คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : } Wolf Room
Mxcalvin’s memory
ในห้องแห่งนี้เต็มไปด้วยซากดอกไม้ที่กำลังแห้งเหี่ยว
ความสวยงามถูกทำลาย เศษแจกันแตกกระจายบนพื้น
ปะปนกับกลีบดอกวิสทีเรียที่พัดเข้ามาจากบานหน้าต่างซึ่งถูกเปิดไว้
ไดอารี่อีกเล่มหนึ่งตกอยู่ไม่ไกล
---------------------------------------------------------------------------------------
ตั้งแต่จำความได้
เขาก็อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้นมานานมากแล้ว
พ่อของแม็คคาลวินเป็นผู้คุ้มกันให้กับสามีภรรยาเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้
โดยไม่ต้องคาดเดา แม็คคาลวินเองก็ถูกเลี้ยงมาให้สืบทอดหน้าที่ของบิดาเช่นกัน
ดังนั้นตอนที่เขาอายุสิบสองปีก็สามารถจดจำรายละเอียดของคฤหาสน์ทุกจุดได้อย่างแม่นยำ
รวมทั้งทักษะการใช้อาวุธและป้องกันตัว
เขาได้เจอกับเธอตอนอายุสิบห้าปี
เส้นผมสีบลอนด์ทองเปล่งประกายใต้แสงอาทิตย์
ดวงตาสีอเมทิสต์มองมาอย่างไร้เดียงสา พ่อของเขาบอกว่าเขาจะเป็นผู้คุ้มกันของเธอนับจากนี้ไป
‘ผมแม็คคาลวิน ยินดีรับใช้คุณหนูวาเนสซ่า’
คุณหนูตัวน้อยวัยสิบสองปีในตระกูลผู้ดี
แม้อายุยังน้อยแต่ก็เปี่ยมไปด้วยท่วงท่าอันเป็นชนชั้นสูง
เพียงแต่แววตาคู่นั้นดูยังไงก็ปิดบังความซนของเด็กๆ ไว้ไม่มิด
สุดท้ายแม็คคาลวินก็กลายเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายเธอไปในเวลาเดียวกัน
เขารักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวแท้ๆ มีแค่แม็คคาลวินที่สามารถเรียกเธอว่า ‘วาเนสซ่า’ ได้ โดยไม่ต้องเรียกเธอว่าคุณหนู
วาเนสซ่าชื่นชอบดอกไม้
เธอมักจะขอให้เขาที่ชอบวาดภาพวาดมันให้เธอ ดอกวิสทีเรียและดอกแดนดีไลออนสีสันต่างๆ
ปรากฏอยู่ในสมุดวาดภาพเล่มใหญ่ซึ่งเป็นเสมือนไดอารี่สำหรับแม็คคาลวิน
เทียบกันแล้ว เขาชอบดอกวิสทีเรียมากกว่า
แล้ววันเวลาอันสงบสุขก็ถูกทำลาย
ในตอนที่วาเนสซ่าอายุได้สิบห้าปี เมื่อเธอกลับมาจากการศึกษาที่เมืองไกล
ก็พบว่าพ่อและแม่ของเธอถูกผู้ไม่หวังดีฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็น ใช่
รวมถึงพ่อของเขาด้วย แต่เขาในตอนนั้นไม่อาจช่วยเหลือคนทั้งสามได้ทัน
การเผชิญกับฝันร้ายในครั้งนั้น
เปลี่ยนวาเนสซ่าไปอย่างสิ้นเชิง
เธอไม่ร้องไห้ฟูมฟาย เธอไม่เคยพูดอะไรสักคำ
เธอเพียงแค่นั่งอย่างเงียบงันอยู่ตรงนั้น
เขาจำได้ ตอนที่เห็นเมดยกน้ำชาร้อนๆ มาให้แล้วล่าถอยออกไป
แม็คคาลวินเดินเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ ‘วาเนสซ่า..’ มองเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้นที่เคยเปี่ยมไปด้วยความสุข
วันนี้มันช่างว่างเปล่าจนน่าสงสาร
เขาจำได้ ตอนที่ความว่างเปล่ามีเขาสะท้อนในแววตา
มันเข้มข้นขึ้น คล้ายภูเขาไฟที่กำลังปะทุ
วาเนสซ่ายกแก้วชาขึ้น
ทันใดนั้นใบหน้าเรียบเฉยค่อยๆเปลี่ยนเป็นความโมโห โกรธเกรี้ยว เสียใจ
ความรู้สึกด้านลบมากมายที่อัดอยู่ข้างในตัวของเธอระเบิดออก
น้ำร้อนจัดถูกสาดใส่ดวงตาทั้งสองของเขา ความแสบร้อนเจ็บปวดปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่อาจลืมตาขึ้นได้
เสียงแก้วชาตกแตก เสียงกรีดร้องของเธอ
เสียงที่เธอกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของเขายังชัดอยู่ในหัว
แม็คคาลวินไม่คิดว่าภาพสุดท้ายที่เขามองเห็น
จะเป็นภาพของเธอที่มองมาที่เขา
ดวงตาคู่นั้นของเธอ บอกว่าเขาคือฆาตกร
แม็คคาลวินได้รับการรักษาแผลร้อนลวกบนใบหน้า
เพียงแต่ดวงตาไม่อาจช่วยเหลือได้อีก เขานอนอยู่บนเตียงด้วยความสิ้นหวัง
ภาพในหัวว่างเปล่าจนจิตใจคุ้มคลั่ง
มือสั่นเทาฉีกกระชากสมุดภาพวาดเล่มนั้นให้เหมือนกับความรู้สึกของตนเอง
รวมไปถึงภาพถ่ายของเธอที่แทรกอยู่ในนั้น
เขาไม่อาจมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและตก
ไม่อาจมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่อาจมองเห็นดอกวิสทีเรียที่ชื่นชอบ
ไม่อาจมองเห็นสีสันของมันแล้ววาดรูประบายสีออกมา
รวมถึงไม่อาจมองเห็นเธอผู้เคยเจิดจ้าราวกับแสงตะวัน
ช่วงเวลาพักฟื้นยาวนานหลายเดือนทิ้งให้ความคิดทุกอย่างเริ่มตกตะกอน
แล้วเขาก็เข้าใจ
เพราะดวงตะวันนั้นหากเข้าใกล้มันเกินไป
ก็อาจถูกมันเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน
สิ่งที่รออยู่มีเพียงความเจ็บปวดทรมานอันไม่มีที่สิ้นสุด
ทั้งรัก ทั้งอาวรณ์ แต่ก็เกลียดชังจนสุดขั้วหัวใจ
เขาได้ยินคนรับใช้ในบ้านพูดคุยกันว่าวาเนสซ่าเริ่มแปลกไปหลังจากวันนั้น
เธอหมกมุ่น เธอค้นคว้าเกี่ยวกับศาสตร์มนต์ดำต่างๆ
ที่เชื่อว่าจะคืนชีพให้บิดามารดาของเธอได้ ให้เธอได้มีครอบครัวที่มีความสุขอีกครั้ง
ทว่าเธอได้รู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เผลอทำลงไปกับเขาอย่างยิ่ง
เธอกลัวจะสูญเสียเขาไป เพราะเขาเป็นคนที่เธอไว้ใจเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่
วันนั้นเธอเข้ามาหาเขา
เธอพูดพึมพำคล้ายหวาดกลัวว่าเขาจะเกลียดชังเธอ เธอไม่อยากให้เขาจากไป
ดังนั้นเพื่อความแน่ใจเธอจะผูกมัดเขาไว้ด้วยเวทมนตร์นั้น
และเขาจะเชื่อฟังตามคำสั่งเธอทุกอย่าง ไม่มีวันทรยศหักหลังเธออีกต่อไป
แม็คคาลวินไม่รับรู้อะไรอีก
เขาเลือกที่จะหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
นับจากนี้ตัวเขาคนเดิมก็ได้ตายจากไปพร้อมกับเธอคนเดิมเช่นกัน
เป็นเวลาสองปีมาแล้วที่เขาเลือกที่จะแสร้งทำเป็นว่าตกอยู่ในการควบคุมของเธอ
จนกระทั่งวันหนึ่งในปีนั้นเธอได้ช่วยเหลือและรับใครบางคนเข้ามา
‘ฮวนไห่’ คือชื่อของหมอนั่น
เพียงแต่แม็คคาลวินไม่รู้ว่าหน้าตาของคนผู้นี้เป็นอย่างไร
แม้แต่เสียงก็ไม่เคยได้ยิน แน่ล่ะ วาเนสซ่าบอกว่าคนคนนั้นเป็นใบ้
เธอบอกให้เขาคอยดูแลคนคนนั้นให้ดี
ช่วงแรกเราสองคนมีปัญหาเรื่องการสื่อสารต่อกันมาก
แต่ฮวนไห่ก็เป็นคนคว้ามือเขาไปเขียนเป็นข้อความ ปัญหาเรื่องนี้ถึงได้จบลง
(ด้วยการต่อยหมอนั่นในบางครั้ง— ก็นะ) แม็คคาลวินเองก็ไม่ไว้ใจฮวนไห่ในตอนแรก ตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกันมา เขาได้รู้นิสัยใจคอของฮวนไห่... คนๆนี้ไม่ใช่คนดีอย่างที่วาเนสซ่าเข้าใจ
ถ้าถึงวันหนึ่งเธอให้ในสิ่งที่มันต้องการไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาไม่สนใจ แค่มันไม่ขวางทางแผนของเขา
เขาไม่เป็นแพะรับบาปให้แผนของหมอนั่นก็เพียงพอ
นานวันเข้าก็เกิดความผูกพันกันแบบแปลกๆ
ฮวนไห่ถูกเขาต่อยหลายครั้งเพราะหมอนั่นมักจะยั่วโมโหเขาเสมอ
เขาเองก็ถูกเอาคืนบ่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครเปิดโปงแผนการของใครเลยแม้แต่น้อย
แผนการที่จะหยุดยั้งวาเนสซ่า...
หนึ่งวัน หนึ่งเดือน จนกระทั่งหลายสิบปีผ่านไป
วาเนสซ่าไม่เคยหยุดที่จะใช้ชีวิตคนเป็นเครื่องสังเวยเพื่อคืนชีพพ่อแม่ของเธอ
ทว่าเวลานี้สมควรจบลงได้แล้ว
แม็คคาลวินหลับตาลงแม้จะรู้ว่ามันไม่จำเป็น
สูดกลิ่นไอของดอกวิสทีเรียที่โหยหา
จดหมายเชื้อเชิญหลายฉบับถูกส่งไปพร้อมจดหมายลับ แผนการทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้น
แขกผู้สูงศักดิ์กลุ่มสุดท้ายในงานเลี้ยงของเธอจะกลายเป็นเครื่องสังเวยในพิธีกรรม
ไม่ว่าจะเป็นแผนของใครที่สำเร็จ
จุดจบของเธอก็ถูกกำหนดไว้แล้ว
วาเนสซ่า...วาเนสซ่า
เธอยังจดจำตัวเธอเองในวันนั้นได้ไหม
กลีบดอกวิสทีเรียร่วงโรยลงมา
เปลวไฟเผาผลาญ
กวาดล้างคฤหาสน์หลังงามให้มอดไหม้ในกองเพลิงด้วยมือของเขา
' พี่คิดถึงเธอเหลือเกิน '
-The end of Mxcalvin’s memory-
---------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเรื่องราวทุกอย่างจบลง คฤหาสน์หลังนี้ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้น
แม็คคาลวินได้หายตัวไปหลังจากนั้น
{ คลิ๊กแสดงความคิดเห็น }
ความคิดเห็น