ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่ายรักนางร้าย (มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #8 : ชุ่ยอิง

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 66


    “พี่ซีหวงข้าได้ข่าวว่าอนุฝ่านกำลังตั้งครรภ์มิใช่หรือขอรับ ครั้งนี้ที่มารบกวนท่านถึงสกุลผิงข้าก็ตั้งใจมาร่วมแสดงความยินดีกับพี่ชายด้วย” เซียวหยุนตั้งคำถาม เขาได้ข่าวนี้มาจากภรรยาแต่ยังไม่มั่นใจเท่าใดนัก เพราะเห็นว่าสกุลผิงไม่ได้ประกาศข่าวออกไป

    “ฮ่าๆ น้องชายหูตากว้างขวางนัก แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ยังรู้ด้วยหรือ” ผิงซีหวงหัวเราะร่า เขาไม่ได้คิดจะปิดบัง นี่นับเป็นครรภ์ที่สองจากภรรยาสามคนของเขาหลังจากบุตรสาวผิงจินเยว่อายุ 13 ปีแล้ว สกุลผิงตั้งแต่บนยันล่างล้วนแล้วแต่ชื่นชมยินดี คาดหวังว่าจะได้มีคุณชายน้อยถือกำเนิดเพิ่มมาอีก 1 คน เพียงแค่ครรภ์ของอนุฝ่านยังไม่มั่นคงนัก รอให้ผ่านสามเดือนแรกไปก่อน พวกเขาจึงจะประกาศออกไป

    “เป็นเพราะฉิงยี่นั่นล่ะที่ไปซื้อยาบำรุงที่โรงหมอ เผอิญท่านหมอหวังก็กำลังจัดยาบำรุงครรภ์ให้กับสาวใช้ในเรือนอนุฝ่าน นางจึงได้รู้เข้าโดยบังเอิญน่ะขอรับ ยินดีกับพี่ซีหวงด้วยจริงๆ นี่ย่อมเป็นข่าวดีแน่นอน” เซียวหยุนนึกอิจฉาผิงซีหวงในใจอยู่บ้าง 

    เขาและฮูหยินอยากจะมีบุตรสาวอีกสักคนจนเซียวซ่งอายุ 17 ปีแล้ว ถึงวันนี้ก็ยังไร้วี่แวว แต่เขาก็ไม่คิดจะหาอนุภรรยาเข้ามาวุ่นวายในครอบครัว สกุลเซียวเคยเป็นเพียงชาวบ้านยากไร้ธรรมดาไม่นิยมมีภรรยาหลายคน ถึงบัดนี้จะสามารถเลี้ยงดูอนุภรรยาเพิ่มได้ แต่เขาก็ไม่คิดจะทำร้ายจิตใจภรรยาที่เคยยากลำบากมาด้วยกัน

    ทางฝ่ายบุรุษก็พูดคุยกันไป มีเพียงเซียวซ่งที่ปกติก็ไม่ค่อยพูดจาอยู่แล้วทำเพียงนั่งมองและยิ้มตามกลุ่มผู้อาวุโสบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนผิงจินเยว่เมื่อได้ยินว่าฝ่านอี๋เหนียงตั้งครรภ์หัวใจของนางก็เต้นระทึก สีหน้าไม่สู้ดีเท่าใดนักจนเซียวซ่งต้องเอ่ยปากทัก

    “คุณหนูผิง เป็นอันใดหรือไม่ จู่ๆ เจ้าก็หน้าซีดขึ้นมา”

    เมื่อได้ยินเสียงเซียวซ่งกล่าวออกมาบุรุษอีกสามคนที่เหลือต่างก็หันมามองนางกันในทันที

    “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกร้อนหายใจไม่ออกขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น ท่านพ่อท่านอา เช่นนั้นข้าขอตัวกลับเรือนก่อนนะเจ้าคะ”

    “รีบไปเถิด ชุ่ยอิงเจ้าให้พ่อบ้านลี่จัดการตามท่านหมอมาดูอาการเสียหน่อยด้วยเล่า” ผิงซีหวงกำชับคำ

    “เจ้าค่ะนายท่าน”

     

    ชุ่ยอิงสาวใช้คนสนิทของผิงจินเยว่รีบเข้ามาประคองร่างงามเอาไว้ แล้วพานายหญิงของตนเองคำนับบุรุษทั้งสี่ก่อนจะก้าวออกจากศาลารับลมไป 

    “คุณหนู ท่านเดินช้าลงหน่อยเถิดเจ้าค่ะเดี๋ยวจะล้มเอาได้” ชุ่ยอิงร้องเตือนเจ้านายสาว คว้ามือของร่างงามเอาไว้เพื่อช่วยพยุงไม่ให้นางล้มลงโดยง่าย

    “ข้าร้อนใจจะแย่แล้วพี่ชุ่ยอิง ฝ่านอี๋เหนียงกำลังตั้งครรภ์ ต่อไปท่านปู่กับท่านพ่อก็จะมีหลานคนใหม่แล้วมิใช่หรือ แล้วข้าเล่า” เด็กสาวร้อนใจจนใบหน้างามแดงก่ำ

    “คุณหนูท่านตั้งสติให้ดีก่อนสิเจ้าคะ ไม่ว่าอนุฝ่านจะให้กำเนิดบุตรชายหรือบุตรสาวก็ไม่มีผู้ใดมาสั่นคลอนตำแหน่งบุตรีภรรยาเอกของท่านได้ คุณหนูหยุดฟังบ่าวสักครู่เถิดเจ้าค่ะ” ชุ่ยอิงวิงวอนเด็กสาวเสียงเบาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายของตนหยุดเดินเพื่อหันมามองนางบ้างแล้ว

    “หากนายท่านมีบุตรชายก็จะได้มีคนสืบทอดสกุลผิงให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปนะเจ้าคะ หรือหากมีบุตรสาวนางก็เป็นเพียงบุตรีที่เกิดจากอนุภรรยา คุณหนูจะร้อนใจไปด้วยเหตุใดกัน กว่าเด็กในท้องฝ่านอี๋เหนียงจะโตยามนั้นคุณหนูก็คงออกเรือนไปแล้ว” ชุ่ยอิงปลอบโยนนายหญิงที่ค่อยๆ ลดอารมณ์ลงได้ทีละน้อย

    “จริงด้วยพี่ชุ่ยอิง ข้าร้อนใจไปเอง ดีนะที่พี่อยู่เป็นเพื่อนข้าไม่เช่นนั้นข้าคงต้องทำเรื่องให้ท่านปู่กับท่านพ่อไม่พอใจอีกเป็นแน่”

    ชุ่ยอิงลูบมือปลอบใจเด็กสาวเบาๆ อย่างรักใคร่ เมื่อครั้งนางอายุ 6 ขวบปีฮูหยินใหญ่ก็คลอดทารกผิวสีชมพูงดงามมาหนึ่งคน นางหลงรักเด็กทารกตัวน้อยผู้นั้นตั้งแต่แรกเห็น คุณหนูผิงจินเยว่งดงามราวกับเทพธิดาตัวน้อยๆ และนางก็ได้รับอนุญาตให้ติดตามรับใช้คุณหนูร่วมกับแม่นมและสาวใช้อีกสองคนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    แม้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นที่รักของทุกคนในสกุลผิง แต่นางกลับโดดเดี่ยวยิ่งนัก นายท่านผู้เฒ่าและนายท่านใหญ่มักจะออกเดินทางไปควบคุมกิจการของสกุลผิงน้อยครั้งที่จะอยู่ในจวน ฮูหยินผู้เฒ่าก็เป็นสตรีที่มีร่างกายอ่อนแอและมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง แม้กระทั่งหลานสาวนางก็ไม่เต็มใจที่จะต้อนรับเพราะเกรงว่าจะนำโรคไปแพร่ให้กับนาง ส่วนฮูหยินใหญ่ก็เอาแต่เคร่งครัดเรื่องการสวดมนต์ ไปถือศีลอยู่ที่วัดเป็นประจำ บางครั้งยังไปนานถึง 2-3 เดือน กว่าจะกลับมาจวนสักครั้ง

    พอนายท่านผู้เฒ่ากับนายท่านใหญ่ว่างก็มักจะเรียกสองพี่น้องสกุลเซียวมาอยู่เป็นเพื่อนพูดคุย ทำให้คุณหนูรู้สึกว่าตนเองขาดความรัก นางเอาแต่ใจ ขี้อิจฉาริษยา และมักจะระบายอารมณ์โกรธกับสาวใช้รอบตัว มีเพียงนางเท่านั้นที่คุณหนูรักดังเช่นพี่สาวไม่เคยลงไม้ลงมือกับนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว 

    นางรู้นิสัยเสียของคุณหนูผิงจินเยว่ทุกประการ แต่นางรักและสงสารคุณหนูยิ่งนัก จนทำให้ตนเองยินยอมที่จะทำตามคำสั่งเรื่องร้ายๆของคุณหนู แต่เมื่อใดที่มีโอกาสนางก็จะคอยสั่งสอนชี้นำเรื่องถูกผิดให้คุณหนูฟังโดยตลอด ด้วยหวังว่าวันหนึ่งที่คุณหนูเติบโตนางจะเข้าใจและปรับปรุงตนเองได้

     

    “ไม่ว่าจะเป็นน้องชายหรือน้องสาว เมื่อคุณหนูออกเรือนไปแล้ว เขาจะได้อยู่เป็นเพื่อนนายท่านผู้เฒ่าแทนคุณหนู หากเป็นคุณชายน้อยก็ยิ่งดีเขาจะได้คอยสนับสนุนพี่สาวอยู่เบื้องหลังได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ” ชุ่ยอิงรีบกล่าว นางกลัวเหลือเกินว่าคุณหนูจะสั่งให้นางหาทางกำจัดบุตรในครรภ์ของอนุฝ่าน

    “พี่ชุ่ยอิงขอบคุณนะที่เตือนข้า จริงอย่างที่พี่กล่าวสกุลผิงมีอันใดที่ข้าต้องอาลัยอาวรณ์กัน ขอเพียงให้มอบทรัพย์สมบัติติดกายให้ข้ามากหน่อยนั่นก็พอแล้วไม่ใช่หรือ สามีในอนาคตของข้าต่างหากที่ข้าจะต้องจับตามองเอาไว้ พี่ว่าพี่ชายเซียวซ่งเป็นอย่างไร” เด็กสาวเริ่มเดินช้าลง เอามือมาคล้องแขนสาวใช้คนสนิทเอาไว้แล้วพากันเดินกลับเรือนหลันฮัวของตน

    “บ่าวไม่กล้าออกความเห็นหรอกเจ้าค่ะคุณหนู แต่เท่าที่เห็นสองพี่น้องสกุลเซียวรวมทั้งนายท่านเซียวหยุนก็ดียิ่งนัก” ชุ่ยอิงแนะนำอย่างนอบน้อม ในใจก็คิดว่าคุณชายรองนั้นไม่เลวเลย เขาไม่ค่อยพูด สุภาพและยังตามใจคุณหนูของนางยิ่งนัก คาดว่าจะเป็นสามีที่มีความอดทนกับนิสัยใจคอของคุณหนูของนางได้

    “แต่ข้าเห็นว่าพี่ซ่งไม่ได้สนใจข้ามากเท่าใดนัก ข้าไม่งามหรือ? บุรุษอื่นมักจะเพียรพยายามมาขอพบข้าแต่กับพี่ซ่งข้าต้องเป็นฝ่ายไปหาเขาที่ร้านสกุลเซียวตลอดเลยนะพี่ชุ่ยอิง”

    “คุณหนูของบ่าวย่อมงามเกินผู้ใด คุณชายรองอาจมองว่าคุณหนูยังอายุน้อย เขาเป็นสุภาพบุรุษจึงมิอาจแสดงออกมากนักก็เป็นได้เจ้าค่ะ อีกอย่างรอบกายคุณชายรองก็มีเพียงคุณหนูเท่านั้นที่ใกล้ชิดเขาได้ บ่าวไม่เคยเห็นคุณชายรองสนใจสตรีสกุลใดเลยสักคน” ชุ่ยอิงตอบคำถามอย่างระมัดระวังเกรงว่าจะไปสะกิดอารมณ์ร้อนที่เพิ่งจะคลายลงได้ของคุณหนูตนเข้าให้อีก

    “นั่นก็จริง เช่นนั้นข้าก็จะตัดสินในเลือกพี่ซ่งเป็นสามีในอนาคตของข้าแล้วล่ะพี่ชุ่ยอิง ข้าไม่เชื่อว่าความงามของข้าจะไม่ทำให้เขาหวั่นไหว และยิ่งเขาไม่คิดจะสนใจผู้ใดนั่นย่อมหมายความว่าต่อไปพี่ซ่งก็จะรักข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น”

    ชุ่ยอิงมองใบหน้าเด็ดเดี่ยวของเด็กสาวผู้เป็นนายอย่างทอดถอนใจ นางมีส่วนที่น่าสงสารตรงที่ขาดคนที่รักและเอาใจใส่นางอย่างแท้จริง นายท่านใหญ่จะพูดจะกล่าวอันใดกับบุตรสาวขึ้นมาสักคำ ก็จะต้องบอกกล่าวถึงผลประโยชน์เบื้องหน้าเป็นหลัก นายท่านผู้เฒ่าถึงแม้จะรักและตามใจคุณหนูของนางแต่ก็มองว่านางเป็นเพียงแค่สตรีที่ต่อไปก็ต้องเป็นคนสกุลอื่นมอบให้แต่เงินทองและเครื่องประดับโดยไม่ได้สนใจความรู้สึกและความต้องการของนางเลยสักนิด

    เด็กสาวจึงกลายเป็นคนที่อยากเป็นที่หนึ่ง อยากได้ความรักจากผู้อื่น อิจฉาริษยาและแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับสหายอย่างไร้น้ำใจ เมื่อเห็นว่าคุณชายรองเซียวซ่งเป็นที่หมายปองของสตรีหลายคนนางก็ยิ่งอยากเอาชนะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×