คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER1;
11.54 PM
เสียงดนตรียังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
บีทหนักๆกระชากจังหวะการเต้นของหัวใจให้สั่นสะเทือนอย่างยากที่จะควบคุมไหว
ผู้คนมากมายทั้งนั่งทั้งยืนต่างโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงภายในผับชื่อดังแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง
แต่เสียงเพลงอึกทึกที่ดังอยู่นั้นก็ไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจของผมสงบลงเลยสักนิด
แต่อย่างน้อยๆความครื้นเครงของแสงสีพวกนี้ก็น่าจะกล่อมให้ผมคล้อยตามความสนุกได้บ้างสิ
หรือไม่ก็ช่วยทำให้ผมลืมเรื่องที่กำลังปั่นป่วนหัวใจผมตอนนี้ไปได้สักอึดใจนึงก็ยังดี! ผมยกเหล้ากรอกปากตัวเองแก้วแล้วแก้วเล่าแล้วหัวสมองก็พลันไปคิดถึงเรื่องของบางคน..
7 ชั่วโมงที่แล้ว
ผมหยุดกึกทันทีที่หน้าห้องของตัวเองเมื่อสบสายตาเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง
ใครบางคนที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน
เป็นวินาทีที่เหมือนกับโลกทั้งใบหยุดหมุน จะมีก็แต่เพียงก้อนเนื้อเล็กๆที่หน้าอกข้างซ้ายของผมเท่านั้นที่ยังขยับอยู่
.
.
ตึกตัก ๆ
.
.
มือหนาเลื่อนขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
เพียงแค่หวังจะให้หัวใจหยุดเต้นโครมครามหรือกันไม่ให้มันทะลุออกมาซะก่อน
หัวสมองขาวโพลนเหมือนกับผมจะเสียการควบคุมไปเสียดื้อๆ
ผมสะบัดหน้าเบาๆสองสามทีเพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับมา ‘นี่มันบ้าอะไรกันวะ’
คนตรงหน้ายิ้มตาหยีๆให้ผมพร้อมกับพูดทักทายด้วยประโยคแสนธรรมดาทั่วไป
แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่าพิเศษนะ
ตอนนี้สติสตังค์ผมไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่แต่พอจะจับใจความได้ว่าเขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ห้องตรงกันข้ามห้องผมอะไรนี่แหละ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจก็คือชื่อของเขา ซองกยู ...คิมซองกยู
ผัวะ!
ผมถูกปลุกจากภวังค์ด้วยฝ่ามืออรหันต์ของคนที่ผมเรียกมันว่าเพื่อน
ไอ่บ้านี่! = =
“เหม่ออะไรวะ
เรียกจนผับจะปิดแล้วเนี่ย”
เพื่อนสนิทตัวเตี้ยของผมที่ชื่อนัมอูฮยอนทักผมด้วยการกวนบาทาตามประสา ก่อนมันจะเดินมานั่งตรงกันข้ามผมพร้อมกับยกมาร์ตินี่กรอกปากรวดเดียวจนหมด
“มึงเชื่อเรื่องรักแรกพบมั้ยวะ”
พรวด!!!
เหล่าหยดมาร์ตินี่ได้ย้ายจากปากหนาๆของมันมาเกาะบนหน้าผมแทนแล้วครับ
เตี้ยแล้วยังสกปรกอีก = =
“แค่กๆ
ถามอะไรเนิร์ดๆวะ มึงไม่สบายปะเนี่ย”
ไม่พูดเปล่ามันยังพุ่งตัวมาจับหน้าผมเพื่อเช็คข้อสันนิฐานของตัวเองที่ว่าผมป่วย
แทนที่มึงจะมาเช็คไข้กูมึงช่วยกูเช็ดเหล้าออกจากหน้าหล่อๆของกูก่อนดีมั้ย
ไอ่เพื่อนเวร
“กูจริงจังนะเว้ย
ตอนกูเจอเขาเหมือนโลกหยุดหมุนเลยว่ะ
ถ้าหัวใจกูมันเต้นเป็นจังหวะสามช่าได้มันคงทำไปแล้วอะ
กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะ” ผมพล่ามให้มันฟังด้วยสีหน้าจริงจังโดยที่หวังว่ามันจะช่วยให้คำแนะนำที่มีประโยชน์อะไรเทือกนี้บ้าง
“ชอบเขามึงก็จีบดิวะ
ยากตรงไหน” ไอ่เตี้ยนี่พูดพลางยักไหล่แบบชิวๆ
"มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง"
ก็ผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยนอกจากชื่อนี่หว่า จะว่าผมป๊อดก็ได้นะแต่จะให้ไปบอกเขาโต่งๆว่าฉันชอบนายแบบนี้หรอ
เขาได้คิดว่าผมบ้ากันพอดี
"แล้วมึงจะทำให้มันยากทำไมล่ะ
โง่จริงๆ" ขอบคุณ ไอ่เพื่อนคนนี้นอกจากจะเตี้ยแล้วยังทำตัวหยาบคายอีกครับ
‘เอาวะลองดูกันสักตั้ง’ ผมคิดกับตัวเองก่อนจะยกเหล้าในมือกรอกปากอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มมึนได้ที่แล้วล่ะ
ผมวางแก้วสีใสลงบนโต๊ะก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน
“งั้นกูกลับแล้วนะ” พูดจบผมก็เดินดุ่มๆออกมาทิ้งให้เพื่อนรักนั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น
ผมใช้เวลาเบียดเสียดกับผู้คนนิดหน่อยก่อนจะพาร่างตัวเองมาถึงจากัวร์ลูกรัก
จุดหมายของผมตอนนี้คือกลับไปที่คอนโด ห้องตรงกันข้ามกับผมนั่นแหละ!
.
.
02.19 AM
ติ๊ง!
ติ๊ง!
โว้ยย
ไอ่บ้าที่ไหนมันมากดออดตอนตีสองวะเนี่ย มีคนตายหรือไงห้ะ = =
ผมจำใจต้องลากสังขารตัวเองจากเตียงนุ่มๆเพื่อมาเปิดประตูเพราะไอ่บ้าที่มากดออดหน้าห้องผมยังคงกดต่อไปเรื่อยๆและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
คอยดูเถอะถ้าไม่มีใครตายผมนี่แหละจะทำให้มันมี หึ่ย!! ผมเปิดประตูด้วยหน้าเหวี่ยงๆแต่ก็ไม่แน่ใจว่าแขกผู้มาเยือนจะสังเกตเห็นหรือเปล่า
.
.
บ้าเอ้ย!
นี่มันไอ่คนที่อยู่ห้องตรงกันข้ามที่เจอเมื่อเย็นนี่หว่า
กลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าเขาเมาแค่ไหน นี่กินหรืออาบวะเนี่ย
อย่าบอกนะว่าเมาจนจำห้องตัวเองไม่ได้น่ะ = =
ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดได้ถามอะไรไอ่คิ้วปลิงนี่ก็ถือวิสาสะดันผมให้เดินถอยหลังเข้าห้องโดยที่มีตัวเองเดินตามมาด้วยอะไรของมันวะ!
ปึง!
ไอ่คิ้วปลิงนี่ดันร่างผมจนชิดผนังแล้วใช้มืออีกข้างกันท่าไม่ให้ผมขยับไปไหนได้
นี่เมาจนบ้าไปแล้วหรือไงวะคนเรา
"นี่นาย!
เป็นบ้าหรือไง เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่นายจะมากดออดบ้านฉันตอนไหนก็ได้นะโว้ย
อีกอย่างฉันกับนายเราเพิ่งรู้จักกันยังไม่ถึงวันด้วยซ้ำนะ.."
"ฉันจะบ้าก็เพราะนายเนี่ยแหละ" ไม่พูดเปล่าคนตรงหน้ายังขยับหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนผมหมดทางหนี
ไอ่บ้านี่จะทำอะไรผมวะเนี่ย! ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงเซนด้วยซ้ำ
ชักหายใจลำบากแล้วนะโว้ย
ผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดขึ้นกว่าเดิมเพราะตอนนี้เรียกว่าเราสองคนแทบสิงกันเป็นร่างเดียวอยู่แล้ว
"ฉันชอบนาย"
.
.
.
นี่เป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากหมอนี่ก่อนเขาจะฟุบลงตรงไหล่ผมอย่างพอเหมาะพอเจาะ
เออชอบก็ชอบดิยากตรงไหนอะ เออ.. ห้ะ อะไรนะ!? ชอบผมเนี่ยนะ นี่เมาจนเพี้ยนไปแล้วหรือไงอะ
แต่เดี๋ยวนะ! นายจะมาหลับไปเฉยๆแบบนี้ไม่ได้นะโว้ยไอ่คิ้วปลิง ตื่นขึ้นมาก่อน !!
หลังจากที่ผมพยายามปลุกด้วยสารพัดวิธีแล้วหมอนี่ก็ไม่ยอมตื่น(ไม่แน่ใจว่าหลับหรือตายกันแน่)ผมเลยเลิกเวิ่นเว้อแล้วหันมาจัดการกับชีวิตตัวเองตอนนี้แทน
ผมง่วงแทบจะยืนหลับอยู่แล้ว นี่มันจะตีสามแล้วนะครับ พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียนอีกนะ
เอาวะ
ให้ไอ่คิ้วปลิงนี่นอนโซฟาไปก็แล้วกันคงไม่ละเมอลุกขึ้นมาปล้ำผมหรอน่าเมาแอ๋ขนาดนี้
ผมจัดแจงท่านอนให้หมอนี่เสร็จแล้วก็พาสังขารหล่อๆของตัวเองไปตายบนเตียงนุ่มๆ
.
.
.
เช้านี้เป็นวันที่ผมตื่นมาด้วยสภาพร่างกายไม่ครบ100%จริงๆครับ ปกติคนก็คิดว่าผมหลับตาเดินได้อยู่แล้วแล้วนี่ผมต้องตื่นไปเรียนโดยที่ยังหลับไม่ถึง5ชั่วโมงอะครับคิดดูสิ
ว่าแต่คนต้นเรื่องหายไปไหนแล้วล่ะ ผมลุกจากเตียงแล้วมองหารอบห้องแต่ก็ไม่เจอหมอนั่นแต่กลับเจอโน้ตลายมือยุกยิกที่แปะอยู่หน้าประตู
'เจอกันเย็นนี้นะครับ
:-)'
เหอะ อะไรของมันวะครับ
ก่อเรื่องไว้ขนาดนี้ยังจะกล้ามาเจอผมอีกหรอ แปลกคนจริงๆ ผมแปะโน้ตไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน
ตึกA 8.50AM
ผมวิ่งเพื่อมาให้ทันขึ้นลิฟต์เพราะแค่สภาพปกติผมก็ไม่คิดจะขึ้นบันไดอยู่แล้วแต่นี่ผมนอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเองถ้าให้ขึ้นบันไดผมคงไม่มีชีวิตรอดไปถึงคลาสได้แน่ๆเอามีดมายิงผมให้ตายไปเลยยังดีกว่า
โชคดีหน่อยเพราะวันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า เลิกคลาสแล้วพี่จะกลับไปหลับให้เต็มอิ่มเลยครับพ่อแม่พี่น้อง
สองชั่วโมงในคลาสผ่านไปแบบน่าเบื่อเหมือนทุกๆวัน ฟังอาจารย์เลกเชอร์ฟังอาจารย์เลกเชอร์วนไป ชีวิตมหาลัยนี่มันนรกบนดินดีๆนี่เองครับชาติที่แล้วผมไปทำกรรมอะไรไว้นะ เฮ้อ
และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างผมเมื่ออยู่ดีๆอาจารย์เลิกคลาสเร็วกว่าปกติ ผมรีบเก็บของแล้ววิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วแสง
วินาทีนี้เตียงคือเป้าหมายหนึ่งเดียวของผมครับ แต่ทว่า..
ปึก!
.
.
.
To be continued
#talk
ตอน1มาแล้วค่ะ
เย้! ขออภัยในความสั้นด้วยคั้บหลังจากที่เขียนๆลบๆไปประมาณสามแสนรอบ ฮือ;-;;
ยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะคะ♡
อย่าลืมคอมเม้นติชมแล้วก็ฝากแท็กในทวิตเตอร์ไว้เหมือนเดิม #ฟิคspb ขอบคุณค่า^,^
ความคิดเห็น