คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ข้าพึงใจเขา
เมื่อมาถึงบริเวณพื้นที่จัดงาน เซียวซ่งปล่อยให้ผิงจินเยว่เดินนำหน้าไปพร้อมกับสาวใช้ทั้งสามคนก่อน ส่วนเขาก็หยุดเพื่อเว้นระยะห่างจากนางเล็กน้อยแล้วจึงเดินตามไปทีหลัง
หลังจากรับของขวัญและคำนับผู้อาวุโสไปหลายคนแล้ว หน้าที่ของผิงจินเยว่ในการเป็นเจ้าของงานเลี้ยงก็จบลงเพียงเท่านั้น ผิงซีหวงให้นางนั่งอยู่เป็นเพื่อนท่านปู่และมารดา ส่วนตัวเขาก็พาเซียวซ่านตระเวนไปรอบงานดังเดิม
“ข้าเบื่อมากเลยเจ้าค่ะ นี่เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของข้า แต่ดูท่านพ่อทำสิ!! นี่ไม่ต่างกับการเลี้ยงรับรองแขกของท่านพ่อเลยแม้แต่น้อย การละเล่นอะไรก็ไม่ได้จัดเตรียมให้ข้า พิณสักตัว นางรำสักคนก็ไม่มี เช่นนี้เรียกว่างานเลี้ยงหรือเจ้าคะ แล้วดูของขวัญที่พวกเขาให้มาสิเจ้าคะ มันเหมาะสมกับข้าที่ใดกัน พวกเขาเจตนานำมามอบให้ท่านพ่อชัดๆ” เด็กสาวโวยวายขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร
“เยว่เอ๋อร์เจ้าอย่าก่อเรื่อง!!” ผิงเก่อรีบดุหลานสาว
ยังดีที่ผิงเก่อไม่อยากร่วมโต๊ะกับผู้อื่นให้วุ่นวาย อย่างไรแขกในงานวันนี้ก็ล้วนเป็นสหายและคนรู้จักของผิงซีหวงแทบทั้งสิ้น เขามานั่งอยู่ที่นี่ก็เพื่ออวยพรหลานสาวเพียงเท่านั้น ในโต๊ะอาหารที่เขานั่งอยู่จึงมีเพียงแค่ ผิงเก่อ หลานฮูหยินผู้เป็นสะใภ้ เซียวหยุนและเซียวซ่ง ที่หลานสาวตัวดีโวยวายไร้มารยาทจึงมีเพียงคนบนโต๊ะเท่านั้นที่ได้ยิน
“ท่านปู่ก็เห็นว่าสิ่งที่ข้ากล่าวนั้นเป็นความจริงนะเจ้าคะ”
ผิงจินเยว่เหลือบสายตาไปมองเซียวหยุนและเซียวซ่งที่ก้มหน้าดื่มชาทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรครู่หนึ่ง นางสู้อดทนทำตัวมีมารยาทต่อหน้าบุรุษรูปงามมาเสียเนิ่นนาน แต่ยามนี้นางไม่อยากทนแล้ว งานของนาง แต่นางไม่รู้สึกสนุกเลยสักนิด!! นางอุตส่าห์ตัดชุดกระโปรงใหม่มาเพื่ออวดโฉมคนในงานเลี้ยง แต่นางมีโอกาสเพียงแค่ยืนขึ้นคารวะน้ำชาผู้อาวุโสไม่กี่คนเพียงเท่านั้น เล็บสีแดงที่ให้สาวใช้ทาตั้งแต่เช้า นางไม่ยอมหยิบจับของสิ่งใดเพราะเกรงว่าสีเล็บจะหลุดลอก ยามนี้ก็ไม่มีผู้ใดได้เห็นมัน น่าโมโหยิ่งนัก
“เยว่เอ๋อร์เอาอย่างนี้ เดี๋ยวแม่จะให้แม่นมว่านไปแจ้งกับฮูหยินในงาน ว่าเจ้าเชิญคุณหนูคุณชายทุกคนแยกไปเดินเล่นทางศาลาริมทะเลสาบดีหรือไม่ ดอกไม้ทางด้านนั้นกำลังเบ่งบานงดงามอยู่ไม่น้อย แล้วค่อยให้สาวใช้นำของว่างไปส่งให้ภายหลัง” หลานฮูหยินรีบกล่าวก่อนที่ผิงเก่อจะโมโห แล้วบุตรสาวจะอาละวาดเข้าอีก
ผิงจินเยว่ได้ยินก็ค่อยคลายโทสะลงได้หน่อย หากเชิญคุณหนูคุณชายไปเดินเล่นทางนั้น นางก็จะมีโอกาสได้โอ้อวดความงามของตนได้
“ท่านปู่หลานขออภัยเจ้าค่ะ ครั้งนี้ท่านพ่อทำเกินไปจริงๆ คุณหนูคุณชายสหายของข้าก็มาร่วมงานตั้งหลายคน แต่ท่านพ่อกลับให้พวกเขาต้องนั่งดื่มกินอยู่กับผู้ใหญ่เงียบๆ ผู้คนจะดูถูกและหัวเราะเยาะข้าเอาได้ดีไม่ดีจะดูถูกสกุลผิงของเราด้วยว่าไม่รู้จักจัดการงานให้ดี” เด็กสาวคุกเข่าลงข้างเก้าอี้ของผิงเก่อ ก้มศีรษะคำนับขอโทษขอโพย
“เอาล่ะๆ เจ้าก็กล่าวไม่ผิดหรอก พ่อบ้านลี่ส่งคนไปจัดการทางศาลาริมทะเลสาบเสียหน่อยแล้วกัน” ผิงเก่อตัดบท เขาจะไม่รู้จักนิสัยหลานสาวตนเองได้อย่างไร แต่อยู่ต่อหน้าเซียวหยุนและเซียวซ่งอย่างไรก็ต้องไว้หน้าหลานสาวบ้าง และครั้งนี้นางก็พอจะมีเหตุผลให้โมโหอยู่ หากปล่อยให้นางอาละวาดจะยิ่งอับอายขายหน้าไปมากกว่านี้
“ท่านอา พี่ซ่งข้าขออภัยพวกท่านด้วยนะเจ้าคะที่เสียมารยาทต่อหน้าพวกท่าน ข้าต้องอับอายแล้ว” เด็กสาวหันมาคำนับเซียวหยุนและเซียวซ่งที่ยังคงนั่งอยู่เงียบๆ
“หลานสาว เจ้าไม่ต้องกังวลข้าไม่ตำหนิเจ้าหรอก เจ้าเป็นเด็กก็อยากมีงานเลี้ยงที่สนุกสนานเป็นธรรมดา เดี๋ยวให้พี่ชายซ่งไปเป็นเพื่อนด้วยทางนั้นก็แล้วกัน ปล่อยให้คนชราอยู่กันทางนี้เถิด” เซียวหยุนเอ่ยปลอบเด็กหญิงอย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของนาง
“พี่ซ่งท่านไปกับข้านะเจ้าคะ” ผิงจินเยว่เปลี่ยนสีหน้ามายิ้มแย้มทั้งน้ำตาในทันใด มองเซียวซ่งด้วยสายตาคาดหวัง
“อืม ข้าจะไปกับเจ้า” ชายหนุ่มรับคำ
ถึงยามเซิน (15.00-16.59) กลุ่มหนุ่มสาวราว 20 กว่าคน ที่อยู่ในวัย 11-18 ปี ก็ถูกเชิญให้ไปชมดอกไม้และนั่งเล่นที่ศาลาริมทะเลสาบที่เวลานี้มีดอกบัวเบ่งบานอยู่เต็มพื้นที่ จวนสกุลผิงร่ำรวยยิ่งนัก ไม้ดอกไม้ประดับราคาแพงหลายชนิดถูกปลูกและประดับประดาเอาไว้เต็มสวน บรรดาคุณหนูมีสกุลทั้งหลายต่างก็พากันตื่นเต้นกับดอกไม้สวยงามนานาชนิด ส่งเสียงวี้ดว้ายกันตลอดทางเดิน ส่วนบรรดาบุรุษทั้งเล็กทั้งใหญ่ก็ได้แต่เดินอมยิ้มหน้าแดงระเรื่อชื่นชมความงามทั้งดอกไม้และหญิงงามกันเพลิดเพลิน
“เยว่เอ๋อร์เจ้าช่างน่าอิจฉายิ่งนัก แม้จะมายืนอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่งดงาม เจ้าก็ยังงามกว่า” หย่วนอี้เจินบุตรีของหย่วนกู้เส้าอาจารย์ใหญ่แห่งสำนักศึกษาเก๋อหย่วนเอ่ยปากชมสหายของนาง
“อาหย่วนเจ้ากล่าวอันใดกัน ทำข้าต้องอับอายแล้ว” ผิงจินเยว่ตอบกลับอย่างขวยเขินหน้าแดงก่ำ
“ชิ มีผู้ใดในที่นี้คิดว่าคำกล่าวของข้าไม่จริงกันบ้างเล่า” หย่วนอี้เจินร้องถามเสียงดัง เรียกสายตาทั้งบุรุษและสตรีโดยรอบ
ผิงจินเยว่ช้อนสายตามองกลุ่มคนที่มองมายังนางเพียงผู้เดียวอย่างพึงพอใจ ถ้าเรื่องความโดดเด่นนางย่อมไม่เป็นรองผู้ใดแน่ แม้จะภาคภูมิใจแต่นางก็ยังก้มหน้าก้มตาดึงแขนเสื้อของสหายรักด้วยท่าทีเอียงอายน่ามอง
“เจ้าล้อข้าเล่นแล้ว รีบไปที่ศาลากันเถิด ดอกบัวกำลังเบ่งบานงดงามอยู่เชียว” เด็กสาวแสร้งเร่งฝีเท้าดึงมือสหายหลบสายตาผู้คนที่กำลังชื่นชมนางอย่างโจ่งแจ้งไปโดยเร็ว
พ่อบ้านลี่และแม่นมว่านจัดการต้อนรับคุณหนูคุณชายผู้ร่ำรวยเหล่านี้ได้ดียิ่งนัก ไม่ว่าจะของว่าง ผลไม้ ชาชั้นดี พิณ กระดาษพู่กันสำหรับวาดภาพและเขียนอักษร แม้กระทั่งกระดานหมาก ก็ถูกจัดเตรียมเอาไว้หลายชุด วางกระจายไว้หลายแห่ง เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมหลากหลายได้พร้อมๆ กัน
เซียวซ่งก็พอจะมีสหายร่วมสถานศึกษาเดียวกันกับเขาอยู่บ้าง จึงได้แยกตัวไปนั่งจิบชาอยู่กับสหายสองสามคนที่อยู่ในวัยเดียวกัน
“เยว่เอ๋อร์ เจ้าพาข้าไปรู้จักกับคุณชายรองเซียวซ่งได้หรือไม่ ข้าไม่มีโอกาสได้พบหน้าเขาใกล้ๆ เช่นนี้มาก่อนเลย มาหาเจ้าที่จวนสกุลผิงคราวใดก็ไม่เคยได้พบกับเขาเลยสักครั้ง ตื่นเต้นจัง" หย่วนอี้เจินกระตุกเสื้อผิงจินเยว่เบาๆ สายตามองไปยังเซียวซ่งไม่วางตา
“เจ้าก็รู้จักพี่ซ่งเช่นนั้นหรือ?”
“โอ้ย ผู้ใดจะไม่รู้จักคุณชายรองแซ่เซียวผู้นี้กันบ้างเล่า ทั้งหล่อเหลาและเก่งกาจ ขี่ม้าก็เก่ง ยิงศรก็แม่น ลายมือของเขาก็งาม ดีงามไปทุกเรื่องนั่นล่ะ เจ้าดูสายตาของบรรดาสตรีในที่นี้สิ มีผู้ใดไม่มองเขาบ้างเล่า” หย่วนอี้เจินกระซิบเบาๆ
ผิงจินเยว่แสร้งทำเป็นลูบผมจัดเสื้อผ้า สายตาก็กวาดมองไปทั่วบริเวณทั้งในและนอกศาลาที่บรรดาคุณหนูทั้งหลายกำลังจับกลุ่มกันอยู่ และนางก็ได้เห็นว่าเป็นเช่นที่สหายนางกล่าวจริงๆ หญิงสาวทุกคนต่างก็ชำเลืองมองไปที่เซียวซ่งกันเป็นระยะๆ บางคนที่ใจกล้าหน่อยก็เดินผ่านไปผ่านมาอยู่บริเวณที่กลุ่มของชายหนุ่มนั่งอยู่พร้อมกับส่งสายตาให้พวกเขาอย่างโจ่งแจ้ง
“ข้าก็พึงใจพี่ซ่งอยู่ไม่น้อย หากเจ้าอยากจะรู้จักเขาก็คงต้องเลิกเป็นสหายกับข้า เจ้าว่าอย่างไรเล่าหย่วนเอ๋อร์” เด็กสาวสะบัดมือของสหายที่ดึงแขนเสื้อของนางออกแรงๆ
“อ๊ะ!! เจ้า!!" หย่วนอี้เจินตกใจจนอุทานเสียงดัง
“เฮ้อ ถึงข้าอยากสู้ข้าก็สู้เจ้าไม่ชนะอยู่ดี ดูรูปโฉมของเจ้ากับข้าเสียก่อนเถิดเยว่เอ๋อร์ เอาเป็นว่าข้าเลือกเจ้าก็แล้วกัน” หย่วนอี้เจินสะบัดเสียงตอบสหายไม่ยอมลดละเช่นกัน
“มีผู้ใดที่ข้าควรกำจัดหรือไม่ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าพี่ซ่งสนใจสตรีคนใดบ้าง” ผิงจินเยว่จ้องมองสหายอย่างคาดคั้น
“เจ้าอายุเท่าใดกัน คุณชายรองเขาจะมองเด็กน้อยเช่นเจ้าหรือคุณหนูผิง เจ้ามีสิทธิ์อันใดไปหึงหวงเขาเล่า” หย่วนอี้เจินผลักไหล่สหายเบาๆ ทำหน้าล้อเลียน
“ก็เพราะข้ายังไม่โตน่ะสิ ข้าจึงต้องกำจัดสตรีทุกคนที่อยู่รอบกายเขาไว้ก่อน รออีกหน่อยข้าเชื่อว่าพี่ซ่งจะต้องมาสู่ขอข้าด้วยตนเอง" เด็กสาวเชิดหน้าหยิ่งยโส เอ่ยคำออกมาอย่างมั่นใจ
นางเองก็ยังไม่รู้ใจตนเองเช่นกัน แต่นางเห็นว่าเซียวซ่งหน้าตาดีที่สุดในบรรดาชายหนุ่มที่นางรู้จักแล้ว สกุลเซียวแม้จะไม่ร่ำรวยเท่าสกุลผิงของนาง แต่ท่านปู่และบิดาของนางก็ชมชอบสองพี่น้องสกุลเซียวทั้งสองนี้ยิ่งนัก ต่อไปย่อมสนับสนุนให้สองพี่น้องได้ร่ำรวยมีหน้ามีตาไม่ด้อยค่าอย่างแน่นอน เช่นนั้นนางต้องป้องกันพี่ซ่งจากสตรีอื่นเอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็รอจนกว่านางจะโต หรือจนกว่านางจะพบกับบุรุษที่คู่ควรกับนางมากกว่าเขา
ความคิดเห็น