ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่ายรักนางร้าย (มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #7 : ก้าวหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 66


    “เจ้าเล่าอาซ่ง ไม่คิดจะกลับไปร่ำเรียนต่อหรือเข้าร่วมการสอบเป็นขุนนางบ้างเลยหรือไร” เซียวหยุนหันมาถามบุตรชายคนเล็ก

    “ไม่แล้วล่ะท่านพ่อ ข้าตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะเข้าเรียนในสำนักศึกษาก็เพื่อเสริมความรู้ให้ตนเองเพียงเท่านั้น ใจข้าคิดอยากจะมาช่วยกิจการในสกุลเซียวเพียงอย่างเดียว พวกเรามีกันแค่สองพี่น้อง พี่ใหญ่เข้าไปเดินในเส้นทางขุนนางแล้ว ก็จะไม่มีผู้ใดช่วยเหลือท่าน ข้าได้ลาออกจากสำนักศึกษาเก๋อหย่วนเรียบร้อยแล้วขอรับ” เซียวซ่งตอบผู้เป็นบิดาอย่างสุภาพ

    “น่าเสียดายเกินไป ความสามารถเจ้าเหนือกว่าข้าด้วยซ้ำไปอาซ่ง หากเจ้าอยากเป็นขุนนางก็ไม่ต้องกังวล กิจการในสกุลเซียวก็มีเพียงร้านเครื่องเขียนของเราเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ให้ท่านพ่อจ้างคนมาดูแลก็ได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนใจทำอะไรเพื่อผู้ใดนะ” 

    “ไม่เลยขอรับพี่ใหญ่ ข้าชอบที่จะเป็นอิสระเช่นนี้เอง อีกอย่างหากว่าท่านปู่ยอมย้ายมาอยู่เมืองหลวงกับพวกเรา ท่านพ่อก็จะไม่ต้องกังวลใจ แต่นี่ท่านปู่ยืนกรานจะอยู่ในเมืองเป่ยเจิ้งต่อไป ไม่แน่ว่าข้าอาจจะกลับไปเปิดร้านที่เมืองเป่ยเจิ้งเพื่อดูแลท่านปู่ได้สะดวกด้วยขอรับ”

    สกุลเซียวเวลานี้มีทรัพย์สินเงินทองไม่น้อย แต่หากเทียบกับสกุลผิงก็ยังห่างชั้นกันอยู่อีกไกลโข พวกเขาใช้เงินที่หามาได้ไปกับการขยายกิจการร้านค้าจากเล็ก แล้วค่อยๆ ใหญ่ขึ้น เพิ่มจำนวนสินค้าให้หลากหลายขึ้นเพียงเท่านั้น แม้แต่บ่าวรับใช้ในสกุลพวกเขาก็ไม่ได้หาซื้อมามากเกินความจำเป็น สิ่งใดที่ทำเองได้ก็ทำเอง ใช้ชีวิตกันอย่างสมถะอย่างที่เคยเป็นเมื่อครั้งยังอยู่ในหมู่บ้านผูหลง

    เซียวอวี๋ผู้ชราก็ไม่ยินยอมให้พวกเขาส่งเงินทองกลับไปยังหมู่บ้านผูหลง ด้วยเกรงว่าตนเองอยู่ตัวคนเดียว การมีทรัพย์สินเงินทองติดกายมากเกินไปก็จะเป็นอันตราย เซียวหยุนจึงทำเพียงแค่ส่งของขวัญตามเทศกาลกลับไปให้บิดาเป็นครั้งคราวเพียงเท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามขอร้องเท่าใดเซียวอวี๋ก็ไม่ยอมที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงอย่างเด็ดขาด

    “ข้าพอจะมองออกมาว่าท่านผู้เฒ่าผิงชมชอบเจ้าไม่น้อยเลยอาซ่ง สายตาที่เขามองเจ้ากับมองหลานสาวจินเยว่นั้นดูเหมือนว่าอยากจะจับคู่ให้เจ้าทั้งสองคน พ่อจึงอยากจะเตือนเจ้าไว้สักหน่อย ข้าไม่อาจรับน้ำใจของคนสกุลผิงไปมากกว่านี้แล้ว เรากับเขายังต่างกันอยู่” 

    หากจะกล่าวถึงเรื่องการเลือกคู่ครอง การที่สองสกุลมีฐานะทางสังคมหรือทางการเงินเท่าเทียมกันย่อมเหมาะสมกันเป็นที่สุด แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น สตรีก็มักจะเลือกบุรุษสกุลที่สูงกว่า บุรุษต้องเลือกสตรีที่สกุลด้อยกว่า เช่นนี้คู่แต่งงานก็จะช่วยเหลือและแสดงอำนาจปกครองกันได้เหมาะสม ไม่ต้องให้คู่สมรสต้องอึดอัดใจ

    ถ้าผิงเก่ออยากได้เซียวซ่งเป็นหลานเขย ดูแล้วต่อไปบุตรชายคนเล็กของตนคงไม่สามารถมีปากมีเสียงเหนือคนสกุลผิงได้เลยแม้แต่นิด แม้ในใจตนจะไม่ได้ตั้งท่ารังเกียจพวกเขา และรู้ดีว่าผิงเก่อกับผิงซีหวงเอ็นดูบุตรชายตนมากเพียงใด แต่หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง อีกอย่างคุณหนูผิงผู้นั้นก็หาใช่เด็กสาวที่ธรรมดาไม่ นางเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของสกุลผิง มีแต่คนตามใจ อารมณ์ร้อน เกรงว่าเซียวซ่งผู้สุภาพจะต้องใช้ความอดทนไม่น้อยหากต้องใช้ชีวิตร่วมกัน

    “ท่านพ่อ นางยังเด็กอยู่” เซียวซ่งตอบสั้น ๆ แต่นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เซียวหยุนชะงักค้างไปครู่หนึ่ง เขารู้ว่าบุตรชายคนเล็กเข้าใจในความหมายที่เขาเอ่ยเตือน แต่เซียวซ่งกลับเลือกที่จะไม่ตอบรับหรือปฏิเสธออกมา เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เรื่องเช่นนี้คงต้องแล้วแต่วาสนาของแต่ละคนแล้ว

    ………

     

    ช่วงเวลา 3 เดือนแรกในการรับตำแหน่งขุนนางขั้น 9 ของเซียวซ่าน เขาต้องผจญกับสายตาที่เหยียดหยามและคำซุบซิบนินทาด้วยความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด เดิมทีสกุลพ่อค้าก็มักจะถูกมองว่าเป็นสกุลคนละชั้นกับตระกูลขุนนางอยู่แล้ว ยังดีที่ความสามารถของเขาเป็นที่ประจักษ์ หลังจากผ่าน 3 เดือนที่เขาทุ่มเทจิตใจไปกับการทำงานอย่างซื่อตรง ก็ทำให้ได้รับการต้อนรับจากสหายร่วมงานมากขึ้น จนในที่สุดทุกคนก็ลืมไปแล้วว่าบุรุษแซ่เซียวผู้นี้มาจากตระกูลพ่อค้า

    ทางด้านผิงจินเยว่หลังจากที่เห็นท่าทีของท่านปู่ นางก็ถือโอกาสใช้การออกไปหาเซียวซ่งที่ร้านค้าของสกุลเซียวเป็นข้ออ้างในการออกไปเที่ยวเล่นนอกจวน แวะเวียนมาหาเขาอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นภาพที่ชาวบ้านชาวเมืองพบเห็นเป็นประจำ 

    เด็กสาวเองก็พึงพอใจที่ตนเองตกเป็นเป้าสายตาของคนมากมาย นางชื่นชอบการโอ้อวดโฉมและมีชื่อเสียง ซ้ำเซียวซ่งก็ยังได้รับความนิยมจากบรรดาหญิงสาวหลายสกุล เพราะยามนี้ไม่เพียงเขามีหน้าตาหล่อเหลารูปลักษณ์องอาจสง่างามเพียงเท่านั้น แต่ยังพ่วงด้วยการเป็นน้องชายขุนนางเซียวซ่านผู้มีอนาคตอีกด้วย สตรีใดที่ตกแต่งให้คุณชายรองเซียวผู้นี้อย่างไรก็นับว่าได้ผูกสัมพันธ์เป็นเครือญาติกันกับสกุลขุนนางแล้ว

     

    จวนสกุลผิง

     

    “น้องชาย หลานชายข้ายินดีด้วย มาให้ข้ารินสุราอวยพรให้พวกเจ้าทั้งสองสักคราเถิด” ผิงซีหวงคว้ากาสุราจากมือบ่าวรับใช้มารินใส่ถ้วยชาด้วยตนเอง

    “พี่ชายหากไม่ใช่เพราะท่านสนับสนุนในคราวนั้น วันนี้อาซ่านก็คงไม่เติบโตได้ดีถึงเพียงนี้ เป็นพวกเราต่างหากที่ต้องคำนับสุราให้กับท่าน” เซียวหยุนรับถ้วยสุราจากพี่ชายต่างสกุลมาแล้วคำนับให้กับเขาก่อน

    “ฮ่าๆ หากอาซ่านไม่มีความสามารถจะมีวันนี้ได้หรือน้องชาย เพียง 9 เดือน หลานชายก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากขุนนางขั้น 9 เป็นขั้น 8 แล้ว ทั่วทั้งเมืองหลวงจะมีสักกี่คนกันเชียวที่มีความสามารถโดดเด่นเช่นเขา”

    ในระยะเวลา 9 เดือน จากความพยายามอย่างสุดความสามารถของเซียวซ่าน ที่ต้องการลบตำสบประมาทที่ว่าตนใช้เส้นสายเข้ามาเป็นขุนนาง เขาเป็นเสมียนตัวเล็กๆ ที่มีหน้าที่จดบันทึกจำนวนสินค้าและวัสดุภัณฑ์ที่หลวงเก็บเข้าคลัง แต่หลังจากที่ทำงานโดยไม่ลาหยุดและไม่เคยผิดพลาด เผยจิ้งสหายของผิงซีหวงที่เป็นขุนนางขั้น 5 ก็ถวายฎีกาเสนอชื่อให้เขาเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นขุนนางขั้น 8 ทำหน้าที่จัดเก็บภาษีอากร

    “ยังมีอีกนะอาหยุน ใต้เท้าเผยเองก็ชื่นชมเซียวซ่านไม่น้อยเลย ทั้งยังเปรยๆ ว่าบุตรสาวคนรองของเขาอายุ 18 ปีแล้วยังไม่ได้หมั้นหมายเพราะยังไม่พบบุรุษที่ถูกใจ เขากล่าวว่า หากบุตรสาวได้ออกเรือนไปกับบุรุษเช่นคุณชายใหญ่สกุลเซียวก็คงจะดีไม่น้อย ข้าว่าคำกล่าวลอยๆ เช่นนี้เป็นการจงใจพูดให้ข้าได้ยิน ถ้าพวกเจ้าไม่ว่ากระไรข้าจะเป็นพ่อสื่อไปสู่ขอคุณหนูสกุลเผยให้หลานชายด้วยตัวเอง”

    เซียวซ่านได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย คุณหนูรองสกุลเผยผู้นี้เขาได้พบหน้ามาแล้วหลายครั้ง นางมีบุคลิกอ่อนโยนนิ่มนวล เขาเคยได้สนทนากับนางอยู่ไม่กี่ประโยคแต่ก็นับว่าถูกตาต้องใจกันอยู่บ้าง หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่อาจหาญริอ่านจะเป็นคางคกหมายกินเนื้อหงส์ แต่ยามนี้ตนเองนับว่าสร้างเนื้อสร้างตัวได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้พยักหน้าสื่อความเป็นนัยให้กับบิดาอย่างเต็มใจ

    “ท่านพ่อข้าไปด้วยเจ้าค่ะ ข้าอยากจะไปพบพี่หญิงหลั่นหลิงด้วย พี่ใหญ่ซ่านข้าย่อมกล่าวถึงท่านกับพี่หลั่นหลิงให้มากอยู่แล้ว วางใจข้าได้เลยเจ้าค่ะ” เด็กสาวกุลีกุจอขันรับอาสา

    นางย่อมสนับสนุนเซียวซ่านและเผยหลั่นหลิงอยู่แล้ว ยามนี้บุรุษที่คู่ควรกับนางยังไม่มีผู้ใดเหมาะสมมากไปกว่าเซียวซ่ง ถึงแม้จะมีคุณชายอีกหลายคนที่มีฐานะดีกว่าสกุลเซียวแต่ก็หาบุรุษรูปงามเกินกว่าเขาไม่ได้ อีกทั้งข้อจำกัดที่นางเป็นเพียงบุตรีของพ่อค้าต่อให้ร่ำรวยเพียงใดหากจะแต่งให้กับสกุลขุนนางก็เป็นได้เพียงอนุภรรยาเท่านั้น หากนางต้องการเป็นภรรยาเอกก็มีเพียงแต่งให้กับสกุลพ่อค้าเช่นเดียวกัน นับประสาอันใดกับเซียวซ่านที่มีพี่ชายที่กำลังก้าวหน้าในเส้นทางขุนนางกันเล่า

    และสะใภ้ใหญ่สกุลเซียวต่อไปย่อมมีอำนาจเหนือสะใภ้รอง คุณหนูทายาทเพียงคนเดียวของสกุลผิงเช่นนางย่อมไม่ยินยอมจะถูกกดหัวให้ต่ำกว่าผู้ใดเป็นแน่ เผยหลั่นหลิงผู้นี้นางสนิทสนมเป็นอย่างดีและรู้ว่านางเป็นสตรีหัวอ่อน หากได้เผยหลั่นหลิงมาเป็นพี่สะใภ้ในอนาคตของนาง ต่อไปอำนาจภายในสกุลเซียวก็ไม่แน่ว่าจะต้องเป็นสะใภ้ใหญ่ที่จะได้จัดการทุกอย่างอย่างเบ็ดเสร็จเท่านั้น 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×