สลับตัวละครเพื่อครองโลก-Switch characters to control the world

ตอนที่ 102 : ภาค 2-บท 2 เริ่มต้นเฟส 2 ด้วยบท 2

ภาค 2-The World of Demon โลกแห่งปีศาจ

กลับไปที่เดสเพียร์(กันต์ในขณะที่สวมชุดคลุม)

ในตอนนี้กันต์กำลังสวมชุดคลุมสีดำตัวเดิมพร้อมกับแบกร่างของเล็กไว้บนหลังและมุ่งหน้าไปยังทางออกเขตอุทยาน

กันต์พยายามวิ่งให้เบาและเงียบเชียบที่สุดเพื่อที่จะไม่โดนพวกสัตว์กลายพันธุ์จับเสียงได้

แต่ทันใดนั้นเองทักษะสัมผัสเวทของเรล์มก็แจ้งเตือนเข้ามา

กันต์รีบกระโดดไปข้างหน้าพร้อมกับหันหลังกลับกลางอากาศเพื่อหันมองสิ่งที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง

จะงอยปากสีดำขนาดใหญ่ปักลงทะลุดินตรงพื้นที่กันต์เคยวิ่งอยู่เมื่อกี้

ร่างของกันต์ที่แบกเล็กอยู่บนหลังสามารถลงพื้นได้อย่างปลอดภัย

อีกาทมิฬที่มีร่างกายสูงกว่า3 เมตรปรากฏตัวขึ้นและจ้องมองมาที่กันต์ด้วยดวงตาสีแดง

จะงอยปากสีดำนั่นไม่ใช่ของใครที่ไหนแต่เป็นของอีกาตัวนี้เอง

แม้กระทั่งลมพายุที่พัดใส่ในตอนแรกก็เป็นของอีกาตัวนี้แน่

ในขณะเดียวกันนั่นเองอีกาก็เริ่มโบกพัดปีกของมันเพื่อทำให้เกิดลมพายุ

กันต์ที่เห็นอีกาทมิฬขยับปีกก็เปิดใช้ทักษะทันที “ม่านพลังแห่งธาตุทั้งปวง”

ม่านพลังสีทองดำปรากฏขึ้นต่อหน้ากันต์และต้านแรงลมที่พัดเข้ามา

ลมพายุของอีกาทมิฬมีความสามารถมากพอจะโบกพัดต้นไม้ขนาดเล็กให้ปลิวได้ แต่ไม่ใช่กับม่านพลังแห่งธาตุทั้งปวง

อีกาทมิฬที่เห็นว่าการโจมตีของมันไม่ได้ผลก็หยุดการโจมตีด้วยสายลมลง

เมื่อลมพายุที่พัดมาหายไป กันต์จึงเริ่มก้าวเท้าออกมาจากขอบเขตการป้องกันของม่านพลังสีทองดำ พร้อมกับทิ้งร่างของเล็กไว้ข้างในม่านพลังเพื่อความปลอดภัย

กันต์ไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าประชิดอีกาทมิฬทันที เพราะถ้าปล่อยให้มันได้ใช้ลมพายุอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาตัวรอดหลังจากนี้ยังไง

อีกาทมิฬรีบกระพือปีกและบินขึ้นฟ้าหลังจากที่เห็นกันต์พุ่งเข้ามา

กรงเล็บอันแหลมคนทั้ง6 จากขาทั้ง2 ข้างของมันเข้าโจมตีกันต์ในขณะที่มันกำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่ากันต์ไม่สามารถเข้าไปใกล้อีกาทมิฬได้เพราะเขามีเลเวลแค่ 20 ซึ่งห่างจากอีกาทมิฬไปถึง3 เท่า

ถ้าหากเข้าไปในระยะโจมตีของมันมีหวังโดนกรงเล็บของมันเจาะทะลุร่างแน่

“คมดาบตะวัน” กันต์แบมือทั้ง2 ข้างออกและเรียกไอเทม

ดาบสีทองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนมือของกันต์

น้ำหนักของมันถือได้ว่าหนักอยู่พอสมควรแต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะใช้งาน

ดาบสีทองเหวี่ยงเข้าโจมตีใส่กรงเล็บที่เท้าของอีกาทมิฬด้วยแรงสูงสุดที่กันต์มี

ด้วยความลำพองใจของอีกาทมิฬที่คิดว่าตนเองมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหยื่อ มันจึงตัดสินใจรับดาบที่เข้ามาด้วยกรงเล็บของมัน

เสียงคล้ายแก้วแตกได้ดังขึ้นพร้อมกับคมดาบตะวันที่แทงฝังลึกลงไปในกรงเล็บของอีกาทมิฬ

กรงเล็บของมันไม่มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะสู้กับอาวุธระดับตำนานอย่างคมดาบตะวันได้ นั่นจึงทำให้มันเสียกรงเล็บสุดที่รักไป

กันต์พยายามดึงดาบที่ติดอยู่ในกรงเล็บออกมาแต่แรงของเขายังไม่มากพอที่จะทำเช่นนั้น

อีกาทมิฬใช้ขาอีกข้างหนึ่งของมันเข้าตวัดโจมตีใส่กันต์ที่กำลังถือคมดาบตะวันอยู่

ด้วยความเร็วที่สูงกว่าจึงทำให้กันต์โดนกรงเล็บตวัดเข้าโจมตีและกระเด็นไปด้านหลัง

ทิ้งให้คมดาบตะวันยังคงติดอยู่กับกรงเล็บของอีกาทมิฬ

เสื้อคลุมของกันต์ฉีกขาดเป็นแนวยาวแต่ยังโชคดีที่ยังไม่โดนร่างกาย การโจมตีของอีกามันโดนแค่บางส่วนของเสื้อคลุมเท่านั้น

อีกาทมิฬรีบใช้จะงอยปากของมันคาบไปที่ด้ามดาบของคมดาบตะวันและดึงออกมาจากกรงเล็บ และนั่นคือสิ่งที่กันต์กำลังรอคอย

“อาทิตย์อัสดง” กันต์เปิดใช้งานทักษะพร้อมกับแลกพลังชีวิตของตนเองเกือบทั้งหมด

อาวุธสีทองเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำและในที่สุดมันก็ระเบิดออกมา

เมื่อแสงสว่างจากระเบิดหายไปนั่นเอง

ร่างอันสูงใหญ่ของอีกาทมิฬก็ได้ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าสู่พื้นดิน

ร่างที่ไร้หัวของอีกาทมิฬนั้นดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก

ระเบิดของอาทิตย์อัสดงได้ระเบิดหัวของอีกาทมิฬหายไปทั้งหัวในเวลาไม่กี่ลมหายใจ

คมดาบตะวันก็เช่นกันจากตอนแรกที่มันโดนอีกาทมิฬคาบไว้ เมื่อหัวอีกาโดนระเบิดหายไปมันก็ตกลงมาจากท้องฟ้า

อันที่จริงแล้วถ้าอีกาทมิฬไม่คาบคมดาบตะวันไว้ที่ปาก กันต์ก็ไม่สามารถใช้ทักษะอาทิตย์อัสดงฆ่ามันได้

เพราะเลเวลของเขาแค่20 และมีพลังชีวิตที่ไม่มากนัก ดังนั้นพลังชีวิตที่จะเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นพลังโจมตีก็ลดลงไปด้วย

ในสถานการณ์แบบนี้ต้องระเบิดที่หัวของมันเท่านั้น ถึงจะดูโหดร้ายไปสักนิดแต่มันก็จำเป็น

ยังไงก็ตามเรื่องนี้มันยังไม่จบสิ่งสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่คือตะขาบทรพิษ อีกไม่นานมันคงมุดดินมาถึงที่นี่

----------------------------------------

หลังจากที่ผมSuru-2 และ Suru-1 ได้สรุปกันมาแล้วนะครับ ได้ว่าจะเริ่มนับ 1 ใหม่เพราะตัวเลขมันจะเยอะไปแล้วกลัวจะจำตอนยากกัน