สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 176 : ภาค 2-บท 76 หอกเพลิงสีโลหิต

ในวินาทีที่เอดอกำลังออกแรงดึงดาบเล่มสีแดงโลหิตในมือนั้น อยู่ ๆ มือขวาที่กุมลำคอของนักบุญศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกชาขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เมื่อเอดอหันมองไปยังมือขวาของตน เขาก็ได้พบเข้ากับแขนบริเวณข้อมือที่ถูกฟันจนเลือดกระฉูดออกมา

มือขวาที่ขาดนั้นหล่นอยู่ห่างจากเท้าของเอดอไปไม่ไกลนัก 

ผู้นำกองพันปีศาจตนนี้ไม่เคยกลัวตายหรือกลัวเจ็บอยู่แล้ว ต่อให้โดนฟันจนร่างกายขาดครึ่ง เขาก็จะไม่ร้องเจ็บให้ได้ยินแม้แต่คำเดียว

"เป็นไปไม่ได้ ทำไม เจ้าถึงแข็งแกร่งขึ้นได้เร็วถึงเพียงนี้" เอดอกล่าวขึ้นพร้อมกับก้าวถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่าง และตั้งท่าพร้อมต่อสู้

ภาพตรงหน้าของเอดอนั่นก็คือชายในชุดคลุมสีดำคนเดิม พร้อมกับปีกสีดำที่ออกโทนไปในทางสีม่วงเข้ม

ใช่แล้วในตอนนี้เดสเพียร์กำลังใช้ทักษะ ราชันแห่งอสูรกายอินทนิล นั่นเอง ซึ่งมันเป็นทักษะที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้โดยวัดจากความหวาดกลัวที่อยู่รอบ ๆ ตัว ยิ่งมีความหวาดกลัวมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

เดสเพียร์กำลังกุมดาบสีม่วงในมือขวา ส่วนเหตุผลที่ออร่ามานาเปลี่ยนเป็นสีม่วงนั่นก็เพราะกันต์กำลังใช้งานทักษะของเผ่าจอมมารอยู่

ส่วนในมือซ้ายของชายหนุ่มกำลังโอบร่างของนักบุญศักดิ์สิทธิ์ไว้

ในวินาทีก่อนที่เอดอจะฆ่านักบุญสำเร็จ เดสเพียร์ก็ได้กระโจนเข้ามาและตัดมือขวาของเอดอทิ้ง  พร้อมกับดึงร่างของนักบุญมาไว้ในอ้อมกอด

ทักษะราชันสีอินทนิลสามารถทำให้เดสเพียร์มีเลเวลถึง 80 ได้เพราะความหวาดกลัวของเหล่ามนุษย์นับร้อยคนที่อยู่ที่นี่

"เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ ?" เอดอตะคอกใส่พร้อมกับตวัดดาบขู่

อันที่จริงแล้วเอดอมีเลเวลมากกว่าเดสเพียร์ด้วยซ้ำเขาไม่พลาดท่ากับการโจมตีง่าย ๆ เช่นนี้ 

แต่เพราะเอดอสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าของราชันจอมมาร มันจึงทำให้การกระทำของเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ ซึ่งนั่นก็คือจังหวะที่เดสเพียร์เข้าไปช่วยเหลือนักบุญออกมา

"จริงสิ เจ้าคงจะใช้วิชาลับบางอย่างปลอมแปลงออร่าตนเองให้คล้ายกับของท่านจอมมาร"

เดสเพียร์ที่ได้ยินดังนั้นก็วางร่างของนักบุญศักดิ์สิทธิ์ลงกับพื้น ก่อนที่จะพึมพำเบา ๆ ออกมาเป็นภาษาแลงเกล

"เจ้านั่นมันใช้เวทเพิ่มเลเวลให้ตัวเองโดยแลกกับพลังชีวิต ท่านรีบหนีไปก่อนเถอะ ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าจะฆ่ามันได้"

คนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์นั้นไม่สามารถสัมผัสได้ถึงสายเลือดจอมมารจากตัวของเดสเพียร์เลยสักนิด เพราะพวกเขาไม่มีทักษะพิเศษเพื่อตรวจสอบสายเลือดคนอื่น ที่จะเห็นก็มีเพียงปีกสีม่วงเท่านั้น

ซึ่งก็แน่นอนว่านั่นไม่ใช่กับนักบุญศักดิ์สิทธิ์คนนี้ หลังจากที่ร่างกายของเธอได้สัมผัสกับเดสเพียร์ เธอก็สามารถรู้สึกได้ถึงสายเลือดอันมากมายที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของชายหนุ่มผ่านทักษะญาณทิพย์ของเธอ

"ราชันมังกรขาว จอมมาร มนุษย์ครึ่งปีศาจ บุคคลตามคำทำนายเป็นท่านเองสินะ" นักบุญศักดิ์สิทธิ์เอ่ยพลางจ้องมองไปยังดวงตาของเดสเพียร์ที่อยู่ภายใต้ชุดคลุม

กันต์ในร่างของเดสเพียร์ที่ได้ยินดังนั้นก็แทบกระอักเลือดออมาด้วยความตกใจ และเงียบลงไปในทันที

"ท่านคือเด็กหนุ่มคนที่สามารถเคลื่อนไหวในมิติเวลาที่เดินช้าลงได้ ทำไมท่านถึงไม่บอกข้าแต่แรก" นักบุญกล่าวพร้อมกับทำสีหน้าท่าทางจะร้องไห้

เธอใช้เวลาตามหาชายคนนี้มานานนับหลายอาทิตย์ และต้องตื่นตัวเกือบตลอดเวลาเพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกปีศาจจะโผล่หน้ามาสังหารเธอเมื่อไหร่

ถ้าเธออยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์คงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่นี่เธออยู่ที่ต่างโลกมันไม่ได้ปลอดภัยเหมือนกับตอนที่อยู่วิหาร

ในระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นี่เองเอดอก็ร่ายเวทหอกเพลิงโจมตีเข้าไปยังทั้งคู่

แต่โชคดีที่เดสเพียร์ยังพอมีสติและปัดป้องหอกเพลิงที่พุ่งเข้ามาเหล่านั้นออกไปได้ทันท่วงที

แต่ทว่าหอกเพลิงเหล่านั้นเมื่อถูกเบี่ยงทิศออกไปแล้ว มันกลับยังสามารถลอยกลับมาพุ่งโจมตีได้อีกครั้งราวกับบูมเมอแรง

หอกเพลิงเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีครบ 10 หอกเพลิงด้วยกันในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เพราะเอดอที่ร่ายเวทซ้ำไปซ้ำมา

หอกเหล่านั้นพุ่งโจมตีใส่เดสเพียร์โดยพร้อมเพรียงกันอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง ซึ่งนั่นก็ทำให้กันต์ต้องรับกับศึกหนักอย่างช่วยไม่ได้

"เอาแต่พูดอะไรไร้สาระอยู่ได้ จงลิ้มรสเวทอันภาคภูมิใจของข้าไปเสีย" เอดอยังคงร่ายเวทซ้ำเดิม

เหตุผลที่เอดอไม่ยอมเข้าโจมตีประชิดตัวนั่นก็เพราะเขาไม่อยากประมาทคู่ต่อสู้ที่ร่วมมือกับนักบุญศักดิ์สิทธิ์

จนในที่สุดเดสเพียร์ก็มาถึงขีดจำกัดจนไม่สามารถปัดป้องได้ทัน เขาต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้

"ม่านพลังแห่งธาตุทั้งปวง" กันต์ในร่างเดสเพียร์เปิดใช้ทักษะ

[คำเตือน : เนื่องจากตอนนี้เลเวลผู้เล่นมีมากกว่าเลเวลของตัวละคร ระบบจะทำการปรับระดับของทักษะให้เทียบเท่ากับเลเวลของผู้เล่นชั่วขณะ]

[ทักษะม่านพลังแห่งธาตุทั้งปวงระดับ 6 กลายเป็นระดับ 8 ชั่วขณะ]

ทันใดนั้นเองม่านพลังสีทองดำก็ปรากฏขึ้นรอบกายของชายหนุ่มและนักบุญ ซึ่งหอกเพลิงก็ยัคงพยายามทำลายม่านพลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

"ม่านพลังมันแพ้การทะลวงของหอกเจ้ารู้ใช่ไหม ?" เอดอยกมือซ้ายของตนชูขึ้นเหนือท้องฟ้า

"ในเมื่อยังไงข้าก็จะตายอยู่แล้ว ข้าก็จะขอทำหน้าที่ให้สำเร็จ !"

วงเวทสีแดงนับหลายร้อยวงได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือศีรษะของเดสเพียร์

หอกเพลิงขนาดใหญ่ที่ลุกโชนไปด้วยไฟสีแดงโลหิตกำลังออกมาจากวงเวทอย่างช้า ๆ พร้อมกับหอกเพลิงขนาดธรรมดาอีกนับร้อย

พวกมันทั้งหมดล้อมม่านพลังของเดสเพียร์ไว้จากทุกด้าน จนแทบจะไม่มีช่องว่างให้มองผ่านออกไป

กันต์รู้ตัวดีว่าต้องให้เป็นม่านพลังที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการเจาะทะลวงของหอกเพลิงเหล่านี้ไหว เพราะจำนวนที่มากมายมหาศาลและแรงเจาะทะลวงที่น่ากลัว

มือที่กุมดาบสีดำทมิฬของเขาเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ พร้อมกับสมองที่กำลังคิดอย่างหนักว่าตนควรจะเอาตัวรอดยังไง

เอดอมีเลเวลที่มากกว่า 5 เลเวล พลังโจมตีที่พร้อมทะลวงม่านพลังตลอดเวลา เปลวเพลิงที่พรอ้มแผดเผาทุกอย่าง คิดให้ออกสิ กันต์ย้ำความคิดเหล่านี้อยู่ในใจ

มนุษย์คนอื่น ๆ ก็กำลังต่อสู้กับพวกกองทัพปีศาจที่อยู่รอบนอก ราวกับว่าพวกเขากำลังฝากชีวิตไว้กับเดสเพียร์ ถ้าเดสเพียร์มาตายตรงนี้ก็เท่ากับทุกคนที่นี่ก็ต้องตายตามไปด้วย

"ข้าขอให้ท่าน รับข้าเป็นผู้ติดตามได้ไหม ?" นักบุญศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนข้างเดสเพียร์เอ่ยถามออกมา

"นี่มันไม่ใช่เวล..." เดสเพียร์ที่กำลังหันไปตอบด้วยสีหน้าจริงจังนั้นก็ถึงกับเงียบไปในทันที

นักบุญศักดิ์สิทธิ์ใช้มือทั้งสองข้างโอบเข้าไปที่คอของเดสเพียร์ และดึงตัวเขาเข้ามาใกล้ ๆ

สายตาของพวกเขาทั้งคู่ประสานกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นักบุญศักดิ์สิทธิ์จะประทับริมฝีปากอมชมพูของเธอลงไปบนปากของกันต์

อาจารย์เอล กานต์ เล็ก และคนอื่น ๆ ที่หันมามองเพราะได้ยินเสียงแปลก ๆ นั้นถึงกับอึ้งไปตาม ๆกัน

ด้วยความที่นักบุญศักดิ์สิทธิ์ตัวเล็กกว่าเดสเพียร์ไปเกือบ 20 เซนติเมตร จึงทำให้เธอต้องเขย่งเท้าขึ้นพร้อมกับดึงหัวของชายหนุ่มลงมา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอโอบคอของชายหนุ่มไว้

ความรู้สึกของเดสเพียร์นั้นคือตกตะลึง ภาพตรงหน้าของเขาคือใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังหลับตาลงและจูบกับตน

เอดอที่มองเห็นภาพตรงหน้าก็ถึงกับเดือดดาลขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะสั่งให้หอกเพลิงทั้งหมดเข้าโจมตีในทันที

ความรู้สึกนุ่มและบอบบางที่ปาก ใบหน้าที่สวยสดงดงามราวกับนางฟ้า และกลิ่นหอมที่โชยออกมาจากร่างของเธอ มันเกือบจะทำให้เขาเคลิ้มไปเลยทีเดียว

การที่เขาจะรู้สึกเช่นนี้มันก็ช่วยไม่ได้ ทั้งชีวิตตัวเองก็ไม่เคยได้จูบกับใครมาก่อน ใครจะไปคิดเล่าว่าวันนี้จะได้จูบกับผู้หญิงที่สูงศักดิ์และงดงามถึงเพียงนี้

[ยินดีด้วยผู้เล่นได้รับสายเลือดแห่งเทพอัลเมเนีย-ผลลัพธ์เพิ่มค่าสถานะให้กับผู้เล่นทั้งหมด 20%]

ทันใดนั้นเองออร่าสีทองก็ได้เปล่งแสงออกมาจากร่างของเดสเพียร์ ทั้งออร่าสีดำและปีกสีม่วงกลับถูกบดบังโดยแสงที่สาดส่องออกมา

ซึ่งมันก็เป็นวินาทีเดียวกับที่หอกเพลิงนับร้อยโจมตีเข้ามา

แสงสีทองส่องแสงเจิดจรัสเสียจนทุกชีวิตที่อยู่ใกล้ ๆ ต้องยกมือขึ้นมาบดบังสายตาของตนเอง

เอดอหวังในใจเป็นอย่างยิ่งว่าเวทหอกเพลิงของตนจะฆ่าพวกเขาทั้ง 2 คนได้