สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 130 : ภาค 2-บท 30 ผู้สาบสูญ

ทันใดนั้นเองร่างของปีศาจโครงกระดูกที่สูงกว่า 3 เมตรได้เดินฝ่ากองทัพร่างเงานักรบออกมา

ปีศาจโครงกระดูกตนนี้กำลังลากดาบเหล็กที่เก่าและใกล้จะผุพังไปกับพื้น

จิตใต้สำนึกของเวลโดรที่เห็นดังนั้นก็พูดออกมาทันที 

“เจ้านั่นข้ารู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”

ทันใดนั้นเองเบ้าตาอันว่างเปล่าของโครงกระดูกก็สว่างวูปเป็นแสงสีเขียวออกมา

ดวงไฟสีเขียวที่ถูกจุดขึ้นเริ่มกระพริบและสั่นไหวชวนให้รู้สึกหวาดผวา

ดาบเหล็กสีเงินขนาดใหญ่เกือบ 2 เมตรได้เหวี่ยงลงมาอย่างรวดเร็ว

เวลโดรรีบกระโดดออกมาจากจุดเดิมที่เขายืนทันที

“ตึงงง” เสียงของดาบขนาดใหญ่ที่ฟันลงพื้นเต็ม ๆ ได้ดังขึ้น

ผลจากการโจมตีพลาดของโครงกระดูกทำให้เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่บนพื้นถ้ำ

เหล่านักรบร่างเงาบางตนก็โดนลูกหลงจากการโจมตีของโครงกระดูกจนสลายไป

หลังจากนั้นไม่นานพวกนักรบเงาก็สลายตัวและแยกย้ายกันหายไปจากบริเวณปะทะทันที

โครงกระดูกยักษ์ร้องคำรามออกมาและกุมดาบใหญ่ด้วยมือทั้ง 2 ข้าง เพื่อกวาดดาบโจมตี

“เจ้านี่มันมีเลเวล 97 อย่าประมาท” หญิงสาวหน้ากากแดงร้องเตือนออกมา

แต่ดูเหมือนความหวังดีของเธอจะส่งไปไม่ถึงเวลโดร เพราะในตอนนี้เขากำลังจ้องหน้าของโครงกระดูกยักษ์อยู่

         ก่อนที่โครงกระดูกจะกวาดดาบโจมตีนั่นเอง ทั้งจิตใต้สำนึกของเวลโดรและกันต์ก็คิดขึ้นมาพร้อมกันทันที

“คาอัส”

คาอัสคือชื่อของผู้นำกองพันปีศาจลำดับที่ 4 ภายใต้การปกครองของจอมมารเวลโดร เมื่อพันปีก่อน

เดิมทีเขาเป็นเผ่าโอเกอร์ที่มีทักษะการต่อสู้อันแข็งแกร่งพร้อมกับร่างกายอันยักษ์ใหญ่

แต่เรื่องน่าเศร้าก็ได้เกิดขึ้นเมื่อคาอัสต้องการได้รับคำสาปอมตะเหมือนที่เวลโดรเคยได้มา

ใช่แล้วคาอัสคือคนที่ฝ่าฝืนคำเตือนของเวลโดรเกี่ยวกับประตูมิติข้ามภพเมื่อพันปีที่แล้วนั่นเอง

เขาจึงทำการเปิดประตูมิติข้ามภพและหายตัวไปตามที่เคยเล่าเอาไว้

แต่อยู่ ๆ คาอัสกลับมาปรากฏตัวที่นี่ในสภาพที่สะบักสะบอมและไร้สติ แถมยังแข็งแกร่งกว่าเดิม

แต่เรื่องที่น่าตกใจที่สุดคือคาอัสกลับกลายเป็นปีศาจโครงกระดูก เขาไปเจออะไรในประตูมิตินั่นกันแน่ ทั้งกันต์และเวลโดรต่างอยากรู้ในสิ่งเดียวกัน

ด้วยเลเวลที่สูงกว่าของคาอัสจึงทำให้เขาได้เปรียบเวลโดรทั้งในด้านพลังโจมตีและความเร็ว

ดาบเหล็กอันคร่ำครึของคาอัสตวัดเข้าโจมตีใส่ด้านข้างลำตัวของเวลโดรเต็ม ๆ

พละกำลังอันมากมายมหาศาลของคาอัสสามารถส่งร่างของเวลโดรปลิวกระเด็นชนผนังถ้ำได้อย่างง่ายดาย

“ครืน ครืน” เสียงของเศษหินและฝุ่นที่สั่นสะเทือนและร่วงหล่นจากเพดานถ้ำได้ดังขึ้น เพราะผลจากการที่ร่างของเวลโดรพุ่งชนผนังถ้ำ

“เคร้ง” เสียงของดาบสามเล่มที่เข้าปะทะกันทำให้เกิดเสียงแสบแก้วหู

ดาบคู่สีแดงของหญิงสาวหน้ากากแดงกำลังช่วยกันแบกรับการโจมตีจากคาอัสที่ฟาดดาบลงมา

คาอัสที่เห็นดังนั้นก็คำรามออกมาและเพิ่มแรงกดาบลงไปอีก

 ในขณะเดียวกันนั่นเองซี่โครงกระดูกบริเวณช่องท้องของคาอัสก็เริ่มเปิดออกอย่างรวดเร็ว

หนามสีขาวที่เกิดจากการรวมตัวของกระดูกได้พุ่งทะลุออกมาจากช่องอกที่เป็นกระดูกของคาอัส

หญิงสาวในหน้ากากแดงรีบเบี่ยงตัวหลบหนามที่พุ่งเข้ามาและร่ายเวท

ดาบทั้ง 2 เล่มในมือของเธอเริ่มลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง แต่ทว่าเพลิงเหล่านั้นกลับไม่สามารถทำอะไรดาบเล่มใหญ่ในมือของคาอัสได้

สตรีหน้ากากแดงถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ มันเป็นไปได้ยากมากที่เวทนี้จะไม่มีผลเพราะดาบเล่มนี้เป็นถึงระดับตำนาน

การที่จะมีอาวุธที่ทนทานต่อการโจมตีของอาวุธระดับตำนานได้ก็ต้องเป็นอาวุธระดับที่สูงกว่าเท่านั้น

แต่เจ้าโครงกระดูกเบื้องหน้าของเธอนี้ไปเอามาจากที่ไหนกันของหายากขนาดนั้น

คาอัสยกดาบขึ้นอีกครั้งและเตรียมตัวที่จะฟาดดาบลงไป

สตรีในหน้ากากแดงสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดเกี่ยวกับอาวุธออกไปและเตรียมตัวถอยหลังหนีทันที

แต่ทว่านั่นก็ไม่ทันแล้ว ที่ใต้ฝ่าเท้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยหนามโครงกระดูกสีขาว พวกมันกำลังพันธนาการเท้าของเธอไว้ไม่ให้ขยับไปไหน

คาอัสได้ร่ายเวทเตรียมรอไว้นานแล้ว มันยังคงมีสติปัญญามากพอจะเดาการเคลื่อนไหวของเหยื่อออก

หนามของโครงกระดูกแทงทะลุเข้าไปในผิวกายของเธอและส่งผ่านพิษเข้าไปในร่าง

มันเป็นพิษหนามกระดูกที่ทำให้เหยื่ออ่อนกำลังลงและถ้ายังโดนพิษนี่เข้าไปเพิ่มมากกว่าเดิม สุดท้ายเหยื่อก็จะเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง

สตรีในชุดแดงพยายามแทงมีดลงไปที่หนามกระดูก และเผาพวกมันด้วยเวทไฟที่ติดมากับตัวดาบ

ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าร่างของเธอจะถูกเผาไปด้วยหรือไม่ เพราะถาคาอัสโจมตีเข้ามาอีกครั้งนั่นคงหมายถึงความตาย

เธอยังหนีไปไหนไม่ได้และไม่มีแรงมากพอจะรับการโจมตีของคาอัส นั่นจึงทำให้ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจของหญิงสาว

คาอัสคำรามออกมาและฟาดดาบลงไปอีกครั้ง

“เคร้ง” เสียงของดาบที่เสียดสีเข้ากับกรงเล็บได้ดังขึ้น

จอมมารเวลโดรปรากฏตัวเบื้องหน้าของหญิงสาวและใช้มือเพียงข้างเดียวรับดาบที่โจมตีเข้ามาของคาอัส

มือของเวลโดรกุมไปที่ใบดาบเล่มใหญ่และออกแรงกด จนกระทั่งดาบเล่มใหญ่เริ่มปรากฏให้เห็นรอยร้าวอย่างชัดเจน