คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : เสริมเพิ่มเติมความรู้**10สิ่งลึกลับในประวัติศาสตร์ และ สงครามที่สั้นที่สุดในโลก
*~เสริมเพิ่มเติมความรู้เพื่อเด็กไทย~*
**10สิ่งลึกลับในประวัติศาสตร์**
10.รอนโกรอนโก้ (Rongorongo)
เป็นเกาะที่ถูกเรียกว่า รอนโกรอนโก้ ว่ากันว่าเคยเป็นที่อยู่ของชาวอพยพ ไม่มีเพื่อนบ้าน ไม่มีภาษาเขียนแต่อย่างใดแต่ก็เจริญในปีค.ศ 1700 แต่เรื่องจากไม่มีภาษาเขียนจึงไม่มีบันทึกวิธีชีวิตแต่อย่างใด
9.ฮีไลค์ เมืองที่สาบสูญ (Helike)
เป็นเมืองที่มีการบันทึกจากนักกวีชาวกรีกที่มีชื่อว่า โพซาเนีย (Pausania) เมือง ฮีไลค์ ถูกแผ่นดินไหวมาก่อนและความซวยซ้ำซวยซ้อนก็ยังโดน ซึนามิ ซ้ำอีกคนกลุ่มนี้พยายามจะบูชาเทพแห่งทะเลโพเซดอนหลายครั้ง และก็ไม่มีใครพบเมืองนี้อีกเลยจนกระทั่ง ค.ศ 1861 นักโบราณคดีได้พบเหรียญที่เชื่อกันว่ามาจากเมืองนี้ และในปี 2001 ก็เชื่อว่าผมซากของฮีไลค์
8.The bog Bodies
ว่ากันว่าขนาดซีรีย์ชุดแนวสืบส่วน CSI ยังยอมแพ้ให้เพราะเป็นคดีที่ยากกว่า เรื่องของเรื่องคือได้มีการพบศพกว่าร้อยๆศพที่แถวยุโรป ล้วนแต่เป็นศพที่รักษาเป็นอย่างดี บางศพเวลามากกว่า 2000 ปี หรือจะเป็นการพยากรณ์อะไรบางอย่าง
7.ความพ่ายแพ้ของจักรพรรถ มิโรอัส
นักประวัติศาสตร์ทุกคนล้วนแต่สงสัยว่าทำไมอาณาจักรโรมันถึงแตก และ อะไรกันทำให้จักรพรรถ มิโนอัส ต้องสูญเสียอาณาจักรของพระองค์เชื่อกันว่าเกิดจากภูเขาไฟระเบิด ที่นี่เป็นการสรุปจากการตรวจดิน ทำให้นักโบราณคดีคิดว่าน่าจะมีการระเบิดแถวๆนั้น
6.The carnac stones
ถ้าคุณคิดว่า สโตนเฮนจ์เจ๋งแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกชิ้นคือ อณุสรณ์คาแน็คสโตน ที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือประเทศฝรั่งเศส มีหินมากกว่า 3000 ชิ้นเรียงกันระยะยาวถึง 12 ก.ม จากความเชื่อท้องถิ่นว่ากันว่าเกิดจากพ่อมดเมอร์ลินเป็นคนสร้างขึ้น แต่ในทางประวัติศาสตร์เป้นหินที่ไว้เป็นตัวจบแรงสั่นสะเทือนแต่ไม่รู้ว่าใครสร้าง
5.ใครคือโรบิน ฮู้ด
ตำนานของป่าเชอร์วู้ด ที่ทุกคนน่าจะเคยผ่านตามาแล้ว ความเป็นไปได้ก็มีอยู่เช่นกันนะ แต่ว่ายังไม่มีใครพบหลุมฝังศพของโรบิน ฮู้ดเลย หรือว่าเป็นแค่นิทานเท่านั้น
4.กองทัพที่หายไปของชาวโรมัน
หลังจากกองทัพของเครย์ซุสได้พ่ายแพ้ต่อ พาเที้ยนแล้วได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนั่นคือ พวกทหารหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจน 17 ปีต่อมาได้มีนักประวัติศาสตร์จีนได้บันทึกไว้ว่าเป็นกองทัพโรมันใกล้ทะเลสาบโกบี ซึ่งจากการตรวจ DNA ในสมัยนี้ว่าไม่ใช่คนจีนแต่ประการใด
3.The Monich manuscript
ใครชอบอ่านหนังสือลองอ่านเล่มนี้ดูนี่เป็นหนังสือที่เก่าแก่ทีสุด และ พบอยู่ที่ห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดของโรม และอีกทั้งยังเป็นหนังสือที่เขียนด้วยภาษาปริศนาไม่มีใครเข้าใจเลยสักคน จนทำให้เป็นปริศนากันอยู่ตอนนี้ เชื่อว่าเป็นหนังสือกฏหมาย
2.The Tarims Mummy
จากการตรวจสอบทางตะวันตกของจีนได้มีนักโบราณคดีชื่อ Tarim Bash ได้พบมัมมี่มากกว่า 100 ตัวที่มีอายุกว่า 2000 ปีทุกคนเชื่อว่าเป็นชาวจีนแต่หลังจากการตรวจ DNA แล้วพบว่านี่ไม่ใช่ชาวจีนแต่เป็นชาวยุโรปต่างหาก แล้วคนยุโรปมาทำอะไรที่จีนละ
1.การหายไปของ Indus Valley
อินดัส วัลเล่เป็นอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย เชื่อกันว่าแพร่หลายจากอินเดียไปถึงคาซัสสถานเลยทีเดียวในทีนี่มีประชากรราวๆ 5 ล้านคน เมื่อนักโบราณคดีมาพบก็ประทับใจสุดๆแต่ว่าไม่มีหลักฐานอะไท้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นการสู้รบ หรือแม้แต่จุดสิ้นสุดเลยด้วยซ้ำหรือแค่อยู่ดีๆก็สลายไป
**สงครามที่สั้นที่สุดในโลก**
คุณคิดว่าสงครามที่ใช้เวลาสั้นที่สุดในโลกกี่นาทีละ? ถ้าตอบแบบไม่ได้อ่านมาก่อนคง 1 เดือน ครึ่งละมั่งแต่ผิด ที่ถูกต้องคือ 38 นาที มันคือสงครามที่ชื่อว่า แองโกล-ซานิบาร์ เป็นสงครามระหว่าง อังกถษ กับ ซาร์นิบาร์
อังกถษชนะได้เพราะเทคโนโลยีแหละเพราะ อังกถษมีเรือรบที่สามารถถล่มซานิบาร์ได้สบายๆ ซึ่งสบายๆเนี่ยอังกถษมีผู้บาดเจ็บแค่คนเดียว แต่ ซานิบาร์ตายไป 500 กว่าคน
ซารนิบาร์เป็นเกาะทางตอนใต้ของทะเลอินเดีย โดยตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศแทนซากิแต่ไงก็ตาม ซานิบาร์ เคยตกเป็นเมืองขึ้นของโอมาน และก็แยกตัวออกมาในปี 1858
-วันที่ 25 กันยายน
วันที่ 25 กันยายนในปี 1896 คาลิด บิน กาซัสที่มีอายุ 29 ปี และเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นฆาตกรที่สังหารอาตนเอง ซึ่ง อาของคาลิดเป็นผู้สำเร็จราชการ ในระหว่างนั้น ซาร์นิบาร์ กับ อังกถษเป็นพันธมิตรกันอยู่
แต่ในซาร์นิบาร์มีราชวังที่ชื่อว่า เซ็นเตอร์ สแควร์ ซึ่งเป็นที่ของอังกถษ แบบว่าคาลิดก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเจ้าของวังซักเท่าไรเลยวางแปนว่าจะตีราชวังอันนี้ โดยการที่คาลิดจะตีราชวังครั้งนี้มีคนที่ชื่อบาซิล เคฟ เตือนไว้ว่าอย่าทำแบบนี้เลย
คาลิดไม่ฟังบาซิลเลยซักนิดโจมตีราชวังทันทีโดยทหารของเค้ามี 2700 นายโดย 700 นายนั้นเป็นพลเรือนที่ถูกบังคับให้เป็นทหาร โดยอาวุธที่ใช้จะเป็นปืนกล กับ ปืนพกพา เมื่อ บาซิลและ แมททิว( ถ้าไม่รู้ว่าเป็นใคร ไปดูข้างบน) รู้ว่าคาลิดไม่เลิกแน่นอนจึงจัดทัพบ้างเหมือนกัน
โดย 900 นายเป็นทหารที่จงรักพักดีต่อ บาซิล อีก 150 นายเป็นทหารเรือ ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันผู้เดินทางทางทะเล และเรือรบ ทัซ ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาโดยนายพล แฮรรี่ โอ กิลลิเก้นมาถึง15 นาทีหลังจากขอร้องให้มาที่นี่ (ความจริงบังเอิญเพราะแฮรี่อยู่ในระหว่างเดินทางอยู่แล้วเพื่อมาปราบประชาชนก่อวินาศกรรม)
บาซิลส่งจดหมายไปขอร้องคาลิดให้ปลดทหารของตนเอง แต่แน่ละคาลิดก็ปฎิเสธต่อไป ว่าง่ายว่าสถานการณ์ตอนนี้มันบังคับแล้วละ บาซิลต้องกบฎต่อคาลิดเเต่ว่าในเวลา 15.00 น. บาซิลถูกฆ่าตายในสนามรบ ซึ่งได้ทำการยึดครองราชวังสำเร็จ แถมยังท้าโดยการถ่ายรูปศพบาซิลไปส่งให้หัวหน้ากระทรวงต่างประเทศอีก
-วันที่ 27 กันยายน
9.00 น ลอย แมททิวได้ออกคำสั่งให้เรือรบโจมตีใส่ซานิบาร์ โดยตั้งแต่การยิงครั้งแรกก็สร้างผลกระทบทันที ความเสียหารทำให้ที่อยู่ของพวกซานิบาร์หลุดไปทันที เมื่อ 9.05 น อังกถษได้ส่งทหารภาคฟื้นบกลงไป
อังกถษยังโจมตีแบบเดิมไปเลื่อยๆ จนกระทั้ง 9.40 นาทีซานิบาร์ก็ขอยอมแพ้ไป
ความคิดเห็น