ตอนที่ 143 : ภาค 2-บท 43 ราชาก็อบลิน
“แต่นายท่าน…” คาเรอัสรีบแย้งขึ้นมาทันที
ไม่ทันที่คาเรอัสจะได้พูดจบเวลโดรก็ตัดบทสนทนาไปในทันที “เป็นแค่ราชาก็อบลินแต่คิดจะทำร้ายข้า พวกมันคงจะรู้ตัวดีว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร”
เมื่อกล่าวจบเวลโดรก็เดินนำออกไปหน้ากองทัพ
ราชาก็อบลินผู้ที่สูงกว่า 2 เมตรครึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระบองหินขนาดใหญ่ในกำมือ
“ข้ารู้ว่าเจ้าคือจอมมารลำดับที่ 3 เวลโดร เจ้ามีธุระอะไรกับเมืองของข้า” ราชันก็อบลินประกาศกร้าว
เวลโดรเริ่มย่างเท้าไปข้างหน้าช้า ๆ และหยุดลงต่อหน้ากองกำลังก็อบลินนับหมื่น
“ข้าต้องการให้เผ่าก็อบลินของเจ้ายอมเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อข้า เพื่อกลืนกินโลกใบนี้อีกครั้งดังเช่นพันปีที่แล้ว”
ราชันก็อบลินที่ได้ยินดังนั้นก็พ่นลมออกจมูกเสียงดังทันที
“พวกเจ้าก็ทำสงครามมากมายครั้งไม่ถ้วนก็ไม่มีวี่แววจะชนะได้สักที เผ่าของข้าต้องจมอย่กับการถูกใช้งานอย่างหนักและต้องคอยเป็นโล่ให้พวกเจ้า เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าเผ่าก็อบลินของข้าต้องสูญเสียทหารก็อบลินในสงครามมากแค่ไหน”
เวลโดรที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มคิดและเงยหน้ามองไปยังภายในดวงตาของราชันก็อบลิน
“ข้าจะให้คำมั่นสัญญาว่าเผ่าของเจ้าจะมีการสูญเสียที่น้อยลงในสงครามครั้งนี้”
“พอกันที!ข้าไม่ไว้ใจพวกจอมมารอีกแล้ว ถ้าอยากให้เผ่าของข้าสวามิภักดิ์แก่เจ้าก็ผ่านศพข้าไปก่อน”
ราชันก็อบลินเดินออกมาข้างหน้าด้วยร่างกายที่ใหญ่โต เมื่อเดินมาถึงหน้าเวลโดรแล้วมันก็แสดงให้เห็นได้ชัดถึงความต่างของขนาดร่างกาย
เวลโดรนั้นสูงเพียงแค่ 180 เซนติเมตรเท่านั้น ร่างกายก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก ทำให้เวลโดรถูกข่มในเรื่องขนาดร่างกาย
กองทัพก็อบลินที่เห็นดังนั้นก็พากันเงียบและเฝ้าระวังสถานการณ์โดยรอบด้วยความหวาดกลัวครึ่งไม่กลัวครึ่ง
พวกมันมีกองทัพที่มากกว่าเวลโดรถึง 2 เท่า และราชันที่แข็งแกร่งพวกมันจะไปแพ้ได้ยังไง
“มีเลเวลเพียง 90 ก็เหิมเกริมคิดจะขวางทางข้า ช่างเป็นพวกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียจริง”
ราชันกอบลินที่เห็นเวลโดรยืนนิ่งก็นึกสนุกอยากลองสู้กับจอมมารขึ้นมา
“ข้าเองก็อยากรู้นักว่าพวกจอมมารจะมีน้ำยามากแค่ไหน”
ราชันก็อบลินคนปัจจุบันนั้นพึ่งกำเนิดขึ้นมาได้ไม่กี่ร้อยปี เขาจึงไม่เคยเห็นจอมมารเวลโดรมาก่อนและไม่รู้ถึงฝีมือทักษะการต่อสู้ด้วย
ราชาก็อบลินไม่รอช้าเหวี่ยงกระบองหินเข้าเตรียมทุบจอมมารเวลโดรทันที
“เจ้ามนุษย์ห้ามสังหารมัน ทำให้บาดเจ็บเจียนตายก็เพียงพอแล้ว” จิตใต้สำนึกของเวลโดรเอ่ยขึ้น
กันต์รู้สึกได้ถึงความอำมหิตผ่านนำเสียงของจิตใต้สำนึกจอมมารเวลโดรอย่างชัดเจน สงสัยว่าวันนี้ทั้งวันจอมมารเวลโดรคงได้พิโรธไม่เว้นแม้แต่วินาทีเดียวแน่
ในชั่วพริบตาก่อนที่กระบองหินจะลงทุบหัวเวลโดรนั่นเอง ร่างของราชาก็อบลินก็ล้มลงและไถลไปกับพื้น
ปรากฏให้เห็นร่างของคาอัสที่ยืนอยู่เคียงข้างเวลโดร
เมื่อกี้ก่อนที่กระบองจะถึงตัว คาอัสก็พุ่งเข้ามาและกวาดดาบเข้าโจมตีใส่กลางอกของราชันก็อบลิน
คาอัสที่เห็นราชันก็อบลินล้มลงกับพื้นก็เข้ากระทืบต่อทันที
คาอัสใช้มืออีกข้างกุมคอของราชันก็อบลินและยกขึ้นมาเหนือพื้นดิน
ร่างของราชันก็อบลินที่สูงกว่า 2 เมตรครึ่งก็ยังเตี้ยเมื่อต้องเจอกับคาอัสที่สูงถึง 3 เมตร
ราชันก็อบลินยังคงไม่ยอมแพ้ เขาใช้แรงทั้งหมดที่เหลือหวดกระบองเข้าฟาดใส่หน้าโครงกระดูกของคาอัสอย่างแรง
ทันใดนั้นเองกระบองหินในมือของราชันก็อบลินก็ถึงกับแตกกระจายพร้อมกับเศษหินที่ร่วงหล่นลงกับพื้น
แต่ทว่าร่างกายของคาอัสแทบไร้ซึ่งรอยขีดข่วน นั่นจึงสร้างความหวาดกลัวไปทั้งกองทัพก็อบลิน
“คาอัสวางร่างของมันลง” เวลโดรออกคำสั่ง
คาอัสที่ได้ยินดังนั้นก็หันหลังกลับมาที่เวลโดรและกระแทกหน้าของราชันก็อบลินลงพื้น พร้อมกับคุกเข่าลงไป
ร่างของราชันก็อบลินที่โดนกดลงพื้นนั้นพยายามดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน แรงบีบของคาอัสไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้
“เจ้าอยากตายตรงนี้ต่อหน้าเผ่าก็อบลินอันเป็นที่รักของเจ้าโดยฝีมือของข้าหรือคาอัส”
“ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าถูกความโลภบังตา ข้าจะเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน” ราชันก็อบลินเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
ไม่ว่าจะยังไงราชันก็อบลินก็ยังคงมีประโยชน์ ต่อให้ฆ่าไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาตามที่จิตใต้สำนึกของเวลโดรบอก
“คาอัสปล่อยมัน” เวลโดรออกคำสั่ง
มือโครงกระดูกของคาอัสกุมแน่นไปที่คอของราชันก็อบลินอีกสักพักก่อนที่จะปล่อยตามคำสั่งของเวลโดร
ราชันก็อบลินลุกขึ้นและนั่งคุกเข่าต่อหน้าเวลโดร ในขณะเดียวกันก็เหลือบตามองไปที่คาอัสด้วย
เจ้าโครงกระดูกนี่มันเป็นใครกัน ทำไมมันถึงได้มีเลเวลสูงนัก ถ้าแข็งแกร่งถึงเลเวล 97 จริงทำไมถึงยอมมาอยู่ใต้บัญชาของจอมมารเวลโดรที่มีเลเวลแค่ 90 ได้ล่ะ
หรือว่า อันที่จริงแล้วท่านจอมมารเวลโดรต้องการปกปิดเลเวลที่แท้จริงเพื่อทดสอบเรา ราชันก็อบลินคิดในใจ
แต่ไม่ว่าราชันก็อบลินจะคิดไปมากเท่าไหร่มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเพราะเขากำลังรู้สึกได้ถึงจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวที่ส่งตรงมายังตัวเขา
มันเป็นจิตสังหารที่มากพอจะทำให้คนธรรมดาเสียสติไปได้ ใครกันที่มีติตสังหารอันน่าหวาดกลัวนี้
ราชันก็อบลินเริ่มกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้งและเขาก็ได้พบกับนักรบปีศาจโครงกระดูกตนหนึ่งในชุดเกราะสีดำเต็มยศที่กำลังจ้องมาด้วยสายตาอาฆาต ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีดวงตาก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน
เลเวล 95 ??? จอมมารเวลโดรมีอำนาจมากมายถึงเพียงไหนกันแน่ ถูกผนึกไว้เป็นพันปีแต่ยังคงมีลูกน้องที่มีเลเวลสูงเช่นนี้อยู่ใต้บัญชา
นี่นะหรือผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าราชันจอมมารที่แท้จริง ต่อให้เวลาผ่านไปนับพันปีอำนาจบารมีก็ยังคงอยู่
“ข้าราชันก็อบลินขอให้คำมั่นสัญญาว่าเผ่าพันธุ์ก็อบลินของเราจะเข้าร่วมกับท่านจอมมารลำดับที่ 3 เวลโดร”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

741 ความคิดเห็น
-
#330 Tataros (จากตอนที่ 143)วันที่ 2 เมษายน 2563 / 10:58ไรท์ครับเวรัคจริงๆแล้วยังมีชีวิตใช้ป่าวครับสังเกตมาจากคำทำนายที่เทพพูดเวรัคจะคืนชีพ เจเรตพูดว่าที่นั้นมีมนุษสองคน แลัที่กันเห็นเงาคนพร้อมทั้งกานเห็นเวรัคมาหา#3301
-
#330-1 SuruMaster(จากตอนที่ 143)2 เมษายน 2563 / 12:52ก็ลองเดาดูครับ แต่เอาจริงๆเวรัคยังไม่เคยตายครับ แค่โดนผนึก#330-1
-
-
#300 Ramiel D gleam (จากตอนที่ 143)วันที่ 20 มีนาคม 2563 / 11:49ยอมแค่แรกก็ตบแล้วพันปีกับร้อยปีนับยังไงพันปีก็ชนะ ราขาก้อบลินคิดไรอยู่ว่ะ#3001
-
#300-1 SuruMaster(จากตอนที่ 143)20 มีนาคม 2563 / 17:33เป็นความคิดแบบก็อบลินครับ555#300-1
-
-
#299 Fikusa (จากตอนที่ 143)วันที่ 20 มีนาคม 2563 / 09:34อยากรู้จริงๆถ้าวัดเลเวลเทพเจ้าได้จะวัดสเกลกันยังไง#2991
-
#299-1 SuruMaster(จากตอนที่ 143)20 มีนาคม 2563 / 17:32แต่ที่แน่ๆพวกเขาไม่ใช้หน่วยเลเวลครับ555#299-1
-