ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #1 : เล่ม 1 บทแรก ลำนำจ้าวยุทธจักร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 60.66K
      2.03K
      5 เม.ย. 66

    E-sports คือกีฬาประเภทบุคคลหรือทีมชนิดหนึ่งที่เกี่ยวกับการแข่งขันวิดีโอเกม ซึ่งนับวันวงการนี้ยิ่งเติบโตรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่เข้าถึงผู้คนได้ง่ายและทุกเพศทุกวัย ขอเพียงมีความสามารถในเกมกีฬานั้น ๆ วงการอีสปอร์ตก็พร้อมจะอ้าแขนต้อนรับคุณแล้ว กระทั่งผ่านพ้นไปหลายสิบปี  กาลเวลาก็ได้พิสูทธิ์ให้เห็นแล้วว่าวงการอีสปอร์ตเข้มแข็งเพียงใด  เพราะมันไม่ใช่แค่ยังยืนหยัดอยู่ได้  แต่รากฐานกลับยิ่งฝังลึกอย่างมั่นคงจนแทบอยู่ในจุดที่ยากจะล้มทลายลงมาโดยง่ายอีก

    และเมื่อมนุษยชาติก้าวเข้าสู่ยุคที่วิทยาการโลกเสมือนถือกำเนิด  วงการอีสปอร์ตก็กลายเป็นดาวค้างฟ้าที่ไม่มีวันร่วงหล่นลงมาเปื้อนดินโคลนได้อย่างแท้จริง

     

    ไอดีของคุณผ่านเงื่อนไขการใช้บริการเกม ลำนำจ้าวยุทธจักร แล้วค่ะ  กรุณายืนยันการลงทะเบียน…”

    เสียงแจ้งสถานะดังออกมาจากเครื่องเกมตามหน้าที่  แต่สำหรับชายหนุ่มหน้าตากวนตีนผู้เป็นเจ้าของไอดีแล้วมันราวกับเป็นเสียงจากสวรรค์ที่เพิ่งประสาทพรลงมา  เสียงตะโกนของเขาในขณะนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีปนหัวเราะร่า ฮ่าฮ่าฮ่า  ถึงเวลาที่ฉันจะได้ท่องยุทธภพตบเกรียนอย่างคนอื่นเขาสักที!

    ในหัวของชายหนุ่มกำลังเพ้อเจ้ออวยตัวเองโดยไม่มีท่าทางเหนียมอายแม้แต่น้อย  ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีเพื่อนเลิฟอยู่คนหนึ่งกับคำสัญญาที่อีกฝ่ายเคยกล่าว จึงรีบทำการติดต่อไปหาด้วยสีหน้าแดงปลั่งยากที่จะข่มกลั้นระงับไว้

    รอคอยไม่ถึงห้าวินาที  ปลายสายก็ตอบรับ มีไรวะไอ้วาด  นานทีปีหนแกถึงจะโทรหาฉันก่อนสักครั้ง  ถูกหวยหรือไง

    ถือว่ารู้จักกันจริง แต่ไม่เกี่ยวกับหวยโว้ยไอ้เทพ นายวาดตอบติดตลกจนหัวเราะขึ้นมาทั้งคู่

    มีไรก็รีบ ๆ พูดมา ฉันบังเอิญมีนัดกับคนในเกม  เดี๋ยวต้องออนไลน์แล้วเนี่ย

    วาดที่สัมผัสได้ถึงความห่างเหินจากอีกฝ่ายพลันลดเสียงขณะตอบกลับไปว่า เออ ๆ เกมลำนำจ้าวยุทธจักรใช่เปล่า? ที่ฉันโทรมาก็เพราะเรื่องเกมนี้แหละ

    ปลายสายไม่ปฏิเสธ และเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน

    วาดมีหรือจะรอช้า  รีบบอกออกไปอย่างรวบรัดในทันที ฉันลงทะเบียนเข้าเล่นเกมได้แล้วนะ  นายยังไม่ลืมใช่มั้ยที่ว่าจะช่วยเก็บเลเวลเมื่อฉันพร้อม

    ได้ยินแบบนี้ไอ้เทพก็เงียบหายไป  วาดที่ถือสายรออยู่อึดใจหนึ่งทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยถาม ฟังอยู่หรือเปล่าวะ

    อีกฝ่ายสูดหายใจลึกตอบอย่างอึดอัดกลับมา ฉันคงไปช่วยแกไม่ได้แล้ว หนึ่งปีมานี้ตัวละครของฉันพัฒนาไปไกลพอสมควร ทั้งได้เข้าร่วมสำนักใหญ่ การแข่งขันระดับสูงเพื่อจะแย่งชิงตำแหน่งกันเองภายใน บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันมีเป้าหมายแบบชัดเจน ซึ่งก็คือการได้เป็นหนึ่งในนักกีฬาอีสปอร์ตภายใต้สังกัดของกิลด์ใหญ่ ฉันแบ่งเวลาไปช่วยแกไม่ได้หรอก ขอโทษทีว่ะ

    สีหน้าเบิกบานของวาดค่อย ๆ จางหาย แต่ก็เข้าใจดีด้วยเหตุผลที่เพื่อนเลิฟพยายามอธิบาย

    แม้รู้สึกผิดหวังยังคงเก็บเอาไว้ในใจ ความจริงแล้ววาดก็ไม่ได้มีความคิดที่จะหวังพึ่งพาอะไรอีกฝ่ายมากมายตั้งแต่แรก ที่ทวงถามนั้นเขามีเจตนาเพียงแค่อยากเดินทางท่องหล้าไปพร้อมกับสหาย น่าเสียดายระยะเวลาหนึ่งปีที่เสียไป ไม่คิดเลยว่ามันจะทำให้สหายคนสนิทของเขาทิ้งห่างออกไปมากขนาดนี้

    ดังคำเขาว่า จิตใจคนแปรผันตามกาลเวลา

    แต่ก็ช่วยไม่ได้  เป็นเพราะเกมลำนำจ้าวยุทธจักรกำหนดเรตอายุ 20+ ไอ้เทพที่มีอายุมากกว่านายวาดหนึ่งปีจึงมีสิทธิ์ได้เข้าไปเล่นก่อน

    เมื่อเรื่องราวลงเอยแบบนี้ วาดมีแต่ต้องกล่าวว่า เออเข้าใจเว้ย เรื่องเล็กน้อยไม่มีปัญหา ถ้าเป็นเรื่องเกมแกก็รู้ว่าฉันไม่แพ้ใครอยู่แล้ว

    ปลายสายเหมือนผ่อนคลายลง จึงสามารถตอบได้อย่างสบายใจ อย่าประมาทนะไอ้วาด ลำนำจ้าวยุทธจักรไม่ค่อยมีกฎเกณฑ์อะไรเข้มงวดเหมือนเกมอื่น มันคือโลกที่ปลาใหญ่ฮุบกลืนปลาเล็ก เพราะงั้นแกก็พยายามอย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนล่ะ เกมนี้เลเวลยิ่งขึ้นยากอยู่ด้วย

    คำเตือนนี้กลับทำให้นายวาดต้องหัวเราะขึ้นมาแทน

    ขอบใจว่ะเพื่อน แต่มันคงยากที่ฉันจะบดบังรัศมีความหล่อของตัวเองไว้  ไม่ให้ไปแยงตาไอ้พวกกากเกรียนได้นานหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า

    ปลายสายคล้ายเพิ่งตระหนักได้ถึงเรื่องสำคัญ กระทั่งยังอดไม่ไหวต้องปล่อยเสียงฮาตามไปด้วยพลางกล่าว เออใช่! ฉันดันลืมใบหน้าดูดตีนชาวบ้านของแกไปได้ไงกัน แบบนี้แกน่าจะอยู่ยากแล้วว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    ระหว่างที่คนทั้งสองร่วมหัวเราะชอบใจไปกับการพูดคุยไร้สาระ เทพก็ได้รับข้อความเร่งมาจากสมาชิกในเกม จึงต้องเอ่ยตัดบทร่ำลา

    วาดตอบรับและเพียงกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เดี๋ยวฉันจะลองฝ่านรกไล่ตามแกดู ทางแกก็เบา ๆ รอกันบ้างนะโว้ย

     เออ โชคดี เทพรับคำก่อนจะตัดสาย

    นายวาดโยนวัตถุทรงกลมที่เพิ่งใช้ติดต่อเพื่อนเลิฟลงบนเตียง ขณะเดียวกัน  เครื่องเกมที่ถูกออกแบบพัฒนาให้สะดวกสบายขึ้นจนอยู่ในรูปลักษณ์ของสายคาดศีรษะเช่นปัจจุบันก็ยังคงแจ้งเตือนให้เขายืนยันการลงทะเบียนไอดีอยู่เป็นระยะ  วาดล้มตัวลงนอนพร้อมกับทำการลงทะเบียนขั้นตอนสุดท้ายจนเรียบร้อย

    ไอดีของคุณได้รับการยืนยันแล้วค่ะ ยินดีต้อนรับคุณฐนะ เทพศิวะฐานเข้าสู่โลกลำนำจ้าวยุทธจักร

    วาดสูดหายใจสงบสติอารมณ์ขณะนอนหลับตาอยู่บนเตียง แต่ยังอดคิดไม่ได้ว่า ให้ตายเถอะ เกมแนวนี้มันต้องค่อย ๆ เล่นเสพเนื้อเรื่องไปทีละขั้นทีละตอนสิวะ ไอ้พวกนักกีฬาบ้าการแข่งขันคงเอาแต่ปั๊มเวลหาของกันอย่างเดียวเลยมั้ง น่าเสียดายแทน แต่ก็ทางใครทางมันล่ะนะ

    ชายหนุ่มจมอยู่ในห้วงความคิดเงียบ ๆ พักหนึ่ง กระทั่งหรี่ตาเล็กน้อยและคว้าเอาเครื่องเกมขึ้นมาคาดศีรษะ หลังจากระบบเชื่อมต่อกับเกมลำนำจ้าวยุทธจักรตามที่ได้ยืนยันไว้จนปรากฏสถานะพร้อมผ่านจุดแสงสีเขียว เขาก็พึมพำเสียงเบาว่า

    ออนไลน์

     

    ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาอีกครั้งภายในโลกเสมือน สถานที่ที่เขาเพิ่งโผล่เข้ามาเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมธรรมดา มีไว้สำหรับต้อนรับมือใหม่

    สวัสดีค่ะคุณวาด นี่สมควรเป็นการออนไลน์ครั้งแรกของคุณ หญิงสาวหน้าตาสะสวยเอ่ยเสียงหวาน

    เขาไม่แปลกใจหากพนักงานต้อนรับจะทราบชื่อของตัวเอง วาดหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเธอพลางตอบสั้น ๆ ใช่ครับ

    หญิงสาวฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์และเริ่มต้นแนะนำเพลเยอร์ใหม่ กรุณาตั้งชื่อตัวละครของคุณก่อนเป็นอันดับแรกนะคะ

    วาดชะงักไปชั่วแวบหนึ่งก่อนจะบอกชื่อจำนวนมากที่เคยคิดเอาไว้มาเนิ่นนานแล้วออกเรียงตามความชอบ แต่ทั้งหมดล้วนมีคนใช้แล้ว

    กระทั่งหลงเหลืออยู่เป็นชื่อสุดท้าย  บีบคั้นจนชายหนุ่มต้องยกสองมือขึ้นพนมจดหน้าผากเพื่อวิงวอนกันเลยทีเดียว ยี่ฟง

    หญิงสาวขบขันกับท่าทางของเขาอยู่ในใจ เพียงพยักหน้ายิ้มรับพร้อมกับแจ้งข่าวดี ชื่อนี้สามารถใช้งานได้ ต่อไปจะเป็นการปรับแต่งตัวละครค่ะ

    วาดหรือยี่ฟงพลันเป่าปากโล่งอก จากนั้นกล่าวกับพนักงานสาวไปว่า ช่วยลองสุ่มออกมาให้หน่อยแล้วกันครับ

    ได้ค่ะ หากยังไม่ถูกใจสามารถแก้ไขด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ แต่เมื่อยืนยันไปแล้วจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ใหม่ ทางเราจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฉะนั้นขอให้คุณตรวจสอบดูให่แน่ใจก่อนทำการยืนยันทุกครั้งนะคะ

    วาดพยักหน้ารับรู้

    และรอคอยอยู่ไม่ถึงสามวินาที  ร่างกายของเขาก็เริ่มปรากฏความเปลี่ยนแปลง  จากใบหน้าเกลี้ยงเกลาพลันมีรอยบากใต้ตาขวาซึ่งลากยาวลงไปเล็กน้อย  รอบริมฝีปากผุดหนวดเคราขึ้นมาเสริมให้ใบหน้าเข้มดูกร้านโลก  เส้นผมสีดำสั้นก็ยืดยาวลงไปถึงกลางหลัง  ชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนให้ดูคล้ายชุดจอมยุทธ์สีขาวหม่น ค่อนข้างเรียบไม่มีอะไรหวือหวาสมกับเป็นชุดของมือใหม่

    หลังจากยี่ฟงพินิจตัวเองโฉมใหม่ผ่านบานกระจกก็เผยท่าทางพึงพอใจอยู่บ้าง ขณะนี้ตัวเขาดูน่าเกรงขามและดุดันขึ้นทว่ายังคงเค้าเดิมของใบหน้าอยู่เจือจาง

    เป็นเรื่องประหลาดเหมือนกัน ที่ร่องรอยความกวนตีนกลับยังคงถูกรักษาเอาไว้ทุกอิริยาบถของใบหน้า!

    ยืนยัน ยี่ฟงกล่าวด้วยรอยยิ้มกวน ๆ

    หญิงสาวเองก็ยิ้มรับอย่างยินดีเสมือนว่าได้ปลดเปลื้องภาระไปอีกหนึ่ง ตัวละครของคุณเสร็จสมบูรณ์แล้ว หากต้องการศึกษาข้อมูลกับระบบต่าง ๆ ภายในเกม สามารถไปเรียนรู้ได้ที่อาคารเริ่มต้นของเมืองจงหยางนะคะ

    เธอแนะนำอยู่อีกสองสามเรื่อง จากนั้นจึงค่อยส่งชายหนุ่มเข้าสู่เกมจริง ๆ เสียที หญิงสาวกดนิ้วออกคำสั่งกับหน้าจอโปร่งใสด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้บังเกิดหลุมดำใต้ฝ่าเท้าของยี่ฟงก่อนมันจะฉุดดึงร่างของเขาร่วงหายลงไปแบบไม่มีสัญญาณเตือน

    เฮ้ย! ขณะเดียวกัน  หญิงสาวผู้รับหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับก็อุทานเสียงหลง  สองตาจดจ้องหลุมดำที่กำลังสมานคืนกลับมาเป็นพื้นเรียบดังเดิมด้วยสีหน้าตกใจ ฉิบหายแล้วไงล่ะยัยลี่ ดันลืมรีเซ็ตระบบกลับเป็นค่าเริ่มต้น ฉันไม่น่าไปหมุนพิกัดเล่นเลย โธ่เอ๊ย! เธอเผยยิ้มแห้งและมีสีหน้าสำนึกผิดจริง ๆ อโหสิกรรมให้ฉันด้วยแล้วกันนะคะคุณวาด

    ไม่ว่าพิกัดที่หญิงสาวสุ่มเล่นจะชักนำให้ชายหนุ่มไปโผล่ที่ไหนก็ตาม แต่ด้วยพื้นฐานเริ่มต้นของตัวละคร  เขาคงต้องตายหยังเขียดแน่ ๆ

    พูดอะไรของแกอยู่คนเดียวน่ะยัยลูกเพี้ยน อโหสิกรรมให้ใคร?” เสียงเข้มของชายวัยกลางคนดังขึ้น

    หญิงสาวสะดุ้ง  พยายามเก็บซ่อนสีหน้าตื่นตระหนกเอาไว้  ก่อนเลือกจะหันไปโวยวายใส่ผู้เป็นบิดาเพื่อกลบเกลื่อน ป๊า! ลี่จะช่วยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ  ถ้าอยากเข้าห้องน้ำก็ออฟไลน์ไว้สิ ถึงยังไงก็ไม่ได้มีพนักงานต้อนรับแค่ป๊าคนเดียวอยู่แล้ว  เฮ้อ...เมื่อไรเขาจะนำระบบเอไอเข้ามาใช้งานในส่วนนี้แทนเนี่ย

    มีระบบเอไอเข้ามา ป๊าแกก็ตกงานสิวะ  เฝ้าแทนให้ไม่ถึงห้านาทีแค่นี้ก็บ่นฉอด ๆ แกก็รู้ว่าป๊าไม่อยากออฟไลน์เพราะต้องการทำยอดชั่วโมงเพื่อเงินโบนัส

    ไม่รู้แหละ  ลี่เป็นโปรเพลเยอร์นะป๊า  เวลาทุกนาทีสำคัญจะตาย

    น้อย ๆ หน่อยยัยหนู แกพูดแบบนี้มาสามปีแล้วไม่เห็นจะได้ชงได้แชมป์อะไรกับเขาสักที ผู้เป็นบิดาเผลอกล่าวจี้แทงใจ เมื่อรู้ตัว่าผิดจึงรีบหุบปากเงียบ

    ลิลลี่หน้าบูดบึ้ง จากนั้นตัดการเชื่อมต่อหนีไปโดยไม่คิดจะเอ่ยตอบอะไรอีก ปล่อยให้บิดาได้แต่ทอดถอนหายใจ

    เหตุผิดพลาดในครั้งนี้ย่อมไม่ถูกปล่อยผ่านไปเฉย ๆ  แต่จะส่งผลให้ทางผู้พัฒนาเกมได้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบเอไอ  ในอนาคตอันใกล้  ระบบนับไม่ถ้วนจึงถูกแก้ไขเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยเอไอแทนเพื่อความแม่นยำของข้อมูล

     

    ระหว่างนั้นทางด้านของยี่ฟงก็จำต้องเผชิญกับเหตุสุดวิสัยน่าหวาดเสียวที่สุดในชีวิต

    ตัวละครของเขาโผล่ออกมาเหนือพื้นแผ่นดิน  กำลังร่วงทะลุชั้นเมฆและแผ่นฟ้า  ใบหน้าของเขาซีดเผือด สัมผัสได้ถึงสายลมและอากาศเย็นยะเยียบไปทุกรูขุมขน เขาพยายามอ้าปากร้องตะโกน นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!

    ความเร็วในการตกของยี่ฟงค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้น ร่างหมุนตีลังกาจนปวดเศียรเวียนเกล้า สองตาหรี่เล็ก เส้นผมพัดพลิ้วกระจาย

    ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่สามารถประติดประต่อเรื่องราวได้ทัน กระนั้นที่แน่ใจได้เลยก็คือ  เขาไม่สมควรถูกส่งมาโผล่อยู่กลางหาวแบบนี้! อีกทั้งตัวเขาเองก็กำลังลดระดับต่ำลงไปจนใกล้จะโหม่งโลกทุกขณะ เพียงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น!!

    ตรูน่าจะไปเกิดที่เมืองจงหยางสิโว้ย  WTF!!!” เมื่อฝืนอ้าปาก กระแสลมก็ม้วนตีเข้าไปจนกระพุ้งแก้มของเขาพองโต

    ณ สำนักพยัคฆ์หมอบ

    สถานที่แห่งนี้จัดตั้งโดยไต่อยู่บนภูเขาพยัคฆ์ จุดสูงที่สุดก็คือพื้นที่ตั้งของตึกหลัก และยามนี้บริเวณที่ว่าก็ปรากฏชายชราหนวดเครายาวลงถึงอก แววตาคมกล้าดุจพยัคฆ์ ท่วงท่าการยืนสง่างามและองอาจไม่สมวัย มันสวมใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวปักลายพยัคฆ์ตัวเขื่องที่เผยท่าทางอิริยาบถหมอบคลานไว้ด้านหลัง เยื้องไปข้างหลังชายชราเล็กน้อยยังมีชายฉกรรจ์สองคนปักหลักอยู่ซ้ายขวาเสมือนองครักษ์

    แท้จริงแล้วพวกมันทั้งสามคือมอนสเตอร์!

    เกมลำนำจ้าวยุทธจักรนี้  นอกจากสัตว์อสูรโดยทั่วไปแล้วยังมีมอนสเตอร์ประเภทมนุษย์อยู่ด้วย  ทั้งยังมีหลายระดับชั้นตั้งแต่เจ้าสำนักยันโจรป่า

    ท่านเจ้าสำนักขอรับ ศัตรูทะลวงผ่านตีนเขาขึ้นมาได้แล้ว คนส่งข่าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาคุกเข่ารายงานแก่ชายชรา

    ชายชราผู้มีศักดิ์ฐานะเจ้าสำนักเพียงหัวเราะเยาะ เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ปล่อยให้พวกมันดิ้นรนกันขึ้นมารับความตายภายใต้คมกระบี่ข้าเถิด

    สององครักษ์ของเจ้าสำนักชราก็แสดงท่าทีหยามเหยียดโอหัง

    ศัตรูที่พวกมันกล่าวถึงอยู่นี้ย่อมหมายถึงเหล่าเพลเยอร์นั่นเอง  สำนักพยัคฆ์หมอบแห่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากดันเจี้ยนที่เฝ้ารอการถูกบุกรุก

    ทันใดนั้น พลันบังเกิดเสียงกรีดร้องโหยหวนดังสนั่นฟ้า

    เป็นสถานการณ์อันแปลกแยกอย่างถึงที่สุด

    เจ้าสำนักชรากับสององครักษ์ซึ่งแสดงรัศมีความเข้มแข็งต่างพากันแหงนเงยมองขึ้นไปอย่างประหลาดใจ แต่เพียงชั่วแวบเดียวเท่านั้น ร่างของชายหนุ่มที่เพิ่งได้รับนามยี่ฟงมาสด ๆ ร้อน ๆ ก็ปรากฏใกล้ชิดอยู่ห่างจากศีรษะของเจ้าสำนักชราแค่คืบ มันที่ยืนไพล่สองฝ่ามือไว้ด้านหลังอย่างหยิ่งทระนง เสมือนเป็นการใส่ตรวนพันธนาการตนเองไว้ ทำให้กว่าจะตอบสนองรับมือ เรื่องราวก็ดำเนินไปจนถึงฉากจบก่อนแล้ว

    แรงปะทะท่วมท้นถาโถมใส่คนทั้งสามอย่างกะทันหัน ความเสียหายระเบิดออกเป็นวงกว้าง เสียงดังกระหึ่มสั่นสะเทือนจุดสูงสุดบนยอดเขาพยัคฆ์

    แผ่นหินกระเบื้องแตกหักย่อยยับไปพร้อม ๆ กับร่างของมอนสเตอร์ทั้งสาม

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายี่ฟงจะลงเอยเช่นไรจุดจบของเขาก็แทบไม่แตกต่างหรือบางทีอาจจะหนักหนากว่าด้วยซ้ำ

    เพลเยอร์ยี่ฟงทำการสังหารเจ้าสำนักพยัคฆ์หมอบเลเวล 35 และองครักษ์คลั่งสองตนเลเวล 20 ลงได้

    เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับค่าประสบการณ์คูณเป็นจำนวนมาก เลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 35”

    เพลเยอร์ยี่ฟงเสียชีวิตจากการต่อสู้ เลเวลลดลงห้าระดับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×