ตอนที่ 156 : ภาค 2-บท 56 เริ่มการตรวจสอบ
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ นายก็น่าจะรู้ตัวดีไม่ใช่รึไง” เล็กมองหน้ากันต์ด้วยสีหน้าท่าทางที่น่าเบื่อ
“ผิดแล้ว ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยต่างหาก” กันต์ตอบกลับไปด้วยสีหน้าอันสับสน
เท่าที่ชายหนุ่มจำได้ ชีวิตของเขาไม่เคยสงบเลยสักครั้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้
แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้พบกับรุ่นพี่ริสา และนั่นก็คือตอนที่ได้สู้กับตะขาบยักษ์ในเขตอุทยานของโรงเรียน
“นายไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจรึเปล่าละ ก็ตอนนี้นายมีศักดิ์เป็นรุ่นที่ 30 ของนักเรียนผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง”
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนสายตาจากเล็ก และกลับมามองที่นาฬิกาเรือนสีเงินบนข้อมือ
เขาจิ้มหน้าจอไปมาสักพักก่อนที่จะอ่านข้อความจากโรงเรียน ต่อจากครั้งล่าสุดที่ยังอ่านไม่จบ
ข้อความในจดหมายมีดังนี้ นายกันธศิลป์ สิริพงศ์ นักเรียนปี 1 รุ่นที่30 ของสายเรียนผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง
นักเรียนผู้เรียนรู้ด้วยตนเองนั้นจะต้องมีการรายงานความคืบหน้าทุกอาทิตย์ เพื่อตรวจสอบและประเมินศักยภาพการเรียนรู้
ผู้ตรวจสอบความคืบหน้า : นางสาวธัญพัฒน์ นาถขวัญยืน นักเรียนปี 4 รุ่นที่ 27 ของสายเรียนผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง
และจากนั้นมันก็ตามมาด้วยภาพถ่ายของบุคคลผู้หนึ่ง และใบหน้าของคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ซึ่งนั่นก็คือรุ่นพี่ริสานั่นเอง
รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น กันต์เอ่ยกับตัวเองในใจ
รุ่นพี่คงต้องการที่จะบอกหรือแนะแนวทางอะไรบางอย่างก่อนที่การตรวจสอบความคืบหน้าจะเริ่มขึ้น ผมไม่ได้ทำอะไรให้เธอโกรธอยู่แล้ว
“นั่นสินะ หลังจากนี้ก็ขอให้โชคดีแล้วกัน แต่ไม่ต้องกลัวไปรุ่นพี่เขาทำได้มากสุดแค่ตรวจสอบเท่านั้น คงเข้าไปยุ่มย่ามอะไรกับชีวิตนายไม่ได้มาก” เล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะตักอาหารเข้าปากไปอีกคำ
ณ สนามประลองของนักเรียนสายกายภาพกึ่งเวท
สนามประลองปกติแล้วนั้นก็แทบจะไม่มีใครมาใช้เลย เหตุผลหลัก ๆ คือมันเปิดโล่งและกว้างมากเกินไป บางคนที่ต้องการความส่วนตัวก็จะไปที่อื่น
แต่ในวันนี้มันเป็นวันหนึ่งที่มีเหตุผลพิเศษมากกว่าวันอื่น ๆ
เมื่อกันต์เดินทางมาถึงยังหน้าทางเข้าสนามประลองนั่นเอง
สายตาของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเกราะเบาสีเงิน
ใช่แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คือรุ่นพี่ริสานั่นเอง เพียงแต่เป็นตอนที่เธอถอดเสื้อออกเหลือให้เห็นเพียงเกราะเบาสีเงิน
“ช่วงเช้านายไปทำอะไรมา” ริสาเอ่ยถามในขณะที่เธอกำลังยืดเส้นยืดสายร่างกาย
กันต์เดินขึ้นไปบนสนามประลองและกล่าวตอบ “ผมเผลอนอนหลับนานเกินไปเท่านั้นเองครับ แต่รุ่นพี่เรียกผมมาที่นี่มีเรื่องอะไรเหรอครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะเขาไม่ได้กังวลใจอะไรมากอยู่แล้ว รุ่นพี่คนนี้อาจจะทำให้คนอื่นกลัวได้แต่ไม่ใช่กับเขา
“นายน่าจะรู้ตัวดีว่าฉันคือผู้ตรวจสอบความคืบหน้า ถ้านายมีความคืบหน้าในการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ นายจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นนักเรียนที่ต้องจัดตารางเรียนตามปกติ”
กันต์ที่ได้ยินดังนั้นก็ทำได้เพียงแค่เงียบกลับ และไม่พูดอะไรต่อ
“ต่อสู้หลังจากทานอาหารทำได้ไหม?” รุ่นพี่ริสาเอ่ยถามพร้อมกับหันตัวหลับมามองที่กันต์
“ได้ครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่” คำถามนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนกันต์กำลังโดนท้าทาย
ดูเหมือนว่ากันต์จะได้นิสัยส่วนหนึ่งมาจากท่านจอมมารเวลโดร ซึ่งมันก็คือนิสัยรักการท้าทายและความตื่นเต้น
“งั้นไปวิ่งรอบสนามประลองนี้ 10 รอบให้เร็วที่สุดและห้ามเดิน”
คำสั่งของรุ่นพี่ริสาถึงกับทำให้กันต์งงไปชั่วขณะ
“แล้วไม่ตรวจสอบด้วยเลเวลเหรอครับ?” กันต์ถาม
“เลเวลมันบอกทุกอย่างไม่ได้” รุ่นพี่ตอบกลับสั้น ๆ
ถึงคำพูดของรุ่นพี่ริสาอาจจะดูเหมือนว่าจะดี แต่อันที่จริงแล้วเธอคงต้องการข้อมูลที่ชัดเจนและแน่นกว่านี้
กันต์ไม่รอช้าเดินลงจากสนามประลองและเริ่มวิ่งทันที สำหรับกันต์แล้วการวิ่งรอบสนามประลองที่มีระยะทางรวมทั้งสิ้นเพียง 96 เมตรเท่านั้น
ถ้าวิ่ง 10 รอบนั่นก็หมายความว่ากันต์ต้องวิ่งทั้งหมด 960 เมตรด้วยกัน
“3 นาที” รุ่นพี่ริสากล่าวขึ้นหลังจากที่กันต์วิ่งครบ 10 รอบแล้ว
“แล้วจะให้ทำอะไรต่ออีกครับรุ่นพี่ ?”
การวิ่งประมาณหนึ่งกิโลเมตรใน 3 นาทีนั้นแทบจะไม่ทำให้กันต์เหนื่อยเลยสักนิด เพราะระบบและจังหวะการหายใจที่ยอดเยี่ยม ซึ่งถูกสอนโดยอาจารย์เรล์ม และอาจารย์เครก
หลังจากนั้นกันต์ก็ถูกทดสอบร่างกายด้วยวิธีต่าง ๆ นานามากมาย โดยมีรุ่นพี่ริสาค่อยเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา
แต่ก็มีแค่ไม่กี่การทดสอบเท่านั้นที่รุ่นพี่ริสาลงมาทดสอบกันต์ด้วยฝีมือของเธอเอง
ส่วนเหตุผลที่เธอถอดเสื้อนอกทีเป็นเครื่องแบบของโรงเรียนออก นั่นก็เป็นเพราะเธอกลัวมันจะเปียกเหงื่อหรือเปื้อนคราบสกปรกระหว่างการทดสอบ
และแล้วมันก็มาถึงการทดสอบอย่างสุดท้าย
“คอยหลบการโจมตีของฉันให้ดี” ริสาเอ่ยพลางตั้งท่าโจมตี
ของเหลวสีขาวค่อย ๆ ไหลไปรวมกันที่มือของเธอและเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเรเปียร์สีขาวบริสุทธิ์
กันต์ที่เห็นดังนั้นก็เริ่มเหงื่อตกทันที เรเปียร์สีขาวนั่นมันช่างคุ้นเคยยิ่งนักเขาจำได้ว่าตนเคยหลบมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
สายตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังปลายหอกของเรเปียร์สีขาว
ตอนนี้ทักษะสัมผัสเวทของเรล์มได้บอกเขามาว่า รุ่นพี่ริสามีเลเวลประมาณ 65 แล้ว
“ถ้าเกิดหลบไม่พ้น รุ่นพี่จะแทงผมจริงหรอครับ” กันต์เอ่ยถาม
ตอนนี้เขามีเลเวลแค่35 เท่านั้น ถึงจะมีทักษะสัมผัสเวทของเรล์มเข้าช่วยก็ใช่ว่าจะรอดได้ง่าย ๆ
“ไม่ต้องกังวลฉันจะลดความเร็วลงให้เหลือเท่ากับเลเวลของนาย”
คำตอบของรุ่นพี่ริสานั้นหาใช่สิ่งที่กันต์ต้องการไม่ ที่เขาต้องการคือรุ่นพี่จะแทงจริงหรือยั้งมือไว้
จริงอยู่ที่กฎโรงเรียนก็ระบุไว้ว่าห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายกัน แต่ดูท่าแล้วรุ่นพี่คนนี้จะไม่สนใจกฎอะไรนั่นสักเท่าไหร่
ทันใดนั้นเองเรเปียร์สีขาวก็แทงออกมาอย่างต่อเนื่องในระดับความเร็วของมนุษย์ปกติที่มีเลเวล 35
แต่กันต์ก็รู้ตัวดีว่ารุ่นพี่ริสาต้องไม่หยุดแค่ที่เลเวล 35 แน่ เธออาจจะต้องการทดสอบขีดความจำกัดความสามารถของเขาก็เป็นได้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

741 ความคิดเห็น
-
#494 pppoommn (จากตอนที่ 156)วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 / 10:18โดนเล่นเเล้ววว#4941
-
#494-1 SuruMaster(จากตอนที่ 156)11 พฤษภาคม 2563 / 18:23เสมออะครับ#494-1
-
-
#329 Fikusa (จากตอนที่ 156)วันที่ 2 เมษายน 2563 / 10:32ต้องหาทางแพ้แบบเนียนๆอีก เห้อ เจอริสาทีไรได้ปวดหัวทุกที ฮ่าๆๆๆๆ#3291
-
#329-1 SuruMaster(จากตอนที่ 156)2 เมษายน 2563 / 12:53555 มันเป็นเวรเป็นกรรมของพระเอกนะครับ#329-1
-