ตอนที่ 164 : ภาค 2-บท 64 จักรพรรดิโครงกระดูกทมิฬ
[จักรพรรดิปีศาจโครงกระดูกทมิฬกำลังพิโรธอย่างเงียบงัน]
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็นึกสนุกขึ้นมาในใจ พิโรธอย่างเงียบงัน ? มันจะเป็นยังไงกันแน่
บอสจักรพรรดิทมิฬคือปีศาจที่ชายหนุ่มไม่เคยพบไม่เคยเห็น เพราะแม้แต่ในเกมเองปีศาจตนที่ใหญ่ที่สุดในเผ่าโครงกระดูกก็มีแค่คาเรอัสเท่านั้น
[จิตใต้สำนึกของเวรัคพยายามบอกกับคุณว่าเธอสัมผัสได้ถึงละอองมานาที่กระจายอยู่เต็มไปทั่วพื้นที่ ดังนั้นจึงอย่าพยายามใช้จิตสัมผัสของเผ่าเอลฟ์ในการค้นหาศัตรู]
ทักษะจิตสัมผัสของเผ่าเอลฟ์นั้นมีความสามารถในการระบุตำแหน่งศัตรูโดยการตรวจจับละอองมานารอบ ๆ
ซึ่งตัวอาร์เซนเองก็ใช้ทักษะนี้เพื่อหลบหนีการมองเห็นของศัตรูมาทั้งชีวิต
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าใช้ทักษะจิตสัมผัสเผ่าเอลฟ์ออกไปอาจจะทำให้เกิดอาการสับสนก็เป็นได้
ถ้าเวรัคไม่เตือนไว้เขาคงลองใช้มันไปเรียบร้อยแล้ว ก็สมแล้วที่เธอเป็นถึงนักเวทแห่งยุค
ทันใดนั้นเองดวงตาของอาร์เซนก็สว่างวูบออกมาเป็นสีเขียว ก่อนที่สายคันศรในมือจะถูกง้างออก
สายลมเริ่มหมุนวนไปรอบ ๆ ลูกศรมานาเพื่อเตรียมตัวปัดเป่าควันสีดำออกไป
"อย่าหลบละ" กันต์ในร่างอาร์เซนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหันกลับหลังและปล่อยลูกศรมานาในมือออกไป
เสียงของลมที่พัดผ่านดังออกมาอย่างชัดเจน ลมเหล่านั้นได้พัดพากลุ่มควันสีทมิฬจนกระจายออกไป
ปรากฏให้เห็นร่างของโครงกระดูกตนหนึ่งที่สวมหน้ากากสีม่วง ส่วนลูกศรมานาสีฟ้านั้นก็ได้เจาะทะลุเข้าไปที่ทรวงอกของมัน
เสื้อผ้าที่ฉีกขาดและร่างกายที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก นั่นจึงทำให้มันดูไม่เหมือนจะเป็นจักรพรรดิเลยสักนิด
"เป็นการยิงที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็ไร้ค่า" จักรพรรดิปีศาจโครงกระดูกเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหายตัวไปในม่านหมอกแห่งความมืดอีกครั้ง
ทันใดนั้นเองคมดาบสีทมิฬก็ถูกแทงออกมาทะลุม่านหมอกหมายจะเจาะเข้าหัวของอาร์เซน
โชคดีที่อาร์เซนยังสามารถกลิ้งหลบได้ทัน อีกทั้งยังยิงลูกศรมานาสวนกลับไปได้ด้วย
แต่ทว่าการยิงลูกศรนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรเพราะจักรพรรดิทมิฬมีรางกายที่เป็นโครงกระดูกที่แข็งแกร่งมากพอจะรับการโจมตีจากอาร์เซนโดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บเลยสักนิด
"ถ้าจะสู้กับปีศาจมันก็คงมีแต่ต้องใช้มัน คมดาบตะวัน" กันต์ในร่างอาร์เซนเรียกอาวุธออกมา
คมดาบตะวันสีทองได้ปรากฏขึ้นบนมือของอาร์เซนและออร่าสีทองที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวดาบนั้นยังมีความสามารถในการสลายความมืดได้อีกด้วย
ม่านหมอกสีดำเริ่มจางหายไปและทำให้บริเวณโดยรอบกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
คมดาบสีทมิฬและคมดาบสีทองต่างฟาดฟันกันอย่างบ้าคลั่ง กันต์สามารถใช้ทั้งวิชาดาบของเรล์มและวิชามีดสั้นของอาร์เซนเข้าผสมผสานกันนั่นจึงทำให้เกิดการโจมตีอันน่าหวาดกลัว
"จิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ" กันต์เปิดใช้ทักษะ
ทักษะจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติคือทักษะที่จะสร้างร่างแยกของเราออกมา 3 ตน ซึ่งร่างแยกเหล่านั้นจะมีรูปลักษณ์เหมือนร่างต้นทุกประการ แต่มันคิดเองไม่ได้ต้องให้ผู้ใช้เป็นคนควบคุม
ร่างแยกของอาร์เซนปรากฏขึ้นด้านหน้าของเขา ทุกตนล้วนมีอาวุธในกำมือเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วอาวุธที่ร่างแยกถือนั้นมันก็แค่ของคัดลอก ยังไม่มีความสามารถเท่าคมดาบตะวันของจริง
เหล่าร่างแยกพุ่งเข้าโจมตีจักรพรรดิทมิฬตามคำสั่งจากจิตสำนึกของกันต์ในร่างอาร์เซน
"ข้าเกลียดแสงตะวัน" จักรพรรดิทมิฬคำรามออกมาและเริ่มโจมตีด้วยความรุนแรงที่มากกว่าเดิม
ส่วนอาร์เซนอีกคนนั้นกำลังง้างสายคันศรและกำลังใช้คมดาบตะวันแทนลูกศร
สายลมเริ่มหมุนวนรอบ ๆ คมดาบตะวัน พร้อมกับสายตาของอาร์เซนที่สว่างออกมาเป็นสีเขียว
ทันใดนั้นเองสายลมก็ได้ระเบิดตัวออกมาเป็นแรงถีบส่งให้คมดาบตะวันพุ่งไปทางข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว
คมดาบตะวันสีทองพุ่งตรงเข้าเจาะกลางกะโหลกของจักรพรรดิทมิฬอย่างแม่นยำ เพราะสายลมที่ช่วยเบี่ยงเบนทิศทางให้ จะหลบยังไงมันก็ไม่มีวันพ้น
ที่ฝ่าเท้าของจักรพรรดินั้นกำลังเหยียบร่างเงาของอาร์เซนอยู่ ส่วนร่างเงาอีก 2 ตนก็ถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว
จักรพรรดิทมิฬน่าจะมีเลเวลประมาณ 70 พวกร่างเงาของเขาถึงทำอะไรไม่ได้มากนัก
"เป็นการโจมตีที่รุนแรงใช้ได้ แต่ของศักดิ์สิทธิ์มันไม่มีผลกับข้า" จักรพรรดิคว้าไปที่ดมดาบตะวันที่ปักอยู่กลางกะโหลก
กันต์ในร่างของอาร์เซนที่เห็นดังนั้นก็เตรียมตัวจะใช้ทักษะติดอาวุธของคมดาบตะวันทันที ซึ่งนั่นมันก็คืออาทิตย์อัสดง
แต่ก่อนที่จะได้ใช้ร่างกายของจักรพรรดิโครงกระดูกก็ล้มลงไปกับพื้น
ทันใดนั้นเองอาร์เซนก็ถูกเข้าโจมตีจากด้านหลัง มือที่เป็นโครงกระดูกกำลังกุมไปที่ลำคอของอาร์เซน
"ข้าสามารถย้ายร่างผ่านโครงกระดูกตนได้ก็ได้ เจ้าแพ้แล้ว"
ในวินาทีที่จักรพรรดิทมิฬล้มลงไปเขาก็ได้ใช้เวทย้ายร่างของตนไปสิงร่างของนักรบโครงกระดูกที่อาร์เซนเคยจัดการไปแล้ว
คมดาบสีทมิฬได้ปรากฏขึ้นในมือของจักรพรรดิและแทงเข้าหัวของอาร์เซน
จักรพรรดิทมิฬโยนร่างอันไร้ชีวิตทิ้งลงไปกับพื้นก่อนที่จะกระทืบซ้ำอีกครั้ง
แต่เมื่อเท้าของเขากระทืบลงไปนั่นเองร่างของอาร์เซนนั้นก็สลายเป็นผุยผงและสลายไปในอากาศ
"แก่นแท้ตะวัน" เสียงตะโกนจากด้านหลังของจักรพรรดิทมิฬดังขึ้น
เพชรอัญมณีสีส้มทองพุ่งตรงเข้ากระแทกใส่ร่างของจักรพรรดิทมิฬ พร้อมกับคมดาบตะวันที่ถูกเก็บไปในคลังของระบบ
เปลวเพลิงสีทองเริ่มมอดไหม้และแผดเผาร่างของจักรพรรดิโครงกระดูกทมิฬด้วยความรวดเร็ว
พลังไฟที่ถูกปล่อยออกมาจากแก่นแท้ตะวันนั้นไม่สามารถดูถูกได้ แม้แต่เวลโดรเองก็ยังไม่สามารถจับมันตรง ๆ ได้เลยด้วยซ้ำ
จริงอยู่ที่ไอเทมที่มีพลังเกี่ยวกับแสงหรือความศักดิ์สิทธิ์อาจจะทำอะไรจักรพรรดิทมิฬไม่ได้มาก แต่หากเป็นไฟจากแสงตะวันแล้วมันก็คนละเรื่อง
อีกทั้งยังมีสายลมที่คอยช่วยพัดไฟให้โหมกระหน่ำรุนแรงยิ่งกว่าเดิมนั่นจึงทำให้ร่างกายของจักรพรรดิทมิฬมอดไหม้ด้วยความรวดเร็ว
"พอดีว่าฉันมีลูกน้องเป็นโครงกระดูกเหมือกัน" กันต์ในร่างอาร์เซนกล่าวก่อนที่จะนั่งลงกับพื้น
อันที่จริงแล้ว ร่างของอาร์เซนตัวจริงได้เข้าไปต่อสู้กับจักรพรรดิทมิฬ ส่วนอาร์เซนคนที่ใช้คมดาบตะวันเป็นลูกศรนั้นคือร่างแยกที่กันต์จงใจเอามาล่อ
จักรพรรดิทมิฬคงคิดอยู่แล้วว่าอาร์เซนจะต้องใช้ร่างจริงโจมตีโดยใช้ธนูเพราะถ้าใช้ร่างจริงโจมตีมันจะสามารถโจมตีได้รุนแรงมากกว่า
ร่างของอาร์เซนที่ถูกเหยียบในตอนแรกนั้นคือร่างจริง มันเป็นแผนที่กันต์วางไว้ตั้งแต่ต้น
กันต์รู้อยู่แล้วว่าจักรพรรดิโครงกระดูกสามารถย้ายร่างตัวเองเข้าสิงร่างโครงกระดูกตัวไหนที่อยู่ใต้อาณัติตนก็ได้ กันต์จึงใช้ให้ร่างแยกเดินเข้าไปใกล้ ๆ ศพของโครงกระดูกตนหนึ่ง เพื่อล่อให้จักรพรรดิทมิฬย้ายเข้าไปที่ร่างของโครงกระดูกตนนั้น
และมันก็เป็นไปตามแผนที่กันต์คาดไว้ทุกอย่าง
เหตุผลที่กันต์รู้ว่าจักรพรรดิทมิฬสามารถย้ายร่างตัวเองได้นั่นก็เพราะคาเรอัสเองก็เคยทำ เมื่อย้ายร่างไปแล้วร่างกายจะฟื้นฟูกลับมาในสภาพเดิม และไม่สามารถย้ายไปร่างอื่นต่อได้เป็นเวลาหลายนาที
และนั่นมันก็คือจุดบอดของทักษะนี้ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่สามารถใช้เพื่อกำจัดจักรพรรดิทมิฬได้
"โชคดีที่อาร์เซนถูกแก่นแท้ตะวันยอมรับ"
หากแก่นแท้ตะวันไม่ยอมรับอาร์เซนเป็นเจ้าของแล้วละก็จุดจบของเขาคงจะไม่ต่างอะไรกับจักรพรรดิทมิฬมากสักเท่าไหร่
[ยินดีด้วยผู้เล่นสามารถเอาชนะ ร่างแยกของจักรพรรดิปีศาจโครงกระดูกทมิฬได้สำเร็จแล้ว]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

741 ความคิดเห็น
-
#344 Fikusa (จากตอนที่ 164)วันที่ 10 เมษายน 2563 / 09:37แล้วถ้าอาร์เซนต้องสู้ในที่สูญญากาศแบบนี้ก็ไม่มีอะไรคอยช่วยบังคับลูกศรน่ะสิ#3441
-
#344-1 SuruMaster(จากตอนที่ 164)10 เมษายน 2563 / 11:13ก็ถ้าเป็นในสุญญากาศจริง พี่แกก็น่าจะใช้ทักษะของทางเผ่าคนแคระมากกว่านะครับ พอดีเป็นลูกครึ่ง#344-1
-