ตอนที่ 177 : ภาค 2-บท 77 ความลับที่บอกไม่ได้
ความรู้สึกของพลังที่เอ่อล้นกำลังคุกรุ่นอยู่ในกายของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง
เมื่อความรู้อุ่น ๆ ที่ริมฝีปากได้หายไป พร้อมกับกลิ่นหอมที่คล้ายกับกลิ่นของดอกมะลิเริ่มจางหายไปตามสายลมนั่นเอง
"ทุกคนกำลังฝากชีวิตไว้ที่ท่าน" เสียงของนักบุญศักดิ์สิทธิ์ได้ดังขึ้น และปลุกกันต์ให้ตื่นจากภวัง
เมื่อแสงสีทองจางหายไป ภาพที่เอดอเห็นตรงหน้าก็คือหอกเพลิงนับร้อยของตนที่พยายามจะเจาะทะลวงเข้าไปในม่านพลังสีทองดำ
เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าหอกเพลิงเหล่านั้นสามารถทำลายม่านพลังได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ทันใดนั้นเองเสียงที่คล้ายกับเสียงของกระจกแตกก็ได้ดังขึ้น
เดสเพียร์ในชุดคลุมสีดำกำลังยืนอยู่ท่ามกลางหอกเพลิงนับร้อย โดยไม่แสดงท่าทางหวั่นวิตกออกมาให้เห็นเลยสักนิด
นักบุญที่ยืนอยู่ข้างกายของเขา ก็เอามือซ้ายกุมไปที่ปากของตนเองและเบือนหน้ามองไปทางด้านข้าง
ในวินาทีก่อนที่หอกเพลิงจะได้เข้าแทงร่างของชายหนุ่มและนักบุญนั้น ปีกสีขาวบริสุทธิ์ก็ได้สยายออกมาจากด้านหลังของเดสเพียร์
ปีกสีขาวคู่นั้นขยายขนาดให้ใหญ่มากขึ้น และทำการโอบล้อมเดสเพียร์และนักบุญเอาไว้
หอกเพลิงพยายามแทง ฟาด เจาะปีกสีขาวอย่างต่อเนื่องแต่นั่นมันก็ไร้ประโยชน์ หอกเพลิงไม่สามารถสร้างแม้กระทั่งรอยขีดข่วนให้กับปีกขนาดใหญ่นั้นได้
จริงอยู่ที่ตัวกันต์นั้นมีเลเวลที่ 37 แต่ถ้าเอามาคำนวณรวมกับบัฟและค่าสถานะเพิ่มเติมที่ได้มาจากสายเลือดต่าง ๆ และบวกเข้ากับเลเวลที่เพิ่มขึ้นมาจากทักษะราชันสีอินทนิล ก็จะได้เลเวลอยู่ที่ 90 นั่นเอง
เอดอที่เห็นดังนั้นก็รู้ดีว่าชายในชุดคลุมตรงหน้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ตนจะสามารถเอาชนะได้อีกแล้ว ต่อให้จะใช้วิธีไหนก็ตาม
ผู้นำกองพันปีศาจร่างแดงกัดฟันด้วยความรู้สึกขมขื่น ก่อนที่จะยกเลิกเวทหอกเพลิงทั้งหมด นั่นจึงทำให้หอกเพลิงสลายกลายเป็นละอองฝุ่นสีแดงกลางอากาศ
"ข้าขอสั่งให้ปีศาจทุกตน ถอยทัพเดี๋ยวนี้ !" เอดอตะโกนเสียงดังลั่นก่อนที่จะชูดาบเล่มสีแดงในมือขึ้นมา
เหล่ากองทัพปีศาจที่ได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งกันอย่างจ้าละหวั่นราวกับผึ้งแตกรังไม่มีผิด
ปีกสีขาวเริ่มหดขนาดเล็กลงจนมีขนาดเทียบเท่ากับปีกขนาดปกติ ซึ่งนั่นก็ทำให้ตอนนี้เดสเพียร์มีปีกถึง 2 คู่ด้วยกัน
ปีกสีขาวอยู่ข้างบน ส่วนปีกสีม่วงอยู่ด้านล่าง ถ้านับรวมแล้วตอนนี้ชายหนุ่มก็มีปีกทั้งหมด 4 ข้างนั่นเอง
"ข้าให้โอกาสเจ้าปลิดชีพตนเอง เอดอ" เดสเพียร์กล่าวกับผู้นำกองพันด้วยภาษาปีศาจ
ในฐานะที่กันต์เองก็เคยเล่นเป็นจอมมารเวลโดร เขาเองก็รู้สึกสงสารปีศาจพวกนี้อยู่เหมือนกันเพราะเอดอเองก็ถือว่าเป็นกำลังหลักของกองทัพจอมมารในระดับหนึ่ง
"พูดกับข้าโดยใช้ภาษาปีศาจงั้นรึ" เอดอจ้องมองไปยังบุรุษตรงหน้า ก่อนที่จะถอนสายตามองกลับไปยังดาบในมือของตน
ท่ามกลางกองทัพปีศาจนับพันที่กำลังวิ่งกลับเข้าไปยังประตูมิติ และกลุ่มของมนุษย์ที่เริ่มถอยทัพกลับไปรักษาตัวเพราะเรื่องราวเหล่านี้ที่ได้จบลงแล้ว
ทางกองทัพมนุษย์เองก็เสียหายไปมิใช่น้อย ทั้งอาจารย์เอลและคนอื่น ๆ เองก็บาดเจ็บหนักอยู่พอตัว
ส่วนเหล่าสมาชิกทีมจู่โจมของริสานั้นก็กำลังดูแลอาการของหัวหน้าทีมของพวกเธออยู่
เมื่อก่อนหน้านี้ ในจังหวะที่เดสเพียร์พุ่งตัวเข้ามาช่วยเหลือนักบุญศักดิ์สิทธิ์ ร่างของรุ่นพี่ริสาก็ได้ร่วงลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับเสียงตะโกนว่า "รับร่างของเธอไปที !"
ร่างกายที่เป็นครึ่งมังกรของริสายังไม่หายไป ลีนเองก็พยายามหาวิธีรักษาอยู่ ซึ่งในระหว่างการต่อสู้ลีนก็เป็นคนดูแลร่างที่ไร้สติของริสาไว้ให้
ในตอนนี้สนามรบได้แบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือฝั่งปีศาจที่กำลังวิ่งกลับไปยังประตูมิติ ส่วนตรงกลางคือเดสเพียร์ เอดอ และนักบุญศักดิ์สิทธิ์ ส่วนสุดท้ายคือกองทัพมนุษย์ที่กำลังช่วยกันรักษาและปฐมพยาบาลบาดแผล
หลังจากนั้นไม่นานหน่วยแพทย์พยาบาลและกำลังเสริมก็ได้มาถึงสนามรบส่วนของฝั่งมนุษย์
รถถัง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินจู่โจม และอาวุธสงคราม รวมไปถึงพาหนะสงครามอีกมากมายก็ได้กรูกันเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
แต่ถึงจะอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้ส่วนตรงกลางของสนามรบอยู่ดี เพราะกำลังเสริมทั้งหลายเหล่านั้นก็สูญเสียไปหนักอยู่พอกัน
การถอยทัพของปีศาจนั้นคือสถานการณ์ที่ดีที่สุด การไล่ตามไปฆ่าพวกปีศาจนั้นยังไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องทำ
ในตอนนี้สถานการณ์ของเกาะครีอัสเอลได้คืนกลับมาอยู่ในสภาวะปกติเกือบครบ 100% แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคราเคน ฮาร์ปี้หรืออะไรก็ถูกขับไล่ออกไปจนหมด สำหรับสงครามครั้งนี้เกาะครีอัสเอลคือผู้ชนะ
เอดอจ้องมองความพ่ายแพ้ของตนอีกสักพักก่อนที่จะยกดาบแทงลงดิน และกล่าวขึ้น "จงสังหารข้า ด้วยดาบของเจ้าเสียเถอะ"
เดสเพียร์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะใช้ดาบเล่มสีม่วงในมือของตนแทงตรงเข้าไปยังหัวใจปีศาจของเอดอ
ดาบสีม่วงเจาะทะลวงผิวหนังและหัวใจของเอดออย่างแม่นยำ เลือดปีศาจสายเลือดแท้ไหลออกมาจากปากแผลอย่างช้า ๆ ก่อนที่เปลือกตาของมันจะปิดลง
[ยินดีด้วยผู้เล่นได้ทำภารกิจบังคับสำเร็จแล้ว]
[ผู้เล่นได้รับเงินรางวัลทั้งหมด 1000 ทอง]
[ยินดีด้วยเลเวลผู้เล่นได้ขึ้นมาถึงระดับ 14 แล้ว กรุณาเลือกทักษะที่ต้องการจากตัวละครใดตัวละครหนึ่ง]
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็ตัดสินใจเก็บเอาไว้เลือกทีหลัง เพราะทักษะพวกนี้มันสำคัญการที่จะเอาทักษะอะไรก็ต้องคิดให้ดีเสียก่อน
เดสเพียร์สลายดาบมานาในมือของตนและหันกลับไปมองยังนักบุญศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
ร่างของเอดอล้มลงกับพื้นพร้อมกับดาบสีแดงที่สลายหายไป ซึ่งนั่นก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้นำกองพันปีศาจลำดับที่ 27 ได้ถูกสังหารลงแล้ว
ชายหนุ่มค่อย ๆ ย่างเท้าเข้าไปหานักบุญศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับยกเลิกทักษะราชันสีอินทนิล และพลังของสายเลือดเทพ
ด้วยการกระทำเหล่านั้นจึงทำให้ทั้งปีกและออร่ารอบกายเริ่มจางหายไปอย่างช้า ๆ
"สำหรับคำถามของเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าตกลง" เดสเพียร์กล่าวและจ้องตรงไปยังผู้หญิงตรงหน้า
นักบุญศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาและคุกเข่าลงต่อหน้าชายหนุ่ม
[ยินดีด้วยท่านได้รับผู้ติดตามคนที่ 2 แล้ว]
[กรุณาตั้งชื่อให้กับผู้ติดตามคนที่สองของท่าน]
"เจ้ามีนามว่าอะไร ?" เดสเพียร์เอ่ยถาม
"ข้าไม่มีนามเรียกอื่นนอกจากนักบุญศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรทางตอนเหนือ"
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับระลึกความจำในอดีตขึ้นมาได้ทันที ในตอนนั้นเรติน่าเองก็ไม่มีชื่อเหมือนกัน
อัลเมเนียคือเทพของอาณาจักรทางตอนเหนือสินะ กันต์คิดในใจและพยายามใช้วิธีเดียวกันกับที่ตนเคยตั้งชื่อให้เรติน่ามาตั้งชื่อให้กับเธอคนนี้
"ข้าจะเรียกเจ้าว่าอาเรีย หลังจากนี้มันจะเป็นนามของเจ้า"
[ผู้ติดตาม คนที่ 2 อาเรีย ได้ถูกบันทึกแล้ว]
[ผู้ติดตามของคุณจะได้รับ วงเวทเคลื่อนย้ายหนึ่งเดียว กรุณายื่นมือไปทางผู้ติดตามของท่าน]
อาเรียหรือนักบุญศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้นยืนต่อหน้าของชายหนุ่มก่อนที่จะย่อตัวลงทำความเคารพ
"ขอบพระคุณสำหรับชื่ออันไพเราะที่ท่านมอบให้ข้า หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าจะช่วยเหลือท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
สำหรับเธอแล้วบุรุษตรงหน้ามีสายเลือดของจอมมารก็จริง แต่เขาก็ยังมีสายเลือดเผ่าอื่น ๆ อยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นชายที่ช่วยเหลือชีวิตของตนไว้อีก ถ้าจะให้หนีเพราะเขามีสายเลือดจอมมารก็ใช่เรื่อง
สายตาของกันต์ในร่างเดสเพียร์จ้องมองไปยังริมฝีปากอมชมพูที่พึ่งได้ประทับลงบนปากของตนเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนที่จะดึงหมวกของชุดคลุมลงมาปิดบังสายตาของตน เพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ภายใต้ชุดคลุมสีดำ
"ข้าจำได้ว่าวิธีมอบสายเลือดเทพยังมีวิธีอื่นอยู่อีก ทำไมเจ้าต้องใช้วิธีนั้นด้วย?" เดสเพียร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักเล็กน้อย
สำหรับคำถามนี้กันต์อยากจะถามมาตั้งแต่ต้นแล้ว มันเป็นคำถามที่ต่อให้เขาคิดไปสักเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้เสียที
อาเรียที่ได้ยินดังนั้นก็นิ่งค้างไปในทันที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจังกลับแปรเปลี่ยนเป็นเขินอายอย่างกะทันหัน
"เรื่องนี้ พวกเราเก็บไว้...คุยกันสองคนเถอะค่ะ...ข้าไม่อยากจะเอ่ยมันในสถานที่โล่งแจ้งเช่นนี้"
ท่าทีเขินอายของเธอนั้น ทำให้กันต์เริ่มคิดหนักไปยิ่งกว่าเก่าทันที เหตุผลคืออะไรทำไมถึงพูดไม่ได้ ? คำถามนี้กลับกลายเป็นคำถามใหม่ที่มาวิ่งเล่นอยู่ในสมองของชายหนุ่มแทน
คนอื่น ๆ ที่มองเข้ามานั้นก็รู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก แต่จะให้ไปขัดก็ไม่ได้เพราะทั้งสองคนนั้นได้ช่วยขับไล่กองทัพปีศาจออกไปจากเกาะแห่งนี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ที่ยังขาด คือ มังกรทอง เทพอีกหลายองค์ เอล คนแคระ