมาจากไหน” ผมพูดด้วยภาษาแลงเกล
“ภาษาแลงเกล เป็นภาษาที่มีในโลกนี้ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เป็นสิ่งที่พวกเราสืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น และในที่สุดพวกเราก็ได้ใช้มัน”
“คงได้เวลาที่ข้าต้องไปแล้ว ลาก่อน” ผมกล่าวลาและเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
ทิ้งให้เหล่าสาว ๆ อยู่กันในห้อง พวกเธอจำต้องมีเรื่องที่จะคุยกันเป็นพิเศษ
“จะไปแล้วเหรอครับ อย่างน้อยก็น่าจะบอกชื่อกันสักหน่อย” กฤติธีเอ่ยด้วยน้ำเสียงหล่อ ๆ
เขาปรากฏตัวพร้อมกับไม้ค้ำยัน เมื่อกี้ธุระที่ว่าของเขาคงเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บ
“เครก โคนอส” ผมพูดชื่อเต็มตัวเองออกไป
“เครกสินะครับ ผมจะจำไว้ ส่วนทางออกในบริเวณใกล้ ๆ นี้ก็มีประตูมิติอยู่นะครับ” กฤติธีเอ่ยพลางส่งยิ้ม
“หลังจากนี้ก็เตรียมตัวรับแขกไว้ด้วย” ผมพูดและเดินจากไป
“ถ้าหมายถึงอัศวินดำ เขาคงไม่กล้าข้ามมาโลกฝั่งนี้หรอกครับ เพราะเขาก็รู้ตัวดีอยู่ว่าถ้ามาเราก็อาจจะวางกับดักไว้รอ”
[ภารกิจที่ยังไม่สำเร็จ] [ภารกิจเสริม-ช่วยนักบุญศักดิ์สิทธิ์ให้ทำภารกิจของตนสำเร็จลุล่วง]
เหนื่อยเป็นบ้านี่เป็นภารกิจที่เรียกได้ว่ายาวนานที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมาแล้ว หวังว่าระบบมันจะให้อะไรที่คุ้มกลับมา
ภารกิจนี้เดี๋ยวรอให้พวกเจรจากันสักพักก็น่าจะได้เอง
[พรจากเทพเรติอุสได้หมดลงแล้ว ค่าสถานะกลับสู่สภาวะปกติ]
ทั้งหมดนั่นคือ 20 นาที มันเป็น 20 นาทีที่ยาวนานที่สุดที่ผมเคยรู้จัก
ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเล่น ๆ ผมก็เดินมาถึงประตูมิติอีกบานแล้ว ประตูมิติทั้ง 2 อยู่ห่างกันเพียงไม่กี่กิโลเมตร
เมื่อผมก้าวเท้าเข้าไปในประตูมิติเพียงไม่นาน ระบบก็ได้แจ้งเตือนเข้ามา
[ภารกิจเสริมสำเร็จแล้ว ผู้เล่นได้รับเงินรางวัล 200 ทอง]
[เงินรางวัลทั้งหมดที่ผู้เล่นมีคือ 700 ทอง]
[คุณได้รับอนุญาตให้กลับไปยังหน้าหลักแล้ว จะกลับเลยหรือไม่]
“กลับเข้าสู่หน้าหลัก” ร่างของเครกสลายหายเป็นแสงสีฟ้า พร้อมกับเท้าอีกข้างที่ก้าวเข้าไปในประตูมิติ
ที่โลกอีกฟากของประตูมิติ
“ทำไมเจ้าถึงปล่อยพวกมันไป” เสียงของปีศาจตนหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มหมอกสีดำ
“ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสี่ยงไปมากกว่านี้ ภารกิจที่ได้รับมาก็ลุล่วงแล้ว” ดันเต้ในร่างของอัศวินดำเอ่ยตอบ
กลุ่มหมอกสีดำเริ่มวนเวียนรอบ ๆ กายของดันเต้และเอ่ยปากชมเชย
“สมแล้วกลายร่างเป็นอัศวินดำ ท่านจอมมารจักต้องพอใจมากแน่” กลุ่มหมอกเริ่มหัวเราะออกมา และลอยจากไป
ปีศาจและมอนสเตอร์นับพัน และกลุ่มสาวกลัทธิบูชาปีศาจ ตัดสินใจล่าถอยตามกลุ่มหมอกสีดำกลับไป
“การล้างบางมนุษย์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” ดันเต้คลายร่างอัศวินดำออกและขึ้นควบม้าของตนกลับไปยังอาณาจักร
ที่โลกเดิม
[ยินดีต้อนรับสู่หน้าหลัก]
ผมเปิดหนังสือออกเพื่อดูเลเวลของตัวละคร
[ตัวละครเครก เลเวล 45]
[ตัวละครเรล์ม เลเวล 45]
[ตัวละครเวรัค เลเวล 45]
ดูเหมือนเวรัคจะเลเวลเท่ากับตัวละครอื่น ๆ ผมจะได้ไม่ต้องลำบากไปหาเควสให้เวรัคอีก
ผมคิดจะเก็บเงิน 700ทองไว้เพื่อใช้อัพเลเวลทักษะตัวละคร ดังนั้นในครั้งนี้เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว
“ออกจากระบบ”
กลับมาที่โลกจริง ภายในโรงพยาบาล
ผมยังคงนอนอยู่ที่เดิม แต่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ผมมองไปที่นาฬิกาแล้วเริ่มคำนวณเวลา
ในโลกอีกฟากของประตูมิติที่นั่น 4 วันจะเท่ากับ 1 วันในโลกจริง ถ้าอยู่ที่โลกอีกฝั่ง 1 วันที่โลกนี้จะผ่านไปแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
[จิตใต้สำนึกของเครกกล่าวขอบคุณผู้เล่นจากใจจริง คุณได้รับการสนับสนุนคือซ่อมโทรศัพท์ฟรี]
[จิตใต้สำนึกของเรล์มชื่นชมการกระทำของคุณเช่นกัน]
ผมก็รู้สึกดีใจอยู่หรอก แต่ที่น่าแปลกคือเวรัคเธอเงียบมาตลอด แทบจะไม่มีบทเลย แต่นั่นก็ไม่สำคัญ
“มันซ่อมให้เหมือนใหม่เลย” ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาและพิจารณาดู
มันมีแอปพลิเคชั่นใหม่เพิ่มเข้ามา มันเป็นไอคอนรูปประตูมิติสีดำ
เมื่อผมลองกดเข้าไปดู มันให้ความรู้สึกเหมือนเกม Farness World แบบย่อส่วน แถบบนมีรูปทองอยู่มันจะบอกถึงจำนวนทองที่ผมมี
ส่วนตรงกลางเป็นชื่อของตัวละครพร้อมกับเลเวลและจำนวนเงินที่ใช้ในการอัพทักษะต่าง ๆ
“ดูดีใช้ได้” ถ้ามีแอพนี้ชีวิตผมจะง่ายขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีร้านค้าผมไม่สามารถซื้อของจากแอพนี้ได้
[แจ้งเตือนฉุกเฉิน แจ้งเตือนฉุกเฉิน แจ้งเตือนฉุกเฉิน]
ประโยคนี้ดังขึ้นมาพร้อมกันทั้งเสียงที่เข้ามาในหัวผมและโทรศัพท์
[จิตใต้สำนึกที่หลับใหลของเวลโดรได้ตื่นขึ้นอย่างกระทันหัน]
[จิตใต้สำนึกของเวลโดรเริ่มอาละวาด]
[ภารกิจบังคับ-ปลดล็อคตัวละครเวลโดร ระยะเวลาคงเหลือ 3 เดือน]
“พี่แกไปโกรธใครที่ไหนมารึไง เลเวลอะไรถึงปลดล็อคเวลโดรได้” ผมรีบถามระบบ
[ปลดล็อคตัวละครเวลโดรผู้เล่นจำเป็นต้องมีเลเวล ???]
ถ้าผมจำไม่ผิดเวลโดรเป็นตัวละครที่ปลดล็อคเป็นพวกหลัง ๆ และต้องใช้เลเวลผู้เล่นที่สูงมาก
“หลังจากนี้คงทำตัวเอ้อระเหยแบบนี้ไม่ได้แล้ว” ผมต้องการหาวิธีเพิ่มเลเวลให้เร็วที่สุด
ในขณะเดียวกันนั่นเองเสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น “กันต์ครูขอเข้าไปข้างในได้ไหม”
สงสัยผมต้องต้อนรับแขกคนนี้ก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องของเวลโดรทีหลัง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

741 ความคิดเห็น
-
#71 Fikusa (จากตอนที่ 22)วันที่ 29 ธันวาคม 2562 / 22:33หวังว่าจิตสำนึกแต่ละตัวละครจะไม่ตีหรือขัดขวางกันเองนะ ไม่งั้นมีฮาแน่ ฮ่าๆๆๆๆ#711
-
#71-1 SuruMaster(จากตอนที่ 22)29 ธันวาคม 2562 / 23:18คงหายากแหละครับ ฉากแบบนั้น 555#71-1
-