ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่ายรักนางร้าย (มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #10 : ผิดปกติ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 66


    ในช่วงสองสามเดือนแรกหลังจากงานแต่งงานของเซียวซ่านและเผยหลั่นหลิง ผิงจินเยว่ก็มักจะหาข้ออ้างมาเยี่ยมเยียนเผยหลั่นหลิงที่จวนสกุลเซียวเกือบทุกวัน นอกจากจะมาพูดคุยอยู่เป็นเพื่อนสะใภ้ใหญ่สกุลเซียวแล้วนางก็หาโอกาสมาพบกับเซียวซ่งอยู่ตลอดเวลา

    “พี่ซ่งข้าทำขนมกุ้ยฮวามาให้ท่านเจ้าค่ะ ข้าทำเองเลยนะท่านลองชิมดูก่อน” หญิงสาวส่งจานขนมกุ้ยฮวาที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามยื่นให้กับชายหนุ่มอย่างกระตือรือร้น

    “อืม อร่อยมาก ไม่คิดว่าคุณหนูผิงจะทำอาหารได้ด้วย?” เซียวซ่งถามอย่างแปลกใจ คุณหนูในห้องหออย่างนางยินยอมที่จะให้เส้นผมและเสื้อผ้าของตนเหม็นกลิ่นควันไฟอยู่ในครัวด้วยหรือ

    “ท่านแม่ส่งอาจารย์มาสอนความรู้ให้ข้าถึงเรือนในทุกด้านเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากเรียนก็ต้องเรียนแล้ว” หญิงสาวยู่ปากเล็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู

    “ดีแล้ว เป็นสตรีทำทุกอย่างได้ด้วยตนเองย่อมเป็นผลดีกับตัวเอง” เขาเอ่ยคำอย่างตะกุกตะกักไปเล็กน้อย เมื่อครู่เขาเกือบจะกล่าวว่าเป็นผลดีกับบุรุษที่จะเป็นสามีของนางออกไปแล้ว

    “ข้าทำส่งไปให้ท่านลุงกับท่านป้าแล้วนะเจ้าคะ ของพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ข้าก็ให้คนครัวเก็บไว้อุ่นให้พวกเขาแล้วด้วย” หญิงสาวโอ้อวด 

    นี่เป็นขนมที่นางทำขึ้นเองจริงๆ หลานฮูหยินมารดาของนางเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปที่ใดโดยง่าย วิชาความรู้แขนงต่างๆ ผิงซีหวงก็ให้นางร่ำเรียนอยู่แต่ในจวนด้วยเหตุจากความงามของนางเป็นที่เลื่องลือมากเกินไป หากปล่อยให้นางออกไปเที่ยวเล่นตามใจชอบก็เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงได้เชิญอาจารย์มาถ่ายทอดความรู้ในหลายๆ เรื่องให้กับหญิงสาว

    เซียวซ่งไม่ได้เอ่ยคำต่อเพราะกลัวว่าจะหลุดปากกล่าวคำอะไรที่ไม่งามออกไปอีก จึงได้ละสายตาไปมองยังมือสาวใช้สองคนทางด้านหลังชุ่ยอิงอย่างลืมตัว

    หลายเดือนที่ผ่านมาทุกครั้งที่ผิงจินเยว่มาหาเขาไม่ว่าจะที่ร้านค้าสกุลเซียวหรือมาพบที่จวน นางจะเปลี่ยนสาวใช้มาแทบไม่ซ้ำหน้า แต่ละคนก็มักจะมีบาดแผลจากรอยเล็บข่วนจิกที่มือและบางครั้งก็ยังเห็นบนใบหน้า หลายครั้งที่สาวใช้แต่ละคนจะมีใบหน้าที่บวมแดงคล้ายถูกตบอย่างรุนแรง มีเพียงชุ่ยอิงเพียงคนเดียวที่อยู่รอดปลอดภัยและติดตามนางอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เขาสังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้แต่ไม่เคยเอ่ยปากทักถามผิงจินเยว่เลยสักครั้ง ได้แต่มองสาวใช้ของนางไปอย่างเวทนาเท่านั้น

    ผิงจินเยว่เห็นสายตาของเซียวซ่งมองไปที่สาวใช้สองคนของนาง นางก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันทีอย่างไม่คิดจะปิดบัง ลุกขึ้นมาผลักร่างของสาวใช้สองคนล้มไปอย่างแรง

    “พวกเจ้าสองคนกลับจวนสกุลผิงไปเสียเดี๋ยวนี้ และจากนี้ไปห้ามมาเสนอหน้าให้ข้าเห็นอีกไม่เช่นนั้นข้าจะขายพวกเจ้าออกไปเสีย” หญิงสาวตวาดเสียงดังลั่น 

    “คุณหนู” ชุ่ยอิงรีบมาดึงมือคุณหนูของนางให้กลับมานั่งที่เดิม นางตกใจแทบแย่ไม่คิดว่าคุณหนูของนางจะไม่ห้ามอารมณ์แม้แต่นิด แม้ในยามนี้จะอยู่ต่อหน้าคุณชายรองเซียวซ่ง

    “พวกเจ้าก็รีบกลับออกไปเสีย เดี๋ยวข้าอยู่ดูแลคุณหนูเอง” ชุ่ยอิงรีบไล่สาวใช้อายุน้อยสองคนโดยเร็ว

     

    “พี่ซ่งมองพวกนางด้วยเหตุอันใดหรือเจ้าคะ? ข้าไม่พอใจเจ้าค่ะ” หญิงสาวจ้องตาเซียวซ่งถามออกไปอย่างท้าทาย บุรุษของนางหากไม่เห็นดีเห็นงามกับนาง นางก็จะอาละวาดให้ดู

    เซียวซ่งจ้องตาตอบหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ลดละ แต่แววตาของเขาไม่ได้สื่อถึงความไม่พอใจหรืออันใดออกมาแม้แต่เศษเสี้ยว หลายครั้งแล้วที่หญิงสาวมักจะเอาแต่ใจและก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา และเมื่อเห็นว่าเขาไม่เคยคัดค้าน นางก็ยิ่งถือวิสาสะทำตามอำเภอใจตนเองมากขึ้นไปทุกที 

    ในใจเขาอยากตำหนินางแต่ก็ทำไม่ลง และหากตำหนินางไม่แน่ว่าหญิงสาวก็จะเปลี่ยนเรื่องมาต่อว่าเขาและอาจพาลไปถึงสาวใช้สองคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวนั้นด้วย จึงเปลี่ยนเรื่องที่จะคุยกับนางไปเสียดื้อๆ

    “พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางออกจากเมืองหลวงเพื่อไปติดต่อการค้า เจ้ารักษาตัวอยู่กับเรือนให้ดีกลับมาแล้วข้าจะซื้อของกินอร่อยๆ มาฝากดีหรือไม่” ชายหนุ่มระบายยิ้มน้อยๆ กล่อมหญิงสาวราวกับนางเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ

    ผิงจินเยว่ที่คิดจะอาละวาดอยู่เมื่อครู่ พอได้ยินคำกล่าวที่แสนนุ่มนวลอบอุ่น หัวใจของนางก็เต้นอ่อนลงอย่างงุนงง เรื่องที่คิดจะต่อว่าเขาเมื่อครู่ก็ถูกกลืนลงคอไปโดยไม่รู้ตัว

    “พี่ซ่งจะไม่อยู่หรือเจ้าคะ? นานแค่ไหนกัน”

    “น่าจะหลายวันเลยทีเดียว ข้าคิดจะไปเยี่ยมท่านปู่ของข้าที่เมืองเป่ยเจิ้งด้วย เอาล่ะข้าต้องรีบไปจัดการงานของข้าให้เรียบร้อยก่อน ขออภัยคุณหนูด้วยที่ข้าไม่อาจไปส่งได้”

    เซียวซ่งร่ำลาผิงจินเยว่และต้องตอบคำถามนางอยู่อีกหลายประโยค กว่าหญิงสาวจะยินยอมปล่อยให้เขาแยกออกไปด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้างาม

    “พี่ชุ่ยอิงท่านเห็นหรือไม่ พี่ซ่งไม่ตำหนิข้าเลยแม้แต่นิด ข้ามั่นใจว่าเขามีใจให้ข้าอย่างแน่นอน” หญิงสาวกล่าวขึ้นมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในขณะที่มองตามร่างสูงเดินห่างจากนางจนลับตาไป

    ……….

     

    หลายเดือนต่อมา

     

    เผยหลั่นหลิงที่เวลานี้ตั้งครรภ์ได้สี่เดือนเศษ กำลังนั่งเย็บถุงเท้าสำหรับเด็กทารกอยู่ใกล้ๆ กับฉิงฮูหยินผู้เป็นมารดาของเซียวซ่านอยู่ที่เรือนพักของตน นางเงยหน้าขึ้นมามองบุรุษผู้สวมชุดขุนนางสีเขียวปักลายนกกระทาที่กำลังเดินเข้ามาอย่างร้อนใจ

    “ท่านพี่ เหตุใดสีหน้าจึงซีดขาวเช่นนั้นเล่าเจ้าคะ?” เผยหลั่นหลิงพยายามจะลุกขึ้นเพื่อไปหาเซียวซ่าน

    “เจ้าไม่ต้องลุกขึ้นมา ข้าไม่ได้เป็นอันใด แค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง” เซียวซ่านตรงเข้ามาประคองร่างภรรยาให้กลับลงไปนั่งดังเดิม

    “ท่านแม่อีกครู่ข้าจะไปปรึกษาเรื่องงานกับท่านพ่อสักหน่อย ท่านอยู่เป็นเพื่อนหลั่นหลิงอีกเดี๋ยวได้หรือไม่ขอรับ”

    “เจ้าไปอาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อยเถิด เดี๋ยวแม่จะให้บ่าวยกเม็ดบัวเย็นๆ มาให้สักถ้วยเจ้ากินก่อนแล้วค่อยไป ไม่ต้องห่วงหลั่นหลิงหรอกทางนี้มีแม่คอยดูแลอยู่”

    “ขอบคุณขอรับท่านแม่ หลิงเอ๋อร์เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป ที่กรมมีงานยุ่งก็เท่านั้น” เซียวซ่านบีบมือภรรยารักอย่างรักใคร่ ฝืนยิ้มให้นางอย่างอบอุ่นก่อนจะลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

    ชายหนุ่มรีบกินเม็ดบัวที่มารดานำไปแช่ไว้ในน้ำจนเย็นสดชื่นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขอตัวไปหาเซียวหยุนท่ามกลางสายตาวิตกกังวลของมารดาและภรรยารักที่เห็นถึงความผิดปกติของเขา แต่พวกนางจำต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาความเครียดให้กับชายหนุ่ม

     

    เซียวซ่านเดินมาหาเซียวหยุนที่ห้องหนังสือภายในจวน เวลานี้เซียวหยุนพอจะมีเวลาพักอยู่ในจวนบ้างแล้วหลังจากที่เซียวซ่งเข้ามาจัดการร้านค้าด้วยตนเอง

    “ท่านพ่อ ยามนี้ข้าราวกับไม่มีตัวตนในกรมคลังเลยแม้แต่นิด ชื่อเสียงและตำแหน่งของข้าถูกแขวนเอาไว้เฉยๆ แต่งานทั้งหมดล้วนถูกท่านพ่อตารับเอาไปให้คนของเขาจัดการทั้งสิ้น เมื่อข้าเอ่ยปากทักท้วงเขาก็อ้างว่า ข้าสมควรได้หยุดพักเพื่อดูแลหลั่งหลิน แค่เพียงมาลงชื่อและเดินเตร็ดเตร่ให้ทุกคนเห็นว่ามาทำงานก็เพียงพอ เรื่องนี้ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลยขอรับ”

    “เจ้าลองนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับท่านลุงซีหวงบ้างแล้วหรือยัง พวกเขาเป็นสหายกันอาจจะพออธิบายถึงความลำบากใจให้เขาฟังได้บ้าง”

    “นี่เป็นเรื่องที่ข้ากังวลมากที่สุดต่างหากเล่าท่านพ่อ ท่านลุงซีหวงรู้เรื่องเหล่านี้ดี ข้าเคยฉวยโอกาสทักถามท่านพ่อตาต่อหน้าท่านลุงซีหวงยามที่เขาไปพบกันที่ห้องทำงาน กลับเป็นว่าท่านลุงเห็นดีเห็นงามและแนะนำให้ข้าไม่ต้องกังวลปล่อยให้ใต้เท้าเผยจัดการทุกสิ่งทุกอย่างไปเสีย นานวันเข้าข้าก็สังเกตเห็นว่า ท่านลุงมักจะพาพ่อค้าคนนอกหลายต่อหลายคนที่ติดต่อการค้ากับทางการเข้ามาพบท่านพ่อตาบ่อยๆ อีกทั้งเอกสารการรับจ่ายภาษีที่ข้าดูแลอยู่ก็ล้วนถูกเก็บเอาไว้ในห้องของท่านพ่อตา ข้าไม่อาจตรวจสอบอันใดได้เลยขอรับ”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×