ตอนที่ 135 : ภาค 2-บท 35 กลับสู่บ้านเก่า
ในเวลาต่อมาพวกเขาทั้งคู่จึงตัดสินใจกลับไปยังที่เดิม
โลงศพที่ข้ามมิติมาพร้อมกับเวลโดรนั้นยังคงตั้งตระหง่านเช่นเคย
ทั้งคู่ต่างสงสัยเรื่องของกันและกัน แต่ไม่มีใครคิดจะถามอะไรทั้งสิ้นเพราะข้อตกลงที่ได้วางไว้
“ข้าพร้อมแล้ว เจ้าอยากให้ข้าทำอะไร?” สตรีหน้ากากแดงเอ่ยถาม
เวลโดรที่ได้ยินดังนั้นก็เรียกผนึกศักดิ์สิทธิ์ออกมาและยื่นให้กับหญิงสาว
“ใช้มันผนึกข้าตรงนี้” เวลโดรกล่าวด้วน้ำเสียงที่หนักแน่น
“เจ้ามั่นใจแล้วงั้นรึ?”
“มันเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ” เวลโดรกล่าวย้ำอีกครั้ง
สตรีหน้ากากแดงรับผนึกศักดิ์สิทธิ์จากเวลโดรเข้ามาไว้ในมือ
สายตาของเธอนั้นดูเหมือนจะเศร้าใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะเป็นการมองผ่านจากหน้ากากเวลโดรก็พอจะมองออก
“ข้าพร้อมแล้ว” เวลโดรเอ่ยพร้อมกับเดินไปยืนหน้าโลงศพที่ถูกล่ามด้วยโซ่สีทอง
กันต์ต้องการให้ร่่างของเวลโดรและโลงศพปริศนานี้ถูกผนึกไปพร้อมกัน เพื่อระวังไม่ให้มันถูกนำปไทำอะไรบางอย่างที่เขาไม่รับรู้ ในช่วงที่กลับไปร่างต้น
สตรีหน้ากากแดงเริ่มการบีบอัดมานาและส่งผ่านเข้าไปยังภายในผนึกศักดิ์สิทธิ์
ลูกโลกสีทองขนาดเท่ากำมือเริ่มลอยเหนือมือของหญิงสาว วงแหวนสีทองทั้ง 2 เริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว
“ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนเคยได้พบกับเจ้ามาก่อน?” สตรีหน้ากากแดงเอ่ยถาม
ลูกโลกสีทองเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นและเริ่มสร้างผนังกำแพงสีดำรอบ ๆ ตัวเวลโดร
“ข้าเป็นแค่คนที่ผ่านมาแล้วเผลอช่วยชีวิตเจ้าไว้เท่านั้น เจ้าอาจจะอยากตอบแทนบุญคุณของข้าอีก”
กำแพงเริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงแค่บริเวณส่วนหัวของเวลโดรที่ยังไม่ได้ปิด
“มันนานเป็นพันปีแล้วที่ข้าไม่ได้พูดกับใคร เจ้าเป็นคนแรกของข้า” สตรีหน้ากากแดงพึมพำเบา ๆ
“ครึก” เสียงของผนึกที่ปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์ได้ดังขึ้น
จอมมารเวลโดรได้ถูกผนึกไว้ในผนึกศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหลังจากที่ออกมาได้เพียงไม่นาน
สตรีหน้ากากแดงจ้องมองผนึกสีทองขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เธอดึงหน้ากากออกมาและวางทิ้งไว้บริเวณหน้าจุดผนึก
"หลังจากนี้เจ้ากับข้าคงต้องกลายเป็นคนแปลกหน้า ที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จักชื่อของกันและกัน"
หญิงสาวกล่าวลาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่จะเดินจากถ้ำแห่งนี้ไป เหลือทิ้งไว้เพียงหน้ากากร้าวสีแดงเก็บไว้เป็นความทรงจำ
ที่ห้องโถงหลักของระบบ
[ยินดีด้วย ระบบปรับปรุงเสร็จสิ้นแล้ว]
[ภารกิจตรวจสอบการปรับปรุงระบบ-ผู้เล่นต้องตรวจสอบและตามหาสิ่งที่เปลี่ยนไปในระบบ]
ผมรู้ได้ทันทีว่าความบันเทิงกำลังจะมาแล้ว ระบบมันมักยัดเหยียดอะไรที่ไม่ธรรมดามาให้เสมอ
จะว่าไปแล้วห้องโถงระบบนี่ก็ไม่ได้มาเสียตั้งนาน
ผมเลือกที่จะเดินไปยังโต๊ะไม้กลางห้อง ซึ่งบนโต๊ะนั้นก็มีหนังสือเล่มเก่าวางอยู่
ใช่แล้วถ้ายังจำกันได้คือมันคือหนังสือที่เอาไว้ดูค่าสถานะตัวละคร ตรวจสอบเลเวล
เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้หนังสือก็เปิดออกด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ
[ระบบเลเวลทั้งหมดถูกปรับแล้ว-ตัวละครทุกตัวจะมีเลเวลที่เท่ากันและเมื่อเพิ่มเลเวลให้ตัวละครหนึ่ง ตัวละครที่เหลือก็จะได้ด้วย]
[ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นตัวละครไหนที่ถูกปลดล็อคมาก็จะมีเลเวลเท่ากันทั้งหมด]
[ในกรณีของจอมมารเวลโดรนั้นทางระบบได้ปิดการใช้งานตัวละครเรียบร้อยแล้ว ตัวละครเวลโดรจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อผู้เล่นมีเลเวลผู้เล่นที่เหมาะสม]
[เนื่องจากความผิดพลาดของระบบ ทางระบบจึงขอยกเลิกภารกิจปลดล็อคตัวละครเวลโดรและมอบของรางวัลให้ฟรี]
นั่นเท่ากับว่าผมไม่สามารถเลือกเล่นตัวละครจอมมารได้อีก
[ในระหว่างที่ระบบปิดปรับปรุงนั้นผู้เล่นได้ทำการผจญภัยด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีการรายงานเข้าเป็นช่วง ๆ]
[ผู้เล่นได้ดื่มโลหิตมังกรขาวนั่นจึงทำให้ผู้เล่นได้รับเลเวลเพิ่มขึ้น 5 เลเวล (การเพิ่มเลเวลตัวผู้เล่นจะไม่เกี่ยวกับการเพิ่มเลเวลของตัวละคร)]
นั่นหมายความว่าต่อให้ผมหรือร่างต้นไปฝึกให้เลเวลสูงแค่ไหน พวกตัวละครก็จะเลเวลเท่าเดิม ไม่ได้เกี่ยวกัน
[ในระหว่างที่ระบบปิดตัวไปผู้เล่นได้ทำตามคำขอของตัวละครและทำภารกิจลับเสร็จสิ้น]
[เงินรางวัลทั้งหมดของผู้เล่นคือ 4,000 ทอง]
เมื่อเสียงในหัวสิ้นสุดลง หน้าจอสีฟ้าคล้ายโฮโลแกรมก็เด้งขึ้นมาจากหนังสือเป็นข้อความว่า
[ร่างต้นกันต์ (กันธศิลป์ สิริพงศ์)-เลเวล 32 (ค่าประสบการณ์ 0%)]
ดูเหมือนในช่วงที่ผมเล่นเป็นเวลโดรทักษะการต่อสู้ของผมก็เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย จึงทำให้กลายเป็นเลเวล 32
[เลเวลตัวละคร-เลเวล 60 (ค่าประสบการณ์ 0%)]
[เพิ่มเลเวล 1 เลเวลให้ตัวละคร-500 ทอง]
[เพิ่มเลเวลทักษะทุกตัวละครเป็นระดับ 6 –1,000 ทอง]
ในตอนนี้ผมมีเงินทั้งหมด 4000 ทองด้วยกัน ซึ่งมันเป็นผลลัพธ์จากการกระทำทั้งหมดในช่วงที่ระบบปิดปรับปรุง แน่นอนว่าการที่เลเวลของตัวละครขึ้นมาเป็น 60 ก็ด้วย
"ยกระดับทักษะตัวละครเป็นระดับ 6 ให้หมด"
[ยินดีด้วยระดับทักษะของทุกตัวละครกลายเป็นระดับ 6 แล้ว เงินรางวัลของผู้เล่นคงเหลือ 3,000 ทอง]
หลังจากสิ้นธุระในส่วนนี้แล้ว กันต์จึงเลือกที่จะไม่สนใจหนังสือกลางโต๊ะ เขาเดินออกห่างและมุ่งหน้าไปยังห้องของผู้แลกเปลี่ยนข้ามมิติทันที
ในระหว่างทางที่กันต์กำลังเดินไปนั่นเอง เสียงอันน่าคุ้นเคยก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงพูดที่ดังขึ้นก่อนที่ตัวเขาจะเดินไปถึงเสมอ
“ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะครับคุณลูกค้า”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนใจรับขนมจีบกับซาลาเปาไหม ครับ ไม่ใช่ละ 55 แม่นางเป็ยใครกันนะ?