ตอนที่ 182 : ภาค 2-บท 82 ปะทะเทพแห่งความมืด(2)
ณ มิติลึกลับแห่งหนึ่ง
เครก โคนอส ชายผู้มีสายเลือดขุนศึกเทวะกำลังจ้องมองภาพฉายตรงหน้าด้วยความเคร่งเครียด พร้อมกับเรล์ม เวรัค อาร์เซนที่ยืนอยู่ไม่ไกล
"เครก เจ้าทำอะไรลงไป ?" เรล์มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ข้าแค่ขอให้เวรัคช่วยส่งคำพูดของข้าออกไปเท่านั้น" เครกตอบกลับในขณะที่สายตายังจ้องตรงไปยังภาพฉาย
ในเวลาปกตินั้นเหล่าตัวละครพวกนี้ไม่สามารถติดต่อกับกันต์โดยตรงได้ เพราะระบบมักจะปิดกั้นคำพูดของเขาและแสดงออกในรูปแบบประโยคที่ว่า จิตสำนึกต้องการนู้นนั่นนี้ ออกไป
แต่ในกรณีของเวลโดรนั้นคือความผิดพลาดของระบบ เวลโดรจึงสามารถพูดคุยกับกันต์ได้โดยตรง
เครกจึงขอให้เวรัคช่วยเจาะช่องว่างของระบบและทำให้ตนสามารถคุยกับกันต์โดยตรงได้ แต่มันก็ทำได้เพียงแค่ไม่นานเท่านั้น
ในชั่วพริบตาถัดมาเรล์มก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าของเครก และเอามือแตะไปบนไหล่พร้อมกับพูดขึ้น "ข้าถามว่าเจ้าทำอะไรลงไป"
น้ำเสียงที่เย็นชาและสายตาอันเฉียบคมของเรล์ม ทำให้เครกต้องถอนหายใจและผลักมือของเรล์มออกไป
"สายเลือดของเด็กนั่นและข้าคือสายเลือดที่มีต้นกำเนิดเดียวกัน มันเป็นสายเลือดของเทพตนหนึ่งที่ข้าเคยทำพันธสัญญาด้วย ตัวข้าที่มีเลือดของเทพอยู่มากกว่าครึ่งในร่างกายก็สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของเลเวลเพื่อไปสู่ระดับเทพต้นกำเนิดได้เช่นกัน"
"เฮ้ เฮ้ ผลข้างเคียงกับวิธีการละเครก ?" อาร์เซนที่กำลังนอนอยู่เอ่ยถามพลางเปลี่ยนท่านอนมาเป็นนอนหงาย
"ข้าแค่ทำให้กันต์คิดว่าข้าจะช่วยให้เขาก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้ แต่อันที่จริงแล้วข้าไม่ได้ทำอะไรเลย"
เวรัคที่ได้ยินดังนั้นก็กล่าวต่อ "เมื่อกันต์คิดว่าเครกกำลังช่วยก้าวข้ามขีดจำกัดให้ตัวเอง สายเลือดในร่างกายของเขาก็จะตอบรับต่อความปรารถนาและก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยตัวมันเอง"
โดยสรุปแล้วเครกก็เพียงแค่พูดกระตุ้นออกไปเท่านั้น มันก็เปรียบเสมือนกับ กันต์เป็นถ่านที่ถูกราดด้วยน้ำมัน ส่วนคำพูดของเครกก็เหมือนกับเปลวไฟดวงเล็ก ๆ ที่จุดลงไปบนกองถ่านนั้น
เมื่อปฎิกิริยาการเผาไหม้เริ่มขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมา แต่ถ้าหากถ่านเหล่านั้นถูกเผาจนไหม้กลายเป็นขี้เถ้าหมดล่ะจะเกิดอะไรขึ้น
นั่นคือการเปรียบเทียบง่าย ๆ ของคำถามที่ว่าทำไมอยู่ ๆ กันต์ถึงก้าวข้ามขีดจำกัดของเลเวล 100 แล้วไปสู่ระดับเทพต้นกำเนิดได้สำเร็จ
กลับไปที่กันต์ในนามแฝงเดสเพียร์
เทพลูซิเฟอร์ที่เห็นชายชุดคลุมตรงหน้าไม่สะทกสะท้ายกับเวทของตนเลยสักนิด จึงปล่อยเคียวสีดำทมิฬในมือออกไป พร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
เคียวสีดำเล่มนั้นลอยค้างอยู่กลางอากาศไม่ห่างจากกายของเทพแห่งความมืดมากนัก
ลิ่มคำสาปทมิฬหยุดการโจมตีลงและสลายหายไปกลายเป็นฝุ่นผงสีดำ
"วันนี้ข้าจะดับแสงสุริยัน" ลูซิเฟอร์กล่าวสั้น ๆ ก่อนที่จะชี้นิ้วขึ้นบนท้องฟ้า
ทันใดนั้นเองบริเวณเกาะครีอัสเอลทั้งเกาะก็ถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลังสีดำทมิฬ
บรรยากาศโดยรอบเริ่มมืดมนอย่างช้า ๆ แต่ยังโชคดีที่ยังพอมีแสงไฟจากซากของเครื่องบินจู่โจมและรถถังอยู่บ้าง
ในขณะเดียวกันนั่นเองร่างกายของเทพลูซิเฟอร์ก็เริ่มปรากฏให้เห็นออร่าสีดำทะมึนออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย
มือที่เคยมีรูปลักษณ์คล้ายกับมือของมนุษย์ได้เริ่มแปรสภาพเป็นเหมือนมือที่ชุ่มไปด้วยน้ำหมึก และลามขึ้นมาจนถึงต้นแขน
ปานสีดำเริ่มแสดงให้เห็นทั่วทั้งร่างกายของเทพลูซิเฟอร์
ทันใดนั้นเองเทพแห่งความมืดก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้งต่อหน้าเดสเพียร์ในระยะประชิด
มือของลูซิเฟอร์แปรสภาพกลายเป็นดาบเล่มใหญ่และแทงโจมตีออกไป
โชคดีที่กันต์สามารถยกดาบในมือรับได้ทัน อีกทั้งยังสามารถแทงมีดสั้นสวนกลับไปได้อีกด้วย
แต่ทว่าเมื่อมีดสั้นแทงเข้าไปที่กายเนื้อของเทพแล้ว มันกลับให้ความรู้สึกเหมือนโดนดูดเข้าไป ราวกับว่าชายหนุ่มกำลังแทงมีดใส่หลุมดำ
ในชั่วพริบตาถัดมามีดสั้นสีดำหยกในมือของเดสเพียร์ก็ถูกร่างกายของลูซิเฟอร์กลืนหายเข้าไปอย่างน่าตกใจ
เทพแห่งความมืดสังเกตเห็นช่องว่างของกันต์จึงเริ่มเปลี่ยนมืออีกข้างให้กลายเป็นหอกสีดำ และแทงโจมตีออกไป
เดสเพียร์ที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบถอยกลับไปตั้งหลักใหม่อีกครั้ง และจ้องมองร่างกายอันพิสดารของเทพตรงหน้า
มือทั้ง 2 ข้างของลูซิเฟอร์สามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธชนิดใดหรืออะไรก็ได้ อีกทั้งปานสีดำตามร่างกายยังมีความสามารถในการดูดกลืนมานาของศัตรู นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีดสั้นของชายหนุ่มถูกดูดหายไป
"อาวุธมานาคงตีไม่เข้า" เดสเพียร์เลือกที่จะสลายอาวุธในมือทิ้งและกำหมัดแน่น
ท่าทางการยืนเริ่มเปลี่ยนไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวที่เชี่ยวชาญ
ทันใดนั้นเองเดสเพียร์ก็พุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับออกหมัดตรงหมายจะซัดเข้าเบ้าหน้าของเทพลูซิเฟอร์
เทพแห่งความมืดที่เห็นดังนั้นก็ตวัดมือที่เป็นดาบออกไปเพื่อสร้างระยะห่าง แต่เดสเพียร์ก็สามารถก้มหลบได้อย่างไม่ยากเย็น
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปโดยที่ชายหนุ่มยังเน้นการใช้มือเปล่า ในขณะที่ลูซิเฟอร์กำลังเปลี่ยนมือให้กลายเป็นอาวุธหลากหลายชนิดตามสถานการณ์
ทั้งมนุษย์และปีศาจที่มองเข้ามาต่างรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เพราะมันได้กลายเป็นการต่อสู้ของเทพไปแล้ว
ทั้งการเคลื่อนไหวที่ไม่อาจตามได้ทัน ความเร็วและพละกำลังอันน่าหวาดหวั่น บรรยากาศที่ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้
กระแสมานาที่หนาแน่นในบริเวณสนามรบถึงกับทำให้ระบบครีอัสเอลที่ปกติสามารถใช้ได้ถึงแม้ว่าจะมีมานาเข้มข้นในบริเวณนั้นก็ถึงกับเกิดข้อผิดพลาดและดับไป
[คำเตือน - พรจากเทพเรติแุสและอัลเมเนียเหลือเวลาอีก 15 นาที]
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มเหงื่อตกขึ้นมาทันที เพราะพรนี้คือพรที่จะทำให้ตนมีความสามารถในการฟื้นฟูมานาที่รวดเร็วและเพียงพอต่อการใช้งาน
การเปิดทักษะหลาย ๆ ทักษะพร้อมกันเช่นนี้ ก็ต้องแลกมากับการสูญเสียมานาอันมากมายมหาศาล
ถ้าให้เทียบแล้วทักษะกู่ก้องคำรามของเครกที่ว่ากินมานาโคตรเยอะก็ดูเล็กน้อยขึ้นมาทันที เมื่อมาเทียบกับกันต์ที่เปิดหลายทักษะพร้อมกัน
เดสเพียร์กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าและจ้องมองลงมายังลูซิเฟอร์ที่ยืนอยู่บนพื้นดิน เพราะเขาต้องการทำอะไรบางอย่าง
แต่ทันใดนั้นเองลูซิเฟอร์ก็สลายหายกลายเป็นเศษฝุ่นสีดำและหายตัวไปจากสนามรบ
ในระหว่างที่เดสเพียร์กำลังมองหาคู่ต่อสู้นั่นเอง ร่างกายของเขาก็ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าด้วยความรวดเร็วและกระแทกเข้ากับพื้นดิน เพราะถูกลูซิเฟอร์ประเคนหมัดใส่หัวอย่างเต็มแรงจากด้านหลัง
"หยุดซ่อนกายในความมืดเช่นคนขี้ขลาดได้แล้วลูซิเฟอร์" เดสเพียร์ตะโกนดังลั่นก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
ในตอนนี้เทพแห่งความมืดกำลังใช้เวทเพื่อล่องหนในความมืด ซึ่งมันก็สามารถทำให้ลูซิเฟอร์สามารถซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันไม่มีทางเลยที่กันต์จะสามารถมองเห็นเขาได้
"ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะทนอยู่ในร่างนั้นได้สักกี่นาทีกัน 20 หรือ 10 นาที" เสียงของลูซิเฟอร์ดังขึ้นจากทุกทิศทาง
ในจังหวะนั้นเองเดสเพียร์ก็รวบรวมมานาให้กลายเป็นดาบสีดำหยกอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้มันกลับเป็นดาบสีดำที่เล่มใหญ่กว่าปกติ ซึ่งในระหว่างที่กำลังสร้างดาบมานาอยู่ เขาก็พึมพำอะไรบางอย่างออกมา
ทันใดนั้นเองเดสเพียร์ที่ยืนอยู่บนพื้นดินก็ได้หันไปข้างหลังและแทงดาบในมือออกไป
ร่างกายของลูซิเฟอร์ค่อย ๆ ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างช้า ๆ พร้อมกับหัวเราะออกมา
"เจ้าก็รู้ว่าอาวุธมานาไม่สามารถทำอะไรข้าได้ แต่ขอชื่นชมที่โจมตีใส่ข้าในระหว่างที่กำลังใช้เวทได้" เทพแห่งความมืดกล่าวและเปลี่ยนมือของตนเองให้กลายเป็นกรงเล็บ
กรงเล็บสีดำทมิฬเจาะตรงเข้าไปยังกลางอกของชายหนุ่มพร้อมกับเลือดที่ไหลรินออกมา
ตราคำสาปสีดำเริ่มเปล่งแสงอ่อนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในตอนนี้เองร่างกายของเดสเพียร์ก็มีตราคำสาปถึง 2 ตราด้วยกัน
ตราคำสาปอันแรกได้มาจากตอนที่ถูกเคียวแทง ส่วนอีกอันได้มาจากกรงเล็บ
"ข้ารู้" เดสเพียร์เอ่ยสั้น ๆ และกระอักกองเลือดออกมา
ดาบเล่มสีดำที่แทงทะลุร่างของลูซิเฟอร์เริ่มถูกดูดกลืนเข้าไป นั่นจึงทำให้มานาที่สร้างเป็นอาวุธถูกดูดหายไปด้วย
เมื่อมานาสีดำหายไปก็ปรากฏให้เห็นดาบเล่มสีทองที่อยู่ภายในแทน
ในตอนแรกชายหนุ่มได้เรียกคมดาบตะวันออกมาและห่อหุ้มมันไปด้วยมานาสีดำหยก เพื่อหลอกลูซิเฟอร์ว่าตนกำลังใช้อาวุธที่เกิดจากมานา แต่แท้จริงแล้วมันคือคมดาบตะวันต่างหาก
ทั้งลูซิเฟอร์และเดสเพียร์รู้ดีว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะถอยหรือจะยืดเยื้อต่อไปได้ ต้องรีบจบมันเสียตรงนี้
"รัตติกาลนิรันดร์กาล / อาทิตย์อัสดง" เทพแห่งความมืดและชายหนุ่มได้ร่ายเวทออกมาพร้อมกัน
กรงเล็บสีดำที่แทงเข้าไปในร่างกายของเดสเพียร์เริ่มบิดเบี้ยวอย่างผิดรูปร่าง ในขณะเดียวกันกับที่คมดาบตะวันเตรียมพร้อมจะระเบิดตัวเอง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

739 ความคิดเห็น
-
#428 soraraccoonza (จากตอนที่ 182)วันที่ 28 เมษายน 2563 / 12:46ค้างจ้าาา#4281
-
#428-1 SuruMaster(จากตอนที่ 182)28 เมษายน 2563 / 14:26ช่วงนี้ก็เป็นแบบนั้นละครับ#428-1
-
-
#427 Ramiel D gleam (จากตอนที่ 182)วันที่ 28 เมษายน 2563 / 12:14โอ้ยมันส์มากแม่😁😁😁#4271
-
#427-1 SuruMaster(จากตอนที่ 182)28 เมษายน 2563 / 14:25ขอบคุณครับบบ#427-1
-
-
#426 kusura (จากตอนที่ 182)วันที่ 28 เมษายน 2563 / 09:49ทำงานๆอยู่ ต้องแอบมาเปิดเช็คว่าเรื่องนี้อัพแล้วยังทุกเช้านี่มันส่งเสริมการเสียงานชัดๆ#4261
-
#426-1 SuruMaster(จากตอนที่ 182)28 เมษายน 2563 / 14:25555ดองไว้ก็ได้นะครับ#426-1
-
-
#425 Fikusa (จากตอนที่ 182)วันที่ 28 เมษายน 2563 / 09:40ฮู้ว สรุปแล้วเป็นความสามารถของกันต์เองโล่งอกไปที แต่โจมตีแลกชีวิตแบบนี้หวังว่าจะไม่นอนยาวจนชาวบ้านรู้นะว่าเป็นใคร#4251
-
#425-1 SuruMaster(จากตอนที่ 182)28 เมษายน 2563 / 14:25ก็ลองเดาดูครับ555#425-1
-