เด็กจอมซน

ข้อมูลเบื้องต้น

     เสียงเคาะประตูดังลั่น พร้อมกับเสียงเด็กผู้ชายตะโกนเรียกชื่อของผมอย่างไม่มีสรรพนามนำหน้า ผมรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู เห็นเด็กตัวอ้วนๆ ตัวสูงเท่าสะดือผมนี้แหละ เขาเป็นลูกของเพื่อนร่วมงานผม อยู่ห้องใกล้ๆ กัน ชื่อว่าเพชร ถึงแม้ผมจะโกรธอย่างไรก็ยังพอระงับอารมณ์ไว้ได้อยู่ จึงทำเพียงแค่ตบหัวเบาๆ พร้อมกับพูดว่า

“เพื่อนเล่นมึงเหรอ พูดดีๆ สิ”

เพชรก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงแล้วพูดว่า

“มีของมาส่งอยู่ที่หน้าโรงงาน”

     ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็ก ในหนังสือเขาบอกว่า ถ้าเด็กทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับเด็กประเภทนี้คือ บอกในสิ่งที่เราต้องการให้เด็กทำด้วยเสียงแข็งๆ ดูเหมือนว่าคำแนะนำจากหนังสือที่ว่าจะได้ผล

     ต่อจากนั้นอีกไม่กี่เดือนช่วงทำงานกลางวัน เครื่องผสมปูนจับตะกอนปั่นส่วนจนได้ที่แล้ว พี่ทองรับหน้าที่กรอกผงปูนจับตะกอนลงถุง ต่อจากนั้นพี่แกก็โยนถุงไปให้เพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันมัดหนังยาง เมื่อคนมัดหนังยางถุงเสร็จ เขาก็จะโยนถุงไปให้คนที่นั่งอยู่ถัดไปทำหน้าที่ซีลถุง พอซีลถุงเสร็จ เขาก็จะวางถุงไว้บนโต๊ะข้างๆ เพื่อรอให้เพื่อนร่วมงานอีกคนเอาถุงเหล่านั้นไปวางเรียงไว้บนเพลส (เพลสหนึ่งต้องมีถุงปูนจับตะกอนวางเรียงอยู่200ถุง เรียกว่าหนึ่งล็อต) พอครบ1ล็อต ต้องเอารถฟอร์คลิฟต์มายกเพลสไปไว้ข้างหน้าเพื่อรอไปส่ง ครั้นเพลสตัวเก่าถูกยกไปแล้ว ต้องเอาเพลสตัวใหม่มาวาง พี่ทูลรับหน้าที่นี้ ขณะที่พี่แกยกเพลสมา เพชรถีบจักรยานไปจอดตรงข้างๆ พี่ทูลแล้วพูดว่า

“ไอ้ควาย”

แล้วมันถีบจักรยานผ่านไป

พี่ทูลขมวดคิ้วกระแทกเสียงพูดสั่งสอนว่า

“ก้าวร้าว เดี๋ยวตบหัวทิ่มเลย”

ไอ้เพชรถีบจักรยานวกกลับมาด่าตอบโต้พี่ทูลไปว่า

“ไอ้ควาย เอ้ย!”

      การทำโทษเด็กโดยใช้ความรุนแรงหรือด่าเด็กในลักษณะนี้ ดูเหมือนจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็กได้เลย มีแต่จะทำให้เด็กโกรธแค้นและหาวิธีแก้เผ็ด