ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { hogyu } ° S P E C I A L BOY ♥

    ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER1;

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 59


    CHAPTER 1 
    .
    .


    11.54 PM

                         เสียงดนตรียังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บีทหนักๆกระชากจังหวะการเต้นของหัวใจให้สั่นสะเทือนอย่างยากที่จะควบคุมไหว ผู้คนมากมายทั้งนั่งทั้งยืนต่างโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงภายในผับชื่อดังแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง แต่เสียงเพลงอึกทึกที่ดังอยู่นั้นก็ไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจของผมสงบลงเลยสักนิด แต่อย่างน้อยๆความครื้นเครงของแสงสีพวกนี้ก็น่าจะกล่อมให้ผมคล้อยตามความสนุกได้บ้างสิ หรือไม่ก็ช่วยทำให้ผมลืมเรื่องที่กำลังปั่นป่วนหัวใจผมตอนนี้ไปได้สักอึดใจนึงก็ยังดีผมยกเหล้ากรอกปากตัวเองแก้วแล้วแก้วเล่าแล้วหัวสมองก็พลันไปคิดถึงเรื่องของบางคน..

     

    ชั่วโมงที่แล้ว

                             ผมหยุดกึกทันทีที่หน้าห้องของตัวเองเมื่อสบสายตาเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง ใครบางคนที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน เป็นวินาทีที่เหมือนกับโลกทั้งใบหยุดหมุน จะมีก็แต่เพียงก้อนเนื้อเล็กๆที่หน้าอกข้างซ้ายของผมเท่านั้นที่ยังขยับอยู่

    .

    .

    ตึกตัก ๆ

    .

    .

                มือหนาเลื่อนขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว เพียงแค่หวังจะให้หัวใจหยุดเต้นโครมครามหรือกันไม่ให้มันทะลุออกมาซะก่อน

    หัวสมองขาวโพลนเหมือนกับผมจะเสียการควบคุมไปเสียดื้อๆ ผมสะบัดหน้าเบาๆสองสามทีเพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับมา ‘นี่มันบ้าอะไรกันวะ

    คนตรงหน้ายิ้มตาหยีๆให้ผมพร้อมกับพูดทักทายด้วยประโยคแสนธรรมดาทั่วไป แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่าพิเศษนะ ตอนนี้สติสตังค์ผมไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่แต่พอจะจับใจความได้ว่าเขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ห้องตรงกันข้ามห้องผมอะไรนี่แหละ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจก็คือชื่อของเขา ซองกยู ...คิมซองกยู

     

     

    ผัวะ!

     

    ผมถูกปลุกจากภวังค์ด้วยฝ่ามืออรหันต์ของคนที่ผมเรียกมันว่าเพื่อน ไอ่บ้านี่! = =

    เหม่ออะไรวะ เรียกจนผับจะปิดแล้วเนี่ย

    เพื่อนสนิทตัวเตี้ยของผมที่ชื่อนัมอูฮยอนทักผมด้วยการกวนบาทาตามประสา ก่อนมันจะเดินมานั่งตรงกันข้ามผมพร้อมกับยกมาร์ตินี่กรอกปากรวดเดียวจนหมด

    มึงเชื่อเรื่องรักแรกพบมั้ยวะ

    พรวด!!!

    เหล่าหยดมาร์ตินี่ได้ย้ายจากปากหนาๆของมันมาเกาะบนหน้าผมแทนแล้วครับ เตี้ยแล้วยังสกปรกอีก = =

    แค่กๆ ถามอะไรเนิร์ดๆวะ มึงไม่สบายปะเนี่ย

    ไม่พูดเปล่ามันยังพุ่งตัวมาจับหน้าผมเพื่อเช็คข้อสันนิฐานของตัวเองที่ว่าผมป่วย แทนที่มึงจะมาเช็คไข้กูมึงช่วยกูเช็ดเหล้าออกจากหน้าหล่อๆของกูก่อนดีมั้ย ไอ่เพื่อนเวร

    กูจริงจังนะเว้ย ตอนกูเจอเขาเหมือนโลกหยุดหมุนเลยว่ะ ถ้าหัวใจกูมันเต้นเป็นจังหวะสามช่าได้มันคงทำไปแล้วอะ กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะ” ผมพล่ามให้มันฟังด้วยสีหน้าจริงจังโดยที่หวังว่ามันจะช่วยให้คำแนะนำที่มีประโยชน์อะไรเทือกนี้บ้าง 

    ชอบเขามึงก็จีบดิวะ ยากตรงไหน” ไอ่เตี้ยนี่พูดพลางยักไหล่แบบชิวๆ

    "มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง" ก็ผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยนอกจากชื่อนี่หว่า จะว่าผมป๊อดก็ได้นะแต่จะให้ไปบอกเขาโต่งๆว่าฉันชอบนายแบบนี้หรอ เขาได้คิดว่าผมบ้ากันพอดี

    "แล้วมึงจะทำให้มันยากทำไมล่ะ โง่จริงๆ" ขอบคุณ ไอ่เพื่อนคนนี้นอกจากจะเตี้ยแล้วยังทำตัวหยาบคายอีกครับ

    เอาวะลองดูกันสักตั้ง’ ผมคิดกับตัวเองก่อนจะยกเหล้าในมือกรอกปากอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มมึนได้ที่แล้วล่ะ ผมวางแก้วสีใสลงบนโต๊ะก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน

    งั้นกูกลับแล้วนะ” พูดจบผมก็เดินดุ่มๆออกมาทิ้งให้เพื่อนรักนั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น ผมใช้เวลาเบียดเสียดกับผู้คนนิดหน่อยก่อนจะพาร่างตัวเองมาถึงจากัวร์ลูกรัก จุดหมายของผมตอนนี้คือกลับไปที่คอนโด ห้องตรงกันข้ามกับผมนั่นแหละ!

    .

    .

     

    02.19 AM

     

    ติ๊ง!

    ติ๊ง!

    โว้ยย ไอ่บ้าที่ไหนมันมากดออดตอนตีสองวะเนี่ย มีคนตายหรือไงห้ะ = = ผมจำใจต้องลากสังขารตัวเองจากเตียงนุ่มๆเพื่อมาเปิดประตูเพราะไอ่บ้าที่มากดออดหน้าห้องผมยังคงกดต่อไปเรื่อยๆและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คอยดูเถอะถ้าไม่มีใครตายผมนี่แหละจะทำให้มันมี หึ่ย!! ผมเปิดประตูด้วยหน้าเหวี่ยงๆแต่ก็ไม่แน่ใจว่าแขกผู้มาเยือนจะสังเกตเห็นหรือเปล่า 

    .

    .

    บ้าเอ้ย! นี่มันไอ่คนที่อยู่ห้องตรงกันข้ามที่เจอเมื่อเย็นนี่หว่า กลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าเขาเมาแค่ไหน นี่กินหรืออาบวะเนี่ย อย่าบอกนะว่าเมาจนจำห้องตัวเองไม่ได้น่ะ = =

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดได้ถามอะไรไอ่คิ้วปลิงนี่ก็ถือวิสาสะดันผมให้เดินถอยหลังเข้าห้องโดยที่มีตัวเองเดินตามมาด้วยอะไรของมันวะ!

     

    ปึง! 

    ไอ่คิ้วปลิงนี่ดันร่างผมจนชิดผนังแล้วใช้มืออีกข้างกันท่าไม่ให้ผมขยับไปไหนได้ นี่เมาจนบ้าไปแล้วหรือไงวะคนเรา

     

    "นี่นาย! เป็นบ้าหรือไง เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่นายจะมากดออดบ้านฉันตอนไหนก็ได้นะโว้ย อีกอย่างฉันกับนายเราเพิ่งรู้จักกันยังไม่ถึงวันด้วยซ้ำนะ.."

    "ฉันจะบ้าก็เพราะนายเนี่ยแหละ" ไม่พูดเปล่าคนตรงหน้ายังขยับหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนผมหมดทางหนี ไอ่บ้านี่จะทำอะไรผมวะเนี่ย! ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงเซนด้วยซ้ำ ชักหายใจลำบากแล้วนะโว้ย ผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดขึ้นกว่าเดิมเพราะตอนนี้เรียกว่าเราสองคนแทบสิงกันเป็นร่างเดียวอยู่แล้ว 

     

    "ฉันชอบนาย" 

    .

    .

    .

                       นี่เป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากหมอนี่ก่อนเขาจะฟุบลงตรงไหล่ผมอย่างพอเหมาะพอเจาะ เออชอบก็ชอบดิยากตรงไหนอะ เออ.. ห้ะ อะไรนะ!? ชอบผมเนี่ยนะ นี่เมาจนเพี้ยนไปแล้วหรือไงอะ แต่เดี๋ยวนะ! นายจะมาหลับไปเฉยๆแบบนี้ไม่ได้นะโว้ยไอ่คิ้วปลิง ตื่นขึ้นมาก่อน !!

     

                        หลังจากที่ผมพยายามปลุกด้วยสารพัดวิธีแล้วหมอนี่ก็ไม่ยอมตื่น(ไม่แน่ใจว่าหลับหรือตายกันแน่)ผมเลยเลิกเวิ่นเว้อแล้วหันมาจัดการกับชีวิตตัวเองตอนนี้แทน ผมง่วงแทบจะยืนหลับอยู่แล้ว นี่มันจะตีสามแล้วนะครับ พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียนอีกนะ เอาวะ ให้ไอ่คิ้วปลิงนี่นอนโซฟาไปก็แล้วกันคงไม่ละเมอลุกขึ้นมาปล้ำผมหรอน่าเมาแอ๋ขนาดนี้ ผมจัดแจงท่านอนให้หมอนี่เสร็จแล้วก็พาสังขารหล่อๆของตัวเองไปตายบนเตียงนุ่มๆ

    .

    .

    .

             เช้านี้เป็นวันที่ผมตื่นมาด้วยสภาพร่างกายไม่ครบ100%จริงๆครับ ปกติคนก็คิดว่าผมหลับตาเดินได้อยู่แล้วแล้วนี่ผมต้องตื่นไปเรียนโดยที่ยังหลับไม่ถึง5ชั่วโมงอะครับคิดดูสิ ว่าแต่คนต้นเรื่องหายไปไหนแล้วล่ะ ผมลุกจากเตียงแล้วมองหารอบห้องแต่ก็ไม่เจอหมอนั่นแต่กลับเจอโน้ตลายมือยุกยิกที่แปะอยู่หน้าประตู

    'เจอกันเย็นนี้นะครับ :-)

    เหอะ อะไรของมันวะครับ ก่อเรื่องไว้ขนาดนี้ยังจะกล้ามาเจอผมอีกหรอ แปลกคนจริงๆ  ผมแปะโน้ตไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน

     

    ตึกA 8.50AM

                 ผมวิ่งเพื่อมาให้ทันขึ้นลิฟต์เพราะแค่สภาพปกติผมก็ไม่คิดจะขึ้นบันไดอยู่แล้วแต่นี่ผมนอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเองถ้าให้ขึ้นบันไดผมคงไม่มีชีวิตรอดไปถึงคลาสได้แน่ๆเอามีดมายิงผมให้ตายไปเลยยังดีกว่า โชคดีหน่อยเพราะวันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า เลิกคลาสแล้วพี่จะกลับไปหลับให้เต็มอิ่มเลยครับพ่อแม่พี่น้อง

    สองชั่วโมงในคลาสผ่านไปแบบน่าเบื่อเหมือนทุกๆวัน ฟังอาจารย์เลกเชอร์ฟังอาจารย์เลกเชอร์วนไป ชีวิตมหาลัยนี่มันนรกบนดินดีๆนี่เองครับชาติที่แล้วผมไปทำกรรมอะไรไว้นะ เฮ้อ


                  และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างผมเมื่ออยู่ดีๆอาจารย์เลิกคลาสเร็วกว่าปกติ ผมรีบเก็บของแล้ววิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วแสง วินาทีนี้เตียงคือเป้าหมายหนึ่งเดียวของผมครับ แต่ทว่า..

     

    ปึก!

     .

    .

    .

    To be continued

     

      

    #talk 

    ตอน1มาแล้วค่ะ เย้! ขออภัยในความสั้นด้วยคั้บหลังจากที่เขียนๆลบๆไปประมาณสามแสนรอบ ฮือ;-;;

    ยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะคะ

     อย่าลืมคอมเม้นติชมแล้วก็ฝากแท็กในทวิตเตอร์ไว้เหมือนเดิม #ฟิคspb ขอบคุณค่า^,^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×