ตอนที่ 208 : ภาค 3-บท 8 คันศรแห่งธรรมชาติ
[ยินดีด้วยคุณได้รับ คันศรแห่งธรรมชาติ]
[คุณสมบัติพิเศษ - เมื่อผู้ใช้เป็นเผ่าเอลฟ์จะเพิ่มเลเวลให้ชั่วคราวทันที 20 เลเวล แต่หากไม่ใช่จะเพิ่มเพียงแค่ 10 เลเวล]
[ปลดล็อคทักษะประจำอาวุธระดับเทพเจ้า - ทักษะร่างเงาแห่งสายลมและกระแสมานา]
อาร์เซนในชุดคลุมสีเขียวเข้มจนเกือบดำกำลังกุมคันศรระดับเทพเจ้าไว้ในมือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เส้นเลือดและดวงตาของเขากำลังเปล่งแสงสีเขียวเข้มออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
พลังแห่งธรรมชาติได้ยอมรับและมอบพลังให้แก่ชายคนนี้โดยไม่ต้องสงสัย
"สิ่งตอบแทนสำหรับงานขับไล่กองทัพนักรบเงาคือคันศรนี้น่ะลุง" อาร์เซนฉีกยิ้มบาง ๆ ก่อนที่ร่างกายจะหายวับไปในชั่วพริบตา
เหตุผลที่อาร์เซนสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่งกว่าสายลมนั่นก็เป็นเพราะพลังที่เพิ่มขึ้นมาอย่างท่วมท้น
"เร็วเข้า...รีบตามไปช่วยท่านอาร์เซน อย่าให้โอกาสนี้หลุดมือไป" ผู้อาวุโสอายุนับพันปีตะโกนด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้าเกิดจะทน
ณ บริเวณหน้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
กันต์ในร่างของอาร์เซนกำลังเค้นสมองคิดหาวิธีรับมือคาอัสโดยที่มีการสูญเสียให้น้อยที่สุดอยู่
ถ้าคาอัสตายไปก็เท่ากับว่าเผ่าปีศาจขาดผู้นำทัพระดับสูงไปอีกคนหนึ่ง เผ่ามนุษย์ก็จะได้เปรียบขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว
แต่ถ้าไม่กำจัดคาอัสลงมันยังมีวิธีไหนที่พอจะทำให้เขาถอยทัพได้บ้าง ไม่มีเลยเหรอ จะให้ไล่ฆ่านักรบเงาทีละตนก็คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากให้กองทัพเงาถอยก็มีแต่ต้องจัดการคาอัสเท่านั้น
ในระหว่างที่กันต์กำลังคิดอยู่นั้น ร่างกายที่กำลังล่องลอยอยู่บนฟ้าก็ถูกระดมยิงด้วยลูกศรมากมายนับไม่ถ้วน
เหล่านักรบเงาต่างพากันระดมยิงหน้าไม้เข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
อาร์เซนที่กำลังวิ่งอยู่บนอากาศโดยใช้สายลมเปรียบเสมือนทางเดิน ไม่อาจถูกโจมตีโดยลูกธนูได้เพราะพวกมันล้วนแต่ถูกสายลมเบี่ยงเบนทิศทางโจมตีออกไปจนหมด
แต่ทันใดนั้นเองคาอัสก็กระโดดจากพื้นและกวาดดาบเหล็กสนิมเขรอะเข้าฟาดฟันใส่กลางอากาศ
ปีศาจโครงกระดูกยักษ์ผู้มีเลเวลกว่า 97 พร้อมกับทักษะการใช้ดาบที่รุนแรงและบ้าคลั่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้
อาร์เซนตีหลังกากลับหลังเพื่อหลบการโจมตีทั้งหมดของคาอัสก่อนที่จะง้างสายคันศรและยิงลูกธนูมานาออกไป
ลูกศรมานาของเขาเจาะเข้าเต็มเบ้าตาของคาอัส แต่นั่นก็ไม่เป็นผลเพราะการโจมตีของอาร์เซนยังเบาเกินไป
ตอนนี้อาร์เซนมีเลเวลอยู่ที่ 70 พร้อมกับธนูระดับเทพเจ้าที่เพิ่มเลเวลให้อีก 20 เลเวล จึงกลายเป็น 90 พอดี
คาอัสลอยบนฟ้าได้ไม่นานนักเพราะน้ำหนักร่างกายที่มหาศาล เมื่อร่างของเขาหล่นลงกับพื้นรอยแตกแขนงบนพื้นดินก็ปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะยักษ์ตนนี้
อาร์เซนเริ่มเหงื่อตกด้วยความกังวลใจก่อนที่จะพึมพำเบา ๆ ออกมา "นายรักอาณาจักรนี้ไหม ? อาร์เซน"
[จิตใต้สำนึกของอาร์เซนต้องการให้คุณช่วยเหลืออาณาจักรเอลฟ์ให้พ้นจากภัยอันตราย - อันที่จริงแล้วอาร์เซนไม่ได้กล่าว แต่ภายใต้เบื้องลึกของจิตใจกำลังคิดเช่นนั้น]
"ต่อให้ร่างกายนี้ต้องบาดเจ็บเจียนตายหรือแขนขาหายไปข้างนายก็คงยินยอมสิน่ะ จิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ"
อาร์เซนเปิดใช้ทักษะเรียกร่างเงาของตนขึ้นมา 3 ร่างด้วยกัน ซึ่งร่างแต่ล่ะร่างก็ดูเหมือนกับร่างจริงแทบทุกประการ แต่ทว่าคันศรแห่งธรรมชาติในกำมือของร่างแยกเหล่านั้นก็เป็นเพียงของคัดลอก ที่ไม่มีความสามารถเท่าของจริง
ร่างแยกทั้ง 3 ของอาร์เซนเริ่มกระจายกำลังออกไปล้อมคาอัสไว้ทุกทิศทาง
ในขณะเดียวกันนักรบเงาตนอื่น ๆ ก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือคาอัสแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะพวกมันล้วนถูกขัดขวางโดยทหารระดับสูงของเผ่าเอลฟ์ที่เข้ามาช่วยเหลืออาร์เซน จากคำสั่งของท่านผู้อาวุโส
คาอัสเริ่มหันมองไปรอบ ๆ ตัวด้วยความสับสนก่อนที่จะคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น
ทันใดนั้นเองเสากระดูกสีขาวก็พุ่งทะลุขึ้นมาจากพื้นดิน และรัดขาเหล่าร่างเงาอาร์เซนทั้ง 3 ตนที่บืนอยู่บนพื้นเอาไว้อย่างรวดเร็ว
กันต์รู้ดีว่าบ่วงกระดูกที่กำลังรัดข้อเท้าอยู่นี้มันมีพิษ เพราะเรนดิสเองก็เคยโดนทักษะนี้เล่นงานมาจนเกือบจะตายแล้ว
ร่างเงาทั้ง 3 ที่ถูกพิษหนามกระดูกเข้าเล่นงานก็ถึงกับทรุดลงกับพื้นไปแทบจะทันที แต่นั่นก็อยู่ในการคำนวณของกันต์อยู่แล้ว
"ร่างเงาแห่งสายลมและกระแสมานา" กันต์เปิดใช้งานอีกทักษะหนึ่งอันเป็นทักษะพิเศษของคันศรแห่งธรรมชาติทันที
ทักษะร่างเงาแห่งสายลมและกระแสมานาคือทักษะที่จะเพิ่มค่าสถานะให้กับร่างเงาทุกตน และร่างเงาแต่ละตนก็จะได้รับความสามารถพิเศษคือระเบิดตัวเองได้
คาอัสที่เห็นว่าร่างเงาของอาร์เซนทรุดลงไปกับพื้นจึงยิ้มเยาะอยู่ในใจ จึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับลากดาบเหล็กไปตามพื้นดิน โดยไม่สนใจอาร์เซนตัวจริงที่กำลังลอยอยู่บนอากาศแม้แต่น้อย
นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าคาอัสสูญเสียสติปัญญาไปส่วนหนึ่งแล้วจริง ๆ เพราะมันกำลังคิดว่าร่างเงาเหล่านั้นคือตัวจริงทั้งหมด
คาอัสไม่รอช้ากวาดดาบเหล็กเข้าโจมตีร่างแยกของอาร์เซนในทันที
ในจังหวะก่อนที่ดาบจะเข้าถึงตัวนั่นเอง ร่างเงาของอาร์เซนก็ระเบิดออกมาพร้อมกับแสงสีเขียวฟ้าส่องประกายออกมา
ร่างแยกระเบิดตัวเองกลายเป็นเชือกมานาสีเขียวและเข้าพันธนาการร่างกายของคาอัส ให้ตรึงนิ่งไว้กับพื้น
ร่าเงาอีก 2 ร่างที่เหลือก็เช่นกัน พวกมันต่างพากันระเบิดตัวเองและเปลี่ยนเป็นเชือกมานาเข้ารัดกายคาอัส
ปีศาจโครงกระดูกยักษ์กำลังถูกเชือกเส้นสีเขียวพันธนาการไว้จากทุกทิศทาง
มันพยายามดิ้นไปมาด้วยความเดือดดาลแต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะเชือกที่เกิดจากทักษะของอาวุธระดับเทพเจ้านั้นไม่อาจดูถูกได้
ร่างจริงของอาร์เซนนั้นกำลังง้างคันศรจนสุดปลายสาย เขาค้างอยู่ท่านี้มานานเกือบนาทีแล้ว
สายลมบริเวณรอบกายของเขากำลังหมุนวนด้วยความรุนแรงระดับเดียวกับพายุ
สายลมที่รุนแรงเหล่านั้นกำลังเข้าเฉือดเฉีอนกายเนื้อของอาร์เซน และส่งความเจ็บปวดให้ได้รับอย่างต่อเนื่อง
"หลังจากที่รับลูกศรนี้เข้าไป จงรีบกลับไปยังบ้านเกิดของตัวเองเสีย คาอัส"
อาร์เซนกล่าวออกมาก่อนที่จะปล่อยสายคันศรในกำมือ
เสียงของสายลมที่แหวกผ่านม่านอากาศดังขึ้นจนคล้ายกับปรากฏการณ์โซนิคบูม ที่ความเร็วในการเคลื่อนที่นั้นมากกว่าความเร็วเสียง
สายลมเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าเสียงก็จริง หากแต่นี่เป็นสายลมของเทพเจ้าและยังเป็นสายลมที่มิอาจถูกหยุดยั้งได้
ในจังหวะเดียวกันกับที่ลูกศรพุ่งเข้าเจาะกะโหลกศีรษะของคาอัส เชือกมานาสีเขียวก็ระเบิดตัวเองพร้อมกับสร้างความเสียหายอันมหาศาลในเวลาเดียวกัน
ฝุ่นควันที่เกิดจากการระเบิดฟุ้งตลบไปทั่วบริเวณ
"ทำไม่ถึงไม่ส่งเสียง" อาร์เซนขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนที่จะรีบชักมีดสั้นขึ้นมาด้วยมืออีกข้างและตวัดโจมตีออกไปที่ด้านหลังของตน
ภาพตรงหน้าที่ปรากฏคือคาอัสในสภาพหัวกะโหลกขาดไปครึ่งซีกกำลังฟาดดาบใหญ่ลงมาจากกลางอากาศ
มันสามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับว่าร่างกายยังครบถ้วนสมบูรณ์ดี ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วมันก็ใกล้จะเข้าสู่ความตายอยู่เต็มที
คาอัสใช้จังหวะที่ฝุ่นตลบไปทั่วพุ่งตัวขึ้นมาบนท้องฟ้าและอ้อมโจมตีอาร์เซนจากด้านหลัง
ร่างกายที่บาดเจ็บเจียนตายในทุกวินาทีของคาอัสยังคงสู้ต่อไปจนกระดูกชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่
ดาบใหญ่ของคาอัสผสานกับแรงที่มากกว่าเมื่อเข้าปะทะกับมีดสั้นของอาร์เซนแล้ว จึงส่งผลให้เขาร่วงหล่นจากท้องฟ้ากระแทกเข้าพื้นดินทันที
"ข้าต้องฆ่าเจ้าเท่านั้นใช่ไหม คาอัส" อาร์เซนฉีกยิ้มบาง ๆ พร้อมกับกระอักเลือดออกมา
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับคนที่มีความสุขดีของอาร์เซนกำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษฝุ่นเศษดิน และเลือดของตนเอง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

739 ความคิดเห็น
-
#560 Chaos I (จากตอนที่ 208)วันที่ 24 พฤษภาคม 2563 / 21:32เวลโดร! เองตื่นมาช่วยเดี๋ยวนี้! ส่วนยัยจอมมารขี้เกียจ เป็นจอมมารก็ใช้พลังมาช่วยผั- คุณสามีซะบ้าง!#5603
-
#560-1 SuruMaster(จากตอนที่ 208)25 พฤษภาคม 2563 / 07:18555ไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกครับ#560-1
-
#560-3 SuruMaster(จากตอนที่ 208)25 พฤษภาคม 2563 / 08:13555 รีบนอนเลยครับ#560-3
-
#559 Fikusa (จากตอนที่ 208)วันที่ 24 พฤษภาคม 2563 / 19:34ถ้าเกิดว่าเทพมีสายเลือดจอมมาร ปีกก็จะเป็นสีม่วงเลยใช่รึเปล่า เผ่าพันธุ์อื่นๆก็จะมีอัตลักษณ์สีม่วงติดอยู่ด้วยใช่ไหม#5591
-
#559-1 SuruMaster(จากตอนที่ 208)24 พฤษภาคม 2563 / 19:52ถ้าเป็นพวกเทพมีสายเลือดจอมมารก็จะมีปีก 2คู่เลยครับ ถ้าใช้พลังสายเลือดจอมมารอยู่ ปีกสีม่วงก็โผล่ ถ้าใช้พลังเทพปีกเทพก็โผล่ เหมือนกับกรณีของกันต์แหละครับ แต่ถ้าเป็นสายเลือดครึ่งปีศาจปีกก็จะเป็นสีดำสีเดียวครับ เพราะเป็นกรณีพิเศษ#559-1
-