"เริ่มสนุกแล้วสิ หึหึ"
ทั้งสามออกเดินทางกันต่อทัศนียภาพรอบกายเริ่มที่จะแคบลงเรื่อย ๆ ไอหมอกแพร่กระจายออกมาจากส่วนลึกภายในป่าสายหมอกนี้คล้ายจะไม่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ปีเตอร์สงสัยว่ามันอาจจะเกิดจากฝีมือของมนุษย์หรือสัตว์อสูรกันแน่ ทั้งสามค่อย ๆ เคลื่อนที่อย่างระวังและรอบคอบที่สุด
"พี่ทั้งสองคนระวังตัวด้วย ไอหมอกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ" ปีเตอร์เอ่ยบอกชายหนุ่มทั้งสองคนที่ในตอนนี้เรียกอาวุธประจำกายออกมาเตรียมพร้อมแล้ว
"หรือว่าจะเป็นฝีมือของนักเรียนโรงเรียนอื่นขอรับ" อาร์มันโดว์เอ่ยถาม หมอกชนิดนี้มีส่วนใกล้เคียงกับเวทมนตร์ธาตุน้ำหรือธาตุน้ำแข็ง และกระแสพลังเองก็แตกต่างจากที่เกิดตามธรรมชาติอย่างแน่นอน
"ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันอาจเป็นสัตว์อสูรก็เป็นได้.." ตู้มมม!!!!
ยังไม่ทันจะพูดจบ บางสิ่งบางอย่างที่เป็นก้อนขนาดใหญ่ก็ร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นในตำแหน่งที่พวกเขายืนในทันที ด้วยสัญชาตญาณไหวพริบจึงกระโดดหลบออกมาในทันที แรงกระแทกของสิ่งนั้นทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นหลุมพัดกระจายไอหมอกให้จางลง สายตาจับจ้องถึงสิ่งนั้น มันของเหลวหนืดสีเขียวคล้ำก้อนใหญ่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
"นั่นมันอะไรกัน!" แอลฟ่าเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เจ้าสิ่งนี้มันมาจากไหนกันแน่ หลังจากรวบรวมสติพวกเขาก็จับอาวุธในมือจนแน่น พลังเวทถูกปลุกเร้ากระตุ้นให้ไหลเวียนอย่างรวดเร็วภายในกาย ชายหนุ่มทั้งสองหันหลังชนกันเพื่อเตรียมพร้อมทันใดนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็เข้าปกคลุมในทันที
"อ๊าา นั่น..." เสียงยังไม่ทันได้เอ่ยออกมาหมด สายตาของชายหนุ่มทั้งสองคนเงยหน้ามองขึ้นด้านบน เงาดำขนาดใหญ่พาดผ่านบดบังคล้ายกับคลื่นน้ำ ระดับพลังเวทของมันสูงอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เพิ่งจะเข้าสู่เขตตอนกลางของป่าเท่านั้นเอง
หวืดด!! " นายน้อย!!!"
สายลมแรงพัดกระแทกทั้งสองคนให้กระเด็นออกมา การตัดสินใจของปีเตอร์ลงไปช่วงหนึ่ง เงาดำนั่นโถมตัวทับร่างของเด็กน้อยรวดเร็วกว่าการที่เขาจะหลบมัน เงาร่างทับกระแทกลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง ไอหมอกหนาทั่วบริเวณผลันกระจายจางหายไปในทันที
สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาทั้งสองคนคือของเหลวหนืดยืดสีเขียวคล้ำส่งกลิ่นเหม็นก้อนใหญ่มหึมา ไอควันสีเขียวเหม็นเน่าลอยคลุ้งฟุ้งกระจายขึ้นมา ต้นไม้ กิ่งไม้ ใบหญ้าที่ถูกสัมผัสด้วยเจ้าสิ่งนี้ล้วนถูกละลาย ความสามารถในการกัดกร่อนรุนแรงอย่างมาก ระดับพลังที่ประเมินได้อยู่ในขอบเขตราชาเวทหรือสัตว์อสูรระดับหก แถมยังอยู่ในช่วงปลายอีกด้วย
"นายน้อย!!!" เสียงตะโกนของแอลฟ่าดังก้องด้วยความตกใจ
วิ้งค์!!
อาร์มันโดว์ใช้ออกด้วยบทเวทอาภรณ์แห่งภูติเหมันต์ สองมือกางออกไปเบื้องหน้าพลังเวทธาตุน้ำแข็งพุ่งออกจากฝ่ามือของเขาตรงเข้าจู่โจมยังของเหลวหนืดอันนี้ สัตว์อสูรระดับหกช่วงปลายที่รูปร่างเช่นนี้เขาไม่เคยพบในตำรามาก่อนพลังธาตุน้ำแข็งเกาะกุมของเหลวบางส่วนในทันที ส่วนหนึ่งถูกต้านทานด้วยการละลายของกรดกัดกร่อน สองพลังต้านทานกัน
เปรี้ยงงง!!!!
คลื่นพลังสายฟ้าฟาดเข้าโจมตีมวลก้อนของเหลวเบื้องหน้า แอลฟ่ากำดาบมังกรสายฟ้าเอาไว้แน่น พลังเวทถูกขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วไปที่ดาบมังกรสายฟ้า กระแสพลังแปรเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า จากหนึ่งเป็นสอง จากสิบเป็นนับร้อย ๆ เส้นก่อนจะฟาดออกไปเบื้องหน้า เสียงดังกัมปนาทดุจฟ้าถล่ม
"บ้าน่า มันไม่เป็นอะไรเลยงั้นหรือ...ย๊าาา"
ของเหลวถูกตัดขาดแยกออกเป็นสองส่วน ก่อนจะกลับมารวมตัวกันในทันที ชายหนุ่มทั้งสองซาดซัดบทเวทเข้าจู่โจมทำลายของเหลวหนืดก้อนนี้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำยิ่งเหนื่อยล้าลงไปทุกที
..............................................
ด้านนอกสนามประลอง ผู้คนต่างสงเสียงเชียร์ดังกระหึมไปทั่วสนาม จอภาพขนาดใหญ่นับสิบปรากฏขึ้นกลางอากาศ ภาพที่แสดงคือภาพของเหล่านักเรียนภายในดันเจี้ยนมิติที่ใช้จัดการแข่งขันรอบแรก เหตุการณ์ต่าง ๆ ในทุกซอกทุกมุมล้วนปรากฏขึ้นบนหน้าจอทั้ง
"ฮ่า ฮ่า สมควรแล้วเจ้าเด็กนั่น กล้ามาหักขานักเรียนของเรา ตายไปซะได้ก็ดี" อาจารย์หนุ่มคนหนึ่งตะโกนพูดออกมาเสียงดัง สายตาของเหล่าผู้ชมต่างก็จ้องมองมาทางเขาหมด
"เจ้าด่วนตัดสินใจไปแล้ว ระดับพลังของเจ้าเด็กนั่นไม่ธรรมดา มันไม่สิ้นท่าง่าย ๆ หรอก" ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไร้อารมณ์ สายตาของมันจับจ้องไปยังจอภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มของปีเตอร์
"อาจารย์เซโน่ เขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ" อาจารย์สาวคนหนึ่งเอ่ยถามเซโน่ที่นั่งอยู่ด้านข้างของเธอ แม้เธอจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของเด็กคนนี้ที่แสดงออกตอนงานแข่งขันภายในโรงเรียนได้ดี แต่ก็ไม่ได้ทราบถึงความแข็งแกร่งหลังจากออกจากดันเจี้ยน
"เขาไม่เป็นอะไรหรอก" เซโน่กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ตัวเขากำลังคิดว่าปีเตอร์ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ ด้วยสัตว์อสูรระดับนั้น แม้ไม่อาจจัดการได้โดยง่าย แต่ก็ไม่น่าจะพลาดท่าได้ขนาดนี้เช่นกัน
................................
การโจมตีอย่างต่อเนื่องของชายหนุ่มทั้งสองคนแทบจะไม่สร้างผลกระทบต่อสัตว์อสูรตนนี้เลยแม้แต่น้อย ส่วนขาดไปก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก้อนของเหลวหนืดหดกลับพร้อมยืดตัวขึ้นสูง รูปร่างหน้าตาของมันเริ่มปรากฏเด่นชัด ดวงตาและปากคล้ายจะเป็นส่วนที่ช่องกลม ๆ เป็นหลุมลงไปในส่วนหัว แท้จริงแล้วรูปร่างของมันก็ไม่ได้คงตัวเท่าไหร่นัก
"เราจะทำยังไงดี" แอลฟ่าเอ่ยออกมาด้วยความร้อนใจ เม็ดเหงื่อฝุดขึ้นบนไปหน้าของเขา บางส่วนไหลย้อยจนเสื้อท่อนปนเปียกชุ่ม
"เราโจมตีมันทุกทางแล้วก็ไม่เป็นผลเลย ระดับของเรากับมันต่างกันเกินไป" อาร์มันโดว์เอ่ยออกมา สัตว์อสูรตัวนี้เป็นธาตุน้ำที่มีคุณสมบัติในการกัดกร่อนอย่างรุนแรงมาก และยิ่งพลังของเขาเป็นธาตุน้ำแข็ง การโจมตีจึงแทบจะไม่มีผลอะไรเสียด้วยซ้ำ แม้แต่การโจมตีธาตุสายฟ้าของแอลฟ่าก็ยังไม่อาจจัดการมันลงได้
สัตว์อสูรเบื้องหน้าเปิดปากกว้างออก กระแสพลังเวทเริ่มรวมตัวเป็นละอองแสงสีฟ้า พวกมันถูกดูดเข้าไปในปากขนาดกว้างแล้วรวมตัวกันเป็นก้อนพลังเวทที่ในตอนนี้แปรเปลี่ยนสีเป็นเขียวเข้ม ไอควันสีเขียวลอยฟุ้งออกมาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความเร็วในการรวบรวมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความเข้มข้นของพลังเวทที่สัมผัสได้หนาแน่นอย่างยิ่ง
"นั่นมันจะทำอะไรของมันน่ะ......หลบเร็ว!!!" เสียงของแอลฟ่าเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึง ก่อนที่จะประคองสติวิเคราะห์สภาพเหตุการณ์
ฟู่!!!!! ชี่!!!!!
มวลพลังเวทสีเขียวเข้มที่มันรวบรวมถูกพ่นระเบิดออกมากลายเป็นละอองฝอยจำนวนมาก ความเร็วของละอองเล็กเหล่านั้นรวดเร็วราวคมมีดสายลม พลังเวทที่อัดแน่นคงมีปริมาณมากอย่างแน่นอน ละอองฝอยเหล่านั้นพุ่งกระจายออกไปเป็นบริเวณกว้างเบื้องหน้า ทุกอย่างที่ถูกละอองนี้สัมผัสจะถูกหลอมละลายในทันที
ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่เบื้องหน้าสัตว์อสูรค่อย ๆ ถูกละลายจนไม่เหลือซาก ไอควันสีเขียวฟุ้งตละหลบอบอวนไปทั่วบริเวณ รัศมีการโจมตีของมันยาวไปนับร้อยเมตร ความทรงพลังของท่าโจมตีนี้น่าหวั่นเกรงอย่างยิ่ง นอกจากพลังทำลายอันมหาศาลยังมีความเร็วที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย
ถัดไปประมานยี่สิบเมตรไอเย็นสีขาวแผ่กระจายออกมาตามพื้น ต้นหญ้าในบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง โล่น้ำแข็งขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ไอพลังน้ำแข็งในระดับที่เก้ามีความรุนแรงอย่างยิ่ง แม้เพียงไอเย็นที่แผ่ออกมาก็สามารถแช่แข็งต้นไม้ใบหญ้ารอบ ๆ ได้ แต่สภาพของโล่ที่ถูกสร้างจากบทเวทของชายหนุ่มก็มีสภาพยับเยิน ตัวโล่ถูกทำลายไปมากกว่าครึ่ง
ด้านหลังโล่น้ำแข็งเป็นร่างของชายหนุ่มสองคนที่สภาพสะบักสะบอมไม่ต่างอะไรกับโล่ที่อยู่เบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย ตามแขนขาปรากฏรอบแผลจากการกัดกร่อนของของเหลวเขียว เลือดแดงสดไหลรินออกจากบาดแผลหลายสิบจุด แม้แอลฟ่าจะใช้ออกด้วยบทเวทสายฟ้าที่เพิ่มความเร็วอย่างมาก แต่ก็ยังไม่อาจหลบของเหลวสีเขียวเข้มที่สัตว์อสูรปล่อยออกมาได้
โฮกกกกก!!! บึ้มมม!!!!
เสียงร้องโหยหวนของสัตว์อสูรดังสนั่นก้องไปทั่วป่า กายร่างของเหลวบิดไปบิดมาอย่างแปลกประหลาดยิ่ง พริบตาต่อมาร่างของมันก็ระเบิดกระจายออกอย่างรุนแรง สายลมหมุนกระโชกราวพายุคลั่งพัดกระจายเศษซากของเหลวให้กระเด็นออกไปทั่วบริเวณ ต้นไม้ใบหญ้าทั้งหลายที่สัมผัสมันล้วนถูกกัดกร่อนทั้งสิ้น
สายลมหมุนค่อย ๆ อ่อนกำลังลง เงาร่างหนึ่งค่อย ๆ ปรากฏขึ้นให้ประจักษ์แก่สายตาที่จับจ้อง ร่างของเด็กน้อยยื่นอยู่ ณ ตำแหน่งนั้นร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนไร้รอยขีดข่วนคล้ายกับว่าภาพที่เขาโดนสัตว์อสูรจู่โจมเมื่อครู่เป็นเพียงความันเท่านั้น ปีเตอร์ลืมตาขึ้นจ้องมองที่ชายหนุ่มทั้งสองพร้อมเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ
"นายน้อย...นายน้อยไม่เป็นไรนะขอรับ" แอลฟ่าเอ่ยพร้อมทั้งพยายามลุกเดินมาหาเด็กน้อย แต่สภาพของตนเองคล้ายจะทำให้สิ่งนั้นเต็มไปด้วยความลำบาก นอกจากสูญเสียพลังเวทแล้ว ยังได้รับบาดเจ็บอยู่หลายส่วนอีกด้วย
"ข้าไม่เป็นอะไร แต่ว่าพวกพี่สองคนนี่สิ ประมาทมากไปนะครับ หากใจเย็นลงคงไม่อยู่ในสภาพแบบนี้" ปีเตอร์เอ่ยออกด้วยน้ำเสียงอ่อนใจเล็กน้อย เขาเองเพียงต้องการทดสอบผลของการฝึกฝน ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทั้งสองคนจะประคองรักษาความสุขุมเยือกเย็นเอาไว้ได้หรือไม่ แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น
โฮกกก!!!
ของเหลวที่กระจัดกระจายเริ่มรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ก้อนมวลน้ำที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ ปลดปล่อยพลังเวทออกมาอย่างมหาศาล ความหนาแน่นของพลังเวทในอากาศเริ่มเบาบางลงเนื่องจากการดูดกลืนของสัตว์อสูรตนนี้ในการคืนร่าง ปีเตอร์หันมองมันด้วยสายตาที่เยือกเย็น
"ว่าแล้วว่ามันคงจัดการไม่ได้ง่าย ๆ"
ฟู่!!!! โฮกกกก!!!
เด็กน้อยกางฝ่ามือออกไปเบื้องหน้า แหวนวงหนึ่งเรืองแสงสีแดงสว่างบนมือของเด็กน้อย ของเหลวหนืดสีแดงเพลิงพวยพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงยิ่ง ลาวาอันร้อนแรงพุ่งเข้าจู่โจมสัตว์อสูรของเหลวเบื้องหน้าในทันที ความร้อนที่แผดเผาของเหลวทำให้เกิดการระเหยหายไป เสียงร้องอันทรมานดังกระจายไปทั่ว แม้ตามหลักธาตุไฟแพ้ธาตุน้ำ แต่เนื่องด้วยเพลิงลาวามีความทรงพลังกว่าธาตุน้ำของสัตว์อสูรตนนี้จึงสามารถสยบมันลงได้ และเป็นวิธีเดียวในการจัดการกับมันอีกด้วย
"จบสิ้นเสียที"
เอาอีกกกกกกกกกก
ขอบคุณครับ