ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่ายรักนางร้าย (มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #5 : ดอกบัวขาวสองดอก

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 66


    “ไม่มีหรอก คุณชายรองเซียวเย็นชายิ่ง หญิงสาวมากมายมาเฝ้ารออยู่หน้าประตูสำนักศึกษาเก๋อหย่วนทุกวันเขาก็ไม่สนใจจะพูดคุยกับผู้ใด สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวอยู่ในสถานศึกษาที่มีแต่บุรุษไปเสียเช่นนั้น เพื่อที่จะไม่ต้องออกมาเจอกลุ่มหญิงสาวที่คอยมาตามตื๊ออยู่ทุกวี่วัน หากข้าไม่ได้ไปหาท่านพ่อในสำนักศึกษาบ่อยๆ ก็คงไม่มีทางได้ชมโฉมคุณชายรองเซียวผู้นี้ได้ง่ายหรอก” หย่วนอี้เจินกล่าว

    “เช่นนั้น เจ้ารู้จักที่สวมชุดสีขาวทั้งสองคนนั้นหรือไม่?" ผิงจินเยว่ส่งสายตาเป็นสัญญาณให้หย่วนอี้เจินมองไปยังสตรีอายุราว 16-17 ปี สองคนที่นั่งวาดภาพอยู่ด้วยกัน ดูจากสายตาและภาษากายของสตรีทั้งสองแล้วเหมือนว่าพวกนางกำลังวาดภาพของคนใดคนหนึ่งในกลุ่มของเซียวซ่งอยู่

    “คนทางซ้ายคือหมิงเนี่ยฮุ่ย บุตรีภรรยาเอกของท่านเจ้ากรมโยธา คนทางขวาของเจ้าก็คือ จ้าวอวี้หลัน บุตรีภรรยาเอกสกุลจ้าวเจ้าของโรงรับจำนำจิ่นฮั่ง พวกนางอายุ 16 ปี ถึงวัยออกเรือนพอดีเชียวล่ะ ฮ่าๆ” หย่วนอี้เจินยังคงหยอกล้อสหายที่อายุน้อยกว่านาง 1 ปีอย่างสนุกสนาน

    “สวมชุดขาวเช่นนั้นหรือ อยากเป็นสตรีที่ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับดอกบัวเช่นนั้นหรือ อย่างนั้นข้าก็ควรจะสนับสนุนพวกนางสักหน่อยดีหรือไม่หย่วนเอ๋อร์ วันเกิดข้าทั้งทีข้าควรมอบของขวัญตอบแทนพวกนางเล็กๆ น้อยกลับไปบ้าง” ผิงจินเยว่เอียงคอกล่าวคำเชื่องช้า เสียงหวานหยด ใบหน้าก็แย้มยิ้มงดงาม

     

    “พี่ซ่งข้าอยากได้ดอกบัวเจ้าค่ะ” ผิงจินเยว่เดินมาหาเซียวซ่งส่งเสียงร้องขออย่างน่าเอ็นดู 

    เซียวซ่งยกยิ้มและพยักหน้าให้นางถือเป็นการตอบรับคำขอของเด็กสาว 

    ในที่นี้มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าสกุลเซียวและสกุลผิงสนิทสนมกันเพียงใด จากสายตาผู้อื่นผิงเก่อและผิงซีหวงรักใคร่เอ็นดูคุณชายใหญ่และคุณชายรองสกุลเซียวราวกับบุตรหลานในสกุล การที่นางเรียกขานเขาเช่นนี้ไม่ทำให้ผู้ใดนึกตำหนิพวกเขาได้เพราะคิดว่าพวกเขาสนิทสนมรักใคร่กันดังพี่น้อง

    “พวกเราไปด้วย คุณหนูผิงเจ้าอยากได้ดอกบัวมากเพียงใดเล่า” สหายอีกสองคนของเซียวซ่งรีบลุกตามขึ้นมาทันที โอกาสที่จะได้ยื่นหน้าเข้าไปให้บุตรสาวเพียงคนเดียวของนายท่านสกุลผิงผู้นี้ได้เห็น พวกเขาย่อมไม่อยากพลาดไป

    “ไม่รบกวนคุณชายทั้งสองเจ้าค่ะ ให้พี่ซ่งเก็บมาให้ข้าเพียงสองสามดอกเท่านั้นก็พอแล้ว”

    เมื่อกลุ่มของเซียวซ่งพูดคุยกันไปพลางเดินไปทางบันไดกว้างขวางที่ทอดลงไปยังทะเลสาบ ก็เรียกความสนใจจากหนุ่มสาวโดยรอบในทันที สตรีหลายคนเงี่ยหูฟังสิ่งที่พวกเขาสนทนากัน เมื่อรู้ว่าเซียวซ่งจะไปเก็บดอกบัว ก็เร่งฝีเท้าเดินตามพวกเขากันไปเป็นแถว กลุ่มบุรุษเมื่อเห็นว่าสตรีหลายคนอยากจะได้ดอกไม้ก็พากันอาสาเข้ามาช่วย ทำให้บริเวณบันไดริมทะเลสาบที่แต่เดิมกว้างขวางกลับมีผู้คนยืนกันเต็มไปหมด

    เซียวซ่งเลือกเด็ดดอกบัวสีชมพูดอกใหญ่ที่บานเต็มที่มาสองดอก และเลือกดอกตูมที่กลีบสมบูรณ์ไม่ขาดแหว่งมาอีกสองดอก เมื่อสังเกตเห็นว่ามีผู้คนอยู่รอบตัวเองมากเกินไปก็ก้าวเดินออกจากฝูงชนเตรียมนำมามอบให้เด็กสาวโดยเร็ว 

    เขาหันมาก็ทันได้เห็นนางกำลังกระซิบความบางอย่างอยู่กับสาวใช้ประจำตัว พอนางเห็นเขาก็ผลักสาวใช้ผู้นั้นออก แล้วรีบยิ้มรับดอกบัวที่เซียวซ่งส่งให้อย่างดีใจ

    “งามจริงๆ เจ้าค่ะ ขอบคุณพี่ชาย" เด็กสาวรับดอกบัวงามมากุมไว้แนบอก แก้มสองข้างของนางแดงเรื่อจากตากแดด ริมฝีปากที่แดงอวบอิ่มดึงดูดสายตาเซียวซ่งให้ตะลึงลานไปชั่วอึดใจในบัดดล

    “อืม” ชายหนุ่มยิ้มรับและตอบคำเบาๆ รีบย้ายสายตาของตนเองไปยังกลุ่มคนที่กำลังเก็บดอกบัวกันอยู่โดยเร็ว ในใจก็พาลโกรธตัวเองยิ่งนักที่มีจิตใจสกปรก คิดไม่ดีกับเด็กสาววัยเพียง 13 ปีได้ลงคอ นางทั้งสูงทั้งอิ่มเอิบดูเหมือนหญิงสาวอายุ 15 ปี หากแต่ใบหน้ายังคงมีแก้มป่องเฉกเช่นเด็กสาววัยเยาว์อยู่ สัดส่วนอื่นนั้นไม่อาจดูเบาได้เลย ช่างเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้าและรูปลักษณ์ล่อผึ้งเรียกผีเสื้อยิ่งนัก (สำนวนจีนหมายถึงดึงดูดให้ผู้คนสนใจ)

    เมื่อผิงจินเยว่รับดอกบัวมานางก็บรรจงพับกลีบดอกบัวเป็นรูปทรงสวยงาม โดยมีเซียวซ่งและสหายของเขาอีกสองคนจับกลุ่มนั่งอยู่รวมกัน เพียงไม่นานก็มีเสียงเอะอะดังมาจากทางบันไดริมทะเลสาบ

    “ตูม”

    “ตูม”

    “กรี๊ด”

    “ว้าย คนตกน้ำ มีคนตกน้ำ”

    เสียงสตรีกรีดร้องกันดังขึ้นมา เมื่อครู่มีคุณหนูสองคนตกลงไปในน้ำ และนางทั้งสองก็ใช้มือไขว่คว้าคนที่อยู่ใกล้ๆ เอาไว้ หลายคนต่างก็รีบจับรีบรั้งกันเอาไว้เพื่อไม่ให้มีคนตกน้ำลงไปเพิ่ม จนเกิดการฉุดรั้งดึงกันชุลมุนวุ่นวาย บางคนที่พอตั้งหลักได้ก็รีบก้าวขึ้นจากบันไดริมน้ำขึ้นมายืนอยู่บนศาลา

     คุณชายอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังเอื้อมมือเด็ดดอกบัวที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น คนที่อยู่ใกล้และมีสติดีหน่อยก็พยายามให้ความช่วยเหลือสตรีสองคนที่พลัดตกน้ำลงไป ไม่นานหญิงสาวในชุดสีขาวสองคนก็ได้รับความช่วยเหลือ มีบุรุษสามสี่คนที่ช่วยกันดึงมือทั้งสองของพวกนางขึ้นมาได้สำเร็จ 

    เพียงแต่ว่ายามนี้ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทุกคน กลับเป็นร่างเปียกปอนของหญิงสาวที่ชุดสีขาวบางเบาของพวกนางไม่สามารถปกปิดร่างกายได้มิดชิดเลยสักนิด ชายหนุ่มที่มีความเป็นสุภาพบุรุษหน่อยต่างก็เบือนหน้าหนีอย่างให้เกียรติ ส่วนอีกสองคนที่เพิ่งช่วยพวกนางขึ้นมาเมื่อครู่ก็รีบถอดเสื้อคลุมของตนเองนำไปคลุมร่างกายของหญิงสาวเอาไว้

    หมิงเนี่ยฮุ่ยและจ้าวอวี้หลันยังไม่ทันหายตกอกตกใจจากการตกน้ำมาหยกๆ เมื่อขึ้นมาบนฝั่งได้กลับต้องมาเห็นสายตาของผู้คนมากมายต่างก็จ้องมองมายังร่างกายที่เปียกปอนของตน ชุดสีขาวที่เปียกชุ่มแนบไปกับลำตัวของหญิงสาววัย 16 ปี เน้นทรวดทรงให้เห็นเด่นชัดไปทุกสัดส่วน แม้ว่าจะมีคนถอดเสื้อมาคลุมร่างเอาไว้ให้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว พวกนางส่งเสียงกรีดร้องด้วยความอับอายออกมาแล้วสลบไปในทันที ทำให้บุรุษสองคนที่คลุมเสื้อให้นางอยู่เมื่อครู่ต้องรับร่างของพวกนางเอามาไว้ในอ้อมกอด

    “เกิดอะไรขึ้น!!” พ่อบ้านลี่นำบ่าวรับใช้ชายหญิงอีกหลายคนวิ่งเข้ามาใกล้ที่เกิดเหตุอย่างร้อนรน 

    เขาได้ยินเสียงคนร้องโวยวายว่ามีคนตกน้ำแล้ว แต่พอมาเห็นว่ามีคุณชายสองคนกำลังอุ้มร่างหญิงสาวอีกสองคนไว้ ก็ต้องตะโกนถามออกมาอย่างร้อนใจ คุณหนูคุณชายกลุ่มนี้ล้วนเป็นชายหญิงทีี่ยังไม่ได้ออกเรือน บิดามารดาของพวกเขาก็ยังร่วมดื่มกินอยู่ในงานเลี้ยง ภาพที่ทุกคนได้เห็นในเวลานี้ไม่งามนัก แม้ว่าการพบหน้าของบุรุษและสตรีในยามนี้ไม่ได้เข้มงวดนัก ชายหญิงไม่ต้องนั่งแยกโต๊ะหรือกั้นม่านเวลาต้องพบปะกัน สามารถร่วมวงสนทนากันได้อย่างเสรี แต่การถูกเนื้อต้องตัวนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกทั้งยังเหตุการณ์ยังปรากฏต่อหน้าสายตาของคนหลายคน คงไม่สามารถปิดบังเรื่องราวได้ง่ายอีกด้วย

    “รีบไปแจ้งให้นายท่านทราบเร็วเข้า แล้วไปเชิญท่านหมอมาที่จวนโดยด่วน” พ่อบ้านลี่สั่งบ่าวชายในกลุ่ม

     

    “เป็นนางสองคน สาวใช้สองคนนี้เดินมาชนข้า ข้าก็เลยล้มลงไปชนพี่สาวทั้งสองอีกทีหนึ่งเจ้าค่ะ” เด็กหญิงอายุราว 12 ปี ร้องไห้น้ำตาอาบสองแก้า ชี้มือไปยังสาวใช้สองคนที่คุกเข่ายอมรับผิดอยู่อย่างรู้ความผิดของตน

    “ท่านพ่อบ้าน เป็นความผิดข้าเองเจ้าค่ะ เราสองคนจะเข้าไปช่วยคุณหนูเก็บดอกบัว แต่ข้าไม่ทันระวังจึงลื่นล้มไปชนชุ่ยหงจนล้ม แล้วนางก็พลาดไปชนกับกลุ่มคุณหนูที่ยืนอยู่ตรงบันไดเข้าพอดี จังหวะนั้นทุกคนต่างก็ยืนได้ไม่มั่นคง แล้วดึงรั้งกันไปเป็นทอด จนทำให้คุณหนูทั้งสองท่านตกลงไปในน้ำเจ้าค่ะ” ชุ่ยต่งก้มหน้าเล่าเหตุการณ์ตัวสั่นเสียงสั่น มือก็จับกับชุ่ยหงสาวใช้อีกคนเอาไว้แน่น

    เวลานี้ทางกลุ่มผู้ใหญ่ที่อยู่ในงานเลี้ยงใกล้ๆ ต่างก็ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ทางศาลาริมทะเลสาบแล้ว ผิงซีหวงไม่อาจปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ได้ เพราะหากสตรีสองคนที่ตกน้ำลงไปเกิดเจ็บป่วยเป็นอะไรรุนแรงขึ้นมา สกุลผิงก็ไม่อาจไม่รับผิดอยู่แล้วจึงรีบบอกกล่าวกับพวกเขา 

    ผิงจินเยว่เห็นว่ามีคนกำลังมาทางนี้ นางก็ตัดสินใจเร่งตัดสินความเสียก่อนที่จะมีคนมาถามความให้มากเรื่องไปอีก

    “วันเกิดของข้าแท้ๆ บ่าวไพร่ในสกุลกลับมาทำให้แขกต้องเดือดร้อน เจ้าลงไปวุ่นวายกับกลุ่มคุณหนูเหล่านี้ได้เช่นไร ท่านพ่อบ้านให้คนมาเอานางทั้งสองคนไปโบยเสียเดี๋ยวนี้!! หากไม่ลงโทษพวกนาง ข้าจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดเป็นแน่” ผิงจินเยว่ร้องสั่ง

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×