ตอนที่ 17 : ภาค 1-บท 17 นักบุญศักดิ์สิทธิ์(1)
“ไปที่ห้องเลือกตัวละคร”
[เคลื่อนย้ายไปยังห้องเลือกตัวละคร]
“ฉันเลือกตัวละครเครก” ตัวละครเดียวที่อยู่ต่างโลกตอนนี้มีแค่เขาเท่านั้น
[จุดวาร์ปไม่สามารถเลือกได้เนื่องจากตัวละครไม่มีความสามารถมากพอ]
ณ โลกอีกฟากหนึ่งของประตูมิติ
ระหว่างทางไปยังอาณาจักรทางใต้นั้น ขบวนรถม้าของนักบุญศักดิ์สิทธิ์ กำลังเดินทางอย่างปลอดภัย
ในรถม้าคันหนึ่ง ซึ่งเป็นคันที่ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์กำลังนั่งอยู่ภายในพร้อมกับราชาจากอาณาจักรทางใต้ และผู้คุ้มกัน
“ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์ ท่านมั่นใจแล้วหรือครับว่าจะไปด้วยตนเอง” ราชาจากอาณาจักรทางตอนใต้เอ่ยถาม
ราชาแห่งตอนใต้ อายุของเขาล่วงเข้า 50 ปีแล้ว แต่ด้วยความสามารถในการปกครองที่ดีเลิศทำให้เขายังคงตำแหน่งราชาได้
“เราต้องไปด้วยตนเองเท่านั้น การเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างมนุษย์โลกนั้นเป็นหน้าที่ของเรา” ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์ตอบกลับ
ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์นั้นคือหญิงสาวรูปงาม คล้ายกับเทพธิดาจากสวรรค์ แต่แท้จริงแล้วเธอก็เป็นมนุษย์ที่ได้รับพรจากเทพเท่านั้น
“แต่ว่า มันอันตรายนะครับ” ท่านราชายังคงเป็นห่วงถึงแม้จะออกเดินทางมาแล้ว
“เราต้องเชื่อมไมตรีของมนุษย์ทั้ง 2 โลกเข้าด้วยกัน เราต้องร่วมมือกันทำลายเหล่าปีศาจ มีเพียงวิธีเท่านั้น”
ทันใดนั้นเอง ทหารนายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหาและเคาะประตูรถม้า
“ขอรายงาน ท่านราชา” ทหารคนนั้นพยายามตะโกนเรียก
“เบื้องหน้าขบวนรถม้าของเราอยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นครับ”
“แล้วเขามาได้ยังไง เขาไม่รู้รึไงว่าใครกำลังผ่านทางนี้” ราชาแห่งตอนใต้เริ่มโมโหเล็กน้อย
ราชาไม่รอช้าเปิดประตูออกไปทันที และทิ้งท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่บนรถม้า
“แล้วทำไมไม่ไล่เขาออกไป” ราชาถามต่อ
“ไม่มีทหารคนไหนกล้าเข้าใกล้เขาแม้แต่คนเดียวครับ” ทหารนายนั้นตอบกลับ
“หมายความว่ายังไง พวกแกกำลังขี้ขลาดอยู่รึไง” ราชารู้สึกไม่พอใจกับทหารของตน
“ท่านราชาครับ เชิญท่านลองชมด้วยตาของท่านเองเถอะครับ” ทหารคนนั้นเอ่ยพร้อมกับนำทางราชาไป
สิ่งที่ราชาเห็นนั่นก็คือทหารของตนกำลังชกต่อยกับชายคนหนึ่ง
[จิตใต้สำนึกของเครก เรียกร้องให้คุณซัดทหารม้า เพื่อให้เขารู้สึกเข็ดหลาบกับสิ่งที่เขาทำลงไป]
“อ่า เดี๋ยวจัดการให้เอง” ผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเหมือนกัน
ผมก้มตัวหลบหมัดที่โจมตีเข้ามา พร้อมกับเตะตัดขาทหารคนนั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีประสบการณ์ต่อสู้มากนัก ทหารนายนั้นล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“คราวหลังก็อย่าทำแบบนี้อีกจำไว้” ผมพูดและเดินหันหลังกลับ
“ทหารจับตัวมันไว้ มันเป็นคนจากลัทธิบูชาปีศาจ เมื่อกี้มันยังพูดภาษาปีศาจด้วย”
ทันใดนั้นเองเหล่าทหารนับร้อยเริ่มเคลื่อนพลและล้อมกรอบเครกจากทุกทิศทาง
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 นาทีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เครกถูกล้อมขึ้น
“กลับมาที่เมืองนี้งั้นเหรอ อยู่เมืองนี้มา 3 ภารกิจแล้วนะ” ผมพูดพร้อมกับมองไปรอบๆ
ดูเหมือนระบบจะย้ายร่างของเครกมาวางไว้ที่นอกเมือง ซึ่งเป็นเมืองที่เคยถูกกองทัพหมาป่าโจมตี
“ขบวนรถม้าของท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์กำลังมาทางนี้ทุกคนรีบหลบให้พวกเขาเดินเร็วเข้า” พ่อค้าคนหนึ่งตะโกน ซึ่งกันต์ในร่างของเครกก็ฟังไม่รุู้เรื่อง
ถนนเส้นนี้คือถนนที่พวกพ่อค้าชอบใช้เดินทางเพื่อทำการค้าข้ามอาณาจักร และสำหรับบริเวณใกล้เคียงนี้ เส้นทางนี้ดีที่สุด
“บางทีภารกิจเราคงอยู่ใกล้กว่าที่คิด” ผมพึมพำในใจเบาๆ เพราะผมรู้ตัวดีว่าถ้าพูดออกมาตอนนี้มันจะกลายเป็นภาษาปีศาจ
ขบวนรถม้าของท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์ นั้นรายล้อมไปด้วยทหารม้านับร้อยนาย ทุกนายล้วนสวมเกราะชั้นดี เลเวลเฉลี่ยของพวกเขาก็ประมาณ 40
เรื่องน่าเศร้าเริ่มเกิดขึ้นจากที่พ่อค้าหนุ่มคนหนึ่งทำฟืนที่ตัวเองแบกมาตกเรี่ยราดเต็มพื้น เพราะด้วยความประหม่าหรืออะไรก็ไม่ทราบเขาถึงทำฟืนตกแบบนี้
เมื่อมีฟืนตกอยู่เต็มพื้น นั่นทำให้ขบวนรถม้าจำต้องหยุดเดินทางไปก่อนชั่วคราว
ทหารคนหนึ่งลงมาจากหลังม้าและเดินเข้ามาหาชายคนนั้น “รีบเก็บเร็วๆเข้า รู้ไหมคนที่กำลังเดินทางผ่านเส้นทางนี้คือใคร”
“ขออภัยด้วยครับ ผมจะรีบเก็บเดี๋ยวนี้” พ่อค้าหนุ่มเริ่มลุกลี้ลุกลน
ผ่านไปสักพักทหารคนนั้นก็เริ่มทนไม่ไหว “ช้าไปแล้วนะเว้ย” ลูกเตะของทหารคนนั้นฟาดเข้าข้างลำตัวของพ่อค้าหนุ่มคนนั้นเต็มๆ
“รู้ตัวไหมว่าเรามีภารกิจยิ่งใหญ่แค่ไหน จะมาเสียเวลากับแกไม่ได้ อะเฮื้อก!” ทหารนายนั้นถูกชกหน้าไปหนึ่งที
ผมทนให้เกิดอะไรแบบนี้ไม่ได้ และผมก็เดาว่าเครกคงไม่ยอมเช่นกัน
ผมยืนขวางระหว่างนายทหารและพ่อค้าหนุ่มไว้ ผมพยายามโบกมือเพื่อให้สัญญาณว่าให้เขารีบเก็บฟืนและหนีไปได้แล้ว
ทหารคนนั้นเริ่มหัวเสียและออกหมัดใส่ผม แต่ว่ามันยังช้าเกินไป
“แกบังอาจมาก เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาแท้ๆ กลับกล้ามาทำร้ายทหารแบบนี้”
[จิตใต้สำนึกของเครก เรียกร้องให้คุณซัดทหารม้าให้เขารู้สึกเข็ดหลาบกับสิ่งที่เขาทำลงไป]
ถึงแม้ผมกับเครกจะฟังเขาไม่รู้เรื่องแต่ผมก็พอจะเดาประโยคที่ทหารคนนั้นจะพูดออกเมื่อดูจากสีหน้าท่าทางของเขา
“อ่า เดี๋ยวจัดการให้เอง” ผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเหมือนกัน
กลับมาที่ปัจจุบัน
จะมาแก้ต่างตอนนี้ก็ไม่ได้แล้วเพราะว่าผมพูดกับพวกเขาไม่รู้เรื่อง ผมเหลือ 3 ทางเลือกคือหนีหรือไม่ก็ยอมถูกจับ และสุดท้ายคือสู้
ในตอนแรกผมเลือกที่จะหนี แต่เควสเสริมของผมคือช่วยนักบุญศักดิ์สิทธิ์ให้ทำภารกิจลุล่วง
ถ้าผมเลือกหนี ผลลัพธ์ก็อาจจะทำให้ภารกิจดำเนินช้ากว่าเดิม
ถ้าผมเลือกสู้ผลลัพธ์ที่ออกมาคงจะแย่กว่าเลือกหนีหลายเท่า
ท่ามกลางเหล่าทหารนับร้อย เครกยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้น เพื่อแสดงว่าตนไม่ใช่ศัตรู
“จับตัวมันไว้ก่อน แล้วเราจะดำเนินการสอบสวนที่หลัง” ราชาของอาณาจักรทางตอนใต้เอ่ยประโยคสุดท้ายและเดินกลับขึ้นรถม้า
เครกถูกตรึงร่างไว้ด้วยเชือก และถูกล้อมไปด้วยทหารอีก 2 นาย
หลังจากนี้เครกคงต้องเดินทางไปกับพวกเขาต่ออีกสักพัก
“ชายผู้นั้นเขาไม่มีกลิ่นอายของปีศาจ” นักบุญศักดิ์สิทธิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“แต่ว่าชายคนนั้นพูดภาษาปีศาจนะครับ เป็นภาษาที่มีเพียงไม่กี่คนที่จะเรียนได้ และถ้าเรียนแล้วต้องประกาศตนไว้เพื่อให้ทราบไปทั่วถึงกันด้วย”
สำหรับโลกนี้ ผู้ที่พูดภาษาปีศาจ มี 3 ประเภท ประเภทแรกคือผู้ที่ศึกษาเพื่อใช้จับว่าใครพูดภาษาปีศาจบ้าง ประเภทต่อมาผู้ที่ศึกษาเพื่อเป็นความรู้เท่านั้น
และประเภทสุดท้าย พวกที่ศึกษาเพื่อทำสัญญากับปีศาจหรือไม่ก็บูชาปีศาจ พวกนี้น่ากลัวมากที่สุด พวกเขาจะถูกเรียกรวมๆ ว่าลัทธิบูชาปีศาจ
ซึ่งผู้ที่อยู่ในประเภทแรกต้องได้รับการยอมรับจากนักบุญศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะสามารถเรียนรู้ภาษาของปีศาจได้
“หลังจากจบเรื่องนี้ คงต้องสอบสวนกันอีก ขอให้ท่านนักบุญศักดิ์สิทธิ์โปรดวางใจเถิดครับ ไม่มีปีศาจตนไหนทำร้ายท่านได้อย่างแน่นอน”
ส่วนอีกเหตุผลที่ราชาไม่ได้บอกนั่นก็คือ เขาต้องการใช้ตัวของเครกเป็นตัวอย่างว่าพวกลัทธิบูชาปีศาจคนไหนที่กล้าเข้ามาจะเจอแบบนี้
ราชาถอนหายใจออกมาช้าๆ และจ้องมองออกไปยังเครกที่กำลังเดินอยู่นอกรถม้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

741 ความคิดเห็น
-
#66 Fikusa (จากตอนที่ 17)วันที่ 29 ธันวาคม 2562 / 22:12หาเรื่องผิดคนแล้วนาย#661
-
#66-1 SuruMaster(จากตอนที่ 17)29 ธันวาคม 2562 / 23:26555 ชะตากรรมมันถูกกำหนดมาแบบนั้นนะครับ#66-1
-