สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 161 : ภาค 2-บท 61 รวมตัวละคร

ที่มิติลึกลับแห่งหนึ่ง

อาร์เซนได้ปรากฏตัวขึ้นในมิตินี้ พร้อมกับบาดแผลที่ฟื้นฟูจนหายดีแล้ว เมื่อเขามาถึงก็ล้มตัวลงนอนทันที

"ให้ตายเถอะ ทำไมข้าต้องมาลำบากกับเรื่องพวกนี้ด้วย"

อาร์เซนเอ่ยพลางจ้องมองไปยังหน้าจอภาพฉายขนาดใหญ่ ซึ่งมันก็เป็นภาพที่ฉายตามเวลาจริงในมุมมองบุคคลที่ 3 ผ่านมุมมองของกันต์

และในตอนนี้มันก็กำลังฉายภาพให้เห็นกันต์ที่ทำกำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นวิหารทดสอบ

"ถ้าหากเจ้าทำงานนี้สำเร็จคล็อดคงต้องยกบ้านทั้งหลังให้เจ้าแน่" เสียงของเครกดังขึ้นจากด้านหลัง

ทันใดนั้นเองประตูมิติสีฟ้าก็ได้เปิดออก และปรากฏให้เห็นเครก เรล์ม เวรัค ที่ก้าวเดินออกมาจากประตูมิติ

"หึ ทองแท่งที่มันเอาให้ข้ายังไม่คุ้มกับงานที่ทำเลยสักนิด สุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะคำสาปตระกูลจอมมารอยู่ดี" อาร์เซนยังคงทำท่าทีเมินเฉยใส่พวกเขาทั้งสามคน

"คำสาปตระกูลจอมมาร เจ้าไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน" เครกเอ่ยถาม

"ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้สังหารจอมมารลง ล้วนจะมีอันเป็นไปในเวลาเพียงไม่กี่ปี ฉันเป็นคนบอกเขาเอง" เวรัคกล่าวขึ้นและใช้คทาของเธอเคาะเข้าไปที่ลำตัวของอาร์เซน ผู้ที่กำลังนอนอยู่

อาร์เซนที่โดนเคาะไปนั้นถึงกับรีบลุกขึ้นยืนและกุมไปที่หูทันที

"ยัยบ้านี่ ทำอะไรของเธ...."

ไม่ทันที่อาร์เซนจะได้พูดจบประโยคเขาก็ได้รู้สึกถึงวงเวทที่กำลังทำงานบนร่างกายของเขส

"มันเป็นเวทที่จะทำให้เราสามารถก้าวข้ามมิติไปหากันได้ ฉัน เครก เรล์มก็ใช้วิธีนี้เปิดประตูมิติมาหานาย"

เวรัคนั้นพยายามศึกษาระบบของสถานที่แห่งนี้ จนในที่สุดเธอก็สามารถทำลายกำแพงกั้นของประตูมิติ เพื่อให้เหล่าตัวละครสามารถไปหากันได้

"ก็ดี ข้าจะได้ทวงหนี้ง่ายหน่อย เรล์มอย่าลืมที่สัญญากันไว้ล่ะ"

ก่อนหน้าที่อาร์เซนจะได้ไปสอนวิชามีดสั้นให้กับกันต์นั้น เรล์มเป็นคนขอให้อาร์เซนโจมตีแบบไม่ต้องกลัวกันต์เจ็บและไม่ต้องยั้งมือด้วย

อันที่จริงอาร์เซนก็ตั้งใจจะสอนวิธีต่อสู้ให้กับกันต์อยู่แล้ว แต่สำหรับอาร์เซนนั้นเขาคิดว่ากันต์ยังมีความสามารถไม่มากพอ มันต้องค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นตอน

แต่พอได้มาลองเองแบบนี้อาร์เซนก็เข้าใจเลยว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา อาร์เซนจึงโชว์ฝีมือออกไปอย่างเต็มที่

ถ้าไม่ได้เรล์มขออาร์เซนไว้ กว่ากันต์จะขึ้นมามีฝีมือการต่อสู้ในระดับเดียวกับปัจจุบันนี้ คงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกนาน

เรล์มรู้ตัวดีว่ากันต์สามารถรับมืออาร์เซนที่เอาจริงได้เพราะตัวเขามีศักยภาพมากพอ

"เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่เคยพกเงินติดตัว" เรล์มตอบกลับ

"งั้นก็เอาดาบกลืนรัตติกาลของเจ้าไปจำนำแล้วเอาเงินมาให้ข้า"

"เจ้าก็รู้ว่าข้าสูญเสียดาบไปในระหว่างการต่อสู้กับเวลโดร"

"งั้นก็เอาชุดคลุมสำรองของเจ้าไปขายเสีย อย่างน้อยมันก็ยังเป็นชุดคลุมที่ไม่ธรรมดา"

ชุดคลุมที่ว่านั้น คือชุดคลุมที่กันต์เอาไว้ปลอมตัวเป็นเดสเพียร์ เพราะมันมีความสามารถในการดัดแปลงรุปลักษณ์ของผู้ใช้ และสามารถนำไปใช้ในการปลอมตัวได้เป็นอย่างดี

ถ้าหากให้เทียบแล้วมันก็อยู่ในระดับเดียวกับระดับตำนานเลยทีเดียว

"ข้ามอบให้กับเด็กคนนั้นไปแล้ว" เรล์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันเรียบเฉย

เครกที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปหยุดเรล์มและอาร์เซนทันที

"ใจเย็นก่อน เดี๋ยวข้าจะเป็นคนจ่ายให้เอง" เครกเอ่ยพลางเอามือวางบนไหล่ของทั้งสองคน

มันเป็นเวลานานมากแล้วที่ทั้ง 3 คนไม่ได้คุยกันมาอย่างเนิ่นนาน ถึงแม้ภายนอกพวกเขาจะดูเหมือนเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีและมีกริรยามารยาทดีต่อผู้อื่นอยู่เสมอ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วพวกเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกันดี ๆ นี่เอง

เวรัคที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลนั้นได้เปิดประตูมิติขึ้นมาอีกครั้ง แล้วจึงได้หายตัวไปจากมิติแห่งนี้

กลับไปที่กันต์ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา

ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้งและเอามือกุมไปที่หัวของตัวเอง

"นี่เรา เดินละเมอมารึไง" กันต์พุดขึ้นทันทีหลังจากที่ได้เห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบ

ในครั้งนี้กันต์ตื่นขึ้นมาที่หอสมุดลอยฟ้า ซึ่งระหว่างที่นอนอยู่เขาก็มีหนังสือที่ถูกเปิดออกเป็นหมอนให้

หนังสือเล่มที่ว่าคือหนังสือเกี่ยวกับคำสาป มันเป็นหนังสือที่รวมทุกคำสาปเอาไว้

แต่ทว่าหนังสือเล่มนี้กำลังเปิดหน้าที่มีหัวข้อว่าคำสาปตระกูลจอมมารอยู่ เพียงแต่ข้อมูลของมันนั้นกลับว่างเปล่า

กันต์แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่ามันจะมีอะไรในเกมนี้ที่เขาเคยพลาดไปด้วย

ไม่ว่าอะไรที่กันต์รู้หรือเคยพบเห็นในเกมมาก่อน มันมักจะถูกบันทึกลงในหนังสือของหอสมุดลอยฟ้า ถ้าข้อมูลของสิ่งนั้นว่างเปล่าก็หมายความว่า ตัวเขาไม่เคยได้พบกับมันนั่นเอง

"คำสาปตระกูลจอมมาร" กันต์ทวนคำพูดอีกครั้ง

อันที่จริงแล้วมันก็ยังคงมีคำถามอีกมากมายที่กันต์ยังคงสงสัย

ทำไมผู้กล้าที่ร่วมมือกันปราบจอมมารถึงไม่ได้ถูกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ แต่กลับมีแค่คล็อดคนเดียวที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นคนปราบจอมมาร

เครก เรล์ม เวรัค อาร์เซนหายไปไหน หรือจะเป็นเพราะคำสาปตระกูลจอมมารนี่กันแน่

ผู้ที่จะไขคำตอบให้เขาได้คงมีเพียงแค่เวลโดรและเหล่าตัวละครตัวอื่น ๆ เท่านั้น

[ประกาศแจ้งเตือน ประกาศแจ้งเตือน]

[ดันเจี้ยนระดับ 2 ถูกเปิดออกแล้ว]

[ภายในดันเจี้ยนนั้นมีของรางวัลมากมายและทองอีกนับไม่ถ้วน]

[ตัวละครที่ถูกห้ามใช้งานเครก เรล์ม]

[ในทุกภารกิจหรือการลงดันเจี้ยนและกิจกรรมต่าง ๆ จะมีตัวละครบางตัวที่ถูกปิดการใช้งานไปเพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์เล่นที่แตกต่างกันไป]

กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที เพราะในที่สุดดันเจี้ยนระดับ 2 มันก็ถูกเปิดใช้งานแล้ว

หลังจากนั้นกันต์ก็เลือกที่จะมุ่งหน้าไปยังห้องสำหรับเลือกตัวละคร

ตะเกียงไฟที่สว่างวูปภายในห้องยังคงเป็นแหล่งกำเนิกเสียงชิ้นเดียวเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

ในขณะนี้ชายหนุ่มกำลังคิดหนักเกี่ยวกับการเลือกเวรัค หรืออาร์เซน

เวรัคนั้นเป็นนักเวทที่มีการโจมตีที่รุนแรงมากก็จริง แต่ตัวเธอนั้นก็ไม่ได้พลิ้วอะไรมาก การถูกซุ่มโจมตีในระหว่างที่ไม่ได้ทันตั้งตัวก็อันตราย

แต่อาร์เซนเองนั้นมีความพริ้วและความเร็วหลบหลีกที่สูง พลังโจมตีก็รุนแรงอยู่ในระดับหนึ่ง

ถ้าให้พูดแล้วอาร์เซนเป็นตัวเลือกลงดันเจี้ยนที่เหมาะกว่าเวรัค หากคิดจะเล่นนักเวทก็ต้องมีผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง

"ฉันขอเลือกตัวละครอาร์เซน"

[ตัวละครอาร์เซนถูกเปิดใช้งานแล้ว]

[เริ่มต้นการลงดันเจี้ยนระดับ 2]